ปิงคงหมดหวังที่จะ ปีนต้นไม้ได้เสียแล้ว...เป็นได้แค่หมีซีเมนต์
สัญชาติห้องกรงตลอดไป...
สังเกตเห็นมี้ฮุ่ยไปยืนเกาะต้นไม้ในสวน แล้วเงยขึ้นไปดูหลายๆครั้ง
พอปิงมาก็ไม่ให้ปิงปีน ฮุ่ยคงรู้ว่าแหวนนั้นคือเค้าห้าม หรืออาจคิดว่า
มีสิ่งแปลกปลอมบนต้นไม้ จึงไม่ให้ลูกปีน
ถ้าคิดว่าฮุ่ยไม่ให้ปีนเพราะกลัวปิงตก
กลับไปดูตอนปิงย้ายเข้าส่วนจัดแสดงใหม่
พอปิงจะปีนขึ้นคานที่อยู่เหนือบันไดลิง..ฮุ่ยคอยจับลากลงมา
แต่ปัจจุบันฮุ่ยไม่ทำเช่นนั้นแล้ว ปิงปีนท่าไหนก็ได้ สบายๆ
แสดงว่า ฮุ่ยรู้ว่าลูกโตแล้ว ให้ปีนได้
แต่ทำไมยังลากลูกลงจากต้นไม้...น่าจะเป็นเพราะ
ไม่ไว้ใจแหวนนั้นนั่นเอง....
ใครจะไปรู้ล่ะว่า ในความคิดของสัตว์
อาจกลัวว่าเป็นกับดักก็ได้...(คิดแทนหมี)
ส่วนปิงเองก็น่าจะไม่กล้าปีนเพราะแม่คอยดึงลง
ทำท่าจะปีนหลายครั้งแต่หันไปมองซ้ายมองขวา
นึกถึงการทำรั้วเลี้ยงปศุสัตว์ในต่างประเทศ
ที่เขาใช้ลวดที่มีกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนขึงไว้รอบทุ่งหญ้า
เราคิดว่าวัวมิตายหมดหรือ...แต่เปล่า..วัวไม่ตาย
เพราะพอวัวไปโดนลวดสักครั้ง จะเกิดการเรียนรู้ว่าเข้าใกล้ลวดไม่ได้
หลินปิงก็เกิดการเรียนรู้แบบนั้น..
กลับไปดูว่าทำไมหลินปิงไม่เล่นกระดานลื่น
เพราะวันแรกหลินปิงลื่นลงมา คางไปฟาดกับหลักไม้
ที่ปักขนาบปลายกระดานลื่นอย่างจัง
เมื่อเจ็บตัวก็เรียนรู้ว่าต้องไม่เล่นแบบนั้นอีก
ใช้วิธีปีนขึ้นที่ขอบกระดานลื่นเสียเลย ทั้งที่ยากนักหนา
ไม่มีกระดานลื่นที่ไหนปักหลักไว้แบบนั้น
เพราะเวลาสัตว์ลื่นลงมา
เขาไม่สามารถเก็บขา เก็บแขน เก็บคางให้ขนานกับกระดานลื่น
หรือทำตัวลีบๆ ไม่ให้ล้นออกมาข้างนอกได้เหมือนคน
หัวหน้าโครงการเคยบอกว่าหลินปิงยังไม่เล่นกระดานลื่น
เพราะหลินปิงจะเล่นจากสิ่งที่ง่ายไปหาสิ่งที่ยาก
แต่จนบัดนี้หลินปิงแทบไม่เล่นกระดานลื่นเลย
ทั้งที่เล่นบันไดลิงยากกว่า แต่หลินปิงเล่นได้ตั้งนานแล้ว
-----------------------------
ภาพบน กระดานลื่นที่จีน ไม่มีหลักสองอันปักขนาบไว้
ภาพล่าง กระดานลื่นของหลินปิง ยิ่งตัวโตมือไม้ก็ยิ้งล้น
ออกไปกระแทกหลัก แล้วจะเล่นได้ยังไง
เรื่องกระดานลื่นนี้เห็นมานาน คิดมานาน แต่สภาพแวดล้อมตอนนั้น
ทำให้ต้องหลับตาเอาไว้
.....นี่ก็เป็นอีกเรื่องเศร้าของหลินปิง...