งงกับที่เขาให้สัมภาษณ์เหมือนกัน พูดกลับไปกลับมา ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
เพิ่งอ่านวันนี้ ข่าวออนไลน์จาก นสพ บ้านเมือง พอดีทำลิ้งค์ไม่เป็น เลยก็อปมาจาก http://www.banmuang.co.th/Crime.asp?id=225002
แพรวา9 ศพ เปิดปากเสียใจ-ขอโทษ งัดใบขับขี่มะกันสู้คดีฉาว ตร.หยิก 2 ข้อหาปล่อยตัว
“แพร วา” สาว 16 ซิ่งเก๋งซีวิคชนรถตู้บนด่วนโทลล์เวย์ จนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพและบาดเจ็บจำนวนมาก ควงพ่อ-แม่และทนายความ เดินทางมารับทราบข้อหาที่ บช.น.แล้ว “อำนวย” เผยตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ก่อนส่งสถานพินิจฯ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ยึดสมานฉันท์ เน้นเจรจา ด้านเจ้าตัวยอมรับเสียใจ แต่ไม่ตั้งใจเป็นอุบัติเหตุ ส่วนด้านอธิบดีกรมพินิจฯ เผยไม่มีอำนาจควบคุมตัว เพราะเดินทางเข้ามามอบตัว ส่วนเรื่องมีใบขับประเทศอเมริกาเป็นข้อต่อสู้คดีต้องขอตรวจสอบ 30 วัน แม่สาวซีวิครับลูกสาวยังเสียใจไม่พร้อมพูดกับสังคม อ้างลูกมีโรคประจำตัวไม่ไปเรียนต่างประเทศ และยอมรับไม่มีใบขับขี่ ทนายเผยมีโปรแกรมไปบวชชี แต่ยังไม่กำหนดวัน-เวลา
จากกรณี น.ส.แพรวา อายุ 16 ปีเศษ น้องสาวต่างมารดา “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ดาราช่อง 5 ที่ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว-8461 กทม. ชนท้ายรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า สีเทาฟ้า ทะเบียน 13-7795 กทม. บนทางด่วนโทลล์เวย์ ก่อนถึงทางลงถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 27 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
แพรวา” ควงพ่อ-แม่พบตำรวจ สำหรับ ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.20 น. น.ส.แพรวา พร้อมด้วย พ.อ.รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา ซึ่งเป็นพ่อ นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้เป็นแม่ พร้อมทนายความอีก 3 คน ได้เดินทางมาด้วยรถตู้สีขาวและมาลงที่ลานจอดรถบริเวณโรงอาหารด้านหลัง บช.น. จากนั้นก็เดินเข้าไปภายในห้องสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ รออยู่ โดย น.ส.แพรวา สวมเสื้อผ้าชุดสีดำ แว่นตาดำ และมีพ่อ-แม่เดินประกบด้านซ้าย-ขวา โดยมีสีหน้าเรียบเฉย แต่นางลัดดาวัลย์มีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด ท่ามกลางบรรดาสื่อมวลชน ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และวิทยุ ประมาณ 100 คน ที่มารอทำข่าวและถ่ายภาพ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เมื่อเดินเข้าไปในห้องประชุมแล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้ปิดห้อง ก่อนจะนำป้าย “พื้นที่หวงห้าม” มาวางด้านหน้า เพื่อกันไม่ให้สื่อมวลชนล่วงล้ำเข้าไปภายใน
ญาติเหยื่อมาสังเกตการณ์ ระหว่าง นั้นก็ได้มีนายสุพจน์ จินันทุยา อายุ 65 ปี อาของนายภิญโญ จินันทุยา อายุ 34 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมนางโทโมะโกะ นันโด ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ บช.น. โดยนายสุพจน์ กล่าวเปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเรื่องการสอบปากคำ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งการมาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากครอบครัวของผู้ต้องหา ต้องการมาพูดคุยหลังสอบปากคำเสร็จ ตนก็ยังไม่พร้อมที่พูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น
แพรวา” ขอโทษเป็นอุบัติเหตุ ต่อ มาเมื่อเวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันตัว น.ส.แพรวา พร้อมพ่อ-แม่ เดินออกจากห้องประชุมปารุสกวัน 2 ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก โดย น.ส.แพรวา พูดสั้นๆ ว่า “หนูขอไปพูดที่สถานพินิจแล้วกันค่ะ ตอนนี้หนูขอไปก่อน เดี๋ยวจะไปพูดที่สถานพินิจ” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะพูดขอโทษหรือไม่ น.ส.แพรวา กล่าวว่า “ขอโทษค่ะ หนูเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ” จากนั้นก็เดินออกไปขึ้นรถหน้า บช.น.
ตร.แจ้ง 2 ข้อหาสาว 16 หลัง สอบปากคำเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากสอบปากคำและแจ้งข้อหาแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า น.ส.แพรวา ได้มาตามหมายเรียก มาพร้อมกับผู้ปกครองและทีมทนายความ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อย ในการสอบปากคำ น.ส.แพรวา ได้ให้ความร่วมมือและให้รายละเอียดพอสมควร ส่วนรายละเอียดในสำนวนตนพูดตรงนี้ไม่ได้ หลังสอบปากคำมีการพิมพ์มือเรียบร้อยก็ตกเป็นผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวส่งสถานพินิจฯ เพราะคดีนี้ขึ้นศาลเด็กและเยาวชนกลาง เนื่องจาก น.ส.แพรวา อายุ 16 ปี 6 เดือน ส่วนจะควบคุมตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราว ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถานพินิจฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่มีการจับกุมเพียงการมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหรือไม่ ทางคดีตนไม่ขอลงในรายละเอียด แต่ก็รับทราบ 2 ข้อกล่าวหา และให้รายละเอียดพอสมควรก็เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนเจ้าของรถพนักงานสอบสวนจะนัดหมายมาสอบปากคำ โดยมีการนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีมีข่าวว่า น.ส.แพรวามีใบขับขี่สากลนั้น ยังไม่มีการนำมาแสดง
ต้องการให้เจรจาแบบสมานฉันท์ พล.ต.ต. อำนวย กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการเจรจาค่าเสียหาย ตนสอบถามผู้ปกครองและในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว ก็มีอำนาจหน้าที่ที่จะจัดให้มีการเจรจาค่าเสียหายในทางแพ่ง ไม่ว่าเรื่องการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ค่าเสียหาย รวมทั้งการเยียวยาคนเจ็บ ผู้เสียชีวิตและผู้เกี่ยวข้อง ตนทราบว่าทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตั้งทีมกฎหมายขึ้นมาเพื่อดูแลในส่วนนี้ด้วย ซึ่งทางผู้ปกครองของ น.ส.แพรวาก็ประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดให้มีการนัดเจรจาอีกครั้ง ส่วนจะเจรจาตกลงกันกี่ครั้งกี่คราว ได้หรือไม่ได้เป็นเรื่องอนาคต ถ้าหากตกลงกันได้ด้วยดีอย่างสมานฉันท์ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็เป็นหน้าที่ของทีมงานกฎหมาย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งขึ้นก็ต้องไปฟ้องร้องกันทางแพ่งต่อไป
ม.ธรรมศาสตร์ตั้งทีม กม.ช่วย ผู้ สื่อข่าวถามต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความมั่นใจกับครอบครัวผู้เสียหายและผู้เสียชีวิตได้หรือ ไม่ เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ตั้งทีมกฎหมายขึ้นมา คดีก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อน มีทั้งวงจรปิด ประจักษ์พยานมีคนเห็นเหตุการณ์ ที่ไม่ใช่ทั้งรถตู้และไม่เกี่ยวกับรถของ น.ส.แพรวา ซึ่งเป็นคนนอกหรือคนกลาง โดยคดีนี้มีความชัดเจน ตนถึงกล้าแจ้งข้อหา น.ส.แพรวาฝ่ายเดียว ในส่วนของรถตู้ตนไม่ได้แจ้งข้อหา
ผู้สื่อขาว ถามว่า อยากฝากถึงผู้ปกครองอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เตือนอยู่เป็นประจำ เช่น ผู้ปกครองที่ปล่อยลูกให้มาแข่งรถ จยย.ซิ่ง ซึ่งเป็นความผิดชัดเจน แต่กรณีนี้ยังห่างเพราะเป็นความผิดโดยประมาท การที่เกณฑ์อายุที่จะสามารถขับรถได้นั้นคือดูวุฒิภาวะ ถ้าไม่มีใบขับขี่ผู้ปกครองก็ยังไม่ควร เนื่องจากความสามารถเรื่องขับรถอาจจะมี แต่วุฒิภาวะยังขาด ก็ขอเตือนเอาไว้
ไม่มีอำนาจควบคุมตัวสาว 16 ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า คดีดังกล่าวเยาวชนผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวเอง พนักงานสอบสวนและสถานพินิจฯ จึงไม่มีอำนาจควบคุมตัวตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนเมื่อพนักงานสอบสวนนำเยาวชนมาบ้านเมตตา ก็ต้องดำเนินการเหมือนคดีทั่วไป คือ ถ่ายภาพ พิมพ์ลายนิ้วมือ ทำการสืบเสาะและพินิจโดยพนักงานคุมประพฤติ ด้วยการสอบปากคำเบื้องต้นเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิด นิสัย ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษา สภาพแวดล้อม การอบรมสั่งสอน ฐานะความเป็นอยู่ พร้อมทั้งตรวจสุขภาพกายและจิต เพื่อทำความเห็นรายงานต่อศาลเยาวชนและครอบครัวว่า วิธีการที่เหมาะสมกับเยาวชนรายนี้ควรเป็นอย่างไรภายใน 30 วัน แต่ดุลพินิจสุดท้ายอยู่ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจะพิจารณา
ขอสอบเรื่องใบขับขี่ 30 วัน นาย ธวัชชัย กล่าวอีกว่า หากการดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในวันเดียว พนักงานคุมประพฤติก็จะออกใบนัดให้มาพบพนักงานคุมประพฤติ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ ตามกำหนดเวลาจนกว่าจะแล้วเสร็จ ปกติคดีเด็กและเยาวชนจะคำนึงถึงการศึกษา อนาคตและสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนมากกว่าโทษ ไม่คำนึงถึงกระแสสังคม ส่วนการชดเชยหรือชดใช้ทางแพ่ง ก็เป็นอีกกรณีที่ผู้เสียหายสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายอื่นอยู่แล้ว ส่วนเยาวชนมีข้อต่อสู้เรื่องใบขับขี่ ที่ได้จากสหรัฐ เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาสอบข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน และสามารถเรียกตัวเด็กมาสอบปากคำได้ตลอดเวลา นอกจากนี้จะสอบสวนไปถึงบุคคลที่ยอมให้ผู้เยาว์นำรถมาใช้ ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กด้วย
ส่งตัว “แพรวา” ให้สถานพินิจฯ ต่อ มาเมื่อเวลา 12.15 น. ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ พนักงานสอบสวนได้นำตัว น.ส.แพรวามาส่งตัวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในส่วนของกรมพินิจฯ โดยนางทัศนาวไล ไกรนรา ผอ.สถานพินิจฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเยาวชนรายดังกล่าวไปแล้ว โดยเป็นการเดินทางเข้าไปมอบตัว ดังนั้นตามขั้นตอนแล้ว กรณีมอบตัวสถานพินิจฯ ไม่มีอำนาจควบคุมตัว แต่ต้องดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบอื่นๆ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหายังเป็นเยาวชน คือการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติสอบปากคำทั้งตัวเยาวชนผู้กระทำผิด และผู้ปกครองให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ (5 ม.ค.) แต่หากไม่เสร็จก็จะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยการสอบปากคำจะมีการสอบถามเรื่องความประพฤติ สภาพแวดล้อม พฤติการณ์คดี ร่วมกับนักจิตวิทยา หลังจากนั้นก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสืบเสาะและหาข้อเท็จจริงจากญาติและผู้ ปกครอง ที่บ้านทั้งในส่วนของญาติผู้กระทำผิดและญาติผู้เสียหาย
ผู้เสียหายสามารถเป็นโจทย์ฟ้องได้ นาง ทัศนาวไล กล่าวอีกว่า หลังจากรวบรวมข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้วกรมพินิจฯ จะส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวน แต่จะไม่มีการให้ความเห็นใดๆ เพื่อให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีให้พนักงานอัยการส่งฟ้องศาลเยาวชนและครอบ ครัว จากนั้นศาลเยาวชนจะส่งสำเนาคำฟ้องกลับมายังสถานพินิจฯ สถานพินิจฯ จึงจะเสนอรายงานประมวลข้อเท็จจริงส่งศาลเพื่อพิจารณาคดีต่อไป สำหรับกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 30 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่กระทำผิด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ อีกทั้งผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นหากญาติผู้เสียหายก็สามารถเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการในการฟ้องคดี หรือสามารถยื่นคำร้องต่อ ผอ.สถานพินิจฯ เพื่อขอยื่นฟ้องเอง และสามารถเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีอัตราโทษ 7 ปี แต่ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนและได้มอบตัว หลังจากเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะไม่มีการควบคุมตัว สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยกเว้นทางเจ้าหน้าที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็จะนัดเป็นรายครั้ง
ด้าน นางนงภรณ์ รุ่งเพชรวงศ์ ผอ.กองสิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า พร้อมจะให้ความเป็นธรรมเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ของผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ทั้งเรื่องการจัดหาทนายความและการจ่ายค่าชดเชยผู้เสียหายในคดีอาญา โดยผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมได้อย่างเต็มที่
ยอมรับลูกไม่มีใบขับขี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 5 ชั่วโมง นางลัดดาวัลย์ กล่าวเปิดเผยว่า ตนและลูกสาวยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเป็นไปได้ก็พร้อมจะเดินทางไปเยี่ยมผู้เสียหายทุกคน อย่างไรก็ตาม ลูกสาวตนมีโรคประจำตัว ต้องกินยาเป็นประจำ ดังนั้นคงไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้นยอมรับว่า ลูกสาวตนไม่มีทั้งใบขับขี่ของประเทศไทยหรือใบขับขี่ของต่างประเทศ แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงคำให้การของลูกสาว ส่วนเรื่องการบวชชีนั้นคงต้องหารือกันอีกครั้ง ลูกสาวคงต้องเรียนต่อในประเทศ เนื่องจากมีโรคประจำตัวไม่สะดวกที่จะนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องการยืมรถเพื่อนมาขับนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง
สาวซีวิคมีแผนบวชชี ด้าน นายพิทยา ปักเข็ม ทนายความ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คุมประพฤติและเจ้าที่สังคมสงเคราะห์ได้สอบปากคำเยาวชนที่กระทำ ผิดและผู้ปกครอง ซึ่งในส่วนของเด็กนั้นเบื้องต้นรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่สภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็มีโปรแกรมไปบวชชี แต่ยังไม่กำหนดวัน-เวลา และสถานที่ ส่วนเรื่องคดีความเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) น้องยังไม่พร้อมจะพูดกับสื่อมวลชนและสังคม คาดว่าต้องให้เวลาอีกสักระยะ ส่วนเรื่องใบขับขี่ตนยังไม่ได้สอบถามในรายละเอียด จากนี้คงต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำก่อน จึงค่อยหารือในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขั้นตอนการดำเนินการของสถานพินิจฯ ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสังเกตการณ์ทำงาน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับให้ดำเนินกระบวนการยุติธรรมอย่างโปร่งใส
จากคุณ |
:
จะเชื่ออันไหนดีนี่
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ม.ค. 54 17:29:57
A:58.110.114.204 X: TicketID:188044
|
|
|
|