 |
ไหนๆก็ไหนๆ ขอเพิ่มเติมจากของจขกท ละกันครับในความเห็นส่วนตัว และเพื่อให้เพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆด้วย
ขอเริ่มจากปู่แมคคอยก่อน เท่าที่อ่านเรื่องราวของปู่ใน A-88 ปู่แกเป็นประเภทขอแค่มีเงินจ่ายแก แกหาของให้ได้หมด ^ ^ กรณีของเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์นั้นผมก็ว่าโอเวอร์เกินไปหน่อย แต่ในปัจจุบัน (หรืออดีต) การซื้อขายของพวกนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติครับ อย่างกองทัพเรืออินเดียก็ซื้อ carrier เก่าของ uk มาใช้ โดยปรับปรุงเพิ่มเติม หรือจีนก็ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน russia มาใช้ได้โดยการซื้อมาในฐานะเรือเปล่าๆ (ถอดอุปกรณ์เทคโนโลยีสูงออกให้หมด....แล้วมาใช้ลูกเล่นอัพเกรดทีหลัง)
แต่ปัญหาเรื่องความไม่สมจริงของ Area88 ก็คือ, ขั้นตอนการปรับปรุงต่างๆมันใช้เวลาค่อนข้างนาน (อาจจะเป็นปี หรือหลายปีสำหรับเรือชั้นนิมิตซ์) ทำให้ตารางเวลาจะดูผิดปกติไปบ้าง
สำหรับคนที่ค้าขายของแบบนี้มานานอย่างปู่แมคคอย ถ้าเทียบกับทีมงานของ หนูโกโก้ แล้วน่าจะพอๆกันหรือาจจะดีกว่าหน่อย ในเรื่องของระยะเวลาที่อยู่ในวงการ ทั้งเรื่องเส้นสายการข่าว ความน่าเชื่อถือในวงการและแหล่งการจัดหาสินค้า ^ ^ ถ้ามองในแง่ของแหล่งสินค้า ปู่แกอาจจะเหนือกว่าโกโก้ในเรื่องของการ "เข้าถึง" ยุทธปัจจัยต่างๆครับซึ่งน่าจะเป็นเรื่องเส้นสายส่วนบุคคลกันมากกว่า พ่อค้าอาวุธดังๆหลายคนในยุโรปก็ใช้เทคนิคนี้แหละครับในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นนายหน้าชั้นนำ โดยเพียงแค่รู้จักกับผู้ใหญ่ในกองทัพบางประเทศให้ช่วยจัดหาของให้
และโดยทั่วไปในยุคสงครามเย็น, การซื้อขายยุทโธปกรณ์หลักๆอย่างรถถัง/เครื่องบิน ถือเป็นเรื่องปกติมากครับ บางทีให้กันฟรีๆด้วยซ้ำผ่านนายหน้าเพื่อไปทำสงครามตัวแทนกันระหว่างค่ายเสรีกับคอมฯ ดังนั้นอาจจะไม่ใช่ฝีมือของปู่สักทีเดียว แต่เป็นเรื่องของนโยบายสมัยนั้นที่ปล่อยอาวุธแรงๆกันค่อนข้างอิสระ (อย่างขีปนาวุธสติงเจอร์, โทว์, F14 ที่เป็นไม้เด็ดๆ us ยังยอมปล่อยให้พันธมิตรอย่างไม่เสียดายเลย แถมหลายๆทีให้ฟรีด้วย)
สรุปก็คือ ถ้าเรื่องหาสินค้า, ปู่แก่น่าจะมีเส้นดีกว่า.... (แต่ก็น่าเสียดายที่ Area88 ไม่ได้ให้น้ำหนักกับเนื้อหาส่วนนี้เลย)
ผลงานการค้าขายของโกโก้นั้น ผมยังไม่เห็นการขายอาวุธล็อตใหญ่ๆอย่างรถถังหรือเครื่องบิน หรือของแปลกๆที่ดูแล้วน่าตื่นจาตื่นใจ ^ ^ ถ้านับผลงานของพี่ชายด้วย นี่ผมว่าเหนือกว่านะ, รายนั้นขนเป็นคลังอาวุธเลย ส่วนตัวโกโก้นั้นก็ใช่ว่ากระจอก, เพียงแต่เดี๋ยวนี้เครื่องบินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะแน่นอนนัก สำหรับกองทัพทั่วไปที่ไม่มีขีดความสามารถในการส่งกำลังบำรุงเพียงพอ, การใช้เครื่องบินหรือยานเกราะถือว่าเป็นเรื่องเหนื่อยมาก ถ้าไม่มีความรู้ทางเทคโนโลยีที่ดีพอ ถึงได้เครื่องบินดีก็ใช้งานได้ไม่กี่%
ดังนั้นโกโก้ขาย SAM (ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน) หรืออาวุธพวก AT (อาวุธต่อต้านยานเกราะ) ครับ เพราะพวกนี้เหมาะกับกองกำลังของลูกค้ามากกว่า เพราะไม่ได้มีสงครามที่ประกาศชัดเจนระหว่างนิติรัฐ และมันก็มีอนุภาพเพียงพอที่จะกดดันกำลังของฝ่ายศัตรู
ส่วนตัวมองว่าโกโก้ฉลาดมาก....ในการขายและเลือกของที่เหมาะที่สุด+ประหยัดตังค์ในกระเป๋าลูกค้ามากๆ....เพราะโกโก้อยากให้ลูกค้าชนะแบบเฉียดๆ....จะได้เป็นรัฐบาลแต่ต้องซื้ออาวุธกับพวกตนต่อไป(เพื่อชดเชยส่วนที่พัง
การค้าอาวุธในยุคนี้ มันไม่เฟื่องฟูแบบยุคสงครามเย็นหรือทำกันได้โครมครามแบบเมื่อก่อน มักจะโดนผูกขาดโดยไม่กี่ประเทศ โดยมากจะเป็นเรื่องของการเจรจามากกว่าการเร่ขายของ แต่ก็ไม่แน่อนาคตของ โกโก้อาจจะไปรุ่งกว่านี้ก็ได้เพราะปัจจุบันสินค้ามันมีให้ขายได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน ^ ^ ^ ปัจจุบันการค้าอาวุธก็ยังรุ่งเรื่องอยู่มากครับ โดยเฉพาะหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเพราะเมื่อก่อน พี่ใหญ่แต่ละค่ายให้กันฟรีๆหรือขายถูกๆ แต่ตอนนี้ไม่แล้วเพราะอาวุธระดับสูงของรัสเซียรั่วไหลไปตลาดทั่วโลก(ผ่านนายหน้าเถื่อน) ทำให้ประเทศต่างๆได้ครอบครองเทคฯระดับสูงอย่างรวดเร็ว บีบให้ US, สหภาพยุโรปต้องรีบออกมาปกป้องตลาดค้าอาวุธของตนมากขึ้น นั่นเป็นสาเหตให้เกิดการทำตลาดขนานใหญ่เลย
.....ใครจะคิดหละว่าเดี๋ยวนี้มีโฆษณาขายเรือดำน้ำ, เรดาห์, คอมพิวเตอร์ควบคุมการยิง (FCS) ลงทีวีกันเหมือนกับเครื่องซักผ้า...
ตัวอย่างตลาดช้อปปิ้งปัจจุบันก็อย่างเช่น
- ทั้งในคาบสมุทรบอลข่าน ที่ตอนนี้อาวุธสาย NATO กำลังมาแรงมากจากการรีโนเวทกองทัพยุโรปตะวันออก - พร้อมๆกับตะวันออกกลางก็มีการช้อปปิ้งขนานใหญ่ตามภาวะทางการเมืองของอิหร่าน - ตะวันออกไกล ช่วงนี้ระบบ Radar X-band + ขีปนาวุธต่อต้านอาวุธยุทธศาสตร์กำลังขายดี รวมถึงเรือดำน้ำต่างๆ - แอฟริกากลาง, ก็เป็นโซนขายอาวุธทหารราบที่ใหญ่โตมากๆและเป็นล่ำสัน นี่ยังไม่นับอเมริกาที่ขยายตัวผ่านเครือข่ายยาเสพติดด้วยนะ
ดังนั้นถ้าเป็นโลกความเป็นจริง, ตอนนี้โกโก้คงกำลังยุ่งน่าดู
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 53 01:42:04
จากคุณ |
:
Kross_ISC
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 53 01:39:05
|
|
|
|
 |