จริงๆ แล้วความเกี่ยวพันของชื่อ ต้องดูจากชื่อจริงค่ะ
ขอยกที่คุณ วรินทร์รตาเคยตอบไว้มาอีกที
ความคิดเห็นที่ 18
ขอแจมด้วยคนค่ะ
เราว่าในวายุภัคมนตราถ้าเนื้อเรื่องมันเป็นไปตามเรื่องที่เพื่อน ๆ เอาเรื่องย่อมาให้อ่านนะคะ ความหมายของชื่อจะมีความหมายมากขึ้นไปอีก
ทิชากร แปลว่า นก หรือ ผู้ที่เกิดสองครั้ง (เพราะ เกิดจากไข่ อยู่ในไข่ถือว่าเป็นการเกิดหนึ่งครั้ง พอลูกนกกระเทาะเปลือกไข่ออกมาจึงเป็นการเกิดครั้งที่สองค่ะ)
วายุภัค แปลว่า วายุ คือ ลม ส่วน ภัค มีความหมายว่า โชคลาภ หรือ เป็นมงคล (ทำไมเราไปนึกถึง นกวายุภักษ์ นะ ตามตำนานว่า นกชนิดนี้มีเสียงไพเราะมาก เมื่อนกร้องแล้วปวงสัตว์ทั้งหลายในป่าหิมพานต์ยังต้องหยุดฟัง) อาจแปลได้ว่า สายลมผู้มีโชค หรือ สายลมแห่งมงคลก็ได้ (แปล สามาสสนธิเอาเองค่ะ ผิดก็ขออภัยด้วยนะคะ)
ส่วนตัวแล้วเราว่าตามท้องเรื่อง สายลมที่พัดไม่หยุดนิ่งโชคดีที่เจอกับนกน้อยที่ทำให้ได้หยุดและมีชีวิตใหม่ (เพราะสาวกะทิเธอได้ช่วยเหลือลม) อีกนัยหนึ่งทิชากรก็ได้เกิดใหม่เป็นครั้งที่สอง เพราะ ความช่วยเหลือของสายลมเช่นเดียวกัน (ตามเรื่องย่อที่อ่าน)
อีกข้อนึงเราคิดว่าชื่อ วายุภัค ของลม น่าจะได้รับอิทธิพลจากนกวายุภักษ์มาไม่มากก็น้อย เพราะ โดยรวม ๆ แล้ว นกวายุภักษ์ ถ้าเทียบกับคนแล้วถือว่าเป็นตัวแทนบุคคลที่มีเสน่ห์ ตัวนกเสียงไพเราะจนสัตว์ทั้งป่าต้องหยุดฟัง ส่วนถ้าเป็นคนก็คือประชาชีทั้งหลายสะดุดใจ ซึ่งในที่นี้วางคาแรคเตอร์ลมให้เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ค่ะ
เรื่องธาราหิมาลัย
ทิพย์ธารา แปลว่า น้ำทิพย์
ภูวเนศ น่าจะประกอบจากคำสองคำ ภูว แปลว่า ผู้ที่เกิด ชเนศ แปลว่า ที่พึ่งของผู้อื่น ดังนั้นสมาสสนธิออกมา ได้เป็น ภูวเนศ หมายความว่า ผู้ที่เป็นที่พึ่งของผู้อื่น ก็เหมาะสมกับตำแหน่งองค์รัชทายาทดีค่ะ (อันนี้แปลเอง ผิดอย่าว่ากันน้า แหะ ๆ)
ส่วนตามละครเราเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ที่ว่าสื่อด้วย โลเคชั่น และ ชื่อเรื่อง ภูวเนศ เป็น รัชทายาท(ว่าที่กษัตริย์ซึ่งเป็นที่พึ่งให้ผู้อื่น) ประเทศปาลวัตรเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งเกิดของน้ำใสสะอาดชื่นเย็น แหล่งน้ำทิพย์ซึ่งก็เป็นที่พึ่งให้ปวงชนเช่นกัน ก็คนเราขาดน้ำได้ที่ไหน แต่ทั้งภูเขา และ แหล่งน้ำล้วนพึ่งพาอาศัย ไม่มีภูเขาก็ไม่มีแหล่งน้ำ ขาดน้ำภูเขาก็แห้งแล้ง ภูวเนศ และ ทิพย์ธาราจึงเป็นที่พึ่งของกันและกัน อีกนัยหนึ่งก็เป็นที่พึ่งของประชาชนในปารวัตรด้วย
ดวงใจอัคนี
อัคนี แปลว่า ไฟ
อัจจิมา แปลว่า ผู้มีแสงสว่าง ผู้รุ่งเรือง
ตามท้องเรื่อง เราว่าทั้งสองคนต่างนำมาแสงสว่างให้กันและกัน ในรายของอัจจิมาต้องดูแลบ้าน และ ธุรกิจของตัวเองด้วย ดังนั้นจึงเหมือนเป็นเสาหลัก และ ผู้นำความเจริญมาให้กับบ้าน ส่วนอัคนีรายนี้ชื่อแสดงนิสัยร้อนเป็นไฟ แต่ก็ร้อนเฉพาะกับคนที่ร้าย ส่วนคนในครอบครัวคนที่ตัวเองรัก ไฟร้อนแรงจะกลายเป็นไฟที่ให้ความอบอุ่น เป็นแสงที่ส่องทางค่ะ
ปฐพีเล่ห์รัก
ปฐพี แปลว่า ผืนดิน
เฌอเอม คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่ง
ผืนดินอุดมสมบูรณ์มีต้นไม้ พรรณไม้จะงอกงามก็เพราะดินดี ทั้งสองสิ่งส่งเสริม และ เป็นเหตุเป็นผลกันค่ะ ผืนดินขาดต้นไม้ก็ไร้ชีวิตชีวาบ่งบอกความแห้งแล้งขาดแคลน ส่วนต้นไม้ไม่มีผืนดินก็อยู่ไม่ได้ ทั้งปฐพี และ เฌอเอม จึงเป็นส่วนเติมเต็มกันและกัน บุคคลิกสองคนนี้ต่างกันคุณดินเคร่งขรึม ส่วนชะเอมก็น่ารักโก๊ะกัง ก็นำความสมดุลย์มาให้กันละกันพอดีค่ะ
โดยสรุปจากชื่อของตัวละคร และ เนื้อเรื่อง ตัวละครนำชาย และ หญิงต่างเกแสดงการเติมเต็ม และ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันค่ะ
จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 14:01:56
จากคุณ |
:
Zerbirus
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ธ.ค. 53 09:54:55
|
|
|
|