เราให้เสมอกันค่ะ เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีจุดเสียจุดใหญ่ทั้งคู่ แต่คนดูเหมือนลัลผิดมากกว่า เพราะ ตุลย์เองเป็นผู้ชายดีคนหนึ่ง แค่ปากหนักไปหน่อยเท่านั้น หากพอมองเข้าไปจริง ๆ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องความคาดหวังจากคนใกล้ตัวแล้ว เรามองว่าตุลย์ก็ไม่ผิดอะไรจากลัลเช่นเดียวกัน
ตุลย์คาดหวังจากลัลมากนะ คาดหวังให้เข้าใจ แต่ทำน้อย บางครั้งก็ไม่ทำอะไรเลย อาศัยว่าคุณเป็นคนใกล้ชิดผมแล้ว ต้องเข้าใจสิ คบกันมาระยะนึงแล้วก่อนแต่งก็น่าจะรู้สิว่าผมเป็นอย่างไร ไม่ผิดกับที่ลัลเป็นหรอก แต่ลัลโวยวายลัลมากมายหลายเรื่องจึงดูผิดมากกว่า คนที่แสดงออกมากกว่าไม่จำหรอกที่จะต้องผิดมากกว่า คนที่ไม่ทำอะไรเลยให้เรื่องมันดีขึ้นทำเฉย ๆ ก็ไม่จำเป็นว่าจะผิดน้อยกว่าเช่นกัน
เราว่าสองคนนี้ลืมไปว่าชีวิตคู่มันไม่ใช่มาม่ากึ่งสำเร็จรูปฉีกซองใส่น้ำแล้วกินได้ทันทีจบ ไม่ง่ายขนาดนั้นจะอาศัยว่าคบกันมาระยะนึงแล้ว 1 ปี 2 ปี พอมาแต่งงานแล้วไม่ต้องปรับอะไร คิดแบบนี้คือพลาด ตอนเป็นแฟนกันไม่ได้ตัวติดกัน 24 ชั่วโมง มีงาน มีพ่อแม่ มีเพื่อน กินข้าวดูหนังด้วยกันเสร็จก็บ้านใครบ้านมัน ทะเลาะกันงอนกันก็บ้านใครบ้านมัน ที่ได้เรียนรู้กันก็ส่วนหนึ่งของนิสัยเท่านั้น
แต่พอแต่งงานกันแล้วอยู่ด้วยกัน 365 วัน ถึงจะไม่ 24 ชั่วโมง แต่ตอนนี้แหละที่ได้รู้เช่นเห็นชาติกันจริง ๆ ว่าใครเป็นยังไง ทะเลาะกันตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากันแล้ว เป็นเรื่องในครอบครัว ใคร ๆ ก็รู้ว่าวิ่งหาพ่อแม่ตลอดเวลาไม่ได้แล้ว ต้องหันหน้าเข้าหากัน แต่ถ้าไม่ทำคนนึงหวีดคนนึงหนี ปัญหาจะจบรึเปล่า ก็ไม่จบ เพราะ คนสองคนไม่สร้างสมดุลย์ คนนึงพูดตลอดทำตลอดให้หันมาสนใจเพิ่มดีกรีแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ยอมใช้สติสตังซะบ้าง อีกคนพอเค้าแรงขึ้นเรื่อย ๆ แทนที่จะแดนหน้าเคลียร์ให้จบกลับเดินหนี คนนึงมากเกิน อีกคนก็น้อยเกิน
ป.ล. คนพูดถึงเรื่องไม่เจ้าชู้กันเยอะ ซึ่งเป็นข้อดีของตุลา แต่เราอยากจะบอกว่าการใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่ผู้ชายไม่เจ้าชู้แล้วก็จบนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญพอ ๆ กับเรื่องนี้สำหรับการประคองชีวิตคู่ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 53 14:13:45
จากคุณ |
:
วรินทร์รตา
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ย. 53 14:09:51
|
|
|
|