กฏกติกามารยาท ถูกใจให้กีบไม่ได้เรามาเล่นระบบแค ม ฟรอก ถูกใจกด 88888888888
เรื่องย่อนี้ดิฉันพิมพ์เองกับมือไม่ได้ไปก็อปปี้เว็บใดๆมาเพราะลอกมาจากหนังสือชีวิตรัก ถ้าพิมพ์ผิดบ้างอะไรบ้างก็อย่าาว่ากันนะคะ
ไม่ชอบใจกรุณากดกากบาทสีแดงมุมขวาบนนะคะ
ครบ 10 คอมเม้นท์ต่อท่อนที่ 2 ครบ 30 คอมเม้นท์ต่อท่อนที่ 3 ครบ 50 คอมเม้นท์ต่อจนจบ เพราะไม่ทราบว่าจะอยากอ่านกันจริงป่าว โดยจะต่อตามกันไปในหน้านี้เลยเพื่อความต่อเนื่องนะคะ ไม่ต่อข้างล่าง
วายุภัคมนตรา
ทิชากร หรือ กะทิเ ป็นนักเขียนนิยายโรมานซืซึ่งมีนามปากกาว่า "ฮัมมิ่งเบิร์ด" แปลจากความหมายของชื่อจริงซึ่งแปลว่านก นิยายของทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาดแต่ความจริงแล้วเธอยังเวอร์จิ้นและเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียน
คนที่ได้ยินชื่อฮัมมิ่งเบิร์ดคงจะนึกถึงนักเขียนสาวทรงเสน่ห์เปรี้ยวปรี๊ดเหมือนสำบัดสำนวนของเธอ แต่ตัวตนที่แท้จริงของทิชากรกับตรงกันข้าม เธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะๆโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ
และสิ่งที่น้อยคนจะรู้คือเธอเป็นลูกสาวของ หมอไกรฤทธิ์ อดีตหมอไสยจอมขมังเวทย์ ที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป ทิชากรที่เคยเป็นผู้ช่วยพ่อจึงพอมีฝีมืออยู่บ้างทั้งเรื่องไสยเวทย์และเรื่องสมุนไพรไทย ทั้งยังชอบทำบุญนั่งสมาธิธรรมะธรรมโมสมกับเป็นลูกรักของพ่อ
ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า บก.สาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นรุ่นน้องของซาร่าเพื่อหาข้อมูล รวมทั้งเค้นบทโรมานซ์ซึ่งเธอไม่มีประสบการณ์และเริ่มหมดมุกไปด้วย หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์ห่วงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลลำพัง เขาจึแอบสั่งรักยมให้ตามไปดูแลเธอโดยซ่อนขวดรักยมไว้ในช่องเล็กๆของย่ามแขกใบเก่ง
ในวันที่ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุมทั้งที่ส่วนอื่นของท้องฟ้าใสกระจ่าง อีกทั้งยังมีความรู้สึกอึดอัดหนักอึ้งอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้เธอรู้ได้โดยสัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทย์ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ รวมทั้งรัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายืนยันสิ่งผิดปกติ แล้วหญิงสาวก็ได้พบคำตอบหลังจากได้พบชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังคลอเคลียสาวอึ๋มอยู่ในสวนหลังบ้านส่วนตัวอย่างโจ๋งครึ่มไม่อายฟ้าดิน
สิ่งที่ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของนางโหงพรายที่เกาะอยู่บนหลังเขาอยู่ต่างหาก ด้วยจรรยาบรรณของลูกหมอไสยและความตรงไปตรงมาของเธอ ทิชากรจึงเดินเทิ่งๆไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก
หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือลม หนึ่งในสี่ฝาแฝดของไร่อดิศวรซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง
วายุภัคมีนิสัยอะไรไม่ตค่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง รักศิลปะ ชอบวาดรูป และฟังเพลงคลาสสิค คนภายนอกอาจเห็นว่าเขายิ้มง่ายกว่าพี่น้องผู้ชายอีกสองคน แต่คนในครอบครัวของเขาต่างรู้ว่าเขาไม่ต่างจากสายลมที่แปรปรวนได้ตลอดเวลา ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนกันมาอยู่ตลอด แต่เพราะลมไม่เคยหยุดพัด ทำให้เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนได้นานสักคน สาวอึ๋มที่วายุภัคมาคลอเคลียก็เป็นเพียงหนึ่งในสาวมากหน้าหลายตาที่อาจจะถูกเขี่ยทิ้งได้ทุกเมื่อ
เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับทิชากรจึงปฏิเสธที่จะข้องเกี่ยวกันทิชากรตั้งใจจะกลับบ้านและไปหาข้อมูลในไร่องุ่นอื่นแทน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณวายุภัคที่เธอเคยกีดกันสาวๆของเขาสมัยเมื่อชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการปลูกองุ่นและการทำไวน์ ณ ประเทศฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึงไม่อาจปฏิเสธได้ สองคนจึงต้องอยู่ในไร่องุ่นโดยเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป
วายุภัคมาอาการเปลี่ยนไปจากเดิม เขามักได้ยินภาษาแปลกๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศีรษะและปวดท้องทรมานอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งยังปวดเมื่อยไหล่ทั้งสองข้าง อารมณ์ฉุนเฉียวคนในครอบครัวและคนงานต่างรู้สึกได้ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพรายถูกหมอคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัค แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร และเจ้าที่เองก็มีอำนาจน้อยเกินกว่าจะป้องกันได้ ทิชากรจึงพยายามบอกวายุภัคแต่ชายหนุ่มไม่เคยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์กลับหาว่าเธอแต่งเรื่องตามสไตล์นักเขียนเพ้อฝัน ยิ่งเขาเห็นทิชากรพูดคนเดียวบ่อยครั้ง เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า หารู้ไม่ว่าเธอกำลังคุยกับรักยม ให้ช่วยหาต้นเหตุของใบหน้าหมองคล้ำและผีร้ายที่ทำร้ายวายุภัค
การมาของทิชากรทำให้เกิดเรื่องราวแปลกประหลาดในสวนจนคนงานพากันเล่าลือ ทั้งเรื่องวิญญษณผีตายโหง กับเด็กหัวจุกสองคน แต่เมื่อขอหวยกลับถูกไปตามๆกัน คนงานจึงชอบให้เด็กหัวจุกทั้งสองอยู่ที่นี่ไปในที่สุด หากสำหรับวายุภัคนั้นเขาหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ชายหนุ่มลั่นวาจาว่าจะไม่มีวันเชื่อคำพูดเหลวใหลของเธออย่างเด็ดขาด การทะเลาะรุนแรงขึ้น ทิชากรโกรธจึงประกาศกร้าวเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ หญิงสาวคิดว่าเขาจะโกรธ ทว่าวายุภัคซึ่งไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนท้าทายกลับรับคำท้านั้นและโต้ตอบว่าถ้าเขาผิดเขาจะยอมคลานไปขอโทษเธอ แต่ถ้าหากทิชากรเป็นฝ่ายผิดบ้าง เขาจะยอมให้เธอควงเป็นแฟนสองวันแก้เสียหน้า หญิงสาวจึงโกรธจัดและทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะเขา
การต่อสุ้ห้ำหั่นระเบิดไปทั้งไร่ เมื่อทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีต๊องๆตามประสาของเธอ บ้างก็แอบผสมน้ำมนต์ลงในน้ำให้เขาดื่ม เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมา แต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมอย่างบ้าระห่ำของทิชากรได้ทุกที แต่ผลที่เกิดขึ้นคือสาวๆของวายุภัคต่างหายกันไปเกือบหมดเนื่องจากพวกเธอโกรธนักที่วายุภัคให้ความสนใจกับการรับมือและตอบโต้ทิชากรจนไม่สนใจพวกเธอ
หมอไสยดำส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนเขาใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบ รวมทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมีรักยม และเจ้าที่ช่วยอีกแรง เมื่อวายุภัคฟื้นขึ้นและกลับเป็นตัวเองอีกครั้งเขาโกรธจัดเพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง วายุภัคจึงต่อว่าเธออย่างรุนแรง ขณะที่ทิชากรก็น้อยใจที่เธออุตส่าห์ช่วยแต่กลับถูกตำหนิ ซ้ำยังดื้อดึงไม่เชื่อคำพูดของเธอเสียที พวกเขาจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง วายุภัคเผลอลวนลามจูบทิชากรโดยไม่รู้ตัวทำให้เธอโกรธมากและประกาศกร้าวว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว พร้อมเก็บของกลับบ้าน
วันนั้นเองที่วายุภัคถูกคุณไสยของผีตายโหง และกลับมาทำร้ายเขาจนปวดท้องกระอักเลือดเกือบตาย ทิชากรและรักยมกลับมาช่วยเขาได้ทันวายุภัคไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่เมื่อมันไม่มีคำอธิบายอื่นใดนอกจากสายตาตัวเอง เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด
เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ยังพบว่ามีวัตถุประหลาดอยู่ในช่องท้องวายุภัค สร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มและครอบครัวเป็นอย่างมาก ทิชากรที่ยังโกรธและมึนตึงกับเขาจำต้องช่วยวายุภัคต่อไปเพราะเธอเองไม่อยากให้เขาตายเช่นกัน เธอนำน้ำมนต์ให้เขาดื่ม ทำให้วายุภัคอาเจียนโดยมีวัตถุเหล่านั้นปนออกมาโดยไม่ต้องผ่าตัด
วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรักทิชากรเขาให้แล้ว เพราะในคืนที่เขาถูกทำร้ายและคิดว่าตัวเองจะตาย ภาพที่ชายหนุ่มอยากเก็บไว้พร้อมลมหายใจสุดท้ายคือดวงหน้าเรียวเก๋ของทิชากร เขาจึงเริ่มจีบเธออย่างจริงจัง แต่หญิงสาวสร้างเกราะปกป้องหัวใจไว้ เพราะไม่เชื่อว่าสายลมจะหยุดพัดที่ใครได้โดยเฉพาะเธอ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ยังไม่ลงตัวเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า เมื่อ ชองแตลลูกครึ่ง ไทย-ฝรั่งเศส คู่รักเก่าของวายุภัคและเป็นที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ วายุภัคไม่คิดอะไรกับชองแตลแล้ว แต่ชองแตลไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอยังหวังในตัวชายหนุ่มอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ทิชากรเข้าใจผิด
ความสวยสง่า โก้เก๋ และมีรสนิยมเดียวกันกับลมของชองแตลตอกย้ำให้ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรเริ่มรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ชองแตลแกล้งพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัครวมทั้งสังคมในฝรั่งเศสที่เธอไม่เคยเอื้อมถึง
เพราะเธอเป็นแค่ลูกสาวหมอไสยธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทว่าในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและความจริงใจที่เขามีต่อเธอและปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
หมอไสยดำรู้ว่าทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางทุกครั้งจากเธอ เขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อนแล้วค่อยไปจัดการวายุภัค โดยขโมยกระพรวนข้อเท้าที่หญิงสาวใส่ประจำไปทำคุณไสย
ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี ในเวลาเดียวกรรไกรฤทธิ์ที่โทรศัพท์มาเตือนว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักต้องรีบสวดมนต์แผ่เมตตาโดยไม่ออกไปไหน หญิงสาวรีบไปบอกวายุภัค แต่เขากำลังคร่ำเคร่งกับการทำไวน์อยู่กับชองแตล เขาจึงปฏิเสธและเข้าข้างชองแตลที่ตำหนิว่าทิชากรทำเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล สองหนุ่มสาวมีปากเสียงกันรุนแรง ทิชากรโกรธและน้อยใจมาก เธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัคทั้งให้รักยมและเจ้าที่ช่วยดูแลเขาตลอดเวลาด้วย
วันนั้นเองหญิงสาวได้รับจดหมายลึกลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งถ้าต้องการช่วยเหลือวายุภัค เธอจึงรีบไปเพียงลำพังด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม แต่กลับพบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้ ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเพลี่ยงพล้ำ เธอนึกถึงคำสอนบิดาให้สวดมนต์เธอจึงทำตาม อานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ของพ่อจึงช่วยให้เธอรอด แต่ก็หมดสติ โดยมีผีเร่ร่อนในป่าช้าคอยวนเวียนรอจังหวะทำร้าย
วายุภัครู้ข่าวทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี พี่และน้องชายของเขา อัจจิมากับเฌอเอมช่วยกันเล่าความจริงว่าทิชากรทำอะไรมามากมายเพื่อวายุภัคบ้าง ชายหนุ่มจึงสำนึกผิด และออกตามหาทิชากรโดยบุกบ้านกำนันทองเค้นความจริง พร้อมกับพี่น้องของเขา รวมทั้งเจ้าชายภูวเนศและองครักษ์ของพระองค์ซึ่งมาเมืองไทยพอดี กำนันทองยอมรับสารภาพว่าสะกดรอยตามจริงแต่ไม่ได้ทำร้ายทิชากร เขาบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาว ทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รักยมบอกชายหนุ่มว่าทิชากรอยู่ในป่าช้าเก่า พวกเขาช่วยเธออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรง เนื่องจากทิชากรและวายุภัคได้แผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังเครียดเพราะทิชากรอาการหนังและไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝัน ไกรฤทธิ์เปิดฉากต่อว่าวายุภัคที่ไม่เชื่อลูกสาวเขา และกีดกันชายหนุ่มตามประสาคนหวงลูก และทิชากรก็อยากตัดใจจากวายุภัคเพราะยังคลางแคลงใจเขาเรื่องผู้หญิงชื่อปิ่นมุกอยู่
และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆปิ่นมุกโทรศัพท์กลับมาหาทิชากรหลังจากได้รับข้อความฝากในโทรศัพท์ ทิชากรจึงตัดสินใจพาวายุภัคไปที่บ้านของปิ่นมุกเพื่อพิสูจน์ความจริง ทำให้ทุกคนรู้ว่าความจริงแล้วพ่อของลูกปิ่นมุกคือภาณุ ไม่ใช่วายุภัค (((ภาณุไหนอีกแว๊)))
ปิ่นมุกและพ่อแม่ขอโทษชายหนุ่มที่พ่อแม่ทำคุณไสยใส่เขาจนเป็นเรื่องเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กในท้องที่จริงแล้วพ่อของเด็กคือภาณุผู้จัดการไร่ที่เจ้าชู้และชอบสอยผู้หญิงที่วายุภัคทิ้งมาเป็นกิ๊ก ทีแรกปิ่นมุกคิดว่าภาณุจริงใจกับเธอ แต่เขาก็ไม่ต่างกับวายุภัคและยังซาดิสต์อีกต่างหาก เธอจึงหนีเขาไปไม่ให้เขารู้ว่าเธอท้องกับเขา อีกทั้งไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อของลูกอีกด้วยเนื่องจากหวาดกลัว
เมื่อพ้นข้อกล่าวหาทิชากรจึงรักวายุภัคได้อย่างเต็มหัวใจทั้งสองรักกันมาก ทำให้ชองแตลโกรธวายุภัคที่รักทิชากรมากจนไม่เหลือช่องว่างให้เธอ ที่ผ่านมาหญิงสาวฉวยโอกาสจากความใกล้ชิดเขา แต่เมื่อรู้ว่าลมไม่มีวันพัดกลับไปหาเธอ เธอจึงจากไปอย่างขัดเคือง
แต่อุปสรรคความรักของวายุภัคและทิชากรยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะไกรฤทธิ์ยังมีท่าทางห่วงลูกสาวอยู่มาก ถึงขนาดว่าจะพาทิชากรกลับบ้าน แต่แล้วระหว่างนั้นหมอไสยดำที่ยังไม่เลิกอาฆาตไกรฤทธิ์สั่งให้นางโหงพรายมาจัดการไกรฤทธิ์ ไกรฤทธิ์จึงต้องอยู่ที่ไร่ต่อเพื่อทำพิธีจัดการกับหมอไสยดำ
ศึกระหว่างไกรฤทธิ์กับหมอไสยดำจึงเกิดขึ้น หมอไสยดำส่งควายธนูมาจัดการไกรฤทธิ์ แต่ไกรฤทธิ์ป้องกันได้ หมอไสยดำจึงใช้วิชา ปิดฝาโลง ซึ่งเป็นวิชาไสยดำขั้นสูงเล่นงานไกรฤทธิ์ แต่ก็พลาด ทำให้วิชาเข้าตัวจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ด้วยความเป็นคนดีมีศีลธรรม ไกรฤทธิ์ช่วยหมอไสยดำเอาไว้แม้จะต้องแลกกับวิชาไสยขาวในตัวจะเสื่อมไปก็ตาม และนอกจากนี้ ไกรฤทธิ์ยังช่วยปลดปล่อยนางโหงพรายเลิกอาฆาตหมอไสยดำแล้วไปเกิดได้อีกด้วย หมอไสยดำซึ้งในบุญคุณของไกรฤทธิ์จึงกลับตัวกลับใจเป็นคนดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะกำลังลงเอยด้วยดี แต่แล้วกลับเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพิษงูไสยดำที่ยังค้างอยู่ในร่างกายทิชากรกำเริบขึ้นมาในวันที่สุริยคราสหมอไสยดำรู้สึกผิดมากแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากบอกวิธีรักษานั้นคือต้องไปหา ว่านพญาลิ้นงูทอง ที่อยู่ในป่าลึก และมีเพียงผู้ที่มีดวงชะตาผูกพันกับคนป่วยเท่านั้นจึงจะหาเจอ ซึ่งก็คือวายุภัคนั่นเอง
วายุภัคเข้าป่าหาว่านมารักษาทิชากรอย่างไม่ย่อท้อ แม้เขาจะบาดเจ็บจากการตกเขามากแค่ไหนก็ตาม จนกระทั่งวายุภัคสามารถหาว่านมาได้ แต่ยังไม่ทันเอากลับมารักษาทิชากร เขาก็สิ้นใจตาย เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียก่อน ทิชากรจึงตายจากพิษงูไปด้วย แล้ววายุภัคกับทิชากรก็กลายเป็นวิญญาณไปพบกัน ณ ที่แห่งหนึ่ง ทั้งสองเสียใจที่เพิ่งจะรู้จักกับคำว่ารักแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่แล้วเบื้องบนก็เห็นใจจึงให้โอกาสวุยุภัคกลับไปวายุภัคจึงสามารถนำว่านพญาลิ้นงูทองกลับมาช่วยทิชากรได้สำเร็จ
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ไกรฤทธิ์เชื่อแล้วว่าวายุภัครักลูกสาวของตนมากแค่ไหน เขาก็เลยไม่ขัดขวางวายุภัคกับทิชากรอีกต่อไป
วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เขาและคนที่เขารักเกือบตาย และที่สำคัญเขาได้พบที่ซึ่งลมจะหยุดพัดไปมาอย่างไม่มีจุดหมาย แต่จะพัดอยู่ข้างๆปีกนกของทิชากรเพียงคนเยวเท่านั้น
จบ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 22:01:28
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 20:55:31
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 20:13:10
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 19:56:59
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 19:46:35
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 19:26:22
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 19:21:47