 |
ถ้ายานบินมนุษย์ต่างดาวจะมาโลกจริง มันไม่วิ่งผ่านมิติที่สาม มาหรอก
เพราะในขอบเขต 400 ปีแสง รอบโลก นักวิทยาศาสตร์ฟันธงแล้วว่า ไม่มีดาวดวงไหน ที่มีสิ่งมีชีวิต
400 ปีแสง ( เท่ากับแสงเดินทางสี่ร้อยปี) คิดดู ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาทางนั้น แล้วใช้ยานความเร็วสูงแม้ว่าทำได้ถึง 100,000 กิโลเมตรต่อวินาที (1ใน3 ของความเร็วแสง) ยังต้องใช้เวลาเดินทางถึง 1,200 ปี
ดังนั้น ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาจริงๆ แสดงว่า เทคโนโลยีต้องสูงมาก ขนาดที่ว่า วิงผ่านมิติอื่น แล้วมาโผล่ที่โลกทันที ชนิดที่เรียกว่า เหมือนหายตัวมาปรากฏ
เปรียบเทียบง่ายๆว่า มดบนผนังเพดานลานจอดรถ ต้องการจะลงมากินขนมที่ตกอยู่บนพื้น มันต้องไต่เพดานไปจนสุดผนัง ซึงไกลสุดๆแล้วไต่ลงผนังมาที่พื้น แล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อ จนถึงจุดที่ขนมตก ( ในความรู้สึกของมด พื้นที่มันเดิน เป็นสองมิติ ) แต่ทีนี้ ถ้ามีมดสักตัว มันรู้จักเล่นกับมิติที่สูงกว่า (มิติที่สาม) ทิ้งตัวดิ่งจากเพดานลงมาทะลุมิติที่สาม ถึงจุดที่ขนมตกในฉับพลัน ได้มดตัวที่มองแบบสองมิติมันก็จะงงว่า ได้ตัวนั้นมันโผล่มาจากไหนวะ (คือมดมันมองแต่ซ้าย ขวา หน้า หลัง )
เช่นกัน สิ่งมีชีวิตที่รู้จักเล่นกับมิติที่สี่ มันก็จะทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ที่เข้าใจแค่มิติที่สาม งวยงง (เอาแค่ยานมันลอยตัวอยู่ในอากาศ โดยเล่นกับแรงโน้มถ่วงได้ เราก็ไม่เข้าใจแล้ว)
ในเรื่องอวตาร ตอนต้นเรื่องที่ผู้กำกับตัดออก ก็มีการอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดาวแพนโดรา อยู่ไกลจากโลกมาก ดังนั้น การเดินทางต้องใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์เข้ามาช่วย เจมส์ คาเมลอน กลัวหนังจะยืดยาวเกินไป เลยตัดช่วงต้นออก เปิดเรื่องมา พระเอกก็ถึงดาวแพนโดราเลย
แต่ในหนังเรื่องนี้ รูปร่างยานอวกาศ มันไม่แสดงให้เห็นถึงความไฮเทคเลย เหมือนยานสมัย กาโม่ ไอ้มดแดง
เครื่องบินรบที่บินมาต่อสู ยังเท่กว่า แถมยิงนิวเคลียร์ได้ด้วย
หนังไม่ค่อยมีเนื้อเรื่อง แต่สนุกดี เสียดาย เพื่อนพระเอกที่ขับรถออกไปก่อน ไม่น่าตาย (พร้อมกับกิ๊ก)
ที่เซ็งคือ กำลังจะถึงไคล์แมกซ์ ดันมาจบเอาดื้อๆ แบบทำให้อารมณ์ค้าง
เชื่อว่า อีกไม่นาน คงจะมีภาคสองออกมา
จากคุณ |
:
เพิ่งดูเมื่อวานนี้ (ปัจจตัง)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 พ.ย. 53 16:52:21
|
|
|
|
 |