 |
ที่เราชอบนะคะ : )
ถ้าโทร.ไปก็แค่เช็ก อย่าให้เขารู้ตัว ถ้าโทร.ไปโวยวายแบบนี้ สำหรับผู้ชายบอกตรงๆว่ามันน่ารำคาญ ถ้าจะเอาคำตอบให้ได้ ไม่มีทางได้หรอก มีแต่เขาจะมองเราเป็นนางมาร
ให้โทร.ไปให้เขารู้ว่าเรารู้ แค่นี้พอแล้ว รู้แล้วนิ่งมันแม่พระชัดๆ รอเขาติดต่อกลับมาแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเขาดีจริงเขาจะสารภาพกับเราเอง
ผัวเมียมีเรื่องปิดบังกัน แบบนี้ก็คงต้องอยู่กันด้วยความระแวง
ผมไม่ได้โกหก แต่ผมไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่อง
ห้ามไปก็เท่านั้น เขาต้องเรียนรู้เอง
"ไม่ต้องแก้ตัว ไม่ว่าใครผิด แต่เราก็ไม่ถูกที่มีเรื่องปิดบังภรรยา" "บางเรื่องไม่ให้รู้จะดีกว่าไหม" "แต่ความลับมันไม่มีในโลก ถ้าจะปิดบังเพราะหวังดีอยากให้เขาสบายใจ หรือตัดปัญหา แต่สุดท้ายมันตรงกันข้าม เรากำลังทำลายความไว้ใจ ความศรัทธาที่ภรรยาควรจะมีต่อตัวสามี" "แต่เขาก็ปิดบัง" "นั่นสิ ทำไมคนที่ภรรยาควรจะไว้ใจไม่ใช่สามีของตัวเอง... ถ้าภรรยามีเรื่องปิดบังเรา แสดงว่าเราไม่ใช่ที่พึ่งพิง ที่จะทำให้เขาอบอุ่นใจได้ เขาถึงต้องไปปรึกษาคนอื่น แล้วรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงไว้ใจคนอื่นมากกว่าตัวเรา ถ้าเรามองแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วเราจะมีเขาไว้ทำไม การแต่งงานหมายถึงชีวิตคู่ เข้าใจไหม"
"ก็ทะเลาะกันเลยไม่ได้คุย...รู้งี้ไม่อาละวาดก็ดี" "พลาดไปแล้วก็จำไว้ รู้ว่าทำแล้วไม่ดีคราวหน้าก็อย่าทำ"
"ถ้าอยู่บ้านนี้แล้วไม่มีความสุข เราก็ไม่อยากให้คุณต้องมาทน คุณบอกเองว่าสักวันเราก็ต้องเลิกกัน เราก็เลิกกันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า"
"อร่อยไหม?" "ข้าวน่ะไม่อร่อยหรอก แต่เพราะคุณป้อน มันเลยอร่อย"
"ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรระหว่างเราสองคน แต่อยากให้เราแก้ปัญหาเก่าให้จบก่อนที่จะเริ่มปัญหาใหม่" "ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ชอบมีปัญหา อะไรที่เป็นปัญหาผมจะไม่แตะ" "การแก้ปัญหากับการลอยตัวเหนือปัญหามันไม่เหมือนกันนะ บางครั้งผู้ชายอย่างเราก็ลืมนึกไปว่า ที่ผู้หญิงเขาทะเลาะกัน สาเหตุก็มาจากเราเหมือนกัน" "ถ้าเขามั่นใจในตัวเรา บางทีมันก็อาจไม่เป็นปัญหานะครับ" "ถ้าอย่างงั้น แล้วตัวเราทำอะไรให้เขามั่นใจบ้างหรือยัง" "แล้วการแต่งงานที่เกิดขึ้น มันยังไม่ทำให้เขามั่นใจได้หรือว่าผมเลือกเขาแล้ว" "การแต่งงานมันก็เหมือนเราลงมือปลูกต้นไม้สักต้น" "ผมก็ตั้งใจว่าปลายทางต้นไม้ของเราจะเติบใหญ่นะครับ" "ถ้าดูแต่ต้นทางกับปลายทาง แล้วระหว่างทางถ้าเราไม่กำจัดพวกมดแมลง ที่มันคอยกัดแทะราก ตัดส่วนเกินที่มันรัดทางเดินน้ำเลี้ยงของเรา ต้นไม้ก็จะเหี่ยวแห้งตาย ถ้าเราไม่ดูแลระหว่างทางแล้วมันจะมีปลายทางได้ยังไง ชีวิตคู่คือระหว่างทางที่คนสองคนอยู่ด้วยกัน" "แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมันล้ำเส้นมากเกินไป ผมรับไม่ได้" "เราจำคำพูดบนเวทีวันที่แต่งงานได้ไหม..." "เคยมีคนเตือนผมเอาไว้ว่าถ้าผมแต่งงานก็เท่ากับว่าผมจะต้องติดคุก อยู่กับคนๆ นี้ไปตลอดชีวิต แต่สำหรับผม ถ้าติดคุกด้วยโซ่ตรวนที่ถูกใจ มีผู้คุมที่ทำให้ผมอยู่ในคุกอย่างมีความสุขได้ อิสรภาพก็ไม่สำคัญสำหรับผมอีกต่อไป" "หรือว่าวันนี้เราไม่ได้มั่นใจเหมือนวันนั้นอีกแล้ว?" "ผมยังคิดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่...เขาทำให้ผมไม่มั่นใจ" "วันนี้...เราปล่อยให้ผู้หญิงอื่นมาเดินอยู่ในบ้าน แล้วเมียเราล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ถ้าการกระทำของเมียเราทำให้เราไม่ศรัทธาในตัวเมียเราเอง แล้วตัวเรามันน่าศรัทธาหรือยัง..."
"พ่อกับแม่ต่อให้ทะเลาะกันหนักขนาดไหน ก็ไม่เคยไปค้างที่อื่น วันนี้เราเดินออกมา วันหน้าเขาก็จะเดินออกไปเหมือนกัน แล้วครอบครัวแกจะเหลืออะไร"
"เวลานั่งดูคนอื่นทำมันก็ดูไม่ยากใช่ไหม แล้วแกเคยถอยออกมานั่งดูหรือยัง ว่าถ้าแกเป็นคนนอกมองเข้าไป ทุกวันนี้แกทำดีที่สุดหรือยัง... หรือว่าระหว่างแกกับเมียใครกันแน่ที่งี่ เง่าไม่เข้าใจ" "เรามีกันแค่สองคน ทำไมมันยากนัก" "มันเรียกชีวิตคู่ก็จริง แต่มันไม่ใช่แค่สองคน มันเป็นสองครอบครัว สองชีวิตที่ต่างคนต่างต้องปรับตัว แกคิดว่ามันง่ายไหมล่ะ"
"แกมันบื้อ ที่คิดว่าแต่งงานแล้วก็จบ มันเริ่มหลังจากนั้นต่างหาก"
"เหงา เด็กมีปัญหาชัดๆ ขาดความอบอุ่นจากพ่อก็ไปอ้อนพ่อสิ ขาดอย่างหนึ่งแต่ไปดึงอีกอย่างหนึ่งมาทดแทนความเอาแต่ใจของตัวเอง มันทำคนอื่นเขาเดือดร้อน ถามตัวเองให้ดีว่าคุณรักพี่ตุลย์ หรือแค่อยากได้เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว"
"หัวใจของผมไม่ใช่เครื่องมือของใครนะครับ"
"ไม่เหมือนกันเว้ย ฉันมีความสุขที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข ไม่ใช่มีความสุขที่ได้ครอบครองคนที่เรารัก"
"ถ้าใช้คำว่าอดทนกับความรัก แล้วความสุขมันอยู่ตรงไหนล่ะ"
...เราอาจจะรู้ค่าเมื่อมันหายไปจากเรา บางคนอาจมองข้าม เพราะมันใกล้ตัวจนดูไม่เห็นค่า...บางครั้งเราอาจได้เจอสิ่งมีค่าเมื่อช้าไป แต่เมื่อเราได้รู้แล้วว่าของสิ่งนั้นมีค่ามากแค่ไหน เราก็ต้องชั่งใจว่า จะยอมปล่อยไปหรือจะเอากลับคืนมา...
ยืนอยู่เพียงลำพังกับความสูญเสีย..... สูญเสียของมีค่าที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นค่าเลย...
"ฉลาดแต่ดื้อด้าน เขาก็ไม่เรียกฉลาดครับ"
"ทุกอย่างที่เขาทำ ทำให้พี่เลือกเขา"
"เบื่อ... เมื่อไหร่จะเลิกหนีปัญหาสักที ฉันเบื่อเต็มทีกับสภาพแบบนี้... ตลอดเวลาฉันเหมือนคนบ้าวิ่งตามหึงตามหวง แต่คุณไม่เคยทำอะไรเลย" "อย่าหาเรื่องทะเลาะดีกว่า" "ฉันไม่เคยหาเรื่อง แต่เรื่องมันวิ่งเข้ามาหาไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะแฟนเก่า ไหนจะเด็กใหม่ แต่คนกลางไม่เคยทำอะไรสักอย่าง นอกจากโกหกไปวันๆ คุณไม่เคยทำอะไรเพื่อฉันเลย ทั้งที่ฉันอดทนทุกอย่าง ฉันเกลียดมันสองคน ที่คิดจะแย่งคุณ แต่ถึงจะเกลียดแค่ไหนฉันก็ยอมทน แล้วคุณก็ตอบแทน ด้วยการโกหก พอกันที ฉัน "ทน" มามากแล้ว" "ที่ผ่านมาคุณทนเหรอ?" "ใช่...ฉันต้องทน ฉันอยากประคับประคองชีวิตคู่ให้ผ่านไปให้ได้ แต่มันไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะฝืนแค่ไหน คุณก็ยังเหมือนเดิม... คุณยังเหมือนเดิม คุณไม่เคยเปลี่ยนเลย..." "ถ้าอยู่กับผมแล้วทำให้คุณต้องอดทนมากขนาดนี้... คุณก็ไม่ต้องทำและผมไม่เคยเรียกร้องให้ทำ"
"ผมขอโอกาสนะ ผมมันโง่ที่วิ่งหาคนที่ดีกว่าตลอดเวลา ทั้งที่คนที่มีค่าที่สุดอยู่ตรงหน้าผมเอง" "แต่วันนี้ถ้าฉันยอม แม่จะด่าว่าเป็นควาย แต่วันนี้ฉันจะยอมเป็นควายสักครั้ง ถ้าคุณทำไม่ได้ตามที่บอกไว้จะไม่ได้โอกาสอีกตลอดชีวิต"
"ผมรู้แล้วว่าการเสียคนที่เรารักมันทรมานแค่ไหน ผมจะไม่ยอมให้ทิฐิทำให้ผมต้องเสียเขาไปอีก"
"คุณไม่เคยไว้ใจผมเลย"
"พ่อรู้เรื่องหมดแล้ว... เหนื่อยไหม... ? เชื่อพ่อ ยอมถอยสักก้าวเพื่อให้อีกฝ่ายได้รู้สึกผ่อนคลายบ้าง ยิ่งลูกบีบมันก็ยิ่งอึดอัด มีแต่จะผลักให้อีกฝ่ายหนึ่ง...อดทนรอบ้าง...ได้ไหม"
" ผู้ชายที่มันอดทนกับแกได้มันสุดยอดแล้ว แสดงว่าเขารักแกนะ แต่แกรักตัวเองเขาถึงทนไม่ได้ ถ้าแกรักเขาจริงก็ทำให้เขามีความสุขสิ ถ้าเขาไม่มีความสุขแสดงว่าแกไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่ารักเขา ถ้าแกมีความสุขฝ่ายเดียวเขาเรียกรักตัวเอง"
"อยู่กับใครมีความสุข ก็อยากอยู่กับคนนั้นแหละ ถามโง่ๆ จะบอกอะไรให้นะ เห็นคนโง่อย่าโง่ตาม เข้าใจไหม"
"ผมช่วยพี่ดา เพราะพี่ดาเชื่อมั่นในตัวคุณวินทร์ พี่ดาอยากรักษาครอบครัวไว้ ผมนับถือในความหนักแน่นของพี่ดา...ความหนักแน่นที่ผมไม่เคยได้รับเลย"
"ถ้าวันนี้คุณอยู่กับผมแล้วไม่มีความสุข ไม่มีผมในชีวิตคุณก็คงจะดีกว่า"
"อนาคตเกิดจากปัจจุบัน ถ้าเธอเชื่อว่าตอนนี้คืออนาคต ก็หาปัจจุบันให้เจอสิ"
"แกจะหยุดได้หรือยัง ไอ้วิชมันรักแก รักมานานแล้ว ฉันพยายามเตือนให้มันตัดใจเพราะรู้ว่าแกไม่ได้รักมัน..." "ฉันไม่เคยรู้..." "แกจะรู้ได้ยังไง แกไม่เคยสนใจคนรอบข้างเลย แกคิดแต่เรื่องของตัวเอง ทำร้ายคนที่รักแกครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งวิช ทั้งตุลย์ เป็นฉัน ฉันก็ทนผู้หญิงที่เห็นแต่เรื่องตัวเองเป็นใหญ่ อย่างแกไม่ไหวหรอกว่ะ แกรู้ไหมว่าตั้งแต่แกแต่งงาน ไม่เคยมีสักวันที่ฉันได้นอนหลับอย่างสบายใจ แกทิ้งงาน ทิ้งเพื่อน วิ่งไล่ตามผัว ฉันต้องทนเห็นแกทำผิดซ้ำซาก เห็นแกฟูมฟายจะเป็นจะตาย แกเคยมองไหมว่าตัวเองทำอะไรบ้าง ถ้าไอ้วิชตายก็เป็นเพราะแก..."
"มันไม่มีประโยชน์ถ้าจะเรียกร้องความสนใจด้วยการทำร้ายจิตใจคนที่เรารัก"
"แกไม่เป็นไรนะ.... ลมมันเย็นดีนะ ลมมันพัดมา เดี๋ยวมันก็พัดไป..."
"ถ้าผมต้องเสียคุณไป ผมยอมตายซะดีกว่า จำไว้นะเพื่อคุณ ผมทำได้ทุกอย่าง"
"ฉันคงผิดตั้งแต่ขอคุณแต่งงานทั้งที่คุณไม่ได้รักฉัน ถ้าต้องเจ็บซ้ำๆแบบนี้เราก็แยกกันดีกว่าเผื่อว่าชีวิตของคุณจะดีขึ้น"
"ฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทั้งสิ้น เริ่มเห็นก็ชอบเขา จากนั้นก็โทร.หาเขา พยายามยัดเยียดตัวเองให้เขาและสุดท้ายก็เป็นคนขอเขาแต่งงานเอง ทั้งนี้เพราะ... ฉันพยายามจะให้เขาเป็นสามีในฝัน เป็นของฉันคนเดียว เพราะฉันรักเขา ฉันใช้ข้ออ้างว่ารักเขาแล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง จนเขาต้องถอนตัวจากคดีของภูมิบดินทร์ ต้องวางมือจากงานที่เขารัก ต้องโดนยิงเกือบตาย ฉันทำให้ชีวิตของเขาพัง แล้วคนอย่างฉันยังสมควรจะอยู่ข้างเขาอีกเหรอ"
"รู้ไหม...การทำให้ฉันหย่ากับเขามันเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าเธอจะให้เขาแต่งงานกับเธอ ฉันว่ามันยากมาก"
"คนหยิ่งจริงเขาไม่วิ่งไล่ตามผู้ชายหรอกนะ มันน่าสมเพช...แล้วก็น่าเสียดาย... เธอเป็นผู้หญิงเก่งนะ สู้จนมีโรงแรมอย่างที่อยากได้ ทำทุกทางจนหย่ากับผัวเลวๆ ได้ เธอจะอยากได้เขาไปทำไม ก็ตอนนั้นเธอเองเลือกที่จะจากไป แล้วตอนนี้จะมาวิ่งไล่ตามคนที่เธอทิ้ง...เพื่ออะไร" "ฉันทำเพื่อความรักมันผิดตรงไหน" "มันไม่ผิดหรอก แต่มันเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เขารักคนอื่นไปแล้ว เธอก็เห็นว่าเขาไม่มีพื้นที่ให้เธออีกแล้ว ถ้าเธอได้เขามาทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอเลย เธอจะมีความสุขจริงหรือเปล่า หรือจะสุขแค่เพียงสะใจที่ได้มา... คิดให้ดี ผู้หญิงฉลาดอย่างเธอจะเอาศักดิ์ศรีมาแบให้คนอื่นเหยียบย่ำทำไม นี่ไม่ได้ด่านะ แต่เสียดายจริงๆ เข้มแข็งหน่อยนะน้องนะ"
"สบายใจแล้วใช่ไหม ผู้หญิงที่มั่นคงอย่างเขาน่ะ ถึงผมจะชวนเขา...เขาก็ไม่ไปหรอก หึงละซิ คุณนี่มันโบราณสุดๆ เลยนะ พวกรักนะแต่ไม่แสดงออก ทั้งที่วันนี้คุณทั้งหึง ทั้งหวง ทั้งห่วงจนออกนอกหน้าเลยนะ... ถามจริงเถอะ เคยบอกให้เมียรู้ไหม ปากคุณอมอะไรอยู่ มันถึงได้ยากลำบากนัก กับแค่เผยความรู้สึกตัวเองให้เมียรู้ มันเสียศักดิ์ศรีนักรึไง" "มันเป็นเรื่องของผมกับเขา" "ก็เป็นซะอย่างนี้...ชาตินี้ก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเมียอยากได้อะไร จะบอกให้นะแค่หึงหวง เมียคุณไม่ได้รู้สึกดีหรอก คุณต้องทำอะไรบ้าง คุณรักเขาไม่ใช่เหรอ? คุณไม่ต้องมาหึงหวงผมให้เสียเวลาหรอก ใครก็เอาเมียคุณไปไม่ได้ ถ้าคุณหัดง้างปากซะบ้าง คุณเอาเวลาไปเคลียร์กับเมียคุณดีกว่า คงไม่ต้องบอกนะว่าต้องทำยังไง คิดเองบ้างคงได้นะ" "ทำไม?" "ช่วยทีเถอะ... ผมเจ็บตัวฟรีมาเยอะแล้ว...นะ...ขอร้อง เมียน่ะหาได้ไม่ยาก แต่เมียที่เรารักและรักเรา ชาตินึงผมว่าได้สักคนก็บุญแล้วนะ... จัดการเองนะ ไปล่ะ"
"พ่อชอบดื่มชานะ มันมีรสขมนิดๆ ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นรับรู้รสว่ามันไม่จืดนะ ถ้าใส่น้ำตาลมันก็จะมีรสหวาน หรือถ้าใส่นมมันก็จะเปลี่ยนเป็นรสนุ่มๆ มันอยู่ที่เราจะปรุงให้มันเป็นแบบไหน" "หนูไม่เข้าใจ" "ชีวิตคู่มันหมายถึงสองคน ถ้าต่างคนต่างไม่ปรุงหวังจะให้ชีวิตมันหวานเอง ไม่ร่วมมือกันแล้วมันจะเดินหน้าต่อไปได้ยังไง" "บางทีหนูก็โง่นะคะพ่อ" "พ่อกำลังพูดถึงคนสองคนที่ไม่คุยกัน ต่างคนต่างหวังจะให้อีกฝ่ายทำให้ ในสิ่งที่ต้องการ แต่ถ้าไม่มีใครพูดแล้วอีกคนเขาจะรู้ได้ยังไง ว่าเราต้องการอะไร และหวังจะให้เขาทำอะไร" "พ่อคะ ทำไมเขาไม่ถามหัวใจตัวเองบ้างล่ะคะ ว่าเขามีใจอยากทำอะไรให้กับคนที่อยู่ข้างเขาบ้างหรือเปล่า" "บางทีหนูอาจต้องฟังเหตุผล" "พ่อคะ...หัวใจหนูไม่มีตรรกะ มันยังเต้นอยู่ได้เพราะใช้แต่ความรักหล่อเลี้ยง... แต่ถ้าหัวใจของหนูมันต้องใช้เหตุผลหล่อเลี้ยง หนูขอไม่มีหัวใจดีกว่า... นี่มังคะที่เขาบอกว่าผู้หญิงอยู่ด้วยหัวใจ แต่ผู้ชายอยู่ด้วยเหตุผล... ความคิดของเขากับหนูคงต่างกันมากเกินไป... หนูขอบคุณคุณพ่อมากนะคะที่เมตตา... คุณพ่อไม่ได้เป็นแค่พ่อสามี แต่คุณพ่อเป็นเหมือนพ่อแท้ๆ แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่หนูจะไม่ลืมคำสอน ของคุณพ่อเลย รักษาสุขภาพด้วยนะคะ"
"มันง่ายมากเลยใช่ไหมที่เราจะหย่ากัน" "เราก็เป็นแค่คนสองคนที่เดินมารู้จักกัน แต่งงานกันแล้วก็จากกัน การหย่ามันไม่ยากหรอก"
"ผมไม่เข้าใจครับพ่อ" "เขาพูดถึงขนาดนี้ แกต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าแกแต่งงานกับเขาเพราะอะไร..."
"หนูรักแม่ รักพี่ รักเขา...ที่แม่เคยพูดมันถูกหมด หนูผิดเองที่ไม่เชื่อแม่ ดื้อจะแต่งทั้งที่แต่งกันไปแล้วสักวันก็ต้องหย่า... หนูอยู่กับความระแวงไม่ไหวจริงๆ หนูไม่รู้ว่าคนที่หนูรักอยู่กับหนูเพราะอะไร ยิ่งหนูระแวง หนูก็ยิ่งทำลายเขา ทุกวันนี้หนูไม่รู้ว่าความสุขอยู่ตรงไหน อยู่กับคนที่รักแต่ไม่รู้ว่าเขารักเราไหม ไม่อยู่กับเขาก็กลัวว่าเขาจะไปมีใคร ถ้ารักแล้วเป็นแบบนี้ หนูไม่อยากมีมันอีกแล้ว"
"เที่ยงคืนสิบห้านาที... นี่คือหน้าแรกในบันทึกของเรา แต่ผมไม่รู้จะขึ้นต้นตรงไหนดี คุณคงจะหัวเราะถ้ารู้ว่ากว่าจะเริ่มต้นประโยคแรกได้ ผมนั่งมองกระดาษเปล่าอยู่นานถึงหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ รู้สึกตัวเองงี่เง่า... ก็ทีเขียนคำฟ้องบางคดีเป็นร้อยหน้าได้ แต่กับสิ่งที่คุณขอให้ผมเขียน ความรู้สึกตัวเองแค่สองหน้าทำไมมันช่างยากเย็น... แต่คุณจะคิดว่าที่มันเป็นอย่างนั้นเพราะผมไม่รู้สึกอะไรกับคุณเลยอย่างนั้นหรือ..."
"ตรงกันข้าม...ความรู้สึกของเรามันเป็นสิ่งซับซ้อนนะ ผมรู้สึกกับคุณ รู้สึกมาก ทุกสิ่งทุกอย่างมันรายล้อมอยู่รอบตัวผม หลอมรวมกลายเป็นตัวตนของผมได้ ในวันนี้ แต่มันก็เป็นความงี่เง่าของผมเองที่จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเรียงลำดับมาเป็นคำพูด หรือเป็นข้อ 1, 2, 3 ในหน้ากระดาษได้ยังไง แล้วก็เลยทึกทักเอาเองง่ายๆว่าเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องบอกกันก็ได้..."
"ผมลืมไปว่าบางครั้งสิ่งเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิง ความคิดผู้หญิงบางทีก็ซับซ้อนและเข้าใจยากเกินกว่าที่ผมคิด ผมไม่รู้เลยว่าการที่ผมไม่เคยบอกความรู้สึกออกไปในแต่ละเรื่อง มันอาจจะทำให้คุณเข้าใจไปในอีกทาง..."
"การที่ผมชอบพาคุณเข้าแต่ร้านบาร์บีคิวเจ้าประจำ มันอาจทำให้คุณคิดว่าผมเห็นคุณเป็นของตาย คิดว่าผมไม่ให้ความสำคัญ แต่ที่จริงมันเป็นเพราะมีไม่กี่คนที่ผมจะสามารถพากันไปกินอะไรที่เราชอบซ้ำๆ ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกลัวอีกฝ่ายจะหาว่าเราเป็นคนน่าเบื่อ ไม่สร้างสรรค์ หรือย้ำคิดย้ำทำ และการที่ผมชอบหลับในโรงหนัง มันอาจทำให้คุณคิดว่าผมเบื่อที่ต้องอยู่กับคุณ แต่คุณไม่รู้หรอก ว่าผมหลงรักความรู้สึกผ่อนคลายยามงีบหลับในโรงหนัง โดยอุ่นใจว่ามีคุณอยู่ข้างๆมากแค่ไหน"
"การที่คุณนอนตื่นสายแล้วผมไม่เคยปลุก ไม่เคยบ่น มันอาจจะทำให้คุณคิด โทษตัวเองว่าไม่เอาไหนเป็นภรรยาที่ไม่ดี ทำให้ผมเบื่อ แต่ที่จริงแล้ว ผมชอบเวลาที่คุณตื่นสาย เพราะการได้แต่งตัวไปมองคุณยามหลับไปด้วย มันคือความสดใสในยามเช้า ก่อนที่ผมจะต้องไปเผชิญกับการงานอันเคร่งเครียด"
เหมือนบางประโยคสปอยส์แฮะ ขอโทษด้วยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 16:47:22
จากคุณ |
:
MaENi~
|
เขียนเมื่อ |
:
28 พ.ย. 53 15:18:14
|
|
|
|
 |