Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
SPOILER!!! Otoyomegatari ~ตำนานรักเจ้าสาว~ ตอนที่ 15 - พบกันอีกครั้ง - ติดต่อทีมงาน

กลับมาพบกับ Spoil ราย 2 เดือนเรื่องนี้กันอีกรอบนะครับ

ตอนนี้รู้สึกเหมือนเขียนยากกว่าปกติแฮะ คงเพราะเป็นตอนที่ตัดไปตัดมาเยอะ แล้วก็มีฉากที่ใช้การกระทำสื่อความรู้สึกค่อนข้างมากด้วย เลยออกจะบรรยายฉากในเรื่องลำบากไปนิด ถ้ารู้สึกว่ามีตรงไหนติดขัดหรืออ่านลำบาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ

ว่าแล้วก็เชิญชม Spoil กันได้เลยครับ :)










เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่สมิธโดนตาแก่ที่มาบังคับขอทาลัสไปเป็นเมียน้อยให้ลูกชายใส่ร้ายว่าเป็นสายลับของพวกอังกฤษ เลยโดนทหารที่อยู่ในเมืองรวบตัวซะ โดยหลังจากถูกรวบตัว พวกทหารก็เอาสัมภาระของสมิธออกมาค้นเละเทะจนทั่วทุกซอกทุกมุม ค้นไปค้นมาจนเจอเอกสารยืนยันตัวตนที่ทางสถานกงสุลของอังกฤษเป็นผุ้ออกให้ (ตรงนี้ทำให้เราได้รู้ด้วย ว่าชื่อเต็มของตาสมิธแกคือ "เฮนรี่ สมิธ") กับสมุดบันทึกที่สมิธใช้สำหรับบันทึกการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ซึ่งเอกสารเหล่านี้ก็ถูกยึดไว้จนหมด เพราะคิดว่าอาจมีรหัสลับหรือบันทึกลับอะไรซ่อนอยู่ก็ได้ ส่วนตัวสมิธเองโดนแยกออกไปเค้นสอบต่างหาก

ระหว่างการสอบสวน สมิธพยายามอธิบายกับพวกทหารว่าตัวเองไม่ใช่สายลับหรืออะไรตามที่พวกนั้นกล่าวหาเลย แค่เดินทางมาเพราะสนใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่เท่านั้น แต่ไม่ว่าสมิธจะยืนยันอย่างไร พวกทหารก็ไม่ยอมเชื่อ ยังคงพยายามสอบสวนสมิธเรื่องสายลับต่อไป แต่สืบไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้ความอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที

ลงท้ายเมื่อเห็นว่าเค้นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหลังจากสอบสวนกันอยู่พักใหญ่ พวกทหารเลยเอาสมิธไปขังไว้ในคุกของป้อมทหารก่อน จากนั้นจึงไปปรึกษาทหารหนวดเฟิ้มท่าทางเป็นหัวหน้าว่าจะให้ทำยังไงต่อไป จะส่งตัวให้พวกรัสเซียไปจัดการกันเองมั้ย เห็นว่าก่อนหน้านี้พวกรัสเซียที่รักษาการณ์อยู่ตามชายแดนก็เร่งๆ ถามเรื่องนั้นมาอยู่นี่ หัวหน้าทหารก็บอกแบบไม่ค่อยพอใจนัก ว่าที่นี่ไม่ใช่รัสเซีย ถึงรัสเซียจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องส่งตัวคนที่ทางเราจับได้ให้กับทางนั้น และบอกให้ทหารไปแจ้งกับผู้บัญชาการว่าทางกองทหารของที่นี่จะเป็นคนสืบสวนหาตัวจริงของชายชาวอังกฤษคนนี้เอง ทหารคนหนึ่งได้ยินดังนั้นก็แย้งว่ายังจะต้องสืบสวนอะไรกันอีก หลักฐานก็เห็นกันอยู่ทนโท่ในสมุดบันทึกนั่นแล้วไม่ใช่เหรอ (เอ่อ ขอโทษครับ เค้ามีแค่บันทึกการวิจัยยังจะแถสดแถเปื่อยว่าเป็นเอกสารราชการลับอีกเรอะ) หัวหน้าทหารนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจใหม่ว่า เรื่องแบบนี้ขืนจัดการสุ่มสี่สุ่มห้าจนโดนเอาไปใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเรื่องกับพวกอังกฤษละก็มีหวังเป็นเรื่องแน่ๆ ดังนั้น ให้จัดการอย่างรอบคอบที่สุด อย่าให้พวกรัสเซียรู้เรื่องเด็ดขาด

"เอาเถอะ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก" หัวหน้ากองทหารว่า "ถ้ามันเป็นสายลับจริงๆ ทางประเทศแม่ของมันคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ให้ตายอยู่ที่นี่เองนั่นละ"


-------------------------------------------------------------------------


ฝ่ายสมิธหลังจากถูกเอาไปคุมขังไว้ ก็พยายามร้องบอกกับทหารที่เฝ้ายามอยู่ให้ช่วยติดต่อสถานกงสุล ให้ช่วยติดต่อทูตอังกฤษให้ด้วย เพื่อให้มายืนยันว่าเขาไม่ใช่สายลับจริงๆ แต่ไม่ว่าจะตะโกนโวยวายอย่างไร ทหารเฝ้ายามก็แกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเสียทุกครั้ง จนสมิธหมดแรงเลิกตะโกนไปเอง

ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่นั้น สมิธก็ยังถูกสอบสวนอยู่เป็นระยะๆ เป็นต้นว่าระหว่างเดินทางแวะไปที่ไหนมาบ้าง ไปทำอะไรมาบ้าง ซึ่งสมิธก็พยายามบอกกับทหารที่มาสอบสวนว่าให้ช่วยติดต่อเพื่อนในอังการา (ปลายทางที่สมิธจะเดินทางไป) ให้มาช่วยรับรองตัวตนให้หน่อย แต่คำตอบที่ได้รับก็ยังคงเป็นการปฏิเสธเช่นเดิม

สุดท้ายเมื่อเห็นว่าพูดอะไรไปก็ไม่ได้ผล สมิธจึงมานั่งจุมปุ๊กอยู่ในห้องขัง พยายามทำหัวที่ฟุ้งซ่านด้วยความคิดด้านร้ายให้เยือกเย็นลงเพื่อหาทางเอาตัวรอดออกจากคุกแห่งนี้ไปให้ได้แบบครบ 32 (ระหว่างที่โดนขังอยู่ มีฉากขำๆ ที่สมิธนั่งตื่นอยู่คนเดียวตอนกลางคืนแล้วคิดถึงตอนโดนทาลัสจูบเมื่อตอนที่แล้วด้วย...น่ารักแท้ๆ สมิธคุงเอ๊ย)

หลายวันผ่านไปหลังจากถูกคุมขัง (นานแค่ไหนโปรดสังเกตใบหน้าของสมิธในรูปข้างล่างได้...หนวดเคราครึ้มยังกะโจรเลยทีเดียว) ทหารก็เข้ามาปล่อยตัวสมิธ บอกว่ามีคนมารับรองตัวตนให้แล้ว ปล่อยตัวเสร็จ ทหารก็พามาที่ห้องรับรองภายในป้อมทหาร เมื่อไปถึงก็พบหัวหน้ากองทหารยืนอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง เป็นชายหนุ่มพื้นเมืองวัยไม่ห่างจากสมิธนัก สวมหมวกคล้ายหมวกกะปิเยาะสีดำ หน้าตาท่าทางดูเป็นมิตร เมื่อเห็นสมิธ ชายหนุ่มคนนั้นก็ตรงเข้ามาหาพร้อมยิ้มแย้มทักทายอย่างร่าเริงทันที เล่นเอาสมิธงงเป็นไก่ตาแตกว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้เป็นใครกัน

"ก็คนนำทางที่ท่านขอให้นำทางไปอังการาไงล่ะครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเองทันควัน เล่นเอาสมิธอึ้งไปอีกรอบ ก่อนจะถามต่อไปว่ามาช่วยรับรองเอกสารยืนยันตัวตนให้เขาเหรอ ชายหนุ่มนั้นก็บอกว่า กรณีแบบนี้ของพรรค์นั้นมันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้หรอก ต้องใช้จดหมายหรือสาสน์รับรองจากคนใหญ่คนโตในแถบนั้นเท่านั้นแหละ พวกทหารถึงจะยอมเชื่อ ว่าจบก็ขยิบหัวไปทางจดหมายในมือที่หัวหน้ากองทหารกำลังอ่านอยู่นั่น ซึ่งเป็นจดหมายจากตระกูลฮาซัน ตระกูลใหญ่โตที่รับรองสมิธให้เดินทางไปที่อังการานั่นเอง


--------------------------------------

โฉมหน้าสุดหล่อของเจ้าหนุ่มคนนำทางที่ออกมาช่วยสมิธยามเข้าตาตาย กับโฉมหน้าเปื้อนหนวดเคราของบักสมิธ

คิดไปเองรึเปล่านะว่าหน้าตาหมอนี่คล้ายๆ อาละดินเวอร์ชั่นของดิสนีย์ไงชอบกล

 
 

จากคุณ : Drake
เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 53 03:47:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com