โจควอน ไอดอลสตาร์ หรือ กั๊บ ควอน ชื่อที่ผู้ชมต่างเรียกด้วยความรัก อันมากมาย
ท่าทางที่สร้างรอยยิ้มให้ตลอดเวลา เขาได้เปิดเผยเรื่องราวครอบครัวที่แสนเศร้า
ช่วงที่สิบปีที่อาศัยอยู่ในห้องเดี่ยวชั้นใต้ดิน ในที่สุดโจควอนก็สามารถซื้อบ้านที่มีแสงแดดทอแสงเข้ามาได้
วันที่ย้ายบ้านจาก ห้องใต้ดิน
หน้าตาของโขควอน สมัยประถม หุ่นดูบอบบาง ส่วนสูงเล็กๆ หน้าขาวๆ ใส่แว่นหนาเตอะ
ไม่มีอะไรพิเศษ ดูธรรมดาแต่ เขาไม่ใช่ไม่มีอะไรพิเศษซะทีเดียว เขาเป็นคนสร้างบรรยากาศให้กับเพื่อนๆอยู่เสมอ
มีความสามารถพิเศษที่ชอบทำให้ทุกคนหัวเราะ ความกั๊บของโจควอน เริ่มต้นตั้งแต่สมัยประถม
ถ้าคุณคิดว่าท่ทางกั๊บของโจควอนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกอากาศแล้วละก็
อยากจะบอกว่าคุณคิดผิด ถึงแม้เขาจะเป็นหนุ่มวัย22 ปีแล้ว โจควอนก็ยังกั๊บต่อหน้าผู้คนจนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
แต่ภายในลึกๆ เขาได้ซ่อนน้ำตาเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวไว้
ก่อนหน้านี้10 ปี ตอนที่โจควอนอยู่ชั้น ป.6 เขาก็ได้ย้ายบ้าน โจควอนบอกว่า ข้าวบองที่ย้ายขึ้นไปไว้บนรถบรรทุก
เพื่อที่จะไปบ้านใหม่ อารมณ์นั้นไม่มีความสุขเลย บ้านที่ย้ายมา ทั้งมืด แคบ ลงไปอยู่ใต้เป็นห้องบันได
เพราะจู่ๆสภาะวะเศรษฐกิจในครอบครัวก็ฝืดเคืองลง เลยต้องย้ายมาอยู่ที่ห้องเช่า ในขณะที่ย้ายบ้านแม่คงจะเหนื่อยมาก
นั่นคือความรู้สึกของโจควอนที่อายุยังน้อยอยู่ในตอนนั้น
วันหนึ่ง จู่ๆก็มีพวกคน มาไล่พ่อกับแม่ และ ตะโกนใส่ ผลักหลัง ส่งเสียงอึกทึกครึกโรม
หลังจากเหตุการณ์นั้น โจควอนก็บอกกับตัวเองว่า ต่อไป ตอนโต ถ้าประสบความสำเร็จ คนไม่ดีพวกนั้นคงจะเจ็บใจน่าดู
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาได้เห็นรายการ Park Jin Yong 99% of development project contest ทางโทรทัศน์ โดยบังเอิญ
โจควอนคิดว่า ฉันก็ทำแบบนั้นได้ ฉันก็อยากร้องเพลงเหมือนกัน
หลังจากนั้น ก็เขาก็ไปออดิชั่นกับพ่อ เหมือนโชคชะตามอบโอกาสให้เขาได้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัด
ครั้งแรก เขาคิดว่าถ้าได้เป็นนักร้องก็จะได้เงินเยอะ ได้ใช้หนี้ให้หมด กินสิ่งที่อยากกินได้เต็มที่
แต่ว่าความจริงนั้นแตกต่างจากที่โจควอนจินตนาการเอาไว้มาก ยิ่งเวลาผ่านไป โอกาสที่จะได้ยืนอยู่บนเวทีก็ยังมองไม่เห็น
เมื่อไหร่ จะได้เดบิวต์ ควอน ไม่ใช่นายไม่ได้เป็นนักร้องแล้วนะ เพราะคำถามเหล่านี้ ทำให้เขาหงุดหงิด ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง
แต่แม่ก็พูดเขากับด้วยรอยยิ้มและปลอบใจว่า ควอน อย่าสนใจเลย เธอตั้งใจอยู่แล้วนี่น่า
แต่แม่ก็คงอยากจะถามว่า เมื่อไหร่จะได้เดบิวต์หรอ จะได้เดบิวต์จริงๆใช่ไหม
ช่วงเวลาเหน็ดเหนื่อยของการเป็นศิลปินฝึกหัดแปดปี
ในขณะที่ใช้ชื่อว่าเป็นศิลปินฝึกหัด ก็ไม่ได้รับเงินค่ารถหรือเงินเดือนจากบริษัท
ดังนั้น เขาต้องใช้ชีวิตด้วยเงินจำนวน 12000 วอนที่แม่ส่งมาให้
ค่ารถไปกลับห้าพันวอน ค่ากินขนมสองพันวอน นั่นทำให้แม่ของเขารู้สึกผิดมาก โจควอน คิดกังวลทุกวันว่า
หยุดใช้ชีวิตศิลปินฝึกหัดไปเรื่อยๆ แล้วออกมาทำงานพิเศษ เป็นการเสริมรายได้ให้แก่ครอบครัวที่กำลังลำบาก ดีไหมนะ
วันหนึ่งเขาแอบได้ยินว่า ไม่รู้ว่าปลายเดือนนี้ โจควอนจะโดนตัดออกรึเปล่า
ผลคือเขาตัดสินใจที่จะออกจากการเป็นศิลปินฝึกหัด เขาไปโทรศัพท์ที่มุมห้องซ้อมหาแม่ แล้วน้ำตาไหลไม่หยุด
แต่แม่เขาบอกว่า ลูกชายของเรา ตั้งใจทำได้ดีนี่น่า แต่ว่าถ้าอยากเลิกเพราะเหนื่อยมากก็ทำเถอะ ไม่ว่าลูกจะเลือกอะไร
แม่จะรอลูกอยู่ที่นี้เสมอนะ โจควอนวางสายจากแม่แล้วคิดว่า จะไม่ทำให้แม่เป็นกังวลไปมากกว่านี้แล้ว
จะตั้งใจทำให้ประสบความสำเร็จให้ได้
เขาก็ได้ใช้เวลาเป็นศิลปินฝึกหัดมาแปดปี วันโดยละเอียดคือ 2,567 วัน เป็นช่วงเวลาที่ไม่ใช่สั้นๆเลย
วันแห่งการเรียนรู้การรอคอย เรียนรู้การเพียรพยายาม การสั่งสมความสามารถ
ในที่สุดก็มี 2AM ออกมา วันที่จะได้ขึ้นไปบนเวทีก็ใกล้เข้ามา
ช่วงระหว่างที่ โอกาสเดบิวต์ใกล้เข้ามา โจควอนก็ยังไม่สามารถเล่าเรื่องเดบิวต์กับแม่ได้
ในที่สุดโจควอนก็โทรศัพท์หาคุณแม่
"พวกเรา... จะเดบิวต์แล้ว ตอนนี้กำลังไปออกอากาศครับ....แม่"
"ควอนน่า... ฮือฮือ คุณจินยองยังไม่ลืมลูกสินะ ขอบคุณ.... ต้องบอกขอบคุณเขานะ... ฮือฮือ"
ช่วงเวลาแปดปีที่เขาเป็นศิลปินฝึกหัด แม่เขายิ้มอยู่เสมอ ไม่เคยที่จะเศร้าสักครั้ง และยังคอยพูดปลอบใจเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ หลังจากจบเวทีแรกที่คงไม่ลืมไปตลอดชีวิต
พ่อแม่ของเขาก็ขึ้นมาที่โซล โจควอนบอกว่า จำได้แค่กอดกับพ่อแม่ และน้ำตา น้ำมูกผสมปนเป ทั้งหัวเราะและร้องไห้
ในที่สุด ก็สามารถซื้อบ้านให้พ่อแม่ได้
โจควอนที่อยู่ในกลุ่ม2AM ได้ออกเพลง Even I Die I Cant send you ซึ่งโด่งดังอย่างมาก
โจควอนตะโกนร้องอย่างมีความสุขกับตารางงานที่เข้ามาเรื่อยๆ
ระหว่างนั้น วันที่เขาไม่มีงาน ได้กลับไปที่บ้านที่ไม่ได้มานาน แต่แม่เขากำลังสระผมด้วยน้ำที่เย็น
ยังเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็ยังเย็นอยู่ พอเห็นแล้วเขาก็คิดได้ว่าเราอยู่ด้วยชีวิตที่คับแค้นมานาน
พ่อแม่ก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านเช่าห้องใต้ดิน เขาลืมตารางไปชั่วคราว และอยากที่จะหาบ้านให้พ่อแม่โดยเร็ว
วันหนึ่ง มีโทรศัพท์มาที่บริษัท ควอนน่า มีข่าวดี มีงานโฆษณาเข้ามาหลายอันเลย
พอโจควอนได้ยินข่าวนั้น เขารีบโทรศัพท์ไปหาแม่ทันที แม่รีบไปดูบ้านเร็วๆนะ ไปหาบ้านกับพ่อนะ เขาพูดด้วยเสียงดีใจ
ผมได้เงินมาเยอะ จะซื้อบ้านให้ไง เพราะผมจะซื้อบ้านให้ รีบไปดูเร็วๆนะ แต่แม่ของเขา ร้องไห้ไม่หยุด
และหลังจากนั้น ก็ไปสำนักงานหาบ้านและทำสัญญาบ้านเป็นชื่อของแม่จริงๆ และวันที่เขาไม่มีงาน
เขาก็ควงแขนกับแม่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ท ก่อนหน้านี้10 ปี แม่ต้องทิ้งของใช้ในบ้านทุกอย่างเพื่อย้ายไปในห้องใต้ดิน
เขาอยากจะซื้อ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกๆอย่าง
แม่ก็สนุกกับการช้อปปิ้งกับลูกชายในการตระเตรียมของต่างๆ
เมื่อวันที่ 4 เดือนกันยายน ปี 2010 วันที่รอคอยที่จะย้ายบ้านก็มาถึง
โจควอน ตอนเช้านอนไม่หลับเลย การได้ย้ายบ้านเป็นจริงแล้ว ความรู้สึกที่ยกของออกจากห้องใต้ดิน
เป็นความประทับใจที่ยากจะบรรยายจริงๆ
บ้านใหม่ที่ มีสามห้อง ห้องนั่งเล่นแสนกว้าง มีครัวอยู่ด้วย และ แสงแดดก็สามารถส่องเข้ามาได้เยอะ
พอวางของที่ย้ายลง โจควอนก้มานั่งบนโซฟากับพ่อแม่ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข
ต่อไปข้างหน้าก็อยากที่จะพยายามอย่างเต็มที่ให้ความสุขนั้น อยู่ต่อไปอีกนานๆ
Source:media.daum.net Trans:2IIAM
สุดยอดดดด อ่านไปน้ำตาซึมเล้ยยยย T^T