ขออัญเชิญเรื่องนี้มาครับ
ตอนหนึ่งที่พระองค์ท่านรับสั่งให้ผมไปจดมูลนิธิชัยพัฒนา ผมไปที่ กทม. (ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร) เอง เราไม่อยากใช้อภิสิทธิ์อะไรทั้งสิ้น เพราะยิ่งอยู่ใกล้เจ้านายยิ่งต้องทำต้วให้ธรรมดาตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ก็ไปแจ้งเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป มีเจ้าหน้าที่ของ กทม.เขามาสอบสวน ถามบอกทำไมนายฯ ไม่มาเอง ผมก็บอกนายฯ งานเยอะมาไม่ได้เลยมอบฉันทะมา บ้านอยู่อำเภออะไร บอกอยู่อำเภอดุสิต บ้านเลขที่เท่าไหร่ ไม่รู้ เขาก็ เอ อะไร บ้านไม่มีหลักแหล่ง แล้วมาตั้งมูลนิธิได้อย่างไร สอบสวนไล่ผมต่อ ไล่ไปเรื่อย ทำอาชีพอะไรบอกไม่รู้จริง ๆ ว่าอาชีพอะไร แต่เห็นทำหลายอย่างก็ตอบไปอย่างนั้น เจ้าหน้าที่เขาบอก อะไรบ้านก็ไม่มีเป็นหลักแหล่ง อาชีพก็ไม่มี แล้วตาก็เหลือบไปเรื่อย จนกระทั่งไปเห็นชื่อผู้ยื่นจริง ๆ และผมเป็นแค่ตัวแทนเท่านั้นของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมอบอำนาจมา อุ๊ย อย่าให้ท่านมานะ มายุ่งตายเลย ขออย่ามาเลย จัดการให้เสร็จ ค่าจดทะเบียนสามสิบบาท ขอบริจาคเป็นคนแรกได้ไหม
แล้วตกลงวันนั้นฟรี สามสิบบาทแกควักออกมาด้วยความตกอกตกใจมากเลย ก็กลับมากราบบังคมทูล นี่พอเขาถามว่าอาชีพอะไร ข้าพระพุทธเจ้าตอบไม่ได้ พระองค์ท่านตอบว่า คราวหลังถ้าเขาถามว่าฉันทำอาชีพอะไร ให้ตอบว่า "ทำราชการ" ผมเล่าตรงนี้เพื่อมาสู่พวกเรา ขณะที่พระองค์ท่านทำราชการ พวกเรานี่ทำอะไร "รับราชการ" ใช่หรือเปล่า รับจากพระองค์มาเพื่อทำต่อ พระองค์ท่านรักประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน คนที่รับราชการ ถือว่ารับงานของราชะมาทำต่อ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือต้องรักประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน
จากหนังสือ "หลักธรรม หลักทำ ตามรอยพระยุคลบาท " ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
จากคุณ |
:
bobby the great
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 54 09:06:56
|
|
|
|