แล้ววันนี้ก็มาถึง เมื่อริวโซ่ คู่ชีวิตของโอชินขอลาจากไป กูรูเคยเปรยไว้ว่า จะวิเคราะห์ตัวละครตัวนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นการขอบคุณคุณ Edna เจ้าของกระทู้ที่เพียรแปะคลิปวิดีโอตั้งแต่ต้นมาตลอด ไม่เคยขาดตอนเลยแม้แต่ตอนเดียว
ริวโซ่ เป็นตัวละครที่มีสีสัน มีด้านลึก ตื้น พร้อมแรเงา แบบที่เราเรียกว่า Well Rounded Charateur เขาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบทั้งหมด เช่นฮีโร่ทั้งหลาย บางครั้งเราก็รัก สงสาร บางเวลาเราก็ชังและหมั่นไส้ แต่เราออกจะเห็นใจเธอมากกว่า ด้วยความเป็นบุรุษรูปงาม น้ำใจเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจคนจนผู้ต่ำต้อยกว่า ที่สำคัญเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของโอชินจวบจนวินาที่ขอลาจาก
หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมริวโซ่ถึงตัดสินใจพลีชีพเช่นนี้ ถ้าดูจากภูมิหลัง การเติบโต การบ่มเพาะอุปนิสัย ก็น่าจะมีเหตุสมควรที่ผลักดันให้เขาประกอบอัตวินิบาตกรรม
เกิดอย่างคุณหนู โตเยี่ยงพ่อค้า ใจทะยานเกินร้อย
ริวโซ่เกิดในตระกูลขุนนางชาวนาซาง่า มีเกียรติและศักดิ์ศรีค้ำตระกูล ร่ำรวยด้วยที่นามหาศาล บรรพบุรุษได้รับการยกย่องย่องเชิดชูในฐานะตระกูลที่รับใช้ศักดินา (ในที่นี้น่าจะเป็นโชกุนคนใดคนหนึ่ง) แม้บิดาของริวโซ่ดำเนินเกษตรกรรมผิดพลาด จนทำให้ความร่ำรวยถดถอยลง แต่บรรดาศักดิ์ของโทโนะกูระไม่ได้ลดน้อยลงเลย ริวโซ่ จึงเป็นคุณหนูแห่งสายเลือดบูชิโดโดยแท้ หยิ่ง ทะนง และรักศักดิ์ศรียิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม ความเป็นคุณหนูสายเลือดบูชิโดบ้านนอก ก็ถูกกลบบังละเลือนรัศมี เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจเข้ามาเสี่ยงโชคในโตเกียว ดำเนินชีวิตเยี่ยงพ่อค้าปกติ ติดสำรวย หัวสูง ใช้เงินเป็นเบี้ย ตามประสาคนหนุ่มโสดมีสตางค์ ไร้ภาระผูกพัน
สิ่งหนึ่งที่เพาะบ่มมากับความเป็นพ่อค้าของริวโซ่ก็คือ ความทะเยอทะยาน ซึ่งเป็นวิสัยปกติของคนทำมาค้าขายที่ต้องมองหาโอกาสครั้งใหญ่ๆเพื่อคว้ากำไรเอาไว้ ความทะเยอทะยายของริวโซ่จึงเป็นเรื่องการคิดใหญ่ ทำใหญ่ และแทบทุกครั้งจะเกินกำลังของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนที่เกินตัว เช่น ตั้งโรงงานผลิตเสื้อผ้าเด็ก ไม่ว่าจะเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม เช่น การทำนาทะเลให้ประสบความสำเร็จ หวังจะมีที่นาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความทะยานสุดหล้าผนวกกับเลือดรักชาติ มาตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์เสื้อผ้า อาหารเพื่อส่งให้หน่วยกำลังบำรุงทหาร
ความใฝ่ฝัน ความหวังเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิด หลายคนอาจจะบอกว่า ริวโซ่ โชคไม่ดีต่างหากที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ กูรูมองว่า โชคคือส่วนหนึ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่อีกส่วนก็คือ ใจ ที่เตรียมรับสภาพในกรณีเกิดเหตุการณ์ร้ายสุด ที่เรียกว่า Worse Case Scenario เพราะเวลาริวโซ่คิดทุ่มเทจะทำการใด ก็จะทุ่มเกินร้อย เกินพัน เกินกำลังฝ่ามือของตัวเองไปเลย โดยไม่ยั้งส่วนเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นไปตามคาด
ริวโซ่เป็นบุรุษที่มีความฝันมากมาย ทุ่มเทกายใจเพื่อสร้างฝันนั้น หากแทบทุกฝันก็สลายลง เจ็บตัว เข้าเนื้อ โดยเฉพาะความฝันสุดท้าย ที่ญี่ปุ่นจะต้องชนะสงคราม ยิ่วจะต้องกลับมาในฐานะหน่อเชื้อของนักรบบูชิโดคนกล้า เมื่อการณ์กลับเป็นตรงข้าม นั่นคือภาพหลอนที่ริวโซ่ไม่กล้าจะเผชิญอีกต่อไป
กรณีนี้ เปรียบเทียบกับโอชิน คือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โอชินเกิดในตระกูลชาวนายากจน รู้คุณค่าของการทำงาน อดออม และพึ่งตัวเอง ทำเท่าที่ตัวเองมีความรู้ กำลัง ความสามารถ กำหนดชะตาตัวเองได้ ไม่คิดการณ์ไกลเกิน เมื่อประสบความสำเร็จขั้นหนึ่ง ก็ค่อยเขยิบไปอีกขั้นทีละช้าๆ อย่างมั่นคง ต่อสู้กับความผกผันของชีวิตด้วยความมั่นคง จนสามารถกลับมายืนมองอดีตได้อย่างภูมิใจ
เป็นพ่อค้าหาปลา เลือดซามูไรยังแรงกล้า
แรงผลักดันอีกประการหนึ่งที่ทำให้ริวโซ่เป็นจอมโปรเจ็คท์ทั้งหลายก็คือ ความเป็นลูกผู้ชายที่ไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆ ทุกอาชีพที่ริวโซ่ดำเนินสานต่อ ล้วนมีต้นกำเนิดจากผลงานของโอชินแต่แรกเริ่ม ทำให้ริวโซ่อดรู้สึกละอายใจไม่ได้ว่าต้องพึ่งเมียมาตลอด แม้โอชินไม่เคยจะแสดงว่าตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจก็ตาม
เมื่อริวโซ่เข้ามาแรกรับกิจการร้านขายปลาต่อจากภรรยา เราอดขำกับความเงอะงะ วางตัวไม่ถูก เรียกชื่อปลาผิดๆ หากเป็นคุณชายริวคนเก่า คงสะบัดหน้าหนีด้วยความอดสูในอาชีพไร้เกียรติเป็นแค่พ่อค้าเร่ขายปลา แต่เมื่อไม่มีทางเลือก จึงยอมจำนนต่ออาชีพนี้ ละทิ้งยศถาบรรดาศักดิ์ไว้ชั่วคราว แล้วใช้เวลาที่มีอยู่ซ่อมแซม ตั้งต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวที่มีลูกยิ่วเป็นดวงใจ
ช่วงชีวิตเวลานั้น เป็นโมงยามแห่งคุณภาพ ครอบครัวโอชินเติมเต็มความสุขซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ หลังจากห่างเหิน แยกทางกันมานานนม
และถ้าไม่มีภาวะสงคราม ร้านขายปลาของโอชินก็ยังคงอยู่ จะอัตคัด ขัดสนบ้าง จับปลาได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็น่าจะอยู่รอดได้ด้วยความมานะ หมั่นเพียรของโอชินอีกแรง
ต่อเมื่อพี่ชายของริวโซ่มาจุดประกายความคิด ไฟทะยานในใจก็ลุกโหมอีกครั้ง กลับกลายเป็นริวโซ่คนเก่าที่ต้องการทำอะไรด้วยความสามารถของตัวเอง และหวังผลเกินร้อย (อีกแล้ว) หากครั้งนี้มีเดิมพันคือชีวิตของครอบครัวที่มีลูกๆเฝ้ามองอยู่
สถานการณ์เป็นฝ่ายเข้าข้างเมื่อริวโซ่ตัดสินใจเป็นพ่อค้าพันธมิตรกับทหาร (หรือถ้าพูดหยาบๆก็คือ พ่อค้าสงครามนั่นเอง) ครอบครัวมีกินมีใช้ ย้ายไปอยู่บ้านเรือนใหญ่โต ท่ามกลางสายตาดูแคลนของชาวบ้าน ริวโซ่หน้าบานอีกเมื่อได้รับเลือกเป็นหัวหน้าชุมชน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด ใจทะยานของริวโซ่เดินมาถึงวาระสุดท้าย เมื่อญี่ปุ่นประกาศตัวเป็นผู้แพ้สงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั้งประเทศไม่เคยคิด เพราะที่ผ่านมา รับฟังข่าวข้างเดียวมาตลอดว่า ทหารของสมเด็จพระจักรพรรดิได้ยกพลตีประเทศโน้นประเทศนี้สำเร็จด้วยดี จู่ๆจะให้เชื่อได้อย่างไรว่า ญี่ปุ่นกลายเป็นชาติที่สูญสลายแล้ว พระอาทิตย์ที่เคยเปล่งประกายสาดแสงทั่วแดนดิน กำลังจมมิดในความมืดมน
ที่สำคัญลูกชายสุดที่รักพร้อมคนหนุ่มอีกนักร้อยนับพัน ก็สลายไปกับพระอาทิตย์ที่จมมิดนี้ด้วย สลายไปบนแรงสนับสนุนและความเชื่อของผู้เป็นพ่อ
ในฐานะนักรบบูชิโด ความพ่ายแพ้คือสิ่งที่น่าอัปยศนัก ทว่า ความกล้าหาญในการยอมรับความผิดพลาดคือสิ่งที่สมควรยกย่องที่สุด คนที่แพ้จะกลายเป็นผู้ชนะเมื่อได้ชำระล้างจิตใจตัวเองได้ พร้อมรับคำตัดสินแห่งชะตากรรม
ริวโซ่ไม่ใช่คนเดียวที่ตัดสินชีวิตตัวเองเช่นนี้ ผู้ชายญี่ปุ่นอีกนับพันคนก็ตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตบั้นปลายด้วยเหตุผลเดียวกัน ยังไม่นับรวมถึงบรรดาฝูงนักบินกามิกาเซะบนน่านฟ้า ที่พลีกายเพื่อขอกลับไปสู่อ้อมแขนอบอุ่นของพระอาทิตย์
เช้าวันนี้ ริวโซ่ ชำระล้างร่างกายให้หมดคราบไคลความละอายอดสู ก้าวเดินสู่หลักไมล์ของผู้ชนะอย่างแน่วแน่
ลาก่อน ริวโซ่ พ่อค้าสายเลือดบูชิโดคนสุดท้ายแห่งอิเสะ
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 53 06:22:48
แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 09:33:14
จากคุณ |
:
กูรูขอบสนาม
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ธ.ค. 53 08:55:52
|
|
|
|