ความคิดเห็นที่ 1 นั่นสิคะ จขกท. เราก็คิดเหมือนกัน คือดูแล้วรู้สึกได้แต่อธิบายไม่ได้บอกไม่ถูก รู้แต่ว่ามันต่าง แล้วแต่ละเรื่องที่เคยดูนี่ จะให้ความรู้สึกคล้ายๆกัน อืม..คิดได้คำนึง "ความสัมพันธ์" จากคุณ : Lily-ChouChou เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:20:07

ความคิดเห็นที่ 2 การดำเนินเรื่องไว ไม่ยืด มีวัฒนธรรมแทรกเยอะ มีข้อคิดดีดีเกือบทุกเรื่อง เยาวชนดูได้ การดำเนินเรือ่งอยู่บนพื้นฐานของมนุษย์จริงๆเขาทำกัน ไม่โอเวอร์(ยกเว้นแนวละคนที่มาแนวแฟนตาซี ผี เป็นต้น) มีแนวละครหลากหลาย ถ้าเกี่ยวกับกีฬาก็กีฬาจริงๆ ให้ความรู้เต็มๆ เอาไปใช้จริงได้ แทรกแรงบันดาจใจและกำลังใจอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะความพยายาม ความไฝ่ผัน เป็นต้น อิอิ คิดได้แค่นี้แหละ จากคุณ : Yoojang เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:21:43

ความคิดเห็นที่ 3 ความเงียบ ของบรรยากาศซีรีย์ครับ ผมว่า เป็นจังหวะ ของเพลง ด้วยน่ะครับ หนังญี่ปุ่น จะไม่ค่อยใ่ส่เพลงออกมามากเกินไป แต่ไปเน้นกับการพูด ของตัวละครแทน การแสดงอารมณ์ และความรู้สึกในบท จะค่อนข้างดูน่าเกรงขาม ถ้านักแสดงเล่นถึง มันจะดูมีพลัง โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่เพลงอะไรมาให้รกหูเลย ณ ช่วงเวลานั้นๆ จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:22:37

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าเพราะคนญี่ปุ่นเขาช่างเลือกหรือไม่ก็เรื่องมาก ถ้าคนเขียนบทไม่พยายามพัฒนา  คนเขาก็ไม่ดู บันเทิงอื่นๆเขามีมากกว่าเราเยอะ หนัง คอนเสิร์ต  การ์ตูน ละครเวที   ถ้ามัวแต่นิ่งอยู่คนไม่ดูก็จบ  ก็ต้องต่อสู้เชือดเฉือนกันเต็มที่ แต่เราว่าละครญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้เรื่องรักๆระหว่างชายหญิงนี่   มันไม่ค่อยสนุกเหมือนแต่ก่อน ล่าสุดเลยทีเรารู้สึกว่าเรื่องรักๆใคร่ๆสนุกก็คืออยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก พอหลังๆมาดูเรื่องไหนมันก็เฉยๆ  เหมือนพวกคนเขียนบทไม่มีความรักกัน ยังไงยังงั้นเลย  ไม่มีความน้ำน่าเงาจันทร์ในหัวใจกันเลยจริงๆ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:24:28

ความคิดเห็นที่ 5 มีข้อสังเกตว่า -นักแสดงของเขา แสดงน้อยแต่สามารถทำให้เรารู้สึกได้เยอะ -บุคลิกของตัวละครญี่ปุ่นเป็นอะไรที่เข้าใจยาก คือการแสดงความรู้สึกของเขามันแปลกมาก อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่รู้สึกตามไปด้วยได้ บุคลิกของตัวละครเขาไม่เหมือนใครจริงๆ จากที่ได้ตระเวนดูละครของชาติอื่นๆ เช่น รัสเซีย เม็กซิโก อินเดีย ตุรกี ฟิลิปปินส์ ่ยังพอเดาความคิดความรู้สึกของตัวละครได้ แม้จะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ตัวละครญี่ปุ่นมีแต่เครื่องหมายคำถามลอยขึ้นมา 555 -โครงสร้างและการดำเนินเรื่อง unique มากๆ จนบอกไม่ถูก55 จากคุณ : . (lovefox) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:26:33

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับซีรีย์เราให้คำจำกัดความว่า "น้อยแต่มาก" ค่ะ เหมือนภาพยนต์จากฝั่งยุโรป ถ้าได้ทำความเข้าใจแล้วตัวซีรีย์จะดึงเราลึกเข้าไปในเรื่อง หากให้ยกตัวอย่างซักเรื่องที่บอกว่านี่แหละขนบซีรีย์ญี่ปุ่น เราจะยกตัวอย่าง "ร้านดอกไม้ไร้กุหลาบ" จังหวะการเดินเรื่องแต่ละก้าวย่างไปอย่างช้า ๆ ปราณีต นุ่มนวล และ มั่นคง  บางทีเล่าเรื่องไม่ต้องพูดอะไรเลยซักคำ 10 นาทีมีแต่ภาพกับเพลง  นำองค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเชื่อมโยงกัน การแสดงออกอาจจะน้อยแต่รู้สึกมาก ทั้งอารมณ์รักที่แตะมือมองตาคนดูก็กรี๊ดกระจาย หรือ อารมณ์เศร้าไม่ออกมาแบบฟูมฟายแต่เจ็บลึก เป็นเสน่ห์ของซีรีย์ญี่ปุ่นในความคิดเรา จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:27:03

ความคิดเห็นที่ 7 นี่แหละเสน่ห์ซีรีย์ญี่ปุ่น เราก็ชอบเหมือนกัน อาจเพราะบางทีตัวละครมันใกล้เคียงกับชีวิตคนจริงๆมั้ง บางเรื่องอาจมีโอเวอร์บ้างเพราะอ้างอิงจากการ์ตูน ที่สำคัญเราว่าเขาใส่ใจในรายละเอียดมากเลยซีรีย์ญี่ปุ่นเนี้ย จากคุณ : Judy & Mary เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:39:27

ความคิดเห็นที่ 8 ดู tokyo tower ซิ ไม่นิ่งแน่ นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งเหนื่อยชิบ อิอิ จากคุณ : infernaldevilking เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:49:06

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบนะคะ แต่จบไม่เคยประทับใจสักเรื่อง จากคุณ : สีฝุ่น&กี้ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:52:00

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นความจริงที่สุด ในการดำเนินชีวิตล่ะมั้ง จากคุณ : สิบจัตวาโดโรโระ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:53:48

ความคิดเห็นที่ 11 วัฒนธรรม สังคม ผู้คนของเค้ามั้งครับ จากคุณ : Zae50120 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:00:38

ความคิดเห็นที่ 12 เพะรา ความเป็นญี่ปุ่น ก็ดูบ้านเมือง เขาสิ เหมือน คนอื่นเขาที่ไหน  อิอิ จากคุณ : Summerlife เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:03:09

ความคิดเห็นที่ 13 ซีรี่ส์ญ่ปุ่นเรื่องแรกที่ดูคือ มิสเตอร์เบรนอะค่ะ ดูในยูทูบแบบพูดญี่ปุ่นซับไทย ชอบนะคะ แปลกดี แต่จบแบบงงๆ -*- หนังญี่ปุ่นก็ชอบ >< จากคุณ : ไข่เจียวต้นหอม เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:05:41

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องอารมณ์ นี่เห็นด้วยเลยค่ะ เค้าจะไม่โอเว่อร์มาก ให้ความรู้สึกจริง มันเหมือนชีวิตจริงๆของคนเราต่างจากละครไทยที่ ท่าใหญ่ ค่ะ มันทำให้เรารู้สึกถูกดึงให้คล้อยตามได้ง่าย และการเล่าเรื่องเค้าก็พิถีพิถันมากๆค่ะ จากคุณ : พังพอน on the BeacH เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:16:11

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่นับซีรี่ย์ที่ทำจากการ์ตูนนะครับ ผมว่าพล็อตเรื่องและบทมันมีเอกลักษณ์ของเขาน่ะครับ คุณจะไปเดาเหตุการณ์อะไรจากในซีรี่ย์ของญี่ปุ่นได้ยากมากๆ พล็อตไม่สำเร็จรูป มีรีไซเคิลแต่ทำออกมาได้แตกต่างจากเดิม... อีกทั้งเรื่องของเขาเล่นกับพื้นฐานทางสัมคม ทั้งอาชีพ การศึกษาวัฒนธรรม ที่เจอได้ทั่วไปตามชีวิตประจำวัน อย่างเรื่องแพทย์ ที่ไม่เน้นเรื่องรักๆใคร่ๆ แต่จะโคลสอัพไปที่ชีวิตแพทย์ การคอรัปชั่นในวงการแพทย์ เป็นต้น...ซึ่งถ้าเป็นประเทศไทยคงมีพวกไม่ยอมรับความจริงออกมาดิ้นกันให้พล่าน แต่ก็นั่นล่ะ...เพราะคนดูของเราแยกแยะไม่เป็นซะส่วนหนึ่ง... ส่วนเรื่องซีรี่ย์ที่เน้นความรัก...ผมว่าเขามีมุมมองความรักมานำเสนอหลายรูปแบบนะครับ ไม่ซ้ำซากจำเจ อย่าง พระเอกรวยโคตร นางเอกจน มาพบรัก หรือนางเอกพระเอกเกลียดกันมาก่อน ทะเลาะกันจนรัก อะไรแบบนี้แทบจะไม่เจอในซีรี่ย์ของญี่ปุ่นเลยล่ะครับ ก็น่าแปลก ความยาวของซีรี่ย์มันแค่ 1SSก็ราวๆ 11-12 ตอนจบ แต่หาเรื่องที่จำเจได้ยากมากๆ ความเหนือชั่นจริงๆไม่ใช่ที่การถ่ายทำ นักแสดง แต่เป็นพล็อตเรื่องมากกว่าที่ทำให้คนส่วนใหญ่ชอบและติดเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์ญี่ปุ่น... ผมชอบนะที่เห็นพล็อตเรื่องประมาณว่า ลูกศิษย์รักอาจารย์ หรือ รุ่นน้องแอบชอบรุ่นพี่ แล้วคอยแอบมองตลอด หรือ ถ้าแนวมืดมนหน่อยๆอย่างนางเอกเป็นหญิงขายบริการ พระเอกเป็นตำรวจอะไรเทือกนี้...ที่ไม่ใช่นักธุรกิจพันล้านเหมือนละครไทย หรือเกาหลี... จากคุณ : ผู้ชายไร้สาระ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:33:09

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกความเห็นเลยจ้ะ ถูกใจทุกความเห็น บางคห.นี่อธิบายได้ลึกซึ้งมากกกก ใครว่าเหลิมไทยสาระ้น้อย ไม่จริงหรอก ถามให้ถูกเรื่องเถอะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ (กี๊ฟชักหน้าไม่ถึงหลัง หมดซะแล้ว) จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:45:10

ความคิดเห็นที่ 17 สังเกตดูแล้ว ในละครญี่ปุ่นเค้าจะเน้นหน้าที่การงานมากเลย หมายถึงการทำงานของตัวละครน่ะค่ะ มีความรับผิดชอบ จริงจัง มั่นคง ไม่ใช่อยู่ๆก็หยุดไปทำโน่นทำนี่ จะหยุดก็ลางานก่อน ขนาดในละครนะนี่ รู้สึกเหมือนเป็นชีวิตจริงๆ แต่บางอย่างก็อาจจะเวอร์ไปหน่อย เป็นธรรมดาของละครอยู่แล้ว ทุกอย่างสมเหตุสมผลไปหมด ข้อคิดมากมาย และข้อคิดส่วนมากจะเกี่ยวกับความตั้งใจ ความฝัน ความพยายาม ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และความรับผิดชอบ บางที่ดูแล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าเค้าจริงจังกันเกินไปหรือเปล่า ชีวิตจริงๆเค้าเป็นแบบนี้กรือเปล่า ถ้าเป็นจริงๆ ไม่แปลกที่บ้านเค้าจะพัฒนาได้เร็วมากมาย แต่มีอยู่อย่างนึง ในหนังญี่ปุ่น ที่ไม่มีความสมเหตุสมผลเอาซะเลย เอ่อ..หนังผีอ่ะค่ะ แบบว่าเอาหลอนอย่างเดียวเลย อยากฆ่าก็ฆ่า แค่เค้าก้าวเท้าเข้าบ้านมาก้าวเดียวก็ยังฆ่า!! ดูไม่เคยจบ กลัวอ่ะ 55 ปล.ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น ชอบของเล่นญี่ปุ่น  ชอบ made in japan และที่ชอบที่สุด ชอบชักโครกญี่ปุ่น 555 จากคุณ : kugkik_kugkik เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:49:45

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าซีรี่ย์กับหนังญี่ปุ่นต่างกันค่อนข้างเยอะมาก ซี่รี่ย์ดีๆเยอะมาก แต่หนังดีๆนี่นับนิ้วยังเหลือเลย จากคุณ : +Carbocat+ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:19:08

ความคิดเห็นที่ 19 อย่างซีรีี่ย์เรื่อง Liar game พระเอกไม่หล่อนะ แต่ดูแล้วรู้สึก ผู้ชายคนนี้บุคลิกลึกซึ้ง แข็งแต่ก็นุ่มนวล มีมิติ แล้วดูๆไปแล้วแบบ หล่ออ่ะ คนแบบนี้อ่ะ เท่โฮก หรือ ในหลายๆเรื่องที่พระเอกไม่หล่อ แก่บ้างไรบ้า่ง  แต่พอดูๆไป มันหล่ออ่ะ เพราะมันธรรมชาติดีอ่ะ จากคุณ : BBB (bikini bottom beach) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:28:21

ความคิดเห็นที่ 20 สั้นๆนะคะ เราว่า หนังญี่ปุ่นคือความละเอียดอ่อนละมุนละไมของความรู้สึก จากคุณ : กลั่นอารมณ์ผสมอักษรา เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:37:00

ความคิดเห็นที่ 21 อธิบายไม่ถูก รู้แต่ชอบซีรีส์ญี่ปุ่นมาก ๆ จากคุณ : onsri เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 07:10:17

ความคิดเห็นที่ 22 หนังหรือซีรีย์ไม่ชอบ แต่ถ้าเรื่อง Tokyo Train Girl รถไฟขบวนร้อน น่ะใช้ได้ จากคุณ : ArtOnonD เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 07:38:28

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบตรงที่มันไม่มี กรี๊ด  กรี๊ด  กรี๊ด !!~...... จากคุณ : cattym เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 07:48:15

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบซีรีย์ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่อธิบายไม่ถูกว่าชอบเพราะอะไร แต่ที่พอบอกได้คิดว่าน่าจะ การดำเนินเรื่องมั๊ง ไม่ยืดเยื้อดูแล้วเข้าใจง่าย มีพื้นฐานจากความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของเขา ดูแล้วเพลินดี ถึงบางเรื่องจะทำมาจากการ์ตูนออกแนวเวอร์ๆ แต่ก็สนุกดีนะ จากคุณ : hahnlp เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 09:15:41

ความคิดเห็นที่ 25 คิดว่าเป็นเพราะประเทศเค้าเจริญมานานแล้วด้วยส่วนนึง คนที่ดูส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีการศึกษา ประกอบกับวัฒนธรรมของเค้า ทำให้สามารถสร้างละครหรือซีรี่ออกมาได้แบบนั้น ลองนึกดูถ้าเป็นประเทศเราสร้าง คงมีคนโวยกันตาย แถมพานไม่อยากดูด้วย ผมว่าแนวทางของญี่ปุ่นจึงคล้ายฝั่งอเมริกามากกว่า ที่ประเทศเจริญมานานแล้วเหมือนกัน เพียงแตกต่างในส่วนของวัฒนธรรมอันเป็นแบลคกราว ในขณะที่โซนเกาหลี จีน หรือ ไทย จะเป็นละครค่อนข้างเพ้อฝัน เนื่องจากผู้เสพต้องการแบบนั้น ผู้ทำจึงสนอง แม้บางประเทศจะเจริญ แต่ก็ไม่นานักและผู้คนที่เพ้อฝันมีค่อนข้างมากอยู่ จากคุณ : มังกรอมตะ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 09:39:46

ความคิดเห็นที่ 26 เราชอบซีรีย์ญี่ปุ่นมากกก เหมือนกันค่ะ .. อาจเป็นเพราะมีหลายๆแนวเลยไม่เบื่อที่จะดูก็ได้มั้งคะ ทั้งแอคชั่น ดราม่า คอเมดี้ ผีเผออะไรสนุกหมด แต่แต่ละเรื่องมันดูแล้วจะรู้สึก อิ่มๆ..อุ่นๆ..เต็มๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก.. แล้วเค้าก็ชอบแทรกเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวกะเพื่อนฝูงมากเป็นพิเศษ.. ส่วนตัวคิดว่าเค้าอาจอยากต้องการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในสังคมที่ต้องแก่งแย่งชิงดีกันในชีวิตของคนประเทศเค้าน่ะค่ะ.. เหมือนกับละครไทยที่ต้องมีพระเอกนางเอกรวยเวอร์ๆ เพื่อเติมให้เค้าคนดูละครหลังข่าวที่กลุ่มเป้าหมายมักเป็นคนชั้นรากหญ้าซะส่วนใหญ่.. จากคุณ : MonicaHayes เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 09:54:54

ความคิดเห็นที่ 27 "น้อยแต่มาก" นิยามได้ตรงสุดแล้วมั้งคะ อันนี้ไม่ได้หมายถึงแอคติ้งของนักแสดงนะ (บางเรื่องก็เล่นซะโอเวอร์ 555) แต่หมายถึงเนื้อเรื่อง บท คำพูด อะไรงี้ เราสังเกตเกือบทุกเรื่องจะให้อะไรมานิดหน่อย เช่น ภาพ สิ่งของ คำพูดสั้นๆ คำเปรียบเปรย แต่พอเอากลับมาใช้อีกรอบกลับส่งผลต่ออารมณ์คนดู "มาก" เป็นพิเศษ เขียนแบบนี้อาจจะงง ต้องขอยกตัวอย่าง เช่น... อย่างเรื่อง Last Friends ซึ่งเป็นเรื่องของเพื่อนมาอยู่บ้านเดียวกัน แล้วจะมีตัวละครนึงซื้อแก้วน้ำให้เพื่อนแต่ละคน (ต่างสีกัน) แล้วไอ้แก้วน้ำนี้เอากลับมาใช้ในหลายๆฉากได้ดีอ่ะค่ะ เช่น ฉากที่ตัวละครนึงปฏิเสธความรักของอีกตัวละคร เธอก็เอาแก้วน้ำของเขาไปให้คนอื่นใช้ แค่นี้มันก็สื่อได้โดยไม่ต้องบอกแล้ว หรือตอนที่เพื่อนต่างแยกกันไป กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง กล้องแพนภาพไปที่แก้วน้ำห้าใบวางเรียงกัน พอคนดูเห็นภาพนี้ก็เข้าใจแล้ว เหมือนที่เค้าว่าภาพๆเดียวแทนคำพูดนับพัน เพราะงั้นละครญี่ปุ่น"ส่วนใหญ่" จะเน้นภาพมากกว่าคำพูด แล้วได้ผลมากๆด้วย ส่วนคำพูด บางทีก็สั้นๆ แต่กินความหมายลึกมากก็มี โดยเฉพาะฉากสารภาพรัก ให้ไปดูได้เลยหนังรักแต่ละเรื่องจะมีวิธีการบอกรัก(อ้อมๆ)ที่แทบจะต่างกันหมดแต่เก๋มาก เช่น Hero เราชอบฉากที่นางเอกท่องชื่อนักฟุตบอล(หรือเบสบอลนะ) ที่พระเอกชอบ ทั้งๆที่ตัวเองไม่รู้จักกีฬานี้นัก กับตอนพิเศษที่ ทั้งสองคนไปทำงานที่เกาหลี แล้วนางเอกก็จดบทสนทนาเกาหลีมาเพื่อเอามาใช้ พอพระเอกแอบเปิดดูก็มีคำพูดนึงที่นางเอกเขียนทำนองว่า ขอโทษแทนพระเอกด้วย ถึงแม้เขาจะเป็นคนแปลกๆแต่เค้าเป็นคนมีความตั้งใจ เป็นคนเก่ง บลาบลาบลา (ที่เหลือคือชมพระเอก) คือนางเอกอุตส่าห์แปลเพื่อเอาไว้ใช้ขอโทษคนเกาหลีคนอื่นๆอ่ะค่ะ แต่สำหรับคนดู(และพระเอก)แล้ว เราก็จะรู้ว่านางเอกคิดยังไงกับพระเอก โดยที่นางเอกไม่ต้องพูดออกมาเอง หรือฉาก Operation Love ที่พระเอกแอบเขียนบนกระดานห้องเรียนสารภาพรัก แล้วมาบอกนางเอกว่าพรุ่งนี้ให้รีบไปห้องเรียนก่อนใครนะ เพราะบนกระดานเขียนความลับเรื่องแย่ๆของนางเอกไว้ (ฮา) จะครีเอทกันไปไหนนนน ??? นี่เรายกมาแค่นิดหน่อยนะคะ แต่จริงๆทุกเรื่องจะมีอะไรแบบนี้เยอะมาก แล้วเราว่ามันเป็นสเน่ห์ที่ไม่ค่อยเห็นในละครชาติอื่นเท่าไหร่นะ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 10:54:09 จากคุณ : นางาเสะจัง เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 10:49:33

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบซีรีย์ญี่ปุ่นมากค่ะ แม้ว่าบางเรื่องจะดูเหมือนขายหน้าตา ดารา อะไรแบบนี้ แต่ทุกเรื่องมันต้องมีอะไรแทรกเข้ามาให้ได้คิดตามตลอดเลย อย่างเรื่อง Nobuta wo produce ดูเผินๆเหมือนเป็นละครวัยรุ่นวัยเรียนธรรมดา แต่ดูเข้าจริงๆแล้ว ประทับใจมาก โครงเรื่องง่ายๆ แต่พูกเข้ากับชีวิตของเพื่อนสามคน ครอบครัว เส้นทางชีวิตได้อย่างลงตัว ดูแล้วทำให้ได้คิด เลยเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ติดตามซีรีย์ญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันค่ะ จากคุณ : PakToon เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 10:58:11

ความคิดเห็นที่ 29 เราชอบเพราะมันสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ได้แทบทุกเรื่องเลย แต่ละเรื่องมักจะแทรกจุดประสงค์อะไรบางอย่าง เพื่อให้ตัวละครได้มุ่งไปสู่จุดหมายนั้น   ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ แม้จะล้มลุกคลุกฝุ่น เจอตัวมารแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ประสบความสำเร็จ   แถมตัวมารที่คอยขัดขวาง ก็ไม่มี "กรี๊ด ๆ ๆ ๆ " ดั่งคนบ้าไร้สติ จากคุณ : ข้าพเจ้าคือข้าพเจ้า เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 11:02:26

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่ค่อยไ้ด้ดู ซีรี่ส์ญี่ปุ่นนะครับ แต่ชอบดูหนังญี่ปุ่น อารมณ์อย่างที่ทุกท่านว่ามาเลย  ทำน้อยแต่ได้มาก ยังจำฉากจบเรื่อง love letter ได้เลย เป็นฉากจบแบบไม่มีไคลแม๊กซ์ มีแค่รูปภาพๆหนึ่งกับ นางเอกร้องไห้ปนยิ้ม ๆ แต่ฉากนี้กับสร้าง ความรู้สึกมากมายใส่คนดู ทั้งสุข เหงา และอบอุ่นมากครับ จากคุณ : โจนาธาน โจสตาร์ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 11:12:54

ความคิดเห็นที่ 31 มาลงชื่อ อิอิ สำหรับเรามันซึมลึกนะ ค่อยๆซึม จนเข้ามาในความรู้สึกเลยล่ะ อย่างเราดู csi เราก็จะสนุกแต่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วม ไม่ซึ้งไม่เสียใจ ไม่ใคร่จะสะเทือนใจ เพราะเค้าไม่ได้เน้นทางด้านอารมณ์ แต่ถ้ามาดูแนวสืบสวนสอบสวนของญี่ปุ่นล่ะก็ เราจะมีอารมณ์ร่วม จะรู้สึกสะเทือนใจ หดหู่  เสียใจ บางทีน้ำตาซึม   เพราะเค้าเน้นอารมณ์ การเข้าถึงอารมณ์ของคนดู ให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับเนื้อเรื่องด้วย เพลงประกอบแต่ละเรื่อง เข้ากับเนื้อเรื่องมาก หาน้อยเรื่องที่จะเปิดเพลงที่มีเสียงคนร้องคลอ ส่วนใหญ่เป็นแค่ดนตรีจริงๆ แต่มันเข้ากับเหตุการณ์แต่ละตอนมากๆ การถ่ายภาพก็เยี่ยม  เค้ารู้ว่าควรเน้นตรงไหน คือทุกภาพทุกเสียงที่มีในซีรี่ย์ มันมีที่มาที่ไป ไม่มีที่จะออกมาแบบไร้เหตุผล ที่คนไทยหลายๆคนดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง แล้วเบื่อ ส่วนนึงคงมาจากการที่เริ่มดูทางทีวี และทีวีนี่แหละตัวตัดเลย ตัดบางฉากไปเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่ความจริงแล้ว ทุกฉากทุกตอนของเค้ามันสำคัญกับเนื้อเรื่องนะ แม้จะแค่ฉากกินข้าวก็เถอะ (เค้าจะแทรกว่าตัวละครกินข้าวอย่างไร ชอบกินอะไร ตอนกินเขี่ยผักทิ้งไหม แสดงถึงนิสัยตัวละครออกมาบางส่วน ซึ่งมันจะเป็นเกร็ดต่อเนื่องไปหาเหตุการณ์อื่นๆที่จะเกิดขึ้น แต่พอประเทศไทยเอามาฉายทางทีวี ดันไปตัดของเค้าออกเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ บางคนเลยดูไปงงไป แล้วบ่นว่าซีรี่ย์ญี่ปุ่นงง ไม่รู้เรื่อง) ล่าสุดที่เราอึ้งมาก คือเรื่องร้านดอกไม้ที่ไร้กุหลาบนี่ล่ะ ฉากเปิดมา ใช้ภาพไม่กี่ภาพเล่าเรื่องว่าพ่อรักลูกมากแค่ไหน เลี้ยงมาด้วยความรักและถนุถนอม   เพียงภาพไม่กี่ภาพโดยไม่ต้องมีเสียงพากย์หรือการพูดจาแต่อย่างใด แต่เรารับรู้ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างดี เราอึ้งกับฉากนั้นมากๆ ให้ตายเถอะ เราชินกับการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นนะ ไม่งงกับการแสดงออกของตัวละครไม่ว่าเรื่องไหน เพราะอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นตั้งแต่เก้าขวบ และเริ่มดูซี่รี่ย์ญี่ปุ่นตอนอายุ 14  การแสดงอารมณ์แบบญี่ปุ่น มันซึมเข้าเส้นเลือดไปแล้ว จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 12:20:48

ความคิดเห็นที่ 32 ู^ ^ อันนี้ขอเพิ่มเติมนิดนึง ที่บอกว่าการแสดงออกของตัวละครของเขามันแปลก แต่ไม่ได้บอกว่างงนะ แต่ว่าบางครั้ง เราจะไม่เข้าใจความคิดความรู้สึกของเขาได้้แบบโจ่งแจ้ง แต่ก็ยังรู้สึกตามไปด้วย ไม่ใช่แค่ตัวหลัก แต่ทุกๆตัวละครก็ว่าได้ คือยังไงดีล่ะ เหมือนมันเป็นวัฒนธรรมการแสดงออกของเขาคือ แบบว่าไม่เปิดเผยความรู้สึก การแสดงออกอาจจะอ่อนน้อม แต่คนดูต้องเดาเอาเองว่าภายใต้ความอ่อนน้อม ตัวละครมีความรัก ความแค้นอยู่กี่ริกเตอร์ อย่างบางฉากจะโกรธจะเถียงหรือขัดแย้งอย่างแรงแค่ไหน แต่ก็คุยกันท่านิ่งๆหน้าตายๆ แถมพูดเสร็จแล้วก็คำนับกันซะอีกแหน่ะ คือบุคลิกของเขาตรงนี้มันเฉพาะตัวจริงๆ เพราะอย่างละครหรือการ์ตูนญี่ปุ่น เราก็ว่าคุ้นเคยในหมู่คนไทยอยู่แล้วล่ะ เทียบกับละครชาติอื่นแล้วก็เออ ตัวละครชาติอื่นการแสดงออกของเขาดูไม่ซับซ้อนเท่านี้แฮะ จากคุณ : คห5 (lovefox) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 12:53:41

ความคิดเห็นที่ 33 วัฒนธรรม ไม่รู้ไม่เคยไป การใช้ชีวิต ไม่รู้ไม่เคยอยู่ แต่ที่ชอบดูซีรีย์ยี่ปุ่ง ก็เพราะ สามารถทำให้เข้าใจได้ว่า นักแสดงแต่ละคนที่ไม่ว่า จะเป็น เด็ก ญ ช แก่ ฤ สัตว์ต่างๆ ดูแล้วทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ความปราณีต การเข้าถึงบท การแสดงออก สำคัญกว่าหน้าตา (ตรงข้ามกับบางประเทศ หน้าตามาก่อน ฝีมือไว้ทีหลัง ลักษณะไม่เหมือนบทไม่เป็นไร ยังไงก็ขายได้ เพราะ มีคนเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตาอยู่เยอะั) การดำเนินเนื้อเรื่องดี ไม่มีกระโดด แต่ก็มีข้อเสียก็คือ ถ้าพลาดบางตอน อาจจะทำให้ขาดความเข้าใจของที่มาในตอนต่อไปได้เลย แถมบทสรุปสำคัญของแต่ละตอนนั้น มาจากคำพูดลอยๆ แทบทุกครั้ง ซึ่งตรงนี้ บางครั้งเป็นคำพูดธรรมดา แต่สามารถทำให้น้ำตาไหลพรากได้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ซีรีย์เศร้าเลยซักนิดเดียว (ผิดกับละครบางประเทศ ไม่ดูไป 2 อาทิตย์ยังกลับมาดูรู้เรื่องทั้งหมดได้เลย ส่วนฉากเศร้าบางฉาก ดูแล้วก็ยังมาคิดเลยว่า อะไรจะขนาดนั้น) ดูซีรีย์ยี่ปุ่งแล้วสามารถนำกลับมาใช้กับตัวเราเองได้ตลอด เวลาดู แล้วแทนตัวเองว่า ถ้าอยู่ในเหตุการณ์แบบเดียวกับตัวเอกของเรื่อง จะตัดสินใจอย่างไร เมื่อตัวเอกตัดสินใจอย่างนั้น เราเห็นด้วยไหม แต่เมื่อสุดท้ายกลับกลายเป็นว่า การตัดสินใจแบบนั้น เป็นการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ ฤ ตัดสินใจผิด เพราะ อะไร ตรงนี้มีเหตุผลรองรับเสมอ ทำให้เมื่อย้อนกลับมาที่ความคิดของเราเอง ก็ทำให้ต้องคิดไปว่า เวลาจะมองอะไรก็ต้องมองหลายๆ ด้าน อย่ามองเฉพาะด้านที่เห็นตรงหน้าเท่านั้น (ละครบางประเทศ ยิ่งดูยิ่งทำให้ปัญญาด้อยลงไปเรื่อยๆ กับการแก้งปังหาแบบโง่ๆ การประชดชีวิต ที่ไม่สามารถเป็นไปได้ในชีวิตจริง กลับได้ผลดีซะอย่างนั้น) พอก่อนดีกว่ามั๊ง ......... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 14:43:22

ความคิดเห็นที่ 34 เจอคนชอบเหมือนกันนี่ดีจังเลยนะคะ ^_^ ดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นจบแล้วไม่ค่อยได้ไปเมาท์เรื่องที่ดูกับใครเลยค่ะ แนวร่วมหายากจริงๆ ได้แต่นั่ง "อิ่มใจ" อยู่เงียบๆ เราอยากให้ซีรี่ส์ญี่ปุ่นมีพื้นที่ในการฉายในฟรีทีวีมากกว่านี้จัง เพราะไม่งั้นก็ต้องหาซื้อจากเน็ตเอา ซื้อเนี่ยไม่เคยเกี่ยงเลยนะคะ แต่ซับบางอันพิมพ์ผิดกระจาย ใช้ภาษาไม่ถูกบ้าง T_T มาเข้าเรื่องกันดีกว่า บ่นไปเยอะ อิอิ "ความอบอุ่น" "ความละเอียดอ่อน" "ความเป็นธรรมชาติ" "การเอาใจใส่" และ "การสรรสร้างแรงบันดาลใจ"มั้งคะ ที่ทำให้เรารักซีรี่ส์ญี่ปุ่น สังเกตดูได้ว่าแทบทุกเรื่องต้องมีความอบอุ่นในตัวเอง สำหรับเรานะ แม้ว่าบางเรื่องเนื้อเรื่องจะออกแนวฮา ไม่ได้ซับซ้อนหรือดราม่ามากมายอะไร หรือบางทีสร้างมาจากการ์ตูนทำให้แอคติ้งเวอร์ แต่ออกมากลมกลืนกับองค์ประกอบอื่นๆ ดูแล้วไม่ได้อินน้อยลง หรืออบอุ่นน้อยลง (แต่ฮามากขึ้น จนปวดกราม) อย่าง gokusen กะ hana kimi ไรงี้ เนื้อเรื่องอาจไม่แปลกแหวกแนว เหมือนจะเป็นแค่ละครวัยรุ่น แต่ว่ามันมีความต่าง ความพิเศษในบทและรายละเอียดของตัวละครที่ทำให้ต่างออกไป เอกลักษณ์ของอย่างนึงของเขาน่าจะอยู่ที่การสร้างแรงบันดาลใจนี่แหละ มีทุกเรื่อง ในด้านต่างๆกันไป เขาอาจจะต้องการให้คนของเขามีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อไป เพื่อตัวเอง เพื่อสังคม และเพื่อชาติ (มั้งนะ ในความคิดเรา) อีกอย่างนึงที่เราชอบมากและยังไม่เคยเห็นในละครไทย(ที่เคยดู) คือ เพลงประกอบ ละครญี่ปุ่นแต่ละเครื่องจะมีดนตรีประกอบที่ทำขึ้นมาหลายเพลง (เพราะด้วย เปียโนบ้าง เครื่องสายบ้าง)เอาไว้ใช้ให้เข้ากับเหตุการณ์แต่ละช่วงซึ่งทำให้เรารู้สึกตามและเข้าถึงได้มาก แต่ละครไทยจะมีเพลงประกอบอยู่เพลงเดียว เอามาตัดเสียงร้องออก ทำจังหวะช้า ไว้ตอนเศร้า จังหวะเร็วหน่อย ตอนสนุกสนาน ไรงี้ ออกแนวเพลงเดียวตลอดศก ถ้าผู้จัดละครไทยใส่ใจกับเรื่องเพลงประกอบหน่อย หลายเรื่องก็ไม่แพ้ซีรี่ส์ญี่ปุ่นเลยล่ะ เท่านี้แหละจ้า ยาวไปหน่อย อิอิ ^_^ แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 14:53:05 แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 14:51:11 จากคุณ : miss winter เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 14:44:31

ความคิดเห็นที่ 35 เคยดูแต่ change นายกมือใหม่หัวใจประชาชน ชอบมากๆ คำพูดกินใจเยอะ จบเร็วดี จากคุณ : krisato เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 14:50:27

ความคิดเห็นที่ 36 ละครเป็นอะไรที่ต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ต้องคิดตามเยอะมากๆๆๆ เพราะมันมักมีแง่มุมที่ทำให้เราต้องคิดต่อ สร้างสรรค์จินตนาการคนดูให้คิดตามตลอดเวลา ไม่ต้องมาบอกว่ารัก โกรธ หรือเสียใจกันโต้งๆ ทำให้น่าค้นหาและติดตามค่ะ จากคุณ : redruby เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 17:47:24

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าพูดถึงละครญี่ปุ่น เราจะนึกถึงความมีอยู่จริงของตัวละคร ไม่ต้องมีนางเอกแสนดี พระเอกรวยเป็นพันล้าน แต่ทุกตัวละครจับต้องได้ เอาง่ายๆ ละครไทย กับเกาหลี ยังไงก็ต้องมีพระเอก นางเอกคู่กัน รักกัน แฮปปี้ แต่ละครญี่ปุ่นไม่ใช่ บางเรื่องไม่มีความรักแบบหนุ่มสาวด้วยซ้ำ อย่างเรื่อง daisuki ที่นางเอกปัญญาอ่อน แล้วดันมีลูก เลยต้องฝ่าฟันเลี้ยงให้ได้ตามมาตรฐานที่รัฐตั้งไว้ เคยอ่านเจอจากไหนไม่รู้ เค้าบอกว่า ในประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจน และยังไม่พัฒนา ละครจะออกมาในแนวความฝัน พระเอกนางเอกหน้าตาดี ร่ำรวย นิสัยดี การแสดงออกจะชัดเจน อิจฉาก็ต้องอิจฉามาก กรี๊ดมากๆให้คนดูแล้วรู้ทันทีว่าอิจฉา นางเอกต้องดีมาก ให้รู้ว่านี่นางเอก เพราะคนดูละครเพื่อบันเทิง และเติมฝันไปในแต่ละวัน ไม่ต้องการคิด ไม่ต้องการแง่มุมที่ลึกซึ้ง (ตัวอย่างที่เห็นชัดคือหนังอินเดีย ถ้าดูในslumdog จะเห็นชัดมาก ว่าโลกของคนธรรมดากับสายตาที่เค้ามองดารา มันแตกต่างมากๆ) ใครชอบละครแนวอาชีพ ซีซั่นนี้ต้องไม่พลาด Jyuui Dolittle  โอกุริ ชุน เล่นเป็นสัตวแพทย์มือทอง แต่เย็นชา กับ Iryu ทีมหมอมังกร ภาค 3 ส่วนใครชอบแนวชีวิตๆ ก็ต้อง เรื่อง Freeter, Ie ou kau แปลเป็นไทยว่า ฟรีเตอร์ (คนไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง) จะซื้อบ้าน เรื่องนี้ได้ Ninomiya จากวงอาราชิมาเล่นเป็นตัวเอก จากคุณ : littlejt (littlejt) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 19:17:41

ความคิดเห็นที่ 38 ซีรีย์ญี่ปุ่นมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ไม่ประดิษฐ์ ไม่ต้องมีบทน้ำเน่้า นักแสดงรับบทได้ดี ลงตัว ทั้งการแสดงออกทางสีหน้าและน้ำเสียง นี่คือเอกลักษณ์ในความคิดเราค่ะ จากคุณ : The Inspire Star เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 22:38:26

ความคิดเห็นที่ 39 แต่มีอยู่อย่างนึง ในหนังญี่ปุ่น ที่ไม่มีความสมเหตุสมผลเอาซะเลย เอ่อ..หนังผีอ่ะค่ะ แบบว่าเอาหลอนอย่างเดียวเลย อยากฆ่าก็ฆ่า แค่เค้าก้าวเท้าเข้าบ้านมาก้าวเดียวก็ยังฆ่า!! ดูไม่เคยจบ กลัวอ่ะ 55 ***** ผีอื่นๆ น่ากลัว แต่ ..... อยากรู้นิยามของ ซอมบี้ ว่า ยีุ่ปุ่งนี่เห็นเป็น "ผีตลก" ฤ ไงหว่า ทำออกมาแต่ละเรื่อง  ฮาซะไม่มี 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 22:56:01

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่แว้ดๆๆๆๆๆๆ แบบละครจีน ไทย ปวดหัว ไม่กล้าให้ลูกดู จากคุณ : คุณจ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 03:11:22

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่แว้ดๆๆๆๆๆๆ แบบละครจีน ไทย ปวดหัว ไม่กล้าให้ลูกดู จากคุณ : คุณจ๊ะจ๋า ***** จะว่าไป ผม "ยัดเยียด" ให้ดูการ์ตูน ยี่ปุ่ง ดีกว่า จบแต่ละตอน ยังสอนได้ว่า อะไรถูก อะไรผิด สอนโดยใช้การ์ตูน ทำให้เด็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น ส่วนละครไทย ..... นึกไม่ออกจะเอาอะไรมาสอนดี ..... อยากได้ผู้ชาย ก็ต้องเอาตัวเข้าแลก ????? จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 10:09:46