ความคิดเห็นที่ 1 ข้อเสียของการนำนิยายดัง นิยายเยาวชนมาทำเป็นภาพยนตร์คือ..จินตนาการ เพราะคนเราจินตนาการไม่เท่ากัน บางคนอ่านแล้วจินตนาการซะเพริดแพร้ว แพรวพิสุทธิ์ ประดุจแดนแมนสรวง มีร้านยวง ควงไม้คทา ร่ายมนตราใส่กัน แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 23:16:34 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 23:16:20 จากคุณ : บ้านของฉันคือประเทศไทย เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:16:02

ความคิดเห็นที่ 2 ก็เพราะความคิดระดับเด็กประถม จากคุณ : I Love Paul Walker! เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:16:19

ความคิดเห็นที่ 3 คิดเหมือนกันครับ คือ ถ้าแฮรี่จะมีรายละเอียดไม่เหมือนในหนังสือก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่ขอให้ความเป็นหนัง มันสนุกกว่านี้หน่อย ส่วนตัวคิดว่าผู้กำกับแฮรี่ ในแต่ละภาคยังมือไม่ถึงครับ แต่ก็ต้องดูตามหน้าที่ทุกภาคจริงๆครับ จากคุณ : beckmee เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:17:32

ความคิดเห็นที่ 4 ผมคิดว่า ลอร์ด.. มันแทบไม่ต้องใส่จินตนาการอะไรลงไป เพราะดูธีมเรื่องและหลายๆอย่างมันมีภาพของมันอยู่แล้ว และตัวเรื่อง มีความเป็น "ผจญภัย แอคชั่น" มากกว่าดราม่า ขณะที่ แฮร์รี่ .. มันต้องใส่จินตนาการ และจินตนาการของคนไม่เหมือนกัน ภาพออกมาไม่เหมือนกัน และตัวเรื่อง มีความเป็น "ดราม่า แฟนตาซี" มากกว่าผจญภัย แอคชั่น ดังนั้น เมื่อเราอ่าน "แฟนตาซี" เราจะจินตนาการไปไกล ในขณะที่"แอคชั่น" ภาพที่จินตนาการ ย่อมไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าของจริง .. (ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ) จากคุณ : เครื่องทำน้ำขุ่น เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:21:20

ความคิดเห็นที่ 5 ก็ช่วยมาม่าตามจุดประสงค์ของเค้าหน่อยแล้วกันนะ จากคุณ : supatpit เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:23:54

ความคิดเห็นที่ 6 เราอ่านหนังสือ แล้วไปดูภาคแรกภาคเดียวจบ ไม่สนุกเอาซะเลย แต่เพื่อนไม่ได้อ่านหนังสือกลับชอบมากๆ เราว่าคงเป็นอย่างข้างบนอธิบายมั้ง คือจินตนาการไว้เยอะเกิน แบบมีภาพในใจแล้ว เลยทำให้เวลาดูแล้วมันไม่ได้อย่างใจคิดน่ะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 23:26:46 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 23:26:34 จากคุณ : pangtum เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:25:33

ความคิดเห็นที่ 7 โชคดีที่เราไม่ได้อ่านหนังสือ แฮรี่ พอร์ตเตอร์ แต่เรากลับคิดว่าหนังสนุก ดูทุกภาค ๆ ละหลายรอบ ก็ไม่เบื่ออ่ะ แต่กับลอร์ด ออฟ เดอะ ริง เคยตั้งใจจะติดตามดูทุกภาค แต่พอไปดูภาคแรก หลับกลางเรื่องเลยอ่ะ หลังจากนั้นเลยไม่ได้ดูภาคต่อ ๆ ไปเลย (ขออภัย หากรู้สึกและคิดเห็นต่าง) จากคุณ : Beauty in Daylight เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:26:54

ความคิดเห็นที่ 8 เพราะเราอ่านแล้วจินตนาการตามหนังสือ.. เวลาที่คนทำหนังทำออกมา มันก็ไม่เหมือนกับจินตนาการที่เราคิดไว้ สำหรับเราที่ทำกันออกมาฉายนี่ก็ถือว่าดีมาก ๆ แล้ว แม้จะไม่บรรเจิดเท่าจินตนาการ แต่ก็อลังการงานสร้างนะคะ..^ ^ จากคุณ : ไก่กา อาราเร่ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:30:33

ความคิดเห็นที่ 9 หลอด ตอนอ่านแรกๆไม่ชอบอะ เลยวาง แฮร์รี่ อ่านแล้วติด แต่ดูหนังเฉพาะภาคที่มีแอคชั่นเยอะๆ จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:30:50

ความคิดเห็นที่ 10 เราจินตนาการแล้วก็อยากเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว แล้วพอได้ดูกลับชอบนะ อย่าง ปราสาทมัลฟอย/บ้านลูน่า/ฉากแฮรี่ กับเฮอร์จากฮอร์คฯ จากคุณ : cm_pn เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:33:50

ความคิดเห็นที่ 11 ผมก็ดูตามหน้าที่ ชอบที่สุดภาค 6 และ 7.1 ผมว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ ภาคอื่นๆ ทำไม่ค่อยถึง แม้ภาค 6 จะน่าเบื่อแต่ผมก็ชอบตรงที่มันน่าเบื่อนั่นแหละ รู้สึกดูแล้วมีอะไรมากกว่าภาคอื่นๆ ปล. คนคาดหวังมาก จะผิดหวังก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร จากคุณ : Lodlem เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:34:09

ความคิดเห็นที่ 12 นิยายหลอดสนุกกว่าแฮร์รี่เยอะนะผมว่า แต่เอาเถอะ หนังสือมันคนละแนว จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:44:40

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับคห.4ค่ะ คือTher lord นี่จินตนาการยังไม่ถึงขั้นแฮรี่ แบบแค่แอคชั่น ผจญภัย แต่แฮรี่นี่หนังสือ ทั้งหนา รายละเีอยดเยอะมากจนไม่สามารถเอามายัดๆลงไปในหนังที่มีความยาวจำกัดได้ แถมเรายังต้องจินตนาการอีก หนังเลยไม่สนุกเท่าที่ควร ดูแฮรี่ทุกภาครู้สึกมันไม่สุดทุกภาคเลยจริงๆค่ะ - -" ชอบที่สุดภาค3ล่ะมั้ง จากคุณ : Gerken เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:48:01

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนแรกเฉยๆ เพราะเห็นว่าความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่มาสะดุดสองบรรทัดสุดท้ายนี่แหละ เด็กไทยโรงอาหารมันสุโค่ยดีแท้... จากคุณ : jcutler เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:56:17

ความคิดเห็นที่ 15 นิยายดังๆ ทำเป้นภาพยนต์ ยากเพราะความคาดหวังของคนดูนั้น สูงมาก และความคาดหวังของแต่ละคนไม่เท่ากัน แถมแตกต่างกันมากครับ ไม่ต้องดูไกล ดูเพชรพระอุมาที่ท่านมุ้ยจะสร้างก้ได้ครับ ข่าวตัวละครที่อาจจะได้รับบทเด่นๆ ในเรือง ออกมา ทำให้ บางท่านที่รับไม่ได้เพราะไม่ตรงกับใจตนอย่างแรงถึงกับโพส ว่าคงไม่ดูแน่ๆ มาแล้ว ทั้งๆที่หนังยังไม่เริ่มถ่ายทำเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : Wastrel เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:57:05

ความคิดเห็นที่ 16 lord นี่ดูแบบเงียบกริบ ไม่รู้สึกว่าสนุกบางช่วงก็เบื่อ แต่ชอบ production กับดนตรี ดูยิ่งใหญ่และปราณีต โทนของหนังเป็นผู้ใหญ่กว่า แล้วก็ไม่ได้ติดกับตัวละครตัวไหนมากไปกว่ากันใครจะอะไรยังไง ก็ไปตามเนื้อเรื่อง Harry ไม่ดูในโรงเลยดูข้างนอกตามโอกาสอำนวย หนังมีความเป็นเด็กมากกว่า การสร้าง ดนตรีอลังการน้อยกว่า เนื้อเรื่องก็ให้พระเอกเก่งเกินไป พิเศษกว่าใคร บางทีก็เอียน อ่านหนังสือสนุกมาก ดูหนังแล้วรวบรัดตัดต่อรวดเร็วไม่ค่อยทำให้เกิดความรู้สึกร่วมเหมือนอ่านหนังสือ แต่ก็ดูได้เพลินๆ จะว่าไปมันก็หนังคนละแนวเลยนะ จากคุณ : plataO เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:57:51

ความคิดเห็นที่ 17 คนละแนวเลยครับ ลอร์ด ผมไม่ดูเลยครับ หลับกระจายไม่สนุกเอาเสียเลย ส่วนแฮร์รี่ผมว่าสนุกนะครับ ที่บอกว่าไม่สนุกคือยังไง เพราะที่ผ่านมามันก็โอเคแทบทุกภาคนะครับ หรือคุณคิดว่าสนุกคือต้องต่อสู้กัน งั้นไปดู ทรานส์ฟอร์เมอร์ก็ดีนะครับ เพราะแฮร์รี่เน้น บท มากกว่าแอ็คชั่น แต่บทอ่อน ลวกๆ หึหึ จากคุณ : pkp_aksw เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:09:44

ความคิดเห็นที่ 18 LORD --> Apple Harry --> Samsung จากคุณ : system idle เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:11:49

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาฟังความเห็นของเข้าของกระทู้ จากคุณ : DOGDAG_chy เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:19:32

ความคิดเห็นที่ 20 โรงอาหารนักเรียนประถมไทยหรูขนาดนั้นเลยหรอคะ อิ อิ สำหรับเราเราชอบทุกภาค แต่ที่ชอบที่สุดคือภาคสาม (ยังไม่ได้ดู7.1) เราอ่านหนังสือด้วยนะ แต่ก็ชอบหนังด้วย แต่ที่ไม่ชอบอย่างนึงคือเรื่องคัดนักแสดง (แค่โช กับจินนี่เท่านั้นแหละ เราว่าน่าจะน่ารักกว่านั้นได้อีก) จากคุณ : A Votre Sante เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:19:37

ความคิดเห็นที่ 21 หนังสือ กับ หนังมันต้องต่างกันอยู่แล้วซิ  ไม่ว่าจะอันไหนก็สนุกเหมือนกัน เราชอบ จากคุณ : atcharaphan.p เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:21:40

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบภาคนักโทษอัซคาบัน ภาคเดียว นอกนั้น ดูแล้ว...ก็ดี จากคุณ : ฮานาแฮมฟาย เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:21:48

ความคิดเห็นที่ 23 น่าจะคนละแนวกันนะ เราชอบ Lord เพราะถ่ายทอดเนื้อหาจากหนังสือ ออกมาได้ค่อนข้างครบถ้วน (แค่ดูฉาก ทิวทัศน์ ก็ประทับใจแล้ว) ส่วน Harry ไม่เคยไปดูในโรง (เพราะตั้งแต่อ่านจบเล่มแรกก็พอเดาได้แล้วว่า เอามาทำหนังมันไม่น่าจะสนุกหรอก) ดูแต่แผ่น สรุปแล้วมันไม่น่าประทับใจ และไม่น่าติดตาม หลัง ๆ เลยอ่านหนังสืออย่างเดียวพอแล้ว จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 24 รู้สึกเหมือนกันค่ะ อ่าน LOTR แล้วรู้สึกคำบรรยายเยอะมากกกกกถึงมากที่สุด ทำให้บางทีเบื่อ อยากจะอ่านเนื้อเรื่องบ้าง แต่หนังทำออกมาได้สุดยอด กลายเป็นแฟน LOTR ไปเลยค่ะ แต่กับ HP จะตรงกันข้าม หนังสือสุดยอด หนังเฉยๆ แต่ไม่ได้ย่ำแย่อะไร จากคุณ : หอยน้อยสังหาร เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:34:09

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วแต่มุมมองของคนด้วยมั้งค่ะ Harry potter อย่างเราคิดว่าหนังสือก็สนุก ในหนังก็น่าติดตาม เพราะอยากรู้ว่าจิตนาการของเราจะออกมาเป็นยังไง ส่วน lord of the ring หนังอลังการมาก แต่หนังสือซับซ้อนเกินไป เพราะตัวละครเยอะมาก เราอ่านแล้วปวดหัว จากคุณ : U got it เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:34:17

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านทั้งสองเรื่อง ดูในโรงทั้งสองเรื่อง ส่วนตัวก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดไม่ไปดูอีก แต่ภาคหลังผมคิดว่าแฮรี่ทำแล้วโอมากขึ้นนะ จากคุณ : Rule_Of_Rose เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:39:48

ความคิดเห็นที่ 27 หนังสือมันเขียนดีเกินไปกว่าที่จะสร้างมาให้ทำหนังสนุกมั้ง ^ ไม่จริงหรอกครับ หนังสือเนื้อหาตื่นเต้นเร้าใจ เขียนฉากไว้ให้ทำหนังโชว์อลังการมากมาย ไปถึงจุดหนึ่งก็มีเนื้อหาปลุกใจและยกย่องเชิดชูความรักและมิตรภาพ เนื้อหาแนวนี้ขายง่าย ไม่ยากเลยที่จะทำออกมาให้สนุก ที่เห็นว่าไม่ค่อยสนุกนั้น คงเป็นเพราะผู้สร้างหนังเขาทำได้แค่นี้แหละครับ แต่คงไม่ใช่เพราะหนังสือ ดีเกินไป หรอก จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:40:32

ความคิดเห็นที่ 28 คนที่บอกว่า LOTR ไม่มีจินตนาการนี่ ยังไม่ได้อ่านหนังสือใช่มั้ยคะ??? ถ้าลองอ่านดู จะบอกว่าเหลือเชื่อมาก ที่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มาจากความคิดของคนคนเดียว เราว่าถ้าคนที่เคยอ่าน LOTR ต้องมีแอบคิดบ้างหล่ะ ว่ามันคือเรื่องจริงของอีกโลกนึง LOTR จริงๆแล้วรายละเอียดเยอะกว่า Harry เยอะมาก แต่เค้ายังทำออกมาได้ดี มีดัดแปลงเนื้อเรื่องไปเยอะเหมือนกัน คนทำเค้าเคารพบทประพันธ์มากๆ อยากจะบอกว่าตอนถ่ายนี่ เอาหนังสือมาเปิดกาง ต้องสื่ออารมณ์เหมือนที่โทลเคียนเขียนไว้เป๊ะๆ  อันนี้ต้องโทษคนเขียนบท Harry ค่ะ ยังทำได้ไม่ดีพอ ขอวิจารณ์เฉพาะหนังค่ะ หนังสือนี่คงเอามหากาพย์มาเทียบกับวรรณกรรมเยาวชนไม่ได้หรอก จริงๆก็ชอบทั้งสองเรื่อง ชอบ LOTR มากกว่านิดนึง จากคุณ : 100 years เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:43:59

ความคิดเห็นที่ 29 ดูลอร์ดภาคแรกในโรงแอบหลับ แต่น้องชอบมาก จากคุณ : ตุลย์รานี เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:47:08

ความคิดเห็นที่ 30 แค่ได้เ็ห็นตัวละครในหนังสือที่ชอบเดินไปเดินมาก็โอเคละ ขอยอมรับว่าไม่ค่อยอินกับ LOTR แต่ต้องยอมรับว่าผู้แต่ง LOTR ไม่ได้แค่สร้างเรื่องราว แต่สร้างโลกอีกโลกนึงขึ้นมา ทึ่งมากๆ จากคุณ : reccaninja เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:50:42

ความคิดเห็นที่ 31 ตั้งแต่แฮรี่ภาคแรกเข้าฉาย ผมจะได้ยินกระแสคนที่อ่านหนังสือมาก่อน พอมาดูหนังจะรู้สึกไม่สนุกเท่าตอนอ่านหนังสือ ส่วนคนทีี่่ไม่เคยอ่านจะบอกว่าสนุกมาก สำหรับ LTR ไม่ค่อยได้ยินใครบ่น คนที่อ่านก็จะบอกว่าสนุกไปคนแบบ (หนังทำดี หนังสือรายละเอียดดี) สำหรับผมชอบLTR มากๆแต่ลองอ่านหนังสือแล้วหลับตลอด หนังสือแฮรี่อ่านกระชับเข้าใจและจิตนาการง่ายกว่ามากเป็นวรรณกรรมเยาวชน จากคุณ : I'am stillwater เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:02:07

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับเรา แฮรี่หนังสืออ่านสนุก ครบทุกอรรถรส ในหนังก็ไปดูทุกภาคเพราะ อยากดูเทคนิค กับฉากที่สวยๆว่าจะเหมือนที่คิดไว้มั้ย อาจจะติดใจบางตรงการดำเนินเรื่องที่มันข้ามๆ ไม่ต่อเนื่อง แต่ก็เข้าใจแหละว่าถ้าอยากจะให้สนุกใกล้เคียงหนังสือก็น่าจะเหมาะทำเป็นซีรีย์ แต่ทุนสร้างอาจไม่มากเท่าหนัง ส่วน The lord ไม่เคยอ่านนะ ดูหนังก็สนุกดี แต่คนที่เคยอ่านบอกว่าหนังสือซับซ้อนมากค่อยๆดำเนินเรื่อง แต่เป็นหนังทำกระชับดี จากคุณ : Tabina เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:14:18

ความคิดเห็นที่ 33 โดยส่วนตัวชอบหนังสือ HP แต่ไม่ชอบหนัง HP ดูตามหน้าที่จริงๆ เหมือนคห.บนๆ คือผมรู้สึกว่าหนังมันอืดๆ เนือยๆ ไงไม่รู้ครับ - - แถมดัดแปลงจากหนังสือไปโข เปลี่ยนเรื่องราวไปเลยก็มี เช่นใน HP3 หรือตัดเรื่องราวสำคัญๆ ออก ซึ่งสุดท้ายมันจะมาขมวดปมให้จบในเล่มหลังๆ ส่วน LoTR ชอบทั้งคู่ครับ แต่ถ้าเทียบกันก็ชอบหนังสือมากกว่า เรื่องจินตนาการเนี่ย ผมว่า LoTR ใส่พื้นที่ให้เราจิ้นได้มากกว่า HP อีกนะ LoTR เป็นโลกใหม่โดยสิ้นเชิง ภาษาก็ใหม่ เผ่าพันธุ์ต่างๆ ในโลกนั้นอีก มีประวัติศาสตร์ ที่มาที่ไป ชัดเจน (ถ้าพูดรวมไปถึง The Hobbit กับ The Silmarilion ด้วยล่ะก็นะ) แต่ถ้าเทียบหนังสือระหว่าง HP กะ LoTR ผมชอบ HP มากกว่าครับ มันหนุกตรงที่มีการหักมุม มีการขมวดปมเนี่ยล่ะ ส่วน LoTR นี่ก็รู้อยู่แล้วว่าใครจะต้องไปทำอะไรยังไง สนุกในแง่ของโลกที่เป็นมัชฌิมโลก และฉากต่อสู้+สงคราม จากคุณ : Punky เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:20:16

ความคิดเห็นที่ 34 เราไม่คิดว่ามันควรใช้คำว่า "ไม่สนุก" เพียงแค่เพราะว่าหนังทำออกมาไม่ตรงกับจินตนาการของเรา ส่วนตัวเราชอบแฮร์รี่ทุกภาค ฉากหลักๆที่ชอบเลยคือ เล่นควิชดิช... ภาคล่าสุด...ฉากหนีโวลเดอร์มอร์ อลังการมากในความรู้สึก ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผู้ทำหนังแฮร์รี่ค่ะ ขอออกความเห็นเรื่องลอร์ด หน่อย จำได้ว่าภาคแรกนี่ทำเอาหลอนไปเลย อึดอัดมากกกก เป็นหนังที่ดูแล้วอึดอัดบอกไม่ถูกที่สุด แต่ภาคต่อๆมาก็สนุกดีเหมือนกัน แต่ก็ชอบแฮร์รี่มากกว่ามากๆ จากคุณ : AnowaPlus เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:24:39

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับ คห.28ครับ อีกจุดนึงที่คิดว่าแฮรี่เสียเปรียบลอร์ด คือแฮรี่มีเนื้อเรื่องเป็นปมปริศนา และหักมุมเยอะมาก หนังภาคก่อนๆต้องถ่ายทำไปในขณะที่ยังไม่รู้บทสรุปของเล่ม7 คือคิดว่าถ้ารู้เรื่องราวทั้งหมด น่าจะทำให้คนเขียนบทมองภาพรวมของหนังทุกภาคได้ดีกว่านี้  อย่างด็อบบี้นี่จากภาคสองก็หายไปเลย โผล่มาอีกทีก็ภาคนี้ คือมันก็ซึ้งอยู่หรอกกับฉากด็อบบี้ตาย แต่เป็นเพราะเราได้รู้จักด็อบบี้จากในหนังสือ ไม่ใช่ในหนัง จากคุณ : แซมไวส์ใจเด็ด เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:28:20

ความคิดเห็นที่ 36 Harry มันทำตรงตามหนังสือสุดแล้วป๊ะคับ... ถ้าเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆที่สร้างมาจากหนังสือ - -* ผมชอบทั้งหนัง ทั้งหนังสือ ของทั้งสองเรื่องอ้ะ 555+ ชอบหมด ต่างก็มีดีในแบบของตัวเอง จากคุณ : เกิดมาซุย เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:29:08

ความคิดเห็นที่ 37 ก็เข้าใจนะว่าหนังมันมันมีจุดอ่อนในแง่ของบทหน่อย ในเรื่องโปรดักชั่นนี้ ผมถือว่าผ่านแล้วนะครับ ไม่รู้คนอื่นเป็นกันมั้ย แต่ผมเวลาดูหนังผมจะไม่เปรียบเทียบกับในหนังสือในแง่ของ เฮ้ย! ในหนังสือเราจินตนาการไว้ดีกว่านี้เยอะ ผมถือซะว่าเป็นเรื่องที่เราดูเป็น Harry Potter ฉบับจินตนาการของโปรดิวเซอร์คนนั้น ฯลฯ ใครก็ตาม สำหรับผมถือว่ามีแต่กำไรกับกำไร ไม่เห็นมันจะมีอะไรที่ต้องมานั่งบ่น อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ได้คาดหวังให้่หนังมันออกมาเหมือนกับที่ผมจินตนาการเปะๆ หรือเก็บรายละเอียดทุกเม็ดตามหนังสือหมด ผมแค่อยากเห็นหนังสือที่ผมอ่าน ในมุมมองของคนอื่นบ้าง และเป็นมุมมองที่สามารถ"จับต้องได้" ผมมั้นใจว่ามีเกินครึ่งของคนอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสืออย่างน้อยจะจินตนาการตัวละคนตามแบบฉบับของภาพยนตร์(และแน่นอนในส่วนอื่นๆอีกด้วย) ส่วน LOTR ผมว่ามันคนละแนวกัน เอามาเปรียบกันไม่ได้ครับ เข้าใจว่าลางเนื้อชอบลางยา แต่ผมว่าทั้งหนังสือและภาพยนตร์ LOTD เหนือกว่าหลายขุม เหมือนมวยคนละรุ่นกัน เอามาชกกันไม่ได้ครับ มีแต่กำไรกับกำไรครับ (เสียแค่เงินค่าหนัง แหมบางคนก็ไม่ได้เสียเงินค่าหนังด้วยซ้ำไป) ^^ แต่แน่นอนว่าถ้าทำออกมาได้ดีกว่านี้ ก็จะดีกว่าอวยเวอร์ ย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน ติเพื่อก่อ อย่างน้อยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดพัฒนาการ และความก้าวหน้านะ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:34:17

ความคิดเห็นที่ 38 เราคิดเหมือนเจ้าของกระทู้ค่ะ เราชอบหนังสือแฮร์รี่มากๆ จนพอมีข่าวทำเป็นหนังก็ตื่นเต้นรอคอย พอดูหนังภาค1-2ก็โอเค แต่สนุกไม่เท่าหนังสือ ส่วนแฮร์รี่ภาคอื่นๆก็แค่ดูไปตามหน้าที่ในฐานะที่เราบ้าหนังสือแฮร์รี่ก็เท่านั้น  บางภาคจะหลับด้วยซ้ำ แต่หนังสือแฮร์รี่เนี่ย เป็นหนังสือที่ชอบมาก   มากที่สุดเป็นอันดับ1ในบรรดาหนังสือทั้งหมดที่เราเคยอ่าน ส่วน หลอดดูดเดอะริงส์เนี่ย ตอนแรกเราantiมาก เพราะตอนแรกข่าวในวงการหนังสือของอังกฤษชอบเอาlotrไปเปรียบเทียบกับแฮร์รี่ หาว่าJKเขียนแฮร์รี่ขึ้นมาจากการเอาหนังสือ lotr กับ หนังสือเรื่องอื่นๆมาผสมกันจนเป็นแฮร์รี่ขึ้นมา เราเลยพาล anti lotr ทำให้ไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ แต่พอไปเดินห้างกับพี่ พี่เรามันจะดูหนังlotrเราเลยจำใจต้องดูไปด้วยทั้งๆที่ไม่อยากดูเลย แต่พอได้เข้าไปดูในโรงแล้วเราก็เปลี่ยนความคิดทันทีเลย หนังเรื่องนี้ทำเราขนลุกได้ตั้งหลายฉาก และร้องไห้ถึง3ครั้งในหนังภาคแรก ตอนนั้นยังไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำให้เราขนลุก ตื่นเต้น สนุกได้มากเท่าlotr กลายเป็นชอบlotrขึ้นมาทันที  เลยหาหนังสือมาอ่าน  แต่ทนอ่านได้แค่ครึ่งเรื่องเท่านั้นก็อ่านต่อไม่ไหวแล้ว เลยเลิกอ่านไปเลย หนังสือ lotr น่าเบื่อมากสำหรับเรา  แต่ถ้าเป็นหนังล่ะก็  นับตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ หนังเรื่อง lotr ยังคงเป็นหนังอันดับ1ในใจไม่เสื่อมคลาย เป็น my all time favorite movie และคงเป็นไปอีกนานจนกว่าจะมีเรื่องอะไรสามารถมาแทนที่ได้(แต่จนบัดนี้ยังไม่มีเรื่องไหนแทนที่ได้เลย) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 53 07:07:07 จากคุณ : chaliztina เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 01:37:52

ความคิดเห็นที่ 39 ทำไมไม่คิดว่าหนังมาช่วยเติมเต็มจินตนาการจากหนังสือ จะได้สบายใจ จากคุณ : coffee_m เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 02:06:17

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับเราเป็นทั้งแฟนหนังสือและแฟนหนังของทั้งสองเรื่อง และทั้งสองเรื่องเราก็เริ่มที่จะอ่านหนังสือก่อนได้ดูหนัง สำหรับเดอะลอร์ด หนังสือที่่หลายคนบอกไม่สนุก หลับ ไม่จินตนาการ เราว่ามันสนุกมากๆเลย คนละแบบกับแฮร์รี่นะ แล้วเดอะลอร์ดนี่โคตะระเต็มไปด้วยจินตนาการ เหมือนเขียนโลกใหม่ขึ้นมาสักโลกแล้วโลกนี้ก็ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตแบบต่างๆที่สัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน มีการคิดภาษาใหม่ๆด้วย เป็นภาษาที่ผู้เขียนคิดเอง  เราว่าหนังสือเขียนได้ดีมากทีเดียว สนุกและน่าติดตาม เพียงแต่ว่าในหนังสือมันอาจจะแบ่งเป็นpartแล้วทำให้เวลาอ่านขาดความต่อเนื่อง สำหรับหนังพอได้มาดูหนังบอกเลยว่าสุดยอด สนุกมากๆ อลังการ เก็บทุกรายละเอียดที่สำคัญที่ทำให้พอดูภาคต่อไปแล้วเกิดความต่อเนื่องได้ แล้วที่สำคัญคือเราว่าหนังเนี่ยคงรูปแบบตามบทประพันธ์ไว้ได้มาก ลำดับเหตุการณ์ก็ตรงในหนังสือ มาที่แฮร์รี่ หนังสือไม่ต้องพูดถึงสนุกมากๆ วางไม่ลงเลย แต่สำหรับหนังโดยส่วนตัวชอบแค่ภาค1กับภาค2 ภาคล่าสุดก็ไปดูมาแล้ว จะหลับเหมือนภาค6เลย ซึ่งมันอาจจะเป็นเพราะว่าเราคาดหวังกับหนังมากเกินไป จินตนาการเราอาจไม่เหมือนคนเขียนบท แต่สิ่งที่เราไม่ชอบที่สุดในหนังก็คือก็เปลี่ยนบทประพันธ์โดยเฉพาะภาค5-6 ถึงแม้จะรู้ว่าเราไม่สามารถยัดหนังสือเล่มหนาๆไปเป็นหนังได้ แต่การปรับบทจนเปลี่ยนไปจากบทเดิมเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ส่วน7.1เราว่าคอนข้างเก็บรายละเอียดได้ดี แต่ก็ยืนยันว่าเราก็ดูทุกภาค ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน รู้สึกเหมือนว่าต้องดู เพราะเราคิดมีความรู้สึกเสมอว่าเสน่ห์ของหนังกับหนังสือมันต่างกัน ต่อให้หนังจะไม่สนุก แต่มันก็มีเสน่ห์อีกแบบหนึ่ง ปล.ขอบ่น ไม่ชอบปกใหม่แฮร์รี่เลยและเมื่อไรจะได้ดูฮอบบิทนะ จากคุณ : Tarsier เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 02:29:12

ความคิดเห็นที่ 41 เดอะลอร์ดนี่สุดยอดแห่งจินตนาการแล้วภาษาไม่รู้กี่ภาษา การวางระดับพ่อมดที่ต่างจากนิยายเรื่องอื่น เผ่าพันธุ์ต่างก็มีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีก ถ้าใครไม่ชอบก็จะบอกน่าเบื่อแต่สำหรับผมมันโคตรของโคตรมหากาพย์ที่น่าติดตามที่สุดแล้ว จากคุณ : hanna16 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 03:24:19

ความคิดเห็นที่ 42 หนังสนุก หนังสือสุดยอดค่ะ จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 04:13:43

ความคิดเห็นที่ 43 แล้วแต่คนชอบจ่ะ ชอบแฮรรี่มากกว่า จากคุณ : ป้าก็แก่แล้ว เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 04:25:35

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับ คห28 ค่ะ Lord of the ring : มหากาพย์ Harry Potter : วรรณกรรมเยาชน ย่อมห่างไกลกันในหลาย ๆ แง่ เราอ่านทั้งสองเรื่อง ดูหนังทั้งสองเรื่อง แต่ชอบ The lord มากกว่าค่ะ มันสุนทรีย์และจรรโลงใจ ซับซ้อน และมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก (ในที่นี้ต้องขอบอกเลยว่า เยอะกว่าแฮรี่ มาก ๆ ด้วยค่ะ ) เหมือนว่าหลุดไปอยู่อีกห้วงโลกหนึ่งเลยทีเดียว ต้องทำความเข้าใจไปเรื่อย ๆ เพื่อนเราบอกว่า The lord เป็นหนังสือของคนชอบคิด และคนที่อดทน 55 เราแอบเห็นด้วยค่ะ เพราะต้องอดทนจริง ๆ กว่าจะอ่านจบแต่ละเล่ม กว่าจะคิดตามได้แต่ละฉาก แต่ละเหตุการณ์ ... ก็ขำ ๆ นะคะ แชร์ความเห็นกัน จากคุณ : natchii เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:08:06

ความคิดเห็นที่ 45 เราได้อ่านหนังสือทั้ง Harry และ LOTR  และตามดูหนังครบทุกเรื่อง ทุกตอน อยากบอกว่าเราอ่าน Harry มาก่อน LOTR นะ  และเห็นว่า  หนังสือนั้น แฮร์รี่ถูกจริตเรามากกว่าลอร์ด อาจเป็นเพราะจินตนาการลอร์ด+ประวัติตั้งแต่มัชชิมโลก สมัยก่อนอิซซิลดูร์ยันยุคสมัยโฟรโดร  แม่เจ้า  โทลเคียนเล่ามาตั้งกะนั่น  ตัวละครเยอะจัด  บทบรรยายละเอียดยิบย่อย  คือมันละเอียดจนอ่านไม่ไหว  งง  อ่านแล้วใครเป็นอะไรยังไงที่ไหนเมื่อไหร่  มึนค่ะ  แต่นับถือโทลเคียนมากๆที่สุด  ที่สามารถสร้างอะไรแบบนี้ได้  ไม่น่าเชื่อว่าเกิดจากคนเดียวคิดเองเออเองเป็นอีกโลกนึงไปเลย  สร้างภาษามาใช้เองสุดยอดมากๆ แต่เหมือนอย่างที่รู้กัน  โทลเคียนนั้นตอนที่เขียนเรื่องนี้ LOTR เค้าก็ไม่หวังว่าจะมีคนเข้าใจหนังสือที่เค้าเขียนมากนัก  ...(รู้จากดีวีดีประวัติโทลเคียน)   คือคนอ่านเข้าใจเนี่ย  ระดับนึงคืออ่านหนังสือมาก รู้จักภาษาศาสตร์ดี  และจินตนาการสูงไม่ยึดติดตัวละคร  จะอ่านสนุก ส่วนหนังสือแฮร์รี่  มันเป็นวรรณกรรม มีตัวละครหลักแน่นอน  มีปม ใครทำอะไรที่ไหนยังไง  รู้หมด  ทำให้ได้ลุ้นไปกับตัวละคร  ในขณะที่ลอร์ด  ตอนแรกเรายึดติดกับโฟรโดรมากไป  ทำให้ช่วงที่โฟรโดรหายไปจากหนังสือ (เล่าถึงคนอื่น) เรารู้สึกไม่สนุก  เปิดอ่านข้ามๆว่าเมื่อไหร่โฟรโดรจะโผล่มาสักที  แต่แฮร์รี่ไม่ต้องใช้ความพยายามในการเข้าใจมากก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ใครเป็นอย่างไร  เพราะไม่ได้ใช้ภาษาเข้าใจยาก บรรยายเยอะมากอย่าง LOTR แต่ในมุมภาพยนตร์ แฮร์รี่ ทำให้เราคิดว่าเค้าค่อนข้างพลาดฉากที่เราชอบไป  ซึ่งบางครั้งอาจไม่สำคัญแต่เราต้องการดู  เช่น ฉากชนะเลิศได้ถ้วยควิดดิช...?  ก็ไม่ได้มีผลกับเนื้อเรื่องนะ  แต่พลาดไปได้ไงฉากนี้  ผู้จัดเหมือนไม่เข้าใจคนดูอ่ะนะ และอีกหลายๆฉาก  ซึ่งต้องยอมรับว่าแฮร์รี่มีการขมวดปมมาก  พลาดอะไรไปสักอย่างก็เหมือนจะไม่ครบ   ในขณะที่ LOTR นั้นเน้นเนื้อเรื่อง สงคราม  เราไม่ค่อยต้องการเรื่องยิบย่อยของโฟรโด หรือ แซม หรือปิ๊บปิ๊น  ฯลฯ  เนื้อเรื่องมันเลย smooth กว่า  บวกกับความยาวหนัง 3 hr ทำให้รู้สึกว่าครบถ้วน   บวกกับการรวบรัดในหนังซึ่งทำได้ดีมาก  ซึ่งคนอ่านหนังสือบางคนไม่ชอบที่หนังรวบรัด แต่คนดูที่ไม่เคยอ่านหนังสือ หรืออ่านไม่เข้าใจชอบเพราะเหมือนดูสรุปใจความรวมนั่นเอง เช่นฉากตั้งแต่โฟรโดได้แหวนจนออกจากบ้าน  ในหนังสือมันยืดเยื้อมากๆๆๆ  เล่าประวัติฮอบบิทตั้งแต่ต้นตระกูลมายันโฟรโดจนได้แหวน ปาไปกีหน้าต่อกี่หน้า  แต่หนังมันรวบแบบได้ใจความในเวลาไม่กี่นาที เพราะโทนเรื่องต่าง  การดำเนินเรื่องก็ต่างด้วย  เราจึงไม่ค่อยเอา 2 เรื่องมาเทียบกัน ตอนนี้เรามี limited edition ของ LOTR ที่เป็นรวมทุกฉากโดยไม่ตัดต่อ  และมีเบื้องหลังครบทุกภาค   สุดยอดจริงๆ  1 ภาค มี 4 แผ่นดีวีดี  ดูกันตาเหลือกยังกับดูสารคดีเรื่องหนึ่ง  รู้ทุกขั้นตอนการถ่ายทำ ตอนนี้รอดู 7.1 แฮร์รี่  และคิดว่าถ้าครบเมื่อไหร่ก็จะซื้อหนังเก็บเช่นกันล่ะจ้า แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 08:36:04 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 08:31:01 จากคุณ : ลูกกระปุก เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:23:30

ความคิดเห็นที่ 46 งงกับคนที่บอกว่า LOTR ไม่มีจินตนาการ สู้ Harry Potter ไม่ได้มากๆ นวนิยายไตรภาคเรื่องนี้ คือแรงบันดาลใจของนิยายแนว High Fantasy อีกหลายต่อหลายเรื่องเชียวนะคะ? ภาษาก็คิดใหม่ โลกใบใหม่ เผ่าพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจได้แรงบันดาลใจจากตำนานเดิมๆ หน่อย ไม่มีจินตนาการตรงไหนคะ? ส่วนตัว เราว่าคำตอบของเจ้าของกระทู้คือ 'ลางเนื้อชอบลางยา' อะค่ะ บางคนก็ชอบหนังแฮร์รี่ ติดตามดูสะสมทุกภาค และบางคน (แบบเรา) ก็มองว่า LOTR ฉบับหนังสือสนุกมากๆ บทบรรยายเยิ่นเย้อก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเนื้อหามันจืดลงแต่อย่างใด อย่าเหมารวมเลย เจ้าของกระทู้ จากคุณ : ปลายลมหนาว เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:51:50

ความคิดเห็นที่ 47 Harry Potter ตั้งแต่ภาค3เป็นต้นมา ดูแล้วหลับตลอดตื่นมาก็ท้ายๆเรื่อง จากคุณ : รักฉันเท่าฟ้า เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:59:48

ความคิดเห็นที่ 48 จะเข้ามาตอบแบบ คห 38 พอดีเลยค่ะ รู้สึกคิดเกือบเหมือนกันเลย คือได้ดูหนัง LOTR ก่อนอ่านหนังสือ และก่อนได้ดูหนัง LOTR จะอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ ที่ออกมาพร้อมๆ กับแฮร์รี่ แล้วเป็นแนวแฟนตาซีเหมือนกัน แถม LOTR ได้รับคำชื่นชมมากๆ ไอ้เราก็อยากรู้ มันดีแค่ไหนกันเชียว พอเอามาดูปุ๊บ โห ทึ่งเลย เห็นด้วยจริงๆ ที่เค้ายกย่องว่ายอดเยี่ยม  พอดูแล้วก็อยากจะอ่านหนังสือ คิดว่าในหนังสือ คงจะสนุกมากๆ แต่พออ่านแล้ว มันค่อนข้างเรื่อยเปื่อยอ่ะ  มันไม่ใช่อารมณ์แบบในหนังเลย ยอมรับว่าเค้าเขียนดีนะ ใช้ภาษาดีมาก แต่.... มันไม่ใช่แนวเราอ่ะ ไม่ถูกเสป๊ค มันไม่ใช่เลยอ่ะ ฉากที่สนุกจริงๆ รู้สึกอ่านแล้วขนลุกก็มี แต่มีแค่ท้ายๆ เรื่อง คือตอนที่โฟรโด้ ถูกแมงมุมโจมตีนะ นอกนั้นเรื่อยๆ เกินไปหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้น หรือน่าติดตามเท่าไหร่นะ คือถ้าไม่ได้ดูหนัง ก็คงอ่านหนังสือไม่เกิน 100 หน้าหรอก  เค้าหนักไปทางบรรยาย พร่ำพรรณา มากกว่า คำพูดก็สวยหรูเกินมนุษย์มนา ทำให้ไม่ค่อยอินเลย ถ้าเปรียบเทียบระหว่างหนัง LOTR กับ หนังสือ ภาคหนังนั้น เหมือนนั่งรถไฟเหาะ แต่ภาคหนังสือนั้น เหมือนเดินชมวิว ยังไงยังงั้นเลย หนังนั้นทำได้ดีมากๆ และขอสารภาพว่าเป็นหนังที่เราชอบที่สุด ในบรรดาหนังทุกเรื่องที่เคยดูมาเลย -------------------------------------------------------- ในส่วนของแฮร์รี่ หนังสือสนุกมากๆ จริงอยู่ที่การใช้ภาษา การแต่งเรื่อง การบรรยาย โครงเรื่องสู้ LOTR ไม่ไ้ด้ แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เรารู้สึกว่ามันสนุกกว่ามากๆ มันเข้าถึงเราได้มากกว่า และติดงอมแงมเลย  บ้าเข้าเส้นเลือดเลยทีเดียว และหนังสือแฮร์รี่ ยังได้ปลุกกระแสการอ่าน และวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซี เรื่องอื่นๆ ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และหนังสือแฮร์รี่ ก็เป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่องหลังๆ จนเป็นที่สังเกตได้เลย ว่าเดี๋ยวนี้นิยาย หรือวรรณกรรมแนวแฟนตาซีวางเกลื่อนร้านหนังสือเลยทีเดียว รวมทั้งนักเขียนของไทยก็ยังแต่งแนวแฟนตาซีออกมาเยอะแยะ โดยเฉพาะนิยายที่หาอ่านได้ในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งก็ยอมรับว่า เจเค ผู้แต่งแฮร์รี่ นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก JRR Tolkien อีกทีหนึ่ง  แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกันนะ มันคนละแนวกันเลย ส่วนหนังนั้น ดูเพราะในฐานะแฟนหนังสือ มันพลาดไม่ได้ และเราว่าหนังแฮร์รี่ ก็ไม่อาจเทียบได้กับ LOTR แต่..... หนังแฮร์รี่ มันก็มีดีในทางของตัวเอง ที่ไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับ LOTR และหนังแฮร์รี่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนขึ้นหิ้งหนังห่วยแต่อย่างใด คะแนนวิจารณ์ของแต่ละภาคก็ออกมาค่อนข้างดีด้วยซ้ำ  สำหรับในส่วนของนักวิจารณ์ แต่สำหรับคนดูทั่วไป หนังแฮร์รี่มักโดนค่อนขอดเรื่องความเรื่อยๆ เอื่อยๆ ของหนังมาเกือบทุกภาค โดยเฉพาะเรื่องฉากแอ็คชั่นว่ามีน้อย ไม่เหมือนในหนังสือ แต่มันก็มีเหตุผลของมันเอง เป็นไปตามโครงเรื่องของมัน และมันจำเป็นด้วยหรือที่หนังแฮร์รี่ ต้องเดินตามรอยหนังเรื่องอื่น ------------------------------------------------- และถึงแม้ว่าในแง่ของหนัง LOTR เป็นหนังที่เราชอบมากที่สุดก็จริง แต่ก็ไม่สามารถเข้ามานั่งในใจเป็น "สิ่งที่ชอบที่สุดในชีวิต" ได้ เพราะตำแหน่งนั้น ยกให้ "แฮร์รี่ พอตเตอร์" ทุกเล่ม และทุกภาคไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 09:20:24 จากคุณ : พอตตี้ กับ วีเซิล เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:13:22

ความคิดเห็นที่ 49 ลางเนื้อชอบลางยาจริงๆ ไม่เชื่อสังเกตุได้ บางคนบอกหนังสือแฮร์รี่สนุกกว่า บางคนบอกลอร์คสนุกกว่า เราว่าที่หลายคนบอกว่าหนังภาคหลังๆง่วงน่ะ เรื่องมันจะดาร์กขึ้นเรื่อยๆ มืดมนขึ้นเรื่อยๆ มันเลยไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้ แต่ตลก จขกท อ่ะ อยากกินมาม่าเหรอคะ ช่วยบอกเราที โรงเรียนประถมของไทยเราชื่อโรงเรียนอะไร ที่มีความสวยงามเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยออกฟอร์ค มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของโลกได้คะ? จากคุณ : ยัยแมวเอ๋อ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:23:21

ความคิดเห็นที่ 50 จขกท อาจจะคิดว่าหนังไม่สนุก แต่ถ้าจะวัดกันในแบบที่เป็นกลางที่สุด ความสนุกของลอร์ดกับแฮร์รีก็ไม่ได้ต่างกันเลย เพราะยังไงก็ยังมีคนตีตั๋วเข้าไปชมเหมือนเดิม จากคุณ : ChaiGimme เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:23:57

ความคิดเห็นที่ 51 คห.28 เอาไปล้านกิฟท์เลยค่ะ LOTR เนี่ยนะ ไม่มีจินตนาการเท่า HP ถ้าเห็นหนังสือของ LOTR จะเห็นเลยว่า ละเอียดกว่า HP แค่ไหน แค่ตอนบรรยายฮอบบิทปาเข้าไปตั้งกี่หน้าก็ไม่รู้ แล้วส่วนใหญ่ถ้าดูแล้ว พวกหนัง นิืยาย เกมส์แนว Fantasy ส่วนใหญ่ก็มีอิงตัวละคร เผ่้าพันธุ์มาจาก LOTR เ้ยอะมาก ๆ เรียกได้ว่าจินตนาการล้ำ ละเอียดจนกลายเป็นเอกสารอ้างอิงได้เลย สารภาพว่าอ่าน LOTR ไม่จบนะ เพราะรายละเอียดเยอะมาก ส่วน HP อ่านง่ายกว่า แต่เราก็คิดคล้ายจขกท.นะ เราว่าหนัง HP ไม่สนุกเท่าในหนังสือ ส่วน LOTR ไม่ได้อ่านหนังสือเลยไม่รู้จะเปรียบยังไง จากคุณ : riamus เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:46:02

ความคิดเห็นที่ 52 เราชอบแฮรี่นะ เราว่าสนุก เพราะไม่เคยอ่านหนังสือมั้ง จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:54:50

ความคิดเห็นที่ 53 ไว้จะเข้ามาอ่าน คห ต่างๆ แบบละเอียดอีกทีครับ จากคุณ : tan_www เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 10:53:13

ความคิดเห็นที่ 54 จะบอกว่า อ่าน แฮรรี่ เป็น 10รอบแล้วละ  อ่าน 1 - 7 จบ วนมาอ่านไหม แทบทุกคืน  ชอบมาก แต่พอเป็นหนัง จริงค่ะ เราจินตนาการมาก จนดูหนังไม่สนุกเลย ตัดหลายฉาก แต่ลอร์ดฯ อ่านหนังสือก่อนเหมือนกัน ไม่ถึงครึ่งเล่มซักที พยายามอยู่ 3 รอบ ตัวละครเยอะเกิน บรรยายเหมือนต้องเรียนประวัติศาสตร์ หลับทุกที แล้วมาดูหนัง สนุกมาก คิดว่าเพราะเราไม่ได้อ่านหนังสือมากกว่า จินตนการก่อนดูจึงไม่เกิด จากคุณ : มือใหม่คับผม เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:05:10

ความคิดเห็นที่ 55 ดูหนังทั้งสองเรื่อง อ่านหนังสือทั้งสองเรื่องค่ะ ถ้าเป็นหนังสือ... อ่าน LOTR ได้ครั้งเดียว  และไม่อยากอ่านอีกเลย ยังเก็บอยู่ในตู้หนังสือจนทุกวันนี้   ส่วน Harry หยิบอ่านได้ซ้ำๆ หลายเล่ม หลายครั้ง   เฉพาะตัวเองนะคะ รุ้สึกว่า Harry สำนวนและเนื้อหาเข้าถึงง่ายกว่า  LOTR ภาษายากมาก อ่านแล้วงง ต้องอ่านช้าๆ แล้วไม่รุ้สึกสนุก ซึ่งแปลกมาก  เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนอ่านหนังสือเร็ว  ชุดเรื่องยาวต่างๆ ทั้งสามก๊ก, เพชรพระอุมา อะไรๆ ก็อ่านสนุกได้ แต่ LOTR อ่านไม่สนุกจริงๆ ส่วนหนัง... ซื้อ DVD box set เก็บไว้ทั้งสองเรื่อง  แต่ Harry จะหยิบดูเฉพาะภาค 3 กับ 4  รุ้สึกไม่อินกับภาคอื่นๆ เท่าไร แต่ LOTR เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องนึง   เหงาเมื่อไร long weekend ไม่มีเพื่อนไม่รุ้จะไปไหน หยิบ LOTR มาซ้ำได้ไม่เคยเบื่อเลย สร้างได้ปรานีตมาก อลังการมาก * แก้ไขคำผิดค่ะ * แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 11:12:23 จากคุณ : fly-girl เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:06:54

ความคิดเห็นที่ 56 ^ ^ ^ แปลกดีแฮะ เพราะผมอ่านหลอดจนชินแล้ว ถึงขยายไปอ่านพวกสามก๊ก ฮ่องสิน เลียดก๊ก อะไรนั่นต่อได้นะ และผมก็เลยเข้าใจว่าคนที่อ่านหลอดไม่ไหวก็น่าจะอยู่ในกลุ่มของคนที่ไม่อ่านหนังสือพงศาวดารหรือนิยายสงครามอิงประวัติศาสตร์เหมือนกั ส่วนนิยายตาแว่นนั่นเป็นวรรณกรรมเยาวชนน่ะนะ ยังไงมันก็เทียบกันไม่ได้ หนังสือคนละแนว คุณค่าทางวรรณศิลป์ก็คนละแบบ แต่สิ่งที่บอกได้คือ นิยายแฟนตาซี หนังแฟนตาซี เกมแฟนตาซี กว่า 70% เป็นไอเดียที่ต่อยอดมาจากหลอดนะครับ จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:39:06

ความคิดเห็นที่ 57 ขอออกตัวก่อนนะคะว่าความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆๆๆ โดยส่วนตัวแล้วชอบ หนังสือ ชุด Harry Potter มาก พอมาทำเป็นหนังก็มีขัดใจบ้างเล็กน้อยตามประสาหนังที่ไม่สามาถเก็บรายละเอียดได้ทุกอย่างตามที่ตัวหนังสือบรรยายและจินตนาการของตนเองสร้างขึ้นตามตัวอักษร ประทับใจทุกตอนของ Harry Potter หากไม่นับภาคแรก ว่าดีที่สุด ในสายตาของตนเองแล้ว ภาค 7.1 เป็นอีกภาคที่ถือว่าทำออกมาได้ดี ถึงแม้จะมีบางฉากที่ตัดเนื้อหาให้มันกระชับไปบ้างแต่ก็พอเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ถึงกับว่า หนังไม่สนุกเอาซะเลย สำหรับ LOTR นั้น ยกให้เป็นมหากาพย์ทั้ง หนังสือ และหนัง บทภาพยนตร์ก็สร้างออกมาได้ดี ความเป็นหนังทั้งสองเรื่องให้ความบันเทิงที่ต่างกัน ถึงแม้ว่ามีความคล้ายกัน แต่ก็ยังมีความต่างกันอยู่ เราว่า อย่าเอา หนังสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันเลย เพราะหากเปรียบเทียบแล้ว ก็จะกลายเป็นว่า จินตนาการคนละแบบ มวยคนละเบอร์ อย่างไรก็ตามหนังทั้งสองเรื่องมีข้อดีที่แตกต่างกันไปนะคะ จากคุณ : pk_in_melbourne (pk_koh) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:45:05

ความคิดเห็นที่ 58 อ่าน HP นอกจากเล่ม 3-4 แล้ว รู้สึกว่าไม่สนุกซักเล่มเลยนะ อ่านกันตามหน้าที่โดยแท้ จากคุณ : himalayas เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 12:14:24

ความคิดเห็นที่ 59 คนที่ไม่ชอบลอร์ดฯมันก็ไม่แปลกหรอก แต่จะเอาแฮรี่ฯมาเปรียบว่าอันไหนดีกว่ามันก็ลำบากนะ เหมือนเอาไฟฉายมาเทียบกับพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ดีเพราะสว่างและช่วยให้คนเห็นทุกอย่างในโลกนี้ แต่ไฟฉายก็ดีช่วยในการนำทางและให้ผู้คนเกิดจินตนาการยามที่อยู่ในความมืด ที่สำคัญคือ มันให้ความสว่างทั้งคู่แต่การใช้ประโยชน์มันไม่เหมือนกัน จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 12:54:31

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนแรกเราอ่านแฮร์รี่เล่มแรกไม่จบ พยายามสามครั้งก็ยังไม่จบ (ลูกเค้าเป็นคนซื้อ) จนมีภาคสองออกมาให้อ่าน เลยย้อนกลับไปอ่านใหม่ เพื่อหารายละเอียด ส่วนที่เป็นภาพยนต์ ได้ดูมั่ง ไม่ได้ดูมั่ง เพราะเราว่าพวกเค้าในหนัง ยังดูไม่เป็นพ่อมด แม่มดจริงๆ (ยิ่งเทียบกับแกนดัลฟหรือซารูมาน) LORD ในส่วนที่เป็นหนังสือ ต้องหาที่สงบ ๆอ่าน มันจะเหมือนเราค่อย ๆ หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลย ในส่วนที่เป็นภาพยนต์นั้น ก็ทำได้เกือบถึงโลกที่ในหนังสือสร้างขึ้นมา เทียบในส่วนหนังสือต่อหนังสือ แฮร์รีพอตเตอร์ เนื้อหาสนุก อ่านซ้ำก็ยังสนุก ส่วนลอร์ด หนังสือละเมียด และสุดยอดจินตนาการ ในส่วนภาพยนต์คงไม่ต้องเปรียบเทียบกันนะ แล้วแต่คนชอบ ว่าไปแล้ว กอลลัมกะด็อบบี้ น่าสงสารทั้งสองเรื่องเลย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 13:34:07 จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 13:01:27

ความคิดเห็นที่ 61 เราชอบ นาร์เนียมากกว่า จากคุณ : Arccyber2004 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 13:05:29

ความคิดเห็นที่ 62 ถ้าไม่เทียบ Lord กับ HP เอา HP อย่างเดียว ผมว่าที่หนังไม่สนุกเพราะผู้กับกับ คนเขียนบท ฝีมือไม่ถึง สู้ผู้กำกับ lord ไม่ได้  หนังมันเลยออกมาได้แค่นี้ จากคุณ : tan_www เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 13:14:33

ความคิดเห็นที่ 63 เข้าเรื่อง ถ้าให้ทุกคนมาอ่าน ระหว่าง - ประวัติศาสตร์ กับ - การ์ตูนขายหัวเราะ อะไรมันจะสนุกกว่ากันครับ ??? ปล. ความชอบของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าคิดว่าตัวเองเห็นว่าดี แล้วอันอื่นที่ตัวเองไม่มอง จะไม่ดีไปทั้งหมดครับผม จากคุณ : SingleStand เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 13:45:39

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านหนังสือก่อนมาดูหนังทั้งสองเรื่องนะ ขอตอบตาม คห.สต. แล้วกัน จริงอย่างที่เขาว่า LotR คำมันสวยหรูมาก (ดูปกก็รู้ละ) บางทีมันก็เยิ่นเย้อไป เลยอ่านกวาดๆ เอา ช่วงที่มันพรรณนาน่ะ เดี๋ยวหลับก่อน พอมันเป็นหนัง ผมว่าเขาเก็บรายละเอียดได้ดีมากด้วยนะ ส่วนหนึ่งน่าจะมาหนังสือที่มันพรรณนาไว้ละเอียดอยู่แล้ว คนเขียนบทเลยเห็นภาพง่ายขึ้น สามารถเก็บได้แทบทุกเม็ด คนเขียนบท คงมีฝีมือด้วย เพราะเนื้อเรื่องมันกระชับ แต่เก็บรายละเอียดดี หลายๆ คนดูแล้วง่วง แต่ผมดูแล้วรู้สึกดีมากๆ ยิ่งภาค 3 สนุกสุดๆ ดูแล้วดูอีกไม่เบื่อ =========================================== ส่วนแฮรี่ เป็นวรรณกรรมเยาวชน (หลายท่าน งง ว่า วรรณกรรมเยาวชน ทำไมมีเนื้อหารุนแรง....อายุ 20 ต้นๆ ก็ยังเยาวชนอยู่นะจ๊ะ) ภาษาที่ใช้ค่อนข้างเข้าใจง่าย เป็นหนังสือชุดแรกในชีวิตของผม(ชุดเดียวด้วยมั้ง)ที่มีแต่ตัวหนังสือล้วนๆ เกิน 500 หน้า ที่ผมสามารถอ่านจบรวดเดียว โดยไม่มีคั่นไว้มาอ่านต่อ ภาค 7 ก็อ่านตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ไปไหน กินข้าวยังนั่งอ่านไปด้วยเลย มันเป็นหนังสือที่อ่านแล้วติดบอกไม่ถูก และปริมาณเนื่อเรื่องมันมากกว่า LotR ที่มันเน้นไปทางพรรณนา การจะกระชับเนื้อเรื่องให้มาอยู่แค่ 2 ชม. กว่าๆ มันเลยเป็นเรื่องยาก ต้องเอาทีมันสำคัญจริงๆ โดนตัดโน่นตัดนี่ บางทีก็อาจไม่ถูกใจคนดู แถมเปลี่ยนมือ ผกก. ทุกภาค รายละเอียดบางอย่างมันเลยขาดๆ เกิน สำหรับผมคิดว่า แฮร์รี่ภาคแรก ดูมันลงตัวสุดละ เพราะเนื้อหาอะไรๆ ยังน้อยอยู่ จากคุณ : MoonGlade เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 14:29:51

ความคิดเห็นที่ 65 คห.28 Lord เค้าไม่ได้จินตนาการเองคนเดียวนี่ เค้าแต่งมาจากเค้าโครงตำนานเก่าๆมั้ง ถ้าลองไปเล่นเกม Warcraft ตัวละครในเกมก็แนวๆ Lord นี่แหละ เพราะเค้าเอามาจากพวกตำนานเก่าๆ ผมชอบหนังสือ Lord ตรงที่สำนวนการพรรณาในเรื่องนี่แหละ สำนวนดีมาก พรรณาแต่ละทีเห็นภาพเลย แต่ผมว่าโครงเรื่องมันไม่ได้แปลกพิศดารมากเลยนะ แนว RPG ทั่วไป จากคุณ : PhoenixYo-Amazon เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 15:29:14

ความคิดเห็นที่ 66 แฮร์รี่นี่เราดูแต่หนัง จนถึงจบภาค 4 ชอบมาก เลยลองซื้อภาค5มาอ่าน เพราะอยากรู้เรื่องก่อน พอมาดูหนังก็พบว่า ไม่สนุกเอาซะเลย 5555 แบบเหมือน คห แรกๆบอกเลย เราเองนี่แหละที่จินตนาการให้สูงเกินไป == จากคุณ : Naruto_Delta เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 15:54:37

ความคิดเห็นที่ 67 จินตนาการคนเราต่างกัน คงยากที่จะทำให้ทุกคนพึงพอใจ ^_^ จากคุณ : NiFJunje เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 16:06:33

ความคิดเห็นที่ 68 เดอะลอร์ดมันเก่าแล้ว คนรุ่นหลังๆ อ่านเลยเข้าไม่ค่อยถึง ผมอ่านเรื่องนี้จบนะ แต่กว่าจะอ่านจบ เหนื่อยมาก พยายามสุดๆ ส่วนหนังนี่เพิ่งจะดูจบได้ปีนี้แหละ ก่อนหน้านี้พยายามจะดูแต่หลับตลอด เพราะผมไม่ชอบหนังสงครามน่ะ เดอะลอร์ดนี่จินตนการกว้างไกลนะ รายละเอียดแบบยิบย่อยเยอะ แต่เนื้อเรื่องธรรมดามาก ราบเรียบเป็นเส้นตรงสุดๆ ไม่ค่อยมีหักมุมหรือปมปริศนา เข้าใจว่าเพราะมันเขียนมานานแล้ว ส่วนแฮร์รี่นี่จริงๆ เนื้อหาก็เยอะมาก เจเคสามารถสร้างโลกในจินตนากร ที่ทำให้คนอื่นเชื่อว่ามีอยู่จริง ปะปนกับเราขึ้นมาได้จริงๆ และเข้าถึงง่ายมากๆ ส่วนสำคัญของเรื่องนี้จากเล่มแรกๆ ต้องยอมรับว่าเป็นจินตนาการ มันเหมือนทำให้ฝันของเด็กและผู้ใหญ่หลายๆ คนเป็นจริง โดยที่มีปมปริศนาเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเรื่อง สิ่งที่ผมชอบที่สุดในแฮร์รี่คือปริศนานี่แหละ เนื้อเรื่องมันซับซ้อนมาก แถมชอบเฉลยแบบคาดไม่ถึง หักมุม ต่างจากเดอะลอร์ดก็ตรงนี้ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 16:08:32

ความคิดเห็นที่ 69 ประเด็นหลักคือ เรื่องมันคนละแนวรึเปล่าคะ? LOTR เป็นหนังที่อลังการ เยี่ยมยอดที่สุดในชีวิตเราเลยค่ะ เราไม่ได้อ่านหนังสือนะ แต่ทั้ง 3 ภาคมันทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไฮไลท์อยู่ที่ฉากอลังการ กับฉากสงครามที่ทำออกมาได้ดีมากๆ แถมไม่ต้องอ่านหนังสือก็ดูรู้เรื่องหมด อย่างว่านะคะ ฉากสงคราม ในหนังสือมันคงพรรณาออกมาไม่เท่าเห็นภาพจริงอยู่แล้วล่ะ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้แบบซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร Harry 7.1 ทำออกมาดีมากๆเหมือนกัน แต่แฮรี่มันรายละเอียดเยอะเกินไปมั้ง หนังแค่ใส่แฟนตาซีเข้าไป ฉากแอคชั่นก็มีอยู่แค่นิดนึง แถมขนาดเราอ่านมานานแล้ว เรายังดูไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เลย ตัดไปตัดมาเกินน เรื่องของเรื่องคือลืมเนื้อหาในหนังสือหมดแล้ว สรุป หนังสือ >> ยกให้ Harry เป็นที่ 1 ในดวงใจ       หนัง >> ยกให้ LOTR เป็นที่ 1 ในดวงใจ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 17:12:51 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 17:09:15 จากคุณ : Pretty_Cute_Girl เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 17:07:41

ความคิดเห็นที่ 70 ผมว่านะ harry ที่ทำออกมาไม่ตรงใจเรา เพราะว่ามันทำตั้งแต่หนังสือยังออกไม่ครบเลย ทำให้รายละเอียดบางอย่างถูกมองข้ามไป ต่างกับ อีกเรื่องที่หนังสือมีมานานมากแล้ว แต่หนังเพิ่งมี ห้าๆๆๆ ลองให้แฮร์รี่ ทำรีเมคทั้งหมดอีกรอบ ยังไงก็สุดยอดกว่า ทั้ง เนื้อเรื่อง ความสนุก อารมณ์ จินตนาการ ความเป็นไปได้จริง สุดยอดกว่าเห็นๆ จากคุณ : pkp_aksw เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 18:31:30

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ ไล่อ่านทุกคนเลยค่ะ ความคิดเห็นต่าง  แต่ไม่มีมาม่า มีเหตุผลที่ดีของแต่ละคน น่าจะยกให้เป็นกระทู้ตัวอย่างนะ ^^ (นอกเรื่องนิดนึงค่ะ) จากคุณ : ลูกกระปุก เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 20:32:23

ความคิดเห็นที่ 72 เเปลกเเฮะ ลอร์ดกับเเฮรี่ มันคนละยุคเเล้วเเต่คนชอบจริงๆ ส่วนตัว ดีทั้งสองเรื่อง เเต่ชอบลอร์ดมากกว่า มันเปนเหมือนประวัติศาสตร์ของโลกทั้งโลกโลกนึง เเฮรี่เป็นเหมือนเเค่เรื่องราวในสถานที่เเห่งนึง ว่าไป ผมอ่าน modern fantasy มีอีกหลายเรื่องเลยที่ผมชอบมากกว่าเเฮรรี่ เเต่ที่ชอบที่สุดก็ยังได้เเค่นำมาเทียบเคียงบ่าเคียงไหล่กับลอร์ดเเค่นั้น ไม่มีเรื่องไหนกล้าให้ว่่า ดีกว่าลอร์ดเลย ลอร์ดคือ ผู้สร้างเเนวนี้ ที่ลูกหลานสืบทอดมรดกมาจนสมัยปัจจุบัน โดยเเฮรรี่เป็นผู้นำนึงในกลุ่มเเฟนตาซีหน้าใหม่นี้ ส่วนหนัง เห็นด้วยกับ 28 ลอร์ดนี่โคดจินตนาการเลย ขนาดผกก เดล โทโร่ ยังออกปากเองว่า ขอยอมเเพ้กับโลกเเห่งจินตนาการที่เขาไม่สามารถสร้างภาพให้เทียบเท่ากับที่ผู้เขียนได้สร้างไว้ เเละเชื่อว่า ผกกคนอื่นๆก็คงไม่ผ่าน ยกเว้นปีเตอร์ เเจ๊คสั้นนั่นเอง ส่วนเเฮรรี่ หนังสือยาวกว่าลอรดครับในเเต่ละภาค เเต่หนังมีความยาวเเค่สองชมเสดๆถึงครึ่ง ขณะที่ลอรดสามชมเสดๆถึงสี่เลย บวกผู้เขียนบทเเละผกกยังไม่ถึงขั้นครับ จากคุณ : Thaumaturge เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:13:58

ความคิดเห็นที่ 73 คห.63 เทียบได้ตรงใจยิ่งนัก พูดไปแล้วก็ลองนึกดู ว่าสร้างหนังจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ กับ สร้างหนังจากการ์ตูนขายหัวเราะ มันจะเป็นไงละ หนังจากประวัติศาสตร์ = ฮีโร่ / สามก๊ก / ทรอย / พระนเรศวร และอื่น ๆ หนังจากการ์ตูนขายหัวเราะ = หนูหิ่น / ปังปอนด์ และอื่น ๆ ก็ตามนั้น จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:41:55

ความคิดเห็นที่ 74 ผมสิ้นหวังตั้งแต่ดูภาคแรก เป็นภาคที่ผิดหวังมากที่สุด แต่ภาคหลังๆไม่ได้อ่านหนังสือกลับชอบ จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 00:16:49

ความคิดเห็นที่ 75 แฮรี่ภาค 7 สนุกทั้งในหนังสือและในภาพยนต์ จากคุณ : xcessshin เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 01:53:26

ความคิดเห็นที่ 76 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 05:30:45

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้าใครไม่เคยอ่าน lotr มาก่อนคงไม่รู้ว่ามันละเอียดขนาดไหน ในหนังสือ โทลเคียน เค้าสร้างภาษาขึ้นมาใหม่อีกภาษาเลยนะครับ รายละเอียดยุบยับแบบจำกันไม่หวาดไม่ไหว พูดตรงๆตอนอ่านแล้วนึกภาพตามยังอลังการไม่เท่าที่แจ็คสันทำเลย เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความตั้งใจของทีมงานรึเปล่า ผมคิดว่าแฮร์รี่มันสุกเอาเผากินเกินไป ลอร์ดนี่ทำตั้งกี่ปีกว่าจะเอามาฉาย แต่แฮร์รี่นี้ต้องฉายทุกปี เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ เพราะแจ็คสันเค้ารักบทประพันธ์จริงๆ เค้าต้องขอผ่านโครงการตั้งกี่ปีกว่าจะได้ทำจริง อยากให้คนที่รักแฮร์รี่จริงๆมาทำมากกว่าจะได้ไม่ละเลยหัวใจของหนังไปเหมือนหลายๆภาค ขอบคุณ จากคุณ : NorsDavincy เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 19:12:46

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านทั้ง HP แล้วก็ Lord เหมือนกันค่ะ ชอบ HP มากกว่า อาจจะเพราะว่าอ่านเล่มแรกตั้งแต่อยู่ ม.ต้น อ่านมาเรื่อย จนจบตอนสุดท้ายตอนเราเรียนมหาลัย รู้สึกว่าตัวเองเติบโตมาพร้อมๆกันกับแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่อ่ะค่ะ รู้สึกรัก รู้สึกผูกพัน รู้สึกเหมือนได้เดินผ่านอะไรๆมาด้วยกันกับเพื่อนสามคนนี้ ลอร์ดเขียนดีนะ เป็นหนังสือที่ดีมากๆ แต่มันไห้อารมณ์แบบที่ HP ไห้เราไม่ได้อ่ะ จากคุณ : LoverinBangkok เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 22:57:11

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้าเทียบแต่หนังอย่างเดียว ไม่พูดถึงหนังสือนะครับ  Peter Jackson ผู้กำกับซึ่งเป็นคนที่อำนวยการสร้างซึ่งตนเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ อยู่แล้ว ยิ่งได้กำกับเองด้วยก็ย่อมที่ควบคุม Production ได้อยู่แล้วครับถ่ายทำติดต่อกันสามภาครวด ซึ่งก็สร้างด้วยความเคารพต้นฉบับจริงๆบวกกับการใช้ทุนมหาศาล ผลลัพธ์คือ รายได้มหาศาลบวกกับออสการ์อีกสิบกว่าตัว Harry Potter สตูดิโอ มีหน้าที่อำนวยการสร้างและจ้างผู้กำกับ ซึ่งเปลี่ยนเกือบทุกภาค  มีการดัดแปลงบทเพื่อ รวบรัดและควบคุมงบประมาณในการสร้าง และเร่งสร้างหลายๆภาคเพื่อฉายให้พร้อมหนังสือออก ผลลัพธ์ รายได้มหาศาลเหมือนกันแต่คุณค่าทางภาพยนตร์มันต่างกันนมากครับ จากคุณ : popping เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:53:29

ความคิดเห็นที่ 80 เราดูแฮร์รี่สนุกภาค 1 2 3 4 7.1 ดูลอร์ดไม่สนุกสักภาค อ่านหนังสือสนุกกว่าทั้งสองเรื่อง จากคุณ : ชนวนกลาง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 20:11:45