PANTIP.COM : A10117384 หนังกลางแปลงไดอารี่: MOVIE ON THE BEACH [หนังไทย]

ความคิดเห็นที่ 18

25 ธันวาคม (วันคริสต์มาส)

ตอนเช้าก็ออกไปเรื่องของโปรเจ็คท์ส่วนตัว พอบ่ายสามก็กลับมาถึงที่งาน คืนวันนี้เป็นการฉายประกบคู่ของหนังไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระ นั่นคือ “หลวงตา 3 สีกาข้างวัด” และ “หลวงพี่เท่ง” ซึ่ง จขกท. จะไม่กล่าวถึงเรื่องหลัง ผมจะขอกล่าวเฉพาะเรื่อง “หลวงตา 3 สีกาข้างวัด” เท่านั้นครับ

“หลวงตา 3 สีกาข้างวัด เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย ของผู้กำกับ “เพิ่มพล เชยอรุณ” ก่อนที่จบชีวิตในช่วงปลายปี พ.ศ. 2534 ซึ่งเนื้อหาในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำประเด็นที่เคยเป็นข่าวเกรียวกราวเกี่ยวกับวงการสงฆ์ในตอนนั้นมาเป็นตัวเดินเรื่องด้วย ทำให้คณะกรรมการที่พิจารณาภาพยนตร์ในขณะนั้นต้องนั่งชมกันถึง 7 รอบ ก่อนที่จะมีมติอนุญาตให้ฉายได้

จขกท. เคยมีโอกาสได้ชมจากหนังกลางแปลงล้อมผ้า เมื่อปีที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย ตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 2 ด้วย ตอนที่เข้าไปดูก็ไปดูอย่างนั้นแหละ เรื่องคิดวิเคราะห์นี้ยังไม่เกิดขึ้นเลยครับ แต่กลับจดจำฉากหนึ่งในหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นฉากที่ชาวต่างชาติเข้ามาฟังหลวงตา ซึ่งกำลังเทศน์อยู่ ก็เลยพูดเชิญชวนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็ประเด็นที่เคยเป็นข่าวเท่านั้นเอง

ประเด็นของเนื้อหาที่อยู่ในหนังที่อาจจะดูจริงจังไป แม้จะมีความเป็นตลกแทรกอยู่บ้าง เลยทำให้คนดู (ในยุคนั้น) ที่คาดหวังไว้ว่าหนังเรื่องนี้น่าจะออกมาเหมือนในภาคแรกๆ แต่แล้ว..ผลตอบรับเลยตรงกันข้าม

พอกลับมาชมในครั้งนี้ นอกจากจะเรียกความทรงจำกลับคืนมาแล้ว ยังทำให้เข้าใจในความคิดความอ่านของผู้กำกับด้วย และขอชมในความกล้าที่จะหยิบเอาประเด็นที่เป็นข่าว แล้วมานำเสนอได้อย่างกลมกลืน
หนังเรื่องนี้ จขกท. เชื่อว่ายังไม่มีวีซีดีหรือดีวีดีวางจำหน่ายแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ จขกท. ตั้งใจจะซื้อฟิล์มหนัง (กากหนัง) เป็นการส่วนตัว และต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ฉายในงานนี้เท่านั้น ก็เพราะว่า เป็นฟิล์มที่อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ และเป็นฉบับที่เคยโฆษณาลงหนังสือพิมพ์ไว้ว่า “ถ่ายทำในระบบ WIDESCREEN” (แต่พอดูตัวฟิล์มจริงๆ แล้ว เป็นการถ่ายทำแบบเดียวกับภาพยนตร์โฆษณาที่ฉายในโรง เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ในอัตราส่วนภาพ 1.66 : 1 ซึ่งสัดส่วนดังกล่าว เมื่อตอนเทเลซีนเพื่อออกอากาศทางทีวีจะใกล้เคียงกัน) ก่อนหน้านั้น จขกท. ได้ไปเจอฟิล์มเร่องนี้ ซึ่งเป็นก็อบปี้ที่ออกฉายในต่างจังหวัด (ต้องไปปรับสัดส่วนภาพตอนปรินต์ในแบบสโคปจอกว้าง) ปรากฏว่า เต็มไปด้วยเส้นฝนจนมองไม่เห็นภาพ ดีไม่ดีฟิล์มอาจจะอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ด้วย

สิ่งที่ จขกท. ไม่ได้สังเกต และไม่ได้ให้ความสนใจเมื่อตอนชมครั้งแรก นั่นคือ หนังเรื่องนี้มี คุณกอล์ฟ เบญจพล ซึ่งยังเป็นนักแสดงประกอบ โดยปรากฏในไตเติ้ลตอนต้นเรื่อง (เดาว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นตอนปลายแล้ว เพราะในหลวงตา ภาคแรก ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2523 ยังนำหน้าด้วยคำว่า ด.ช.) ปรากฏในช่วง 25 นาทีสุดท้าย และปรากฏตัวโดยมีบทพูดเพียงไม่กี่ประโยค เป็นเวลา 3 นาทีเท่านั้น โดยรับบทเป็นลูกศิษย์ของเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งหลวงตาขึ้นไปร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของสามเณรรูปนั้น เสียดายไม่มีผู้ใดถ่ายภาพขณะฉายในฉากนี้เลย

แต่ที่ขำอย่างน่าสมเพช คือ การเซ็นเซอร์หนังครับ

ในฉากหนึ่งซึ่งใกล้จะจบเรื่อง เป็นฉากที่ลูกศิษย์ของสามเณร (สามเณรที่ว่านี้เป็นนักแสดงท่านหนึ่ง จขกท. จำชื่อไม่ได้ ซึ่งมีใบหน้าคล้ายกับพระภิกษุท่านหนึ่งซึ่งเคยเป็นข่าวในตอนนั้น) 2 คน ใช้กำลังขู่เข็ญว่าจะทำร้าย โดยใช้มีด ปรากฏว่าพอปลายมีดหันชี้ไปทางหลวงตา ปรากฏรอยมาร์คเป็นวงกลมทับลงฟิล์มซึ่งเป็นภาพที่ปรากฏปลายมีดชี้ไปที่หลวงตา (ล้อต๊อก) เสียงคนฉายถาม จขกท. ว่า ไปขีดเขียนอะไรที่ฟิล์มหรือเปล่า จขกท. ก็บอกเปล่า แต่ก็ตั้งใจดูจนกว่ารอยมาร์คบนฟิล์มหายไป พอเช้ารุ่งขึ้น เอาฟิล์มม้วนสุดท้ายซึ่งปรากฏรอยมาร์คที่ว่ามากรอฟิล์มกลับดู ก็เลยเจอรอยมาร์คที่ว่านี้ติดมากับฟิล์มนี้ตั้งแต่แรก โดยใช้ปากกาที่คล้ายกับสีเมจิค แต่ติดแน่นกับฟิล์ม เช็ดแล้วไม่ออก

ในตอนฉายครั้งแรกก็ไม่เห็นรอยที่ว่านี้ครับ

จากคุณ : หนามเตยแมน (หนามเตยแมน)

เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 00:33:00