ความคิดเห็นที่ 1 คนมันจะหาเรื่องน่ะครับ คิดอะไรมาก ถึงขนาดถีบหนังลงไปเป็นหนังเกรด B เลยเชียว เอาตัวอย่างหนังเกรด B ที่มีเทคนิคอลังขนาดนี้ด้วยการลงทุนแค่นี้มาให้ผมดูซักเรื่องสิ ผมว่าถ้าไม่มีการบอกออกมาว่าต้นทุนหนังเรื่องนี้มันน้อยผมว่าคงดูกันไม่ออกหรอกว่าลงทุนเท่าไหร่ เหอ เหอ เหอ ไอ้ Leauge of Extraordinary นั่นไง ลงทุนมหาศาลค่าตัวนักแสดงหนังออกมาเทคนิคยิ่งกว่าต่ำชั้นอีก... จากคุณ : Fedexuck เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:18:58

ความคิดเห็นที่ 2 บางคนไม่ชอบบทหนังก็ไปพาลว่าคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบว่า ดูหนังไม่เป็น ... -*- มันเกิดจากความไม่ชอบล้วนๆนั่นแหละครับ คนไม่ชอบ ยังไงๆมันก็จะบลัฟให้แตกกันไปข้าง .. สำหรับผมในส่วนที่อยากให้หนังปรับปรุงเรื่องบทก็คงเป็นการดำเนินเรื่องที่น่าจะผูกปมอะไรบางอย่างที่ปูไว้ตั้งแต่ต้นให้มีที่ไปมากกว่านี้ก็เท่านั้นครับ นอกนั้นผมว่าสนุกแล้ว ไม่ต้องรู้อะไรมาก เพราะเราคือตัวละคร รู้เท่าที่ตัวละครรู้ !! กดดัน เครียด และสนุก จากคุณ : southern77 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:30:15

ความคิดเห็นที่ 3 หนังเน้นสถานะการณ์จริงๆ ณ ขณะนั้น จะเอาไรกะ บทมากล่ะ ผกก เขาต้องการสื่อไร ไม่รู้วิเคราะห์กันบ้างไหมพวกที่สักแต่ด่า ถามจริงชีวิตที่เราเป็นอยู่เนี่ย บทมันเจ๋งมากหรือไง ถึงต้องทำบทออกมาดีๆ จะต้องมีคำพูดเจ๋งๆ ตลอดไปหรือเปล่า ผมว่าหนังเรื่องนี้สื่อถึงกลุ่มคนในสถานการณ์ ณ ขณะนั้นได้เยี่ยมแล้ว มันคนละอย่างกับ ID4 เลย ผมว่าคนที่ด่าคงอาจจะคาดหวังว่าต้อง เจ๋งเหมือน ID4 หรอเปล่า ซึ่งสำหรับผมหนังมันคนละเรื่อง ไม่อยากเอาไปเปรียบ จากคุณ : khodjaman เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:30:24

ความคิดเห็นที่ 4 จะเอาอะไรกับนักวิจารณ์ระดับหมู่บ้านที่ชอบวิจารณ์คนทำหนังระดับโลกละครับ นู่นก็ติ นี่ก็ติ สุดท้ายแล้วไม่มีัอะไรจะดีเท่าคอมเม้นต์ตัวเองหรอกคร้าบบบบบ จากคุณ : forbidden love เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:32:09

ความคิดเห็นที่ 5 พูดแบบนี้ก็ไม่ถูก เหมือนคนไม่ชอบกินกระเพราไก่นั่นแหละ จะปรุงยังไง ถึงจะปรุงให้ถูกใจ ลองมันไม่ชอบก็คือไม่ชอบวันยังค่ำ จากคุณ : zezari เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:35:09

ความคิดเห็นที่ 6 ก็มีทั้งคนชอบ และ ไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดาละครับ ส่วนตัวผมก็ชอบนะ เพราะไม่ได้ขาดหวังมากเพราะมันไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์อะไรอยู่แล้ว จากคุณ : Gap-Impreza เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:51:05

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องธรรมดาครับ จากคุณ : tonytui เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 14:55:31

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าแบบนี้คงจะพอใช้ได้มั๊งครับ ^_^ - ตัวละครในเรื่องต้องเป็นพวกบ้าหลักปรัชญาขึ้นสมอง  เวลาพูดหรือทำอะไรต้องแฝงไว้ด้วยปรัชญาหรือคำคมอะไรซักอย่างที่ฟังแล้วเข้าใจยากโคตรๆ  อาทิเช่นไปยืนคุยกับลุงเจ้าของร้านชำด้วยประโยคบ้าๆบอๆที่คนปรกติเขาจะไม่พูดกันก่อนจะชวนให้เล่นโยนหัวก้อย  หรือถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ต้องเป็นต่างดาวที่แปลกกว่าเรื่องอื่นเช่น  พยายามใคร่ครวญคิดว่าทำไม "ปลาหมึกแปดขา" อย่างตนเองถึงไม่เกิดมาเป็น "พีน็อคคีโอ" ก่อนจะนั่งยานเหาะไปเจอกับนางฟ้าในสวนสนุกใต้ทะเลเป็นต้น - การดำเนินเรื่องต้องแฝงไว้ด้วยสัญลักษณ์ รหัสลับ คำใบ้บ้าๆบอๆที่คนดูต้องงัดสมองส่วน "ซีรีบรัม" ออกมาตีความอย่างหนักที่สุดในชีวิตพอๆกับเวลานั่งทำโจทย์ฟิสิกส์ควอนตัมถึงจะเข้าใจ  อาทิเช่นภาพของนกแร้งกระพือปีกบนหลังกระบือสีเผือกกลางทุ่งข้าวสาลี  ยานอวกาศบินเรียงกันเป็นรูปตราสวัสดิกะ พระเอกนั่งกินสปาเก็ตตี้ในจานที่เป็นรูปไม้กางเขน  มนุษย์ต่างดาวที่มีใบหน้าเหมือนนักร้องเพลงป๊อปสุดเห่ยในยุค80'เป็นต้น - อย่าพยายามลงทุนใส่ฉากแอ็คชั่นโครมครามแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างไม่บันยะบันยังเด็ดขาด  เพราะจะถูกบรรดานักวิจารณ์หัวสูงจัดให้เป็นหนังแอ็คชั่นระดับ "บี" ทันที (หนังแอ็คชั่น "เกรดเอ" น่ะไม่มีจริงหรอก -_-")  หรือถ้าจะใส่ก็ต้องใส่แบบมีศิลปะแลให้คนดูตีความกันเอง  อาทิเช่นเปิดฉากมาด้วยภาพฝูงจานบินเหนือมหานครยักษ์ก่อนจะมีนกตัวหนึ่งบินผ่านกล้องแล้วตัดฉับไปยังภาพที่เมืองเหลือแต่ซากแล้ว  หรือกลุ่มควันจากจรวดต่อสู้ของทหารที่ระดมยิงใส่ยานอวกาศแล้วพวยพุ่งหลอมรวมกันเป็นรูป "ผีเสื้อแอฟริกัน" กระพือปีก  ใช่แล้วครับ!เพราะการให้คนดูไปตีความเอาเองคือประเด็นหลักของหนัง "เกรดเอ" นั่นแล - "อย่าลืมหักมุมตอนจบแล้วจะถูกกล่าวถึงไปอีกนาน"  ใช่แล้วครับ!การหักมุมคือชั้นเชิงหนึ่งที่ทำให้หนังดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาทันที  แม้ตัวหนังทั้งเรื่องจะห่วยแตกไม่เป็นสับปะรดมาตลอดแต่ถ้าคุณหักมุมได้อย่างอึ้ง ทึ่ง เสียว ในตอนจบ  หนังสับปะรด3ลูก100ของคุณจะวิวัฒนาการมาเป็น "หนังลูกท้อเมืองจีนนำเข้า" โดยทันที   อาทิเช่น มนุษย์ต่างดาวสำนึกผิดจนยอมปล่อยคืนสิ่งที่ดูดกลับผิวโลกก่อนจะเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นชักโครกอวกาศ  หรือพระเอกติดเชื้อกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวก่อนจะหันมาต่อต้านมนุษย์ด้วยกันเองเพราะสำนึกว่าความจริงแล้วมนุษย์คือสิ่งเลวร้ายที่สุดในจักรวาล   ไม่ก็มนุษย์ต่างดาวที่พ่ายแพ้กลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งขับยานหนีการตามล่าของเครื่องบินขับไล่ทหารไปจอดพักยังทุ่งข้าวสาลี  ก่อนจะได้ยินเสียงเครื่องบินๆไล่ตามมาจึงตัดสินใจควักปืนเลเซอร์มาระเบิดขมองเพื่อนในยาน4คนจนหมดกระสุน  ก่อนที่มันจะเดินออกมาแหกปากกู่ร้องภาษาไก่กาอาราเล่  และพบว่าเครื่องบินที่ตามมานั้นเป็นเครื่องพ่นยาฆ่าแมลงปีกสองชั้นสภาพบุโรทั่งของชาวไร่ไกลปืนเที่ยงเป็นต้น (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 15:18:24 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 15:15:58 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:07:22

ความคิดเห็นที่ 9 ถูกใจข้างบนครับ ฮา^  ^ จากคุณ : PoorEducation เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:15:05

ความคิดเห็นที่ 10 แค่ชื่อไทยของเรื่อง sky line ดิฉันก็ฮาแตกแล้วค่ะ จากคุณ : lizard8 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:19:24

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคนหวังไปดู แอ็คชั่น มันส์สะเด่า มีฮีโร่กอบกู้โลก ลุยเดี่ยวพร้อมอาวุธทันสมัย ก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า อย่าไปเลย เดี๋ยวจะผิดหวังแล้วเอามาต่อว่าเสียๆหายๆ หนังเรื่องนี้ ขายตัวอย่างเป็นหนังแอ๊คชั่น ไซ-ไฟ แต่จริงๆ เป็นแค่ครึ่งเรื่อง อีกครึ่งกลับเป็นดราม่าพอเข้าขั้น หนังเดินเรื่องด้วยตัวละครไม่กี่ัตัว ปูพื้นความสัมพันธ์ให้เกือบครบ ทำให้ตอนต้นดูเอื่อยๆไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อเหมือนบางคนกล่าว ความสัมพันธ์ ความรู้สึก ความเป็นห่วง ความเข้าใจ ความไว้ใจ ความแตกแยก เหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมาระหว่างคนกลุ่มนั้น โดยเฉพาะคู่พระนาง   ที่สุดท้ายแล้วทั้งหมดทั้งมวลก็จะไปขมวดลงที่ตอนจบสุดท้าย บางฉากก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง the mist ที่ตัวละครต้องตัดสินใจ ว่าจะอยู่ หรือจะหนี อึดอัดและน่ารำคาญมาก จุดที่คนทั่วไปมองว่า ห่วย ก็คือตอนจบ แต่ผมว่า นั่นแหล่ะคือธีมหลักของเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก มากกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ยิงใส่ยานเสียอีก มันทำลายศัตรูต่างดาวได้ดีกว่าปืนเสียไหนๆ(ในมุมมองของคู่รัก) มีฉากให้ได้ลุ้นให้พอมีความหวัง แต่แล้วมันก็สลายไปต่อตา ทุกอย่างดูมืดหม่นและสิ้นหวัง แต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ด้วยกันจนนาทีสุดท้าย เป็นฉากหดหู่สิ้นหวังที่ซึ้งมากๆ ดูเหมือนจบ แต่ไม่จบ กลายเป็นว่าเกิดเรื่องปาฏิหารย์ซะงั้น ฉุดคนดูให้อินสุดๆ กับความรักของครอบครัว "ใครก็จะแยกครอบครัวผมไปไม่ได้" และหากใครได้ทนดูเครติตท้ายเรื่องต่อก็จะเห็นเนื้อเรื่องได้ดำเนินต่อสักพักนึง ซึ่งมันทำให้จินตนาการเตลิดเปิดเปิงมาก สำหรับผม ถือว่าหักมุมสุดๆ จบได้ดี ในมุมมองของปุถุชนที่ไม่ใช่ฮีโร่ จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:20:08

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าวิจารณ์หนังอ่ะได้ครับ อย่าวิจารณ์คนดูหนังเป็นพอ เพราะคนเรานานาจิตตังอยู่แล้ว คนไม่ชอบก็เพราะเขาไม่ชอบไงครับ พูดแบบนี้เหมือนกับเราพาลซะมากกว่า เหมือนเราไปกินข้าวร้านอาหาร แล้วมันไม่อร่อย เราก็บอกไม่อร่อย ลูกค้าประจำก็โมโห เดินมาถามว่า ไหนบอกซิว่าต้องปรุงยังไงให้อร่อย! ถามว่าผมบอกได้ไหม ก็ไม่ได้หรอกครับ ผมก็แค่รู้ว่ามันไม่อร่อยไม่ถูกปากผมเท่านั้น จากคุณ : nusfish เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:25:03

ความคิดเห็นที่ 13 ขอดูหนังไม่เป็นทั้งชีวิต แต่มีความสุขตลอดที่ได้ดูทุกเรื่องดีกว่า ลั้นล้าาาาา จากคุณ : อย่าลืมปิดไฟ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:31:22

ความคิดเห็นที่ 14 ผมสงสัยว่าถ้ามีชื่อjame cameron หรือ christopher nolanเป็นคนกำกับ เสียงวิจารณ์มันจะเป็นยังไง จากคุณ : efavirenz เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:57:40

ความคิดเห็นที่ 15 ลองเอางบประมาณที่สร้างหนังเรื่องนี้ให้เท่ากัน แล้วให้คนที่วิจารณ์เก่งๆ ใน pantip.com ลองไปสร้างเองดูบ้างซิครับ อยากรู้เหมือนกัน จะสร้างออกมาได้ดีกว่าแค่ไหน จากคุณ : เรซึชิน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:02:45

ความคิดเห็นที่ 16 ผมชอบหนังเรื่องนี้ จุดที่อยากติบ้าง คือ - การย้อนกลับไปช่วงกลางวันก่อนเอเลี่ยนบุก มันเรื่อยๆเอื่อยๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ผมว่าไม่ต้องเอามาฉายก็ได้ เอาไปเพิ่มเป็นรายละเอียดตรงอื่นดีกว่า - การตอบโต้เอเลี่ยน ผมว่ามันต้องเต็มพิกัด เพราะมันหมายถึงความอยู่รอดของมนุษยชาติ รถถัง ฐานยิงขีปนาวุธ เรือรบ มันต้องมาหมดครับ แต่เข้าใจว่าคงเยอะเกินสำหรับทุนสร้างหนังเรื่องนี้ - ตอนจบ เหมือนจะมีความหวังขึ้นมาบ้างจากที่พระเอกได้ร่างใหม่ แต่ก็แค่ในระดับเล็กๆ คงไม่ถึงกับเปลี่ยนแปลงอะไรได้ หรือขับไล่เอเลี่ยนออกไปจากโลกได้ เลยต้องดูว่าต้องการความสำเร็จในระดับเล็ก หรือใหญ่ ถ้าระดับเล็ก คือ ต่อสู้และพานางเอกหนีออกจากยานได้ ผมว่าอันนี้กำลังดี ดูแล้วเป็นไปได้ ถ้าระดับใหญ่ คือ ขับไล่เอเลี่ยนออกไปจากโลกได้ ทางที่จะเป็นไปได้ คือ ยานที่พระเอกอยู่เผอิญมีราชินี(นางพญา)ที่คอยควบคุมเอเลี่ยนทั้งหมด พระเอกไปเจอ และต่อสู้เอาชนะได้ ทำให้เหล่าเอเลี่ยนต้องล่าถอย กลับไปตั้งหลักใหม่ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่ามันดราม่าเกินไป เหมือนจะบังคับจบให้ happy ending ผมว่ายังไงก็ต้องทำภาค 2 เพื่อปิดเนื้อเรื่องตรงนี้ ถ้าจบแค่นี้ ผมว่ามันปลายเปิดกว้างไป จะกลายเป็นหนังแปลกๆ หนังอินดี้แทน จากคุณ : ภูเขา ทะเล และฉัน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:06:33

ความคิดเห็นที่ 17 ฉากจบต้องเป็นเอเลี่ยนสาวล้างจานอยู่ริมหน้าต่างของยานกล้องแช่ไว้5นาที แล้วแพนไปที่ขวดน้ำยาล้างจานของเอเลี่ยน จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:09:44

ความคิดเห็นที่ 18 บอกไม่ถูกหรอกครับว่าต้องเขียนบทยังไง มันอยู่ที่คนชอบ คนเรากินก๋วยเตี๋ยวปรุงรสยังไม่เหมือนกันเลย อย่างผมไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ เหตุผลที่ไม่ชอบก็มีครับ แต่การไม่ชอบมันก็เป็นสิทธิของผมที่จะไม่ชอบครับ สรุปให้ฟังว่ามีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบครับ จากคุณ : Joke_R-M'A เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:24:24

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าหนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยมันจะต้องเป็นหนังที่สุดยอดมาก จากคุณ : NinjaCyber เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:24:58

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องเขียนบทให้คนดูอิน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในเรื่อง จากคุณ : myung เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:00:35

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ก็มนุษย์ต่างดาวที่พ่ายแพ้กลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งขับยานหนีการตามล่าของเครื่องบินขับไล่ทหารไปจอดพักยังทุ่งข้าวสาลี แล้วก็ระเบิดตู๊ม กลายเป็นโกโก้ครั้นซ์ จากคุณ : Depump เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:08:40

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าการไปพาดพิงผู้กำกับคนอื่นก็ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่นะครับ สมมติว่าถ้า Nolan หรือ Cameron มากำกับเรื่องนี้ ถามว่าหนังเรื่องนี้จะถูกวิจารณ์รุนแรงแบบนี้มั้ย ก็คงต้องย้อนไปถามไกลกว่านั้นว่า แล้วคิดว่า Nolan หรือ Cameron จะทำหนังออกมาแบบนี้หรือเปล่า??                                           ผมว่าก็คงไม่ ทีนี้ค่อยมาว่ากันว่า Skyline - Nolan version / Cameron version มันดีไม่ดียังไง คนส่วนใหญ่ชื่นชม Nolan กับ Cameron เพราะอะไรล่ะครับ ผมว่าเพราะพวกเค้าทำหนังดีออกมาตลอด จนคนดูรู้สึกมั่นใจในชื่อผู้กำกับ ตอนที่กำกับหนังเรื่องแรก ก็คงไม่มีใครมายกย่องทั้งคู่หรอกครับ เสียงชื่นชมมันใช้เวลาในการสั่งสมเป็นสิบปี ทางที่ดีพิจารณาที่ตัวหนังก่อนดีกว่าครับ ว่าดีหรือไม่ดี ไม่มีใครจะยอดเยี่ยมได้ตลอดชาติ ถ้าผลงานไม่ดีจริง ยกตัวอย่างใกล้ๆ M. Night นี่ไง นับวันยิ่งมูนวอล์คลงคลอง แต่ถ้ามีคนมาบอกอีกว่า สองคนนี้ไม่เห็นจะเก่งเลย ทำหนังก็ไม่สนุก เครียดไป ตลาดไป อันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่สุดแล้วครับ มีคนชอบ ก็ต้องมีคนไม่ชอบ เป็นธรรมดามากๆ                               ขนาดฝาแฝดยังคิดไม่เหมือนกัน 100% เลย พันทิปคนเป็นล้าน เห็นแย้งกัน เป็นเรื่องปกติมากๆ ครับ จากคุณ : jarman เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:35:33

ความคิดเห็นที่ 23 ฮาคุณ เจไดหนุ่ม จะบอกว่าหนังมันมีหลายระดับหลายเกรด การทำหนังในข้อจำกัดสถาณที่หรือตัวละครน้อยๆ ใช่ว่าจะเป็นข้อเสีย หนังเล่นคนเดียวทั้งเรื่องยังมีเลย มันอยู่ที่คนดูว่ามีมุมมองกว้างเปิดโอกาสให้หนังเหล่านี้แค่ไหนครับ ขนาดผมแค่บอกว่าแสงในเรื่องมันมาจากปลาใต้ทะเลยังมีคนมาแขวะผมเลยว่ารู้เรื่องแบ็คกราวด์หนังจำเป็นกับการดูหนังด้วยเหรอ จะบอกว่าโรงหนังมัลติเพล็กมันทำให้เกิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาครับ คนดูแต่หน้าหนังตอนไปถึงหน้าโรง โดยไม่คิดสนใจเนื้อหาหนังให้ดีก่อนดู ถามว่าผิดมั้ยคงไม่ผิด แต่ก็เหมือนเราจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างก็ควรต้องศึกษาดูก่อน เงินเราควักตังซื้อเองจะจ่ายอะไรก็ต้องคิดหน่อย ไม่ใช่ซื้อของผิดแล้วจะมาโวยวายกับสินค้าว่าทำไม่ได้แบบที่ต้องการ มันก็ไม่ถูกนักหรอก จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 18:17:12

ความคิดเห็นที่ 24 ผมชอบหนังเรื่องนี้นะ จากคุณ : พนักงานออฟฟิศ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 19:51:11

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากหนังจบเขาทั้งคู่ก็เอนออกจากโลงเอ้ยโรง(หนัง) และเกิดการสนทนาขึ้น A:หนังเชี่ยไรว้า แง่งไม่มันส์เลย จบบัดซบมาก -*- B:เฮ้ยตูว่าหนังออกจะสนุก มีมิติ เล่าเรื่อได้ดี เอฟเฟกยอก ฉากจบออกจะอาท A:อาทบ้านเมิงสิแง่งจบห่านไร่ไม่รู้  หนังเกรดบีชัดๆ B:เกรดบีบ้านน้องป้าเมิงเหรอ หนังออกจะยอด เมิงดูหนังเป็นป่าวนี่ รสนิยมห่วยนะเมิงเนี่ย A: อ้าวก็แง่งไม่ได้เรื่องจริงๆเอาดีแต่ซีจี B:เมิงนี่ไม่รู้อะไรเลยเป็นแค่นักวิจารย์ระดับหมู่บ้าน เจือกมาวิจารหนังระดับโลก ไอ้กบในกะลา ไอ้ไม่ทันสะมัย ไอ้ไม่อาท A: อ้าวเมิงด่ากูนี่ B:เออ ก็เมิงมันไม่ทันสมัย โง่แล้วเจือกมาดู A:อ้าวไอ้สลัดผักใส่ไข่ @!$@@#$!#!@$%^^&&**@%^%%$@# B: อ้าวไอ้....@$##$%^%%#%%$@@#$%^&*( เอวังด้วยประการฉะนี้ จากคุณ : แมงปอซ่า เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 19:56:29

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่จำเป็นต้องทำข้าวผัดเป็น ถ้าไม่ได้ลิ้นพังหรือปัญญาอ่อนก็บอกได้ ว่าข้าวผัดจานไหนอร่อยหรือไม่อร่อย ที่ด่านี่ก็เพราะจ่ายเงินซื้อมากินแล้วไม่ถูกใจ ไม่ใช่ไปด่าข้าวที่เค้าแจกฟรี ฉันใดก็ฉันนั้น จากคุณ : ceteris เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 20:37:36

ความคิดเห็นที่ 27 ในเมื่อคุณเลือกที่จะซื้อข้าวผัดมาลองชิม หากรสชาติไม่ถูกปากอย่างที่คุณหวังไว้ คุณก็ไม่ควรไปด่า คนทำ ข้าวผัดจานนั้น ซึ่งรสชาติอาจถูกปากโต๊ะข้างๆคุณก็ได้ อีกทั้งเค้าก็ไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้คุณมาซื้อ ฉันใดก็ฉันนั้น จากคุณ : lucifer_jr เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 20:55:41

ความคิดเห็นที่ 28 ฉันไม่รู้ว่าหลังจากนี้ มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันไม่กล้าจะสัญญาด้วยคำใด..... ชะเอิงเงย  ฟิ๊วววววววววววววววววว จากคุณ : แมงปอซ่า เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 21:13:08

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นว่าควรมีสิทธิด่าคนทำข้าวผัด เพราะสิทธิของผู้บริโภคมันย่อมต้องมี ไม่ใช่ว่าต้องคิดเผื่อคนทั้งโลก 6พันกว่าล้านคน ซึ่งมันต้องมีซักคนที่ชอบข้าวผัดจานนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีสิทธิจาบจ้วงโต๊ะข้างๆว่าลิ้นบอด ไม่รู้จักรสอร่อย ไม่อร่อย ฉันใดก็ฉันนั้น โต๊ะข้างๆ ก็ควรเคารพสิทธิของผู้บริโภคโต๊ะนี้ด้วย ไม่ใช่มาห้ามด่า เพราะตัวเองชอบ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 21:23:07 จากคุณ : ceteris เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 21:21:15

ความคิดเห็นที่ 30 นิยามของบทที่ดี.. บทดีคือ บทที่ทำให้คนดู ปวดฉี่ แต่ลุกไปฉี่ไม่ได้ เพราะกลัวพลาด.. จากคุณ : Antbadtz เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 22:31:06

ความคิดเห็นที่ 31 การที่เราจ่ายเงินซื้อ product ใด ๆ ก็ตาม แล้วเราเกิดความไม่พอใจในสิ่งนั้น ๆ เพราะมันห่วยเกินกว่าจะรับได้ ผมว่าเรามีสิทธิ์ด่าครับ ถ้าเป็นเงินเราเอง จ่ายโดยสุจริต แต่ไม่มีสิทธิ์ทะลึ่งไปด่าคนอื่นที่เค้าชอบครับ เราด่าของเราคนเดียว อย่าไปเอี่ยวให้ใครเดือดร้อน แต่ก็อีกนิดนึง ผมว่ากรณีแบบนี้มันอาจจะอ่อนไหวนิดนึง เพราะเป็นบอร์ดสาธารณะ ถ้าจะด่าก็เพลา ๆ หน่อยครับ แค่บอก ดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ ก็น่าจะจบ ถ้าถึงขนาดด่าซ่ะเสียหมา ผมว่าคนที่เค้าชอบก็คงไม่พอใจเหมือนกันแหละ (จริงไหมครับ ? ) ป.ล. ยังไมไ่ด้ดูครับ แค่อ่านคำวิจารณ์พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ในนี้ก็อยากดูแล้วล่ะ ตอนนี้อยู่ ตจว กลับ กทม เมื่อไรไม่พลาดแน่  แต่สงสัยได้ไปดูพร้อมแฮรี่แหง ๆ เลยแหะ จากคุณ : ^~~--BeeR_ChimarO--~~^ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 22:31:09

ความคิดเห็นที่ 32 มันจบแบบห้วนเกินไป โดยตอนนั้นไม่รู้ว่ามีภาคสองด้วยหรือไม่ ตอนนี้อ่านเจอมาว่าจะมีภาคสอง ก็เลยคิดว่าอะไรหลาย ๆ อย่าง อาจมีคำตอบในภาคสองก็เป็นได้ ไม่ชอบตรงที่ (คห.ส่วนตัวนะ) 1.ถ่ายทำแค่ที่ในตึกอย่างเดียวเลย ไม่ไปไหนเลย 2.เหตุผลบางอย่างดูไม่สมกัน เช่นตอนน้ำไหล ตอนพระเอกล้างหน้า น้ำไม่ไหล แต่ตอนตาลุงล้างดันไหล 3.จบแบบอึดอัด ไม่รู้สิ เป็นผู้หญิงอะค่ะ ไม่อยากให้แฟนจากไปต่อหน้าต่อตาขนาดนั้น อยากให้มีคนมาช่วยพระเอกนางเอก ในร่างเอเลี่ยนอะค่ะ เหมือนที่พระเอกเป็น แต่ไม่ใช่หมายความว่าเอาสมองพระเอกไปอะค่ะ แล้วก็มีเอเลี่ยน(ดี) มาสมทบหลายๆตัว เพื่อคิดวางแผนจะโค่นพวกตัวบอส แล้ววจบ..แต่แบบนี้ต้องมีภาคสองต่อนะ ที่ว่าหลายๆตัวนี่จะมาจากไหน - มาจากคนที่โดนแบบพระเอกทั่วๆทุกมุมอเมริกาโดน (สมองเป็นสีแดง) แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 22:56:00 จากคุณ : ยูสึยุ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 22:55:30

ความคิดเห็นที่ 33 ผมชอบหนังดีแล้วนะ สั้นๆเท่ดี จากคุณ : alien Flu เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:02:17

ความคิดเห็นที่ 34 พูดตรงๆนะ ผมว่าห่วยเพราะฉากจบ จากคุณ : myung เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 12:10:53

ความคิดเห็นที่ 35 อยากให้กิฟท์ความเห็น 26, 29 และ 30 มาก ๆ ค่ะ เสียดายจัง โดยเฉพาะความเห็นที่ 30 เพราะคุณแฟนปวดฉี่พอดี เค้าก็ลังเลอยู่สักพักนะคะ แต่ก็ลุกไป พอกลับมาถามว่ามีอะไรที่เค้าพลาดไปรึเปล่า เราบอก ไม่มี ฮ่าๆๆ บทเรื่องนี้มีช่องโหว่ให้ติได้เต็มไปหมดค่ะ สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดกับหนังเรื่องนี้นัก เพราะตลอดเวลาที่นั่งดูจนถึงตอนนี้ก็มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่หนังเอเลี่ยนบุกโลกแบบนี้ควรจะดูเอาสนุกแล้วก็จบไป แต่คงเป็นเพราะเรื่องมันลอย ๆ ตัวละครไม่มีมิติ บทพูดขาด ๆ เกิน ๆ นี่แหละค่ะเลยทำให้รู้สึกไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย ปล. หวังว่าคงไม่มีใครมาไล่ให้ไปเขียนบทมาให้ดูนะคะ แค่อยากแสดงความคิดเห็น ^^" จากคุณ : i BeliEve iN deStiny เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 22:45:19