 |
จริงๆตามสถิติแล้วก็พบว่าผู้ชายบางคนก็เคยมีประสบการณ์กับเพศเดียวกัน จำนวนไม่น้อยนะ
อันนี้ขอเน้นย้ำว่า"ผู้ชายบางคน".....ถ้าไม่เน้นย้ำอาจจะไปกระเทือนต่อมความหลงเพศของเพศชายบางคน(อีกนั่นแหล่ะ)
จริงอยู่ว่าผู้ชายบางคนอาจจะไม่คิดมีอะไรกับเพศเดียวกัน...
แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่คิดว่าการมีอะไรกับเพศเดียวกันเป็นเรื่องเลวร้าย
ทำลายความเป็นชายแบบที่คนคลั่งเพศหลงเพศหลายคนคิด
ในหอพักชายหรือโรงเรียนประจำก็พบผู้ชายที่มีประสบการณ์ทางเพศกับเพศเดียวกันอยู่บ่อยๆ
(ต้องบอกอีกว่าพบอยู่บ่อยๆไม่ได้หมายความว่าทุกคน เดี๋ยวมีคนมาเถียงอีกว่าผมอยู่หอมา10ปีไม่เคยทำนะ)
คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์เสมอไป....เขามองแค่ว่าเซ็กซ์กับเพศเดียวกันก็คือรูปแบบของความสุขอย่างนึง
สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ไปมีความรักกับเพศตรงข้ามอยู่ดี (ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่เกย์อยู่แล้ว)
และความคิดที่ว่าการมีประสบการณ์กับเพศเดียวกันทำให้คนเป็นเกย์ก็เป็นความคิดที่ผิดอีก
สำหรับคนที่ไม่มีจิตใจเป็นเกย์ เซ็กซ์กับเพศเดียวกันเป็นรูปแบบของความสุขอย่างนึงอย่างที่บอกไปแล้ว
ส่วนคนที่บอกว่าเขาเป็นเกย์เพราะมีเซ็กซ์กับเพศเดียวกัน...นั่นคือคนที่จิตใจเขาเป็นเกย์อยู่แล้ว
ต่อให้เขาไม่ได้มีประสบการณ์แบบนี้...แต่ยังไงเขาชอบเพศเดียวกันอยู่ดี
โฆษณาชิ้นนี้ก็สะท้อนความเป็นจริงที่ว่า....
มีเพศชายจำนวนมากที่เห็นว่าเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องสนุกสนาน ผ่านคู่นอนมามากมาย
และการจะมีคู่นอนเป็นชายด้วยกันสักครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ชายบางคน...
แต่ใครจะคิดว่าชาตินี้ตัวเองไม่มีวันมีอะไรกับเพศเดียวกันแน่ๆก็เป็นเรื่องของคุณ
แต่อย่าหลงว่าทุกคนต้องคิดแบบคุณตลอด...และอย่าคิดว่าการคิดแบบคุณคือความเป็นผู้ชายที่สุดยอดและยิ่งใหญ่
เพราะความเป็นผู้ชายที่แท้จริงเขาวัดกันที่ความใจกว้าง,ความเสียสละ,การให้อภัย,ความเข้าใจ ฯลฯ
ไม่ใช่วัดกันที่การเสพสมกับเพศตรงข้ามแต่เพียงอย่างเดียว.....
เกย์บางคนมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าเพศชายบางคนซะอีก
อย่างน้อยก็มากกว่าพวกที่ทิ้งให้เมียตัวเองต้องไปเอาลูกตัวเองออกเป็นพันๆศพตามข่าวนั่นไง
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 15:48:26
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 15:45:59
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 15:42:32
| จากคุณ |
:
กล้าที่จะรัก  
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 53 15:37:53
|
|
|
|
|
"โฆษณารณรงค์สวมถุงยางอนามัย" ต้องการจะสื่อว่าฝ่ายชายเคยมีอะไรกับนักฟุตบอลด้วยใช่ป่ะ
