((365 วันแห่งรัก)) มุมมองละเอียดเล็กๆในชีวิต ความตั้งใจที่ท้าทายวงการบันเทิงและคนดู (ภาค 2)
|
 |
เคยเขียนไปครั้งหนึ่งนานมาแล้วว่า เป็นละครที่มีมุมมองละเอียดมาก เป็นความตั้งใจที่น่าจับตามอง
อยากจะขอต่อเนื่องอีกเล็กน้อย เพราะไม่อยากให้คนที่ศึกษาละครไทยจริงๆ ได้พลาดเลย ถือว่าเป็นภาคสองก็แล้วกัน
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า หากแฟนละครไทยคนไหน ต้องการจะติดตามละครฉบับหวานสูตรสำเร็จ กุ๊กกิ๊กกันเสมือนพบได้แต่ในฝัน ละครเรื่องนี้ คงไม่ตอบสนองนัก
เหตุเพราะว่า มันเป็นละครที่แหวกขนบละครไทย แทบจะสิ้นเชิงในทุกสูตรสำเร็จ
เริ่มตั้งแต่การเปิดเรื่องด้วยการแต่งงาน หวานแหวว จนเหมือนฉากจบของละครไทยทั่วไป แล้วมันจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร
ส่วนหนึ่ง 365 วันแห่งรัก มันดำเนินไปได้ ด้วยพลังการแสดงของพระนาง ที่แบกรับเอาเรื่องราวที่ "จริงยิ่งกว่าจริง" มาไว้ และถ่ายทอดด้วยฝีมือระดับครูกันเลยทีเดียว
เรื่องที่มัน "จริงยิ่งกว่าจริง" เคยเป็นข้อยกเว้นการสร้างละครไทยมาช้านาน แต่มาถึงวันนี้ ก็ถูกเรื่องนี้ฉีกกฎอย่างไม่ใยดี
ความจริงละเอียดขนาดว่า บทสนทนา กับ ท่ากอด นอนตัก นั่งตักบนเก้าอี้โยก หรือการกอดตอนแปรงฟัน เสียงลมหายใจสะท้าน ก็ถูกสื่อออกมาแทงใจคนดู (จนคนดูสาวๆ บางคนรับไม่ได้เลยทีเดียว ที่ "พี่เคน" ของพวกเธอโดนกอดกระหวัด จูบถี่เกินพิกัดไปมาก)
ฉากคนใช้ป้องหูแอบฟังเจ้านาย ออกมาเล่นตลกหน้าม่าน อันตรธานไปจนหมดสิ้น
ฉากกินข้าวบนโต๊ะ ยอดฮิตของละครไทยแทบไม่เหลือ จะว่าไป ยังไม่พบเสียด้วยซ้ำ
มุมมองในละครไทยที่ว่า คาแรกเตอร์พระเอกต้องหล่ออบอุ่นเพอร์เฟกฮีโร่ กลับถูกฝนให้กลม มิติของความเป็นพระเอกกลับถูกเติมสีเทาเข้ามา กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เราเห็นดาดดื่นทั่วไป
นางเอกก็เช่นเดียวกัน กลายเป็นตัวละครสีเทา ที่มีทั้งดีและไม่ดีในตัวเอง ความขี้หึงคือสิ่งที่มีกันในตัวหญิงทุกนาง แต่ขณะเดียวกัน ลัลกลับเป็นตัวแทนของความกล้าและความรักที่เปิดเผยจริงใจ
และตัวละครทุกตัวก็เป็นเช่นนี้ ไล่มาตั้งแต่พี่ติ้ง ภาวิช พี่ดา วิน แม่ของลัล ล้วนเป็นสีเทา มีมุมดีและเลวกันหมดทุกคน ซึ่งเป็นอีกข้อที่หาพบยากในละครไทยทั่วไป
จะเป็นความตั้งใจของคนทำละครอีกหรือไม่ก็ตาม แต่ละครเรื่องนี้ คนดูตกอยู่ในสภาพ "ดูแล้วลุ้น ลุ้นแล้วคิด คิดแล้วปล่อยวางไม่ได้" ซึ่งแหวกกฎสำคัญมากของดราม่าแบบไทยๆ ที่ "ดูแล้วให้ผ่านไปวันๆ เก็บตกตามฝันของตัวเองให้มากที่สุดก็พอ"
วงการบันเทิงไทย บางทีก็ผ่านไปวันๆ แบบละครดาดดื่นทั่วไปนั่นแล
การท้าทายคนดูอย่างมากครั้งนี้ คนที่แบกรับการฉีกกฎเกือบทั้งหมดคือ ผู้กำกับ และนักแสดง ที่หาวิธีการใหม่ๆ มาถ่ายทอดได้อย่างน่าทึ่ง
เรื่องนี้พิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า ทั้งเคน และ แอน ก้าวผ่านข้อจำกัดของละครไทยไปไกลเกินคาด ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตผู้กำกับ อีกส่วนหนึ่งขอยอมรับว่า ตอนแรกประเมินสปิริตคู่นี้ไว้แค่ระดับหนึ่ง
แต่ความสามารถทางการแสดงของทั้งคู่ เป็นพลังที่สำคัญมากในการผลักดันให้ทุกอย่างออกมาในขั้นดี รวมทั้งนักแสดงประกอบอย่าง ญานี สุประวัติ และ ปนัดดา ที่ดูแปลกตาไปมาก
ไม่ใช่คนดูทุกคนแน่ ที่จะได้ความบันเทิงเริงรมย์ขั้นสุดยอดจากละครเรื่องนี้ แต่ก็มีคนดูกลุ่มใหม่ๆ (ได้ข่าวว่าเป็นคุณสุภาพบุรุษอีกหลายท่าน) กลับรู้สึก สะใจและตามติดในอารมณ์....
"ความสัมพันธ์ของคนเรา ถึงที่สุดแล้ว มันต้องคิดไปไกลกว่าการรักตัวเอง และละทิ้งเรื่อง ถูกผิด กันเสียบ้าง ชีวิตไม่ได้ขาวดำแบบในละคร แต่มันซับซ้อนและไม่แน่นอนตลอดเวลา"
จะไม่แปลกใจเลยว่า ละครที่เล่นกับคนดู จนทำให้รู้สึกว่า มันสะใจที่ได้ดู ทั้งๆที่มันไม่ใช่หนังบู๊ แต่มันเติมเต็มอะไรบางอย่างให้ชีวิตและให้ความหวานที่ไม่ "หน่อมแน้ม"
จะคว้ารางวัลจากหลายๆเวทีในปีหน้า
แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 53 00:26:34
จากคุณ |
:
Critique
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ธ.ค. 53 00:13:29
|
|
|
|