Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับละคร Exact >>> ทำไมเอ็กแซกท์ถึงเปลี่ยนไป ?

คำตอบคือ เพราะละครราคา 25 ล้านและคนดูคือพระเจ้า


เดี๋ยวนี้ทำได้แต่ละครน้ำเน่าเหรอ

ฯลฯ

สารพัดคำวิจารณ์เหล่านี้ นิพนธ์ ผิวเณร ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต ซึ่งรับผิดชอบละครหลังข่าวของเอ็กแซกท์บอกตรงๆ ว่า "โอ๊ยยย ได้ยินจนชาชิน"

แต่...

"มันเหมือนกับความที่เราอยากจะทำ กับความที่คนอยากจะดู เป็นคนละความกันตลอด"

"เราเรียนการละคร ผู้กำกับแต่ละคนก็มีความรู้ พอจะทำอะไรสักอย่าง จะแบบโห ..อย่างนี้เท่ แบบนี้ต้องได้แน่ แต่บางทีก็ไม่ได้ ก็มานั่งวิเคราะห์กัน"

"ขณะเดียวกันเราก็คิดว่าเราทำแบบช่อง 7 ไม่เป็นหรอก"

"ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ดีนะ" รีบออกตัว

"แต่บางทีมันขัดเขินที่จะทำ มันจะดีเหรอ เพราะทุกคนก็เรียนมา การแสดงต้องออกมาจากภายใน ทีนี้ละครเรื่องหนึ่งใช้ทุนประมาณ 25 ล้าน ถ้าฟอร์มใหญ่ก็ซัดไป 30 พอไม่โดน ก็เหนื่อย ทำไมล่ะ"

สุดท้ายจึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวจาก "ทอฝันกับมาวิน" "อยากหยุดตะวันไว้ที่ปลายฟ้า" ฯลฯ มาเป็นตลกกะโหลกกะลาอย่าง "18 มงกุฎสะดุดเวลารัก" "ชายครับ ผมเป็นชาย" ซึ่งเรตติ้ง จำนวนคนดูสูงขึ้นก็จริง แต่ในความรู้สึกของคนทำ "มันเหมือนกึ่งๆ ปัญญาอ่อนน่ะ" เขาว่า

ไม่ใช่ละครแนวนี้ไม่ดี นิพนธ์ออกตัวอีกครั้ง

"แต่เพราะคนทำไม่เข้าใจแก่นแท้ ส่วนผสมเลยไม่ลงตัว"

"จริงๆ เวลาจะทำละครให้สนุกคุณไม่ต้องคิดถึงเหตุผล แค่จัสต์ บอร์น แบด ไม่ต้องแบบ ทำไมร้ายขนาดนั้น มันมีจริงเหรอ อิท"ส จัสต์ บอร์น แบด แค่นั้นพอ แค่คนดูเอ็นจอยกับความร้ายกาจ แค่นี้พอ"

"นั่นคือสิ่งที่เราเรียนรู้"

แล้วก็นำมาใช้ จนได้พบจุดเปลี่ยนใน "ทะเลริษยา" ที่ ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ เล่นกับ บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ มี สินจัย เปล่งพานิช ในบทแม่พระเอกที่ตามราวี ตบตีนางเอก จนเรตติ้งทะลุทะลวง หลังจากนั้นงานแบบ "หัวใจศิลา" "แก้วล้อมเพชร" "สงครามนางฟ้า" "ความลับของซูเปอร์สตาร์" จึงตามมา กระทั่งถึง "ชิงชัง"

"เริ่มจับได้ว่า อ๋อ! เมื่อก่อนเราคิดแค่ว่าเราอยากทำอะไร แต่ตอนนี้ต้องคิดกลับ ต้องถามว่าคนดูอยากดูอะไร เหมือนคุณจะไปเล่นอะไรสักอย่างในโรงละคร ต้องรู้ก่อนว่าคนจะดูไหม แล้วเล่นสนามหลวงต้องเล่นแบบหนึ่ง รัชดาลัยก็ต้องเล่นอีกแบบ อย่าเอาความอยากของคุณไปเล่นในทุกๆ ที่"

ดังนั้น สำหรับเสียงต่างๆ ที่มีมา นิพนธ์จึงว่าขอพูดใน 2 ประเด็น

"ประเด็นที่ว่าคนดูอยากดูอะไร นั่นคือตัวตั้ง แต่ก็ต้องทำในแบบที่ถนัด ดังนั้นจะเห็นว่าน้ำเน่าของเรายังไงก็ไม่เหมือนของช่อง 3 ช่อง 7"

"ถามว่าเนื้อในมันเน่าไหม เน่าเหมือนกัน แต่เราพยายามจะหาเหตุผลให้ตัวละครมีที่มาในการไปฟาดฟันกัน นั่นเพราะเราตั้งไว้ว่าคนดูคือพระเจ้า เขาดูทีวีอยู่ที่บ้านเขา เป็นคนที่มีรีโมตอยู่ในมือ เรตติ้งก็บอกอยู่ว่าช่อง 7 ช่อง 3 ได้เยอะ ช่อง 5 ได้น้อย เราก็ต้องหาทางทำยังไงให้เขาหันมาดูเราบ้าง"

"ถามว่าเรากำลังจะกลืนเลือดตัวเอง จะเปลี่ยนจรรยาบรรณ ไม่ใช่ เพราะผ่านมาจนถึงตอนนี้ผมคิดแล้วว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร"

"ขยายความหน่อยว่าถ้าเราตั้งว่าจักรวาลนี้คือคนดู ไม่ใช่เรา เพราะอยู่บ้านคุณกับผม สื่อมวลชนต่างๆ ก็ดูยูบีซี ดูดิสคัฟเวอรี่ แชนแนล กอสซิป เกิร์ล เราไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ คนส่วนใหญ่ของประเทศกินน้ำพริกปลาทู และไม่มีวันจะเลิกกิน"

แต่มองแย้งมาจากฟากวงวิชาการ ที่ว่าละครไทยยังไงๆ ก็ไม่พ้นเรื่องกรี๊ดกร๊าด ตบตี แย่งผู้ชาย ซึ่งต่อให้ใช้ส่วนผสมดี เป็นกะปิแท้จากระยอง ผักออร์แกนนิค ปลอดสารพิษ แต่หาก "แกนหลัก" ยังเป็นอย่างนั้น สุดท้ายแล้วจะดีต่อผู้ชมจริงๆ หรือ

"เดี๋ยวก่อนนะ..." เขายกมือ เหมือนจะขอชี้แจง

"ไม่ใช่ทุกเรื่องที่แย่งผัวแย่งเมียและตบตีกัน"

"ใน 1 ปีเรามีละครผีเรื่องหนึ่ง ดราม่าเรื่องหนึ่ง โรแมนติคดราม่า แย่งผัวแย่งเมีย ยังไงก็ต้องมีเรื่องหนึ่ง อย่างชิงชัง คนบอกเสื่อม แต่ผมขอเถียง ผมว่ามันเป็นกู๊ดดราม่า ตบตีกันน้อยมากนะ มันเป็นเรื่องแง่มุมของชีวิตและความทะยานอยาก แต่คุณต้องดูดีๆ มันเป็นความงามของพ่อแม่ที่เห็นว่าลูกทั้ง 4 มีวิถีชีวิตอย่างไร ทั้ง 4 เห็นความรักเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้หลง จนต้องชิงชังกัน มันเป็นเรื่องของคติสอนใจ ว่าอย่าให้กิเลสครอบงำจนบังตา เพราะความชิงชังจะบังเกิดและคุณจะได้พบกับหายนะ มันมีบอกอยู่ในนั้น ไม่ใช่อยู่ๆ อีนี่อยากจะตบอีนั่น ไม่ใช่"

"ถามว่าแล้วทำไมไม่ทำแต่ละครที่ดีงาม" ไม่ต้องเอ่ยปาก เขาก็ถามสิ่งที่อยู่ในใจเราเสร็จสรรพ

"ทำได้ไหม ทำได้ แต่มันยากมาก แล้วต้องใช้เงินเยอะ อย่างช่อง 3 ทำดีๆ แล้วเรตติ้งไม่ดีเลย เห็นไหม เขาก็ยังเอ๊ะ! ยังไงดีอยู่เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วเรตติ้งมันเป็นตัวกำหนด"

"และผมขอถามท่านนักวิชาการนะครับ ฝากกราบอาจารย์ผมที่นิเทศ จุฬาฯด้วย ผมไม่ใช่ศิษย์อตกัญญู ไม่ได้เกิดมาแล้วอยากทำเลว แต่ถ้าอยากให้ละครมันดีงาม ทำไมไม่ผลักดันให้เกิดขึ้นในวงกว้าง ในระบบรัฐบาล งบประมาณช่อง 11 และไทยพีบีเอสนี่กี่ล้าน เอาไปทำอะไร คุณมาเรียกร้องกับฟรีทีวีที่เขาลงทุนกันเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน มันผิดไง ทำไมไม่ทำตรงนั้นให้เกิดเป็นช่องใหญ่ แล้วใส่สิ่งที่ดีงาม จะเอาเงินมาให้ผมช่วยทำก็ได้ แต่กลับกลายเป็นให้เงินคนทำน้อยๆ แล้วใครจะทำล่ะ มีก็แต่คนที่อยากทำ แต่ทำไม่เป็น แล้วจะเวิร์กได้ไง"

"ผมเรียนสื่อสารมวลชนมา อยากทำให้ดี อยากทำสารคดี ทำกู๊ดดราม่า ทำทุกอย่างที่มันดีกับประเทศนี้ แต่คุณเอาเงินไปอยู่ตรงนั้น แล้วก็เงียบๆ"

"ผมก็เบื่อเหมือนกัน ตบตีอะไรบ่อยๆ ก็อยากทำละครงามๆ สักเรื่อง เอาเงินมาสิ จะทำให้สุดฝีมือเลย"


"แล้วจริงๆ เรื่องนี้ต้องคิดแบบภาพรวม เหมือนละครเกาหลีดีงาม รัฐบาลก็วางแผนสนับสนุนให้เป็นหัวหอกขายวัฒนธรรมและเขาก็ทำสำเร็จ พอคนบ้าเกาหลีก็จะเห็นทีวีเกาหลี ฟังเพลงเกาหลี แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าคนมองเราอยู่ข้างหน้า"

อาจจะด้วยภาพที่เคยทำงานดีหรืออะไรก็แล้วแต่ เข้าใจ แต่อย่าเลย-คือสิ่งที่เขาบอก

"เพราะเราเคยเจ๊งมาแล้ว"

"ผมยึดมั่นอยู่ว่าถ้าตัวเรายังอยู่ เราถึงทำศิลปะได้ ผมไม่อยากเป็นอย่างแวนโก๊ะ ให้ทุกคนสรรเสริญเมื่อตาย แต่ระหว่างทางก็คิดอยู่ตลอด บอกคนเขียนบทและผู้กำกับว่าละครต้องบอกอะไรสักอย่างกับมวลชน แม้ชาวบ้านจะด่าคุณ แต่เมื่อดูจบ ต้องให้เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คนชั่วต้องถูกลงโทษ นี่เป็นหน้าที่ของสื่อสารมวลชน ตัวร้ายของผมจึงไม่เคยลอยนวล"

"แล้วรายการทีวีทุกประเทศต่างกัน ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ทีวีสะท้อนความเป็นไปและความจริงว่าประชาชนของประเทศนั้นต้องการอะไร ถ้าคนอยู่ดีกินดีไม่มีทางดูน้ำเน่า จะไม่หลีกหนีความจริงไปในจอ ทีวีเยอรมันรายการเกษตรของเขาจะเทียบแทรกเตอร์ว่ารุ่นนี้กับรุ่นนั้นดีหรือไม่ ทำยังไงจะให้ผลผลิตที่มากกว่า อเมริกาก็ดูทีวีแบบทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ฉันสนุก แต่บ้านเรายังอยู่ไม่ดี กินไม่ดี 30 บาทยังรักษาโรคไม่ได้ ลูกก็ยังไม่มีค่าเทอม เลยขอหนีความเป็นจริงเข้าไปในจอ คุณต้องทำให้เขาลืมตาอ้าปาก อยู่ได้ดีก่อน เอ็นเตอร์เทนเมนต์จึงจะเปลี่ยน"

"ชาวบ้านเขาต้องหลีกหนีความจริง เพราะความจริงมันเจ็บปวด เหมือนทำไมละครเกาหลีฮิตในญี่ปุ่น เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นรอแต่ผัว เพราะผู้ชายญี่ปุ่นใหญ่สุดไง พระเอกเกาหลีถึงต้องหล่อมาก นางเอกต้องหน้าตาเต้าหู้ยี้และจนมาก พระเอกต้องรวย พระรองต้องรวย ทุกคนต้องรุมรัก เพราะในความเป็นจริงสังคมเกาหลีหรือญี่ปุ่นมันเหยียดเพศ"

"ส่วนของไทยคนก็ดูละครแบบฉันเป็นนางเอก ทุกคนมารุมแย่งฉัน นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมถึงไม่ดูพระเอกไม่หล่อ เพราะฉันไม่อยากให้พระเอกอย่างนี้มารักฉันเลย"


ถามว่าถ้าเลือกได้ คนอย่างนิพนธ์ ผิวเณร อยากทำละครแบบไหน

"เอาจริงๆ แบบไม่:-)นะ เราไม่อยากให้ตบตีกัน จะดีใจมากถ้าละครไม่ตบตีได้เรตติ้ง"

หากความจริงแสนปวดใจคือ "ไม่มีเลย"

"เอางี้ ชิงชังเป็นละครที่เราไม่คิดว่าตบตี เป็นแง่มุมดราม่า สู้กันด้วยความคิด แรกๆ เจอกับไฟโชนแสง เขาตีกันไป 4 เบรก แล้วเรตติ้งได้ 8 เลย ส่วนผมได้ 4 เราต้องมีใช่ไหม"

"ก็ไปถามฝ่ายขาย ขายได้ไหม ถ้าไม่ได้ ยกมือบอก จะได้หาวิธี เพราะตบน่ะทำไมจะสู้ไม่ได้ ตบเป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา แต่ก็ไม่ได้เกิดมาแล้วอยากจะตบ ดังนั้นถ้าไม่ตบตีแล้วละครดีงาม คนดูชอบ เราจะดีใจมาก"


ละครทุกวันนี้แรงขึ้น

"ที่เห็นชัดๆ คือในกรุงเทพฯหรือหัวเมือง ละครที่ตัวร้ายนำหรือมีพล็อตฆาตกรรมที่ฉลาด เรตติ้งจะดีมาก แต่ถ้าดราม่าดีงามต่างจังหวัดจะชอบ"

"เพราะในกรุงเทพฯเห็นว่าคนดีไม่มีหรอก ทุกคนต้องเอาตัวรอด ไม่เลวทางใดก็ทางหนึ่ง"

"อย่างหนึ่งที่ผมเซอร์ไพรส์ คือ เด็กรุ่นใหม่ไม่ชื่นชมความดีของกันและกัน คนสมัยนี้ไม่เข้าใจ ทำไมตัวละครพี่น้องที่ชอบผู้ชายคนเดียวกัน ทำไมน้องไม่ตบพี่ไปเลยเพื่อจะเอาผู้ชาย"

นี่ไม่ได้คิด แล้วพูดเอง แต่เป็นเสียงสะท้อนจากผู้ชมหลายคนของละคร "ชิงชัง" ที่เขียนมาบอกให้เขารับรู้

"ซึ่งน่ากลัว"

"แล้วสังเกตดูละครที่ตัวเอกเป็นนางร้ายเรตติ้งจะดีหมด เพราะคนดูแบบฉันทำไม่ได้ในชีวิตจริง ฉันอยากตีแต่ตีไม่ได้ งั้นทำแทนฉันหน่อย คนคงเครียดมากน่ะ โดนเจ้านายด่า เก็บกด แก่งแย่งชิงดี ละครอย่างนี้ถึงได้เรตติ้ดีมากในกรุงเทพฯ"

"แต่ต่างจังหวัดต่างกันฟ้ากับเหว"

"เพราะละครดีงามยังได้อยู่"

จากคุณ : EXACT
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 14:51:00 A:61.19.65.37 X: TicketID:208375




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com