หากมันต่อเนื่องไป ถึง ยุคหลาน เหลน อย่างนี้ไปเรื่อยๆ
อารมณ์มันจะเหมือนกับ ซิกซ์ น่ะครับ
ทำอย่างนี้ซ้ำๆไปเรื่อยๆ เป็นเหมือนการ เสพ อย่างหนึ่ง
สุดท้าย บ้านเราก็จะเปลี่ยนไปทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วแต่จะเป็นจะอะไรที่ก็ต้องเกิด
อย่างว่าแหละ 2 อย่าง ที่กล่าวมา มันก็เหมือนกับ เรื่องหนึ่งที่ รุ่นพี่เราเลยเล่าไว้เลย (ตอนนี้เค้าคนนั้นจากเราไปแล้วเพราะอุบัติเหตุรถยนต์)
บอกว่า
เด็ก 2 คน
คนหนึ่งตั้งใจเรียน เรียนก็เรียน ไม่เคยโดดเรียน ไม่เกเร กลับบ้านตรงเวลา สอบได้คะแนนดีเยี่ยม อนาคตคงไกล
อีกคนหนึ่งตรงกันข้าม ตรงกันข้ามกับคนแรกทุกอย่าง โดดเรียน เวลาสอบก็ล็อกคนอื่น ไม่ตั้งใจเรียน เที่ยวเตร่ไปทั่ว
เค้าถามเราว่า 2 คนนี้ใครกันที่ ปรกติ ที่สุด
เราตอบไปว่า คนที่ 1 เพราะเค้าเก่งอะไรดีกว่าอีกคน
แต่รุ่นพี่บอกว่า คนที่ 2 ต่างหากที่ปรกติที่สุด
เราถามว่า ทำไม
รุ่นพี่ให้คำตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาของคนเราที่จะต้องมีเรียนมีเล่นมีทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ ไม่ว่าจะสักครั้งในชีวิต หรือ กี่ครั้งก็ตาม
หาก คนที่ 1 เอาแต่ทำอะไรอยู่ในกรอบ อย่างนี้ เค้าเรียกว่า มันไม่ปรกติแล้ว เหมือนกับ เป็นหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมสั่งให้ทำอะไรก็ทำอย่างนั้น
คนที่ 2 ต่างหากที่ ปรกติ ที่สุด เพราะนั้นคือสิ่งที่เรียกว่า มนุษย์ อย่างแท้จริง มีอารมณ์ มีความรู้สึก สนใจกับสิ่งรอบด้าน
ใครจะว่าอะไรก็ตามสบายน่ะครับ
จากคุณ |
:
Blackrx
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ธ.ค. 53 00:06:34
|
|
|
|