[สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก] ข้อสันนิษฐานเรื่อง ปิ่นกับโชนและโชนกับน้ำ... (กระทู้มีสปอยล์)
|
 |
พอดีเพิ่งได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้...ไม่รู้คนอื่นจะเลิกอินกันหรือยัง...แต่ผมยังอินอยู่เลยขอแสดงความคิดเห็นครับ...
ออกตัวก่อนว่า...ผมเป็นคนนิสัยเสียหน่อยนึง...ตรงที่ผมเป็นคนดูหนังแล้วชอบคิดมาก...ชอบหาความสมเหตุสมผลของหนัง...มีหนังหลายเรื่องที่ระหว่างดูผมชอบมาก...แต่พอหนังจบแล้วมานั่งคิด...แล้วหาความสมเหตุสมผลไม่ได้...ผมก็พาลไม่ค่อยชอบเอาเสียดื้อๆ...
แต่กับหนังเรื่องนี้มันพิเศษ...คือหนังมันมีเสน่ห์ตั้งแต่ต้นจนจบ...ผมทำใจให้ไม่ชอบไม่ได้ครับ...ผมจึงดูใหม่แต่ต้นโดยแทบจะทันที...เพื่อหาเหตุและผลของมัน...
หลังจากดูหนังจบ3รอบ...ผมพบความจริงส่วนตัวสองอย่างว่า...หนึ่งผมชอบน้องใบเฟิร์นมาก...แต่ชอบน้องน้ำมากกว่า...สองผมว่าหนังเรื่องนี้มันมีความสมเหตุสมผล...
ไม่รู้ว่า 2 ประเด็นนี้จะพูดกันไปหมดหรือยังช่วงหนังเข้าโรง...และไม่รู้ว่าผมจะตีความได้ตรงกับที่ ผกก. อยากสื่อหรือเปล่า...แต่ผมคิดว่า...
1. ปิ่นกับโชนไม่ได้เป็นแฟนกัน...และไม่เคยเป็นแฟนกัน...
1.1 ตรงกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของโชนเขียนว่า ปิ่นรักโชนได้มั้ย?...คำว่าได้มั้ยถูกขีดฆ่าด้วยปากกาสีเดียวกัน...เป็นการขอความรักในวันนี้...ไม่ใช่อาทิตย์ที่แล้ว...
1.2 หลังเสื้อของปิ่นเห็นคำว่า alone...เขียนโดยโชน...ซึ่งน่าจะมาจากคำว่า You'll never walk alone...เป็นคำขวัญของทีมฟุตบอลทีมโปรดของผม...เป็นคำที่มีความหมายว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน...เป็นคำที่เพื่อนชอบเขียนให้กันตอน Fairwell...อาจจะเป็นคำที่คนรักเขียนให้กันก็ได้...แต่ไม่น่าจะเขียนให้กับคนที่เพิ่งมาบอกรักกันในวันนี้...อย่าว่าแต่โชนก็รู้ตัวดีว่า...วันนี้ตัวเองรักใคร...รักลึกซึ้งเพียงไหน...คำๆนี้ย่อมไม่ได้เขียนให้ในนามของคนรัก...แต่เขียนให้เพื่อนรัก...9 ปีผ่านไปโชนก็ยังไม่ทอดทิ้งเพื่อนคนนี้จิงๆ...
1.3 ผมไม่คิดว่าผู้ชายอย่างโชนจะเลือกวิธีการ...ตัดใจจากใครคนหนึ่ง...ด้วยการคบใครอีกคน...
1.4 ถึงแม้ข้อ 1.3 ผมจะคิดผิด...ผมก็ไม่คิดว่าใครอีกคนของโชน...จะเป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิทที่สุด...
1.5 คำตอบของโชนที่ให้กับน้ำ...เป็นคำตอบที่สืบเนื่องมาจากคำถาม...เป็นเพราะคำถามนั้นผิด...คำตอบจึงผิด...มันเป็นคำถามที่ตอบอย่างอื่นไม่ได้...สำหรับคนที่น้ำท่วมปาก...และเลือกที่จะเก็บความรักไว้ในใจ...
2. โชนกับน้ำต้องเคยพบกัน...ก่อนน้ำจะไปอเมริกา...
2.1 พิธีกรถามน้ำว่าจำสมุดเล่มนี้ได้ไหม...รู้สึกคุ้นๆไหม...ย่อมไม่ใช่ลักษณะการถาม...ต่อคนที่เป็นเจ้าของและครอบครองสมุดเล่มนี้อยู่...
2.2 ก่อนคุณจะจากใครสักคนที่คุณรักสุดใจ...ไปในที่ที่แสนไกล...หากคุณเพิ่งรู้ว่าใครคนหนึ่งคนนั้น...ก็มีคุณอยู่ในใจมาเสมอ...คุณรับรู้ผ่านภาพถ่าย...ภาพที่ถ่ายจากเขา...รูปของคุณ...คุณจะอยากเก็บสมุดภาพเหล่านั้นไว้เอง...หรือจะอยากให้เขาเก็บไว้ครับ?...ด้วยหวังให้โชนไม่ลืมเลือนช่วงเวลาเหล่านั้นไป...ผมเชื่อว่าน้ำต้องทำทุกวิถีทางที่จะคืนสมุดเล่มนี้ให้กับโชน...เพราะตัวของน้ำนั้น...รับรู้แล้ว...เข้าใจแล้ว...ความรักของโชนก็ยาวนาน...สวยงาม...เช่นเดียวกัน...
2.3 กรุงเทพฯ...สนามซ้อมทีมบางกอกกลาส...คงไม่ไกลเกินความสามารถของแก๊งหน้าปลวกที่จะไปถึง...และเพชรบุรีก็ไม่ไกลเกินกว่าที่โชนจะกลับมาเยี่ยมพ่อ-แม่...กลับมาให้เห็นหน้าคนรัก...
2.4 ประเทศอเมริกา...บอกใครว่าจะไปอเมริกา...ไม่ใช่ว่าบอกวันนี้...แล้วพรุ่งนี้จะได้ไป...จะไปเยี่ยมญาติ 10 วัน 1 เดือน ยังยากเย็นแสนเข็น...นี่น้ำจะไปอยู่ไปเรียนหลายปี...ระเบียบวิธีปฏิบัติมันซับซ้อน...ไหนจะต้องสอบชิงทุนให้ได้...ไหนจะต้องทำเรื่องขอวีซ่า...หลังจากเรื่องวันนั้น...น้ำต้องอยู่ที่ไทยอีกอีกอย่างน้อย 3-6 เดือน...ซึ่งเป็นเวลามากพอที่จะมีโอกาสพบโชนอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้ง...
2.5 การที่คนสองคนจะรอคอยกันและกันได้ถึง 9 ปี...มันต้องมีมากกว่าการทิ้งไดอารี่ไว้ดูต่างหน้า...โชนเป็นเด็กอายุ 17-18 อาจจะเป็นไปได้ที่จะมีความคิดที่มั่นคง...แต่โชนจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเด็กสาวอายุ 14-15 อย่างน้ำ..จะไม่คิดว่านี่เป็นแค่ฝันตื่นหนึ่ง...การเต็มใจรอคอย 9 ปีของโชน...ย่อมไม่ได้มาจากการทิ้งสมุดไว้หน้าบ้าน...ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าคนที่อยากให้อ่าน...ได้อ่านมันหรือเปล่า...การรอคอยนี้ต้องมาจากการรับรู้ว่า...เธอคนนั้นได้รู้แล้ว...เข้าใจความรักของโชนแล้ว...การเอ่ยปากสัญญาอะไรกันหรือไม่...ไม่ใช่ประเด็น...ประเด็นเดียวที่จะทำให้ความสมเหตุสมผลของการรอคอย 9 ปีนี้เกิดขึ้นได้...คือทั้งสองฝ่าย...ต้องมีความรับรู้และเข้าใจที่ตรงกัน...
หากผมปะติดปะต่อเรื่องได้ไม่ตรงใจใครก็ขออภัยด้วยนะครับ...
ขอบคุณผู้เขียนบทเรื่องนี้...ที่เขียนให้น้ำไม่ได้เป็นเจ้าของสมุดภาพเล่มนี้...ซึ่งนั่นเป็นความสมเหตุสมเหตุผล...ที่ทำให้ผมรักและชอบหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ...
ขอให้น้องใบเฟิร์นโชคดีในสายงานอาชีพนักแสดงนะครับ...น้องใบเฟิร์นในนามของน้ำ...คนเดียว...เอาอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องจริงๆ...แววตาของน้ำทั้งเรื่อง...เป็นแววตาที่ทำให้ผมเชื่อว่า...ผู้หญิงคนนี้สามารถรอคอยความรักได้12ปีจริงๆ...ฉากบอกรักในสระน้ำสื่อสารได้ดีมาก...คงเป็นฉากที่อยู่ในใจผมไปอีกหลายปี...
ขอบคุณผู้ ผกก. และผู้สร้างภาพยนต์เรื่องนี้...ที่หยิบยกเอาเรื่อง "แรงบันดาลใจจากความรัก" มาเป็น Point ของเรื่อง...
แรงบันดาลใจจากความรักมีอยู่จริงแน่นอนครับ...
จากคุณ |
:
นายซอมซ่อ
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ธ.ค. 53 19:56:21
|
|
|
|