Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สัมภาษณ์ "น้องเก๋-เจษฎาวัลย์ จันทร์แตง" (อดีต)ภรรยา "โอ-วรุฒ วรธรรม" ติดต่อทีมงาน

ฉบับนี้ แขกรับเชิญในช่วง “Editor Zoom” ได้แขกรับเชิญสุดพิเศษจริงๆ เธอไม่เคยเปิดเผยมุมชีวิต

ที่ไหนมาก่อน เธอไม่เคยเล่าข้อเท็จจริงให้ใครฟัง ทุกวันนี้เธอลำบากอย่างหนัก กับลูกผู้หญิงตัวเล็กๆที่ต้องเลี้ยงดูลูกและแม่ของเธอ
เก๋หอบลูกมาสร้างชีวิตใหม่ที่ จ.ระยอง ด้วยเงินเดือนพนักงานชั่วคราวเพียงไม่กี่พันบาท โดยขาดการเหลียวแลจาก “ โอ ” วรุฒ วรธรรม
ชายผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี และครอบครัวของสามี สาเหตุ เป็นเพราะอะไร

วันนี้ เธอขอเปิดเผยข้อเท็จจริง กับ “ทีวี อินไซด์” ที่แรก ที่เดียว เป็นเพราะความไว้วางใจว่า “ทีวี อินไซด์” เสนอความจริง 100%
และอยากให้มีใครสักคนรับรู้เรื่องราวจากฝ่ายเธอบ้าง แต่ไม่ต้องการ “ป่าวประกาศ” แถลงข่าวผ่านสื่อ เพียงเพราะต้องการเป็นข่าว หรืออยากดัง
จึงเป็นสาเหตุทีเก๋พา น้องแอร์บัส หลบจากสังคมวุ่นวายที่กรุงเทพ ฯ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ระยอง
แต่พอได้ยินคำพูดบางประโยคที่ “โอ-วรุฒ”  ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เธอจึงตัดสินใจออกมาขออธิบายเรื่องราวที่มาที่ไปบ้าง


เธอยังยืนยันว่าไม่ได้ต้องการอะไรจากอดีตสามี และครอบครัวของเค้า แต่เธอขอพูดเพื่อขอความยุติธรรมจากสังคม โดยเฉพาะผู้ที่โจมตี
ต่อว่าต่อขานเธอโดยฟังข่าวเพียงด้านเดียว และไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่น่าเชื่อว่าคำสัมภาษณ์ที่ “โอ-วรุฒ” เพียรออกสื่อแล้วสื่อเล่า
กับคำอธิบายของเก๋นั้น เป็นเหมือน “หนังคนละม้วน” กันเลยทีเดียว ทีวี อินไซด์ ได้พบเธอและครอบครัวพร้อมหน้า
ดังนั้นจึงมีคำพูดของคุณแม่ พี่เขย และพี่สาวของเธอทั้งสองคน ในบทสัมภาษณ์นี้ด้วย


- เลิกกับพี่โอมานานหรือยัง ?

เก๋ : “ประมาณ 3-4 เดือนแล้วค่ะ”


- ตอนนี้ชีวิตเก๋ลำบากมั้ย ?

เก๋ : “ก็ลำบาก เงินเดือนที่ได้มา ครึ่งเดือนแรก เป็นค่านมลูก ค่ากับข้าว ส่วนครึ่งเดือนหลังเป็นค่าเช่าห้อง ตอนนี้โชคดีหน่อยที่แม่มาช่วย
เลี้ยงน้อง ‘แอร์บัส’ ตอนนี้เก๋คนเดียวก็ต้องเป็นทั้งแม่ และหัวหน้าครอบครัวค่ะ ก็พยายามทำโอที เพื่อได้เงินมาเพิ่มเติม (พูดไปน้ำตาคลอเบ้าไป)”


- สาเหตุที่แยกทางกัน ?

เก๋ : “ก็หลายอย่าง เป็นเรื่องของ ‘มือที่สาม’ ซึ่งมือที่สามก็มีหลายแบบ คนแรกเป็นผู้หญิงที่คอยโทรศัพท์มาหาพี่โอกับคุณแม่พี่โอแล้ว
พูดใส่ร้ายเก๋กับลูก ประมาณว่า น้องแอร์บัสไม่ใช่ลูกพี่โอ สาเหตุจากก่อนหน้าที่พี่โอจะมาจีบเก๋ เก๋มีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบ และแสดงตัวว่าเป็นคนโสด ไม่มีแฟน แต่จริงๆแล้ว เค้าโกหก เค้ามีแฟนแล้ว ซึ่งพอเก๋รู้ความจริง เก็ก็ไม่ยุ่งด้วย แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่หยุด ยังตามรังควานเก๋ด้วยวิธีการแบบนี้
อีกเหตุผลหนึ่งก็เรื่องผู้หญิง เก๋เห็นการกระทำของพี่โอที่เก๋ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นที่บ้าน เก๋ตกใจ เสียใจ ทำอะไรไม่ถูก รู้เพียงอย่างเดียวว่า
ทนไม่ได้แล้วต้องออกจากบ้านนี้แล้ว ก็เลยหอบลูกออกมา แล้วค่อยกลับไปเก็บของ”


- ตอนไปเก็บของ ทราบมาว่า ได้มีการเตรียมขนของของเก๋และแอร์บัส ออกมาเตรียมไว้แล้ว ?

เก๋ : “(ตอบด้วยเสียงเครือๆ) ใช่ค่ะ วันที่ไปตกลงกัน เก๋ก็กลัวว่าเค้าจะแย่งน้องแอร์บัสไป เก๋ต้องรีบไปขนของ แต่...ไม่ต้องขนค่ะ
เค้าขนของมากองไว้แล้ว ใส่ถุงให้เลย เก๋ก็เก็บของออกมา (หัวเราะทั้งน้ำตา)”


- ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ครอบครัวโอให้เก๋ตรวจดีเอ็นเอ เพราะไม่เชื่อว่าเป็นลูก เพราะมีข่าวออกมาว่า พี่โอเป็นหมัน ?

เก๋ : “เก๋ขอยืนยันว่าน้องแอร์บัสเป็นลูกพี่โอ แต่เมื่อคุณแม่พี่โออยากให้เก๋ตรวจดีเอ็นเอ เก๋ก็ถามว่า ถ้าตรวจแล้วเป็นลูกพี่โอแล้วยังไงต่อ
ทางเค้าก็บอกว่า เค้าก็มีปัญญาที่จะเลี้ยง ตอนนั้นหนูไม่ได้ทำงานเลย เลี้ยงน้องแอร์บัสอย่างเดียว ก็กลัวว่าทางเค้าจะมาเอาลูกเก๋ไป เลยไม่ได้ตรวจ ไม่รู้จะตราวจเพื่ออะไรถ้าต้องเสียลูกไป พี่โอเคยพูดกับเก๋ว่าเค้าเชื่อว่าน้องแอร์บัสเป็นลูกของเขา แต่เก๋มารู้ทีหลังว่า เค้าไปบอกคนอื่นตลอดว่า
น้องแอร์บัสไม่ใช่ลูกเค้า เก๋ก็เสียใจ”


- ตอนที่ใช้ชีวิตด้วยกัน เขาให้เงินเราไว้ใช้บ้างหรือเปล่า ?

เก๋ : “ตอนท้องไม่ให้ ตอนท้องก็ขอเอา ตอนคลอดแล้วให้เดือนละหมื่น น้องแอร์บัส 5-6 เดือน เค้าก็เพิ่มเป็นหมื่นห้า ก่อนหน้าจะเลิกกัน
ประมาณเดือนนึงเขาให้มา 2 หมื่น”


- หลังจากเลิกกันแล้วล่ะ มีเงินเก็บออกมาบ้างมั้ย ?

เก๋ : “ไม่มีเลยค่ะ ออกมาก็มีเงินติดตัวมาหมื่น ประมาณ 2-3 เดือน เขาก็ส่งเงินมาอีกหมื่น ตอนนั้นเค้าก็โทรมาแต่เก๋โกรธเค้าเลยไม่รับโทรศัพท์
เค้าก็มาหาพี่เขยพี่สาวเก๋ บอกว่าคิดถึงลูก ผมทำผิดมากมั้ย เค้าบอกพี่สาวว่าขอโทษ อยากคุยกับน้อง พี่สาวก็มาบอกเก๋
เก๋ก็เลยรับโทรศัพท์ เค้าก็ถามว่า จะเอายังไง เรื่องตรวจดีเอ็นเอ เก๋ก็บอกเค้าว่า ตรวจก็ได้แต่ต้องร่างสัญญากันไว้เรื่องลูก เค้าก็บอกจะนัดหมอ
เวลาผ่านไปสักพัก เราก็โทรไปถามเรื่องตรวจดีเอ็นเอ เค้าก็บอกว่ายังไม่ว่างเลย เค้าก็เงียบหายไปจนกระทั่งมีข่าวออกมา
เมื่อหลายวันก่อนเค้าก็โทรมา ถามว่า มีคนโทรมาหามั้ย หนูก็บอกว่ามีเยอะเลย จะให้ทำยังไง พูดยังไงเค้าก็บอกว่าไม่ต้องพูดอะไร
สายหลุดไปก็ไม่ได้คุยกันอีก”


- ตอนนี้ คุณแม่ และพี่ๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ?

พี่สาว : “ถ้าเขาจะมาให้เก๋ตรวจ จะไม่ให้ตรวจ เพราะไม่รู้จะตรวจเพื่ออะไร มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อความยาว สาวความยืดกันต่อไปอีก
ไม่จบไม่สิ้น วันดีคืนดี จะมาหา พูดนั่นพูดนี่ ถ้าตรวจไปแล้วรู้ว่าเป็นลูก แล้วเค้าจะมาแย่งน้องแอร์บัสไปพวกเราก็ไม่ยอม
ลำบากยังไงเราก็ช่วยกันเลี้ยงได้”

เก๋ : “ตอนแรกก็คิดว่าจะตรวจ แต่คนนั้นคนโน้นมาพูดมากๆ เข้าว่า ตรวจแล้วเค้าจะเอาลูกไปหรือเปล่า เพราะเค้าเหนือกว่าเราทุกอย่าง
ก็เลยไม่ตรวจดีกว่า”


- ได้ฟังพี่โอให้สัมภาษณ์สื่อมั้ย ?

เก๋ : หนูไม่ได้ฟังเองแต่เพื่อนมาเล่าให้ฟัง เริ่มจากเพื่อนๆ ส่งข้อความมาว่า เป็นไง ให้กำลังใจนะ ก็เสียความรู้สึก กำลังจะกินข้าว
กินไม่ลงเลยวันนั้น

- ความสัมพันธ์ระหว่างคบกัน ?

เก๋ : “ไม่เคยต่อว่าเขาเลยค่ะ เขาจะมองว่าเราเป็นเด็ก เก๋ก็ไม่อยากพูด จนออกมาจากบ้านหนูกับพี่โอไม่เคยทะเลาะกันเลยไม่เคยพูดไม่ดี
ไม่เคยว่ากันแรงๆ ไม่เคยมีปากมีเสียงกับที่บ้านเขาเลย”


- เขาเคยทำหน้าที่สามีที่ดีกับเรามั้ย ?

เก๋ : “ก็มีบ้าง แต่ส่วนมาก เขาก็จะหนักไปทางเพื่อน ห่วงเพื่อน”


- ตอนนี้ยังรักโอ หรือเปล่า ?

เก๋ : “ก็ห่วงเค้าค่ะ แต่กลับไปรักเหมือนเดิม คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเค้าเองก็ยังทำตัวเหมือนเดิม

พี่สาว : ก็ห่วงหลาน ถ้าเกิดเค้าต้องเอาแอร์บัสกลับไปเราก็ไม่ให้ เพราะกลัวว่าหลานจะกลับไปเจอสภาพเดิมๆ เจอสิ่งแวดล้อมที่พ่อเค้าเป็นอยู่
ที่น้องสาวเราเจอมาแล้ว ไม่รู้เค้าจะเลี้ยงแอร์บัสดีหรือเปล่า ถึงแม้จะอยู่กับพวกเราไม่สุขสบาย แต่พวกเราก็เลี้ยงเค้าด้วยความรัก”

เก๋ : “หนูคิดว่าถ้าตรวจดีเอ็นเอไปต้องมาสู้รบปรบมือกันอีก ก็กลัวตรงนี้ ตอนนี้เราก็ทำมาหากินของเราอยู่ มาอยู่ที่นี่เค้าก็ไม่ได้มาดูแลอะไรเราอยู่แล้ว”


- แล้วบอกน้องแอร์บัสว่าไง ?

เก๋ : “ทุกวันนี้หนูก็บอกเค้าว่า พ่อทำงานที่กรุงเทพ ถ้าพ่อว่างก็จะมาหา ก็คือพูดไปก่อนไม่รู้จะบอกเค้ายังไง ต่อไปก็ยังไม่รู้จะบอกยังไง
คือแอร์บัสเห็นรูปพ่อเขา เขาเอารูปมาหอม เห็นพ่อในทีวี เค้าก็เรียก ‘ป๊าๆ’ เขาจำได้แล้ว ไม่อยากให้ลูกกำพร้าพ่อ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง”

พี่สาว : “วันที่ไปเคลีย์กัน พี่โอเค้าไม่พูดอะไรเลย ให้แม่เค้าพูดฝ่ายเดียว แม่เค้าโทษทางน้อง ว่ารักลูกยังกับไข่ในหิน ไม่ดูแลสามี ไม่มีจริตจะก้าน ไม่เอาใจสามี ไม่เคยมีมารยา ไม่เคยทำงานบ้าน เค้าว่าแต่น้องหนูฝ่ายเดียว พี่โอเค้าก็พูดออกมาคำหนึ่งบอกว่า อย่าว่าแต่เค้าเลยโอก็ผิดเหมือนกัน”

เก๋ : “หนูเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง ต้องอยู่กับลูกตลอดเวลา พี่เลี้ยงก็ต้องมาช่วยบ้าง เพราะพี่โอไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูก หนูยังเคยขับรถพาลูกไปหาหมอ
ตอนเที่ยงคืนเองเลย  พี่โอโดยตัวเขาเองก็ดีกับหนูกับลูกแต่ถ้าโดนกระทุ้งก็จะเปลียนไป เวลาเขาดีเค้าจะมาเล่นกับลูก แต่ถ้าเขามีอะไรในใจ
เค้าก็จะเปลี่ยนไป เขาไม่ค่อยพูดอะไรให้เราฟัง ที่เราออกมาก็เหมือนมันทับถม แล้วเรื่องผู้หญิงใครก็ทนไม่ได้หรอก”


- แล้วคุณแม่ล่ะคะ ?

แม่ : “แม่ก็ห่วงเค้า สงสารเขา เค้าตัวคนเดียวกลัวเลี้ยงลูกไม่ไหว เงินเดือน 8,000 เก๋เขาก็ร้องไห้กับแม่ ไม่รู้ว่าจะไปรอดมั้ย ไหนจะค่าเช่าห้อง
ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านมลูกแล้วลูกก็โตขึ้นทุกวัน ตอนนี้ขวบห้าเดือน แล้วจะต้องเข้าโรงเรียนด้วย”


- แล้วคิดว่าจะต้องคุยอะไรกับพี่โออีกมั้ย ?

เก๋ : “หนูก็เคยแล้ว มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเป็นข่าวกันไปเป็นข่าวกันมา พูดไปทำให้ตัวเองเดือดร้อนเปล่าๆ อยู่ไม่เป็นสุข
ทุกวันนี้หนูก็กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้ว เครียด”

พี่สาว : “ตอนนี้กลัวผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานและถ้านักข่าวมา ไหนจะเรื่องส่วนตัวไหนจะเรื่องงานมีปัญหาแน่ๆ
ห่วงกลัวนักข่าวมาตามกัน เลยยังไม่อยากพบใคร อยากขอความเห็นใจกันด้วย ตอนนี้น้องเค้าเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วด้วย”

เก๋ : “เปลี่ยนชื่อใหม่ นามสกุลเดิมแต่แรก เพราะไม่ได้จดทะเบียน พี่โอเค้าบอกจะจดก็ยังไม่ได้จด บอกจะแต่งก็ไม่ได้แต่ง”

แม่ : “ตอนแรกโอเค้าบอกว่าจะแต่ง ไปๆมาๆ ก็บอกว่าให้น้องคลอดก่อนแล้วถึงแต่ง พอคลอดก็ยังไม่แต่ง เค้าไม่รักษาคำพูด
เราไม่อยากได้เงินเค้าหรอกนะ แต่เค้าเคยพูดไว้ แต่ไม่ทำตามที่พูด ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็เสียความรู้สึก ชาวบ้านชอบถาม ทำไมโอ ไม่มา
แม่ก็ต้องตอบว่า โอไม่ว่าง งานเค้าเยอะ  แม่ต้องคอยตอบคำถามชาวบ้าน แม่ก็ไม่อยากเจอใคร”

พี่สาว : “ตอนที่ทุกคนรู้ว่าเค้ามีแฟนเป็นดารา ทุกคนไม่มีใครดีใจ ก็ช่วยกันห้ามว่าอย่าคบ คิดดูดีแล้วเหรอ พี่ก็บอกเค้าเจ้าชู้เสเพล ประวัติเค้าโชกโชนนะ ที่บ้านทุกคนก็เป็นห่วง แล้วตอนนี้ อยากให้สื่อและประชาชนที่รับทราบข่าวสารเรื่องนี้ ได้เข้าใจน้องบ้าง เพราะเท่าที่เห็นมีฟีดแบคกลับมา
เหมือนมองว่าน้องเราเป็นคนไม่ดี”

พี่เขย : “โอเขาเคยมาหาผมที่บ้าน ขอคุยด้วย ในฐานะผมเป็นพี่ของเก๋ ก็นั่งคุยกัน เค้าถามผมว่า พี่ว่าผมผิดไหม ถ้าผมผิดพี่ด่าผมเลย
ผมก็ตอบว่า ผมไม่เคยด่าใคร ผมด่าไม่เป็นหรอก แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่ว่าผู้ชายทำแบบนี้แล้วผู้หญิงจะรับได้ ผมก็บอกไปแบบนี้
เค้าก็เล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟัง เป็นมรสุม ผมก็บอกแต่เพียงว่า โอต้องหนักแน่น เราเป็นลูกผู้ชายต้องหนักแน่น เค้าอยากคุยกับเก๋
ผมก็โทรบอกเก๋ว่าโออยากคุยด้วย เก๋ก็รับสาย วันที่น้องเก๋ไปเก็บของ ผมเป็นคนเอารถไปช่วยขนของ โอเค้าไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้คุณแม่เค้าพูด ผมก็ถามว่าทำไมไม่พูดอะไรเลยวันนั้นไม่เข้าใจเหมือนกัน เห็นของที่เค้าเอามากองไว้ให้ ผมแทบจะขับรถออกมาเลยไม่อยากเก็บออกมาอีกแล้ว”


- แล้วเก๋ไม่มีเงินเก็บเลยหรือ ?

เก๋ : “ก็มีเงินเก็บอยู่ไม่ถึงแสน เป็นเงินที่พี่โอให้เก็บเอาไว้ให้ลูก โดยเป็นเงินที่ได้จากการไปออกรายการโทรทัศน์ด้วยกันตอนนั้น
มีช่วงนึงที่พี่โอมีปัญหาเรื่องเงิน จึงขอยืมส่วนดังกล่าวไป พอมาทีหลังพี่โอเขาก็มายืมเงินก้อนนี้ไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่คืน เก๋ก็เสียดาย
ถ้ามีเงินก้อนนั้นอยู่ ก็พอช่วยเบาภาระช่วงที่เก๋ต้องพาลูกมาอยู่ข้างนอกได้บ้าง ค่าหมอที่นี่แพงมาก น้องแอร์บัสไม่สบาย 2 ครั้ง หมดค่าหมอ
ค่ายาไปเยอะ”

   มา ถึงบรรทัดนี้ ‘ทีวี อินไซด์’ รู้สึกว่าเรื่องนี้ เป็นชีวิตที่ “ยิ่งกว่านิยาย” มีทั้งมือที่สาม ซึ่งมาจากทางฝ่ายชาย และมือที่สามที่หวังจะแก้แค้นส่วนตัว อยากให้ผู้อ่านได้ใช้วิจารณญาณกันเองในการติดตามข้อมูลข่าวสารในเรื่องนี้ เพราะ ‘ทีวี อินไซด์’ ได้ทำหน้าที่เสนอข้อเท็จจริงทั้ง 2 ด้านให้ได้เห็นกัน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นิตยสารทีวีอินไซต์




แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 53 16:13:34

จากคุณ : แพนิดา
เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 53 16:09:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com