คนมองว่า ''ปู-ไปรยา'' แรง?
''ใช่ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย ปูเคยไปทะเลาะกับใครไหมล่ะ (ยิ้ม) ก็มีอยู่คนเดียว แต่ตอนนั้นถ้าใครรู้เรื่องก็ปูไม่ได้อะไรนะ (ขำ) ปูเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ปูเสียใจนะ อย่างเวลาคนมาว่าปูอะไรอย่างเนี้ย ปูเบื่อตรงที่คนมองว่าปูแสบ ไม่เรียบร้อย ไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งจริงๆ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นแม้แต่นิดเดียวเลย แต่บางคนเค้าอาจจะแอบได้เก่งกว่าปูไง เค้าก็เลยดูดี แต่ปูแอบไม่เก่งไง (หัวเราะ) ปูเป็นคนที่ตรง รู้สึกอะไรปุ๊บก็จะพูดทันทีเลยว่าไม่ชอบนะ''
แล้วตัวตนจริงๆ ของ ''ปู-ไปรยา'' เป็นยังไง?
''ปูเป็นคนตรงๆ อย่างนี้แหละค่ะ ไม่ได้เซ็กซี่ เป็นคนสบายๆ ยังไงก็ได้ วันๆ ก็ใส่แต่เสื้อยืด กางเกงยีน กางเกงขาสั้น เท่านั้นเอง ไม่ได้โชว์โป๊หรืออะไร เป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออกมาเลย ปูเป็นคนทำงานหนัก ตัวจริงของปูอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องทำอะไรตลอดเวลาถึงจะสบายใจ''
เรื่องเรียนล่ะไปถึงไหนแล้ว?
''อย่างที่บอกแหละค่ะ ปูเรียนกฎหมายมา 3 ปี ผมร่วงเป็นจุกแบบเบ้อเร่อ ร่วง 4 จุดนะ เพราะเกิดจากความเครียด หมอยังบอกเลยว่าเครียดนะ ร่างกายไม่ไหวแล้ว ปูเป็นคนที่เรียนหนังสือแล้วเครียดนะ นี่ก็จะเข้าปีที่ 4 แล้วนะ เรียนหนักมาก อยู่นู้นปูก็ทำงานด้วย แล้วเหมือนร่างกายไม่เคยได้พักเลยนะ อยู่นี่ก็ทำงานทุกวัน แต่ปูไม่เคยเบื่อนะ ซึ่งทั้งๆ ที่ปูเป็นคนทำงานหนัก ตัวจริงของปูอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องทำอะไรตลอดเวลาถึงจะสบายใจ''
ตกใจไหมเห็นร่วงเยอะขนาดนั้น?
''ก็ไม่นะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นตนเครียด คิดมาก เพราะว่ามันกดดันนะ อย่างอยู่นี้ก็คิดดูดิปูอยู่ที่นี่ 4 เดือนค่าตัวก็ยังคงเท่าเดิม แต่ว่าถามว่าถ้าปูได้อยู่เมืองไทยแล้วได้เล่นละครปีละ 3 เรื่องเหมือนคนอื่น มันคงจะดีกว่านี้นะ มันเสียโอกาสไปหลายโอกาสมาก เพราะว่าปูต้องไปเรียนหนังสือ แต่เราก็ต้องคิดว่าเรามีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นเพราะเราได้มีโอกาสไปเรียนกฎหมายที่าต่างประเทศ ปูก็เลยทำใจว่าอีกปีนึงเราจบแล้วเราก็มาเต็มที่กับงานแล้วค่อยมาดูแล้วกันว่าเป็นยังไง ซึ่งตอนนั้นปูก็เพิ่ง 22 เอง คนปกติเค้าก็ทำงานกัน 27-28 เค้าก็เหมือนเพิ่งเริ่มทำงานอยู่เลย ปูก็แค่ทำใจว่าอย่าไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเลย ก็แค่ทำใจว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แล้วปีหน้ากลับมาค่อยเต็มที่เหมือนคนอื่น คือปูก็อยากทำเหมือนกันนะ คนก็ถามว่าทำไมปูไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ปูอยากจะบอกว่าปูทำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนะ บางวันก่อนบินมีถ่ายโฆษณาตอนเช้าแล้วต้องไปขึ้นเครื่องตอนบ่ายก็เหนื่อยนะ ขึ้นไปปากแดง ขนตาปลอมเต็มเหนี่ยวเลย เราก็อายนะ คนก็มองเหมือนบ้านนอกเพิ่งขึ้นเครื่องนะ (หัวเราะ) เห็นตัวเองบางทีก็ตลกเหมือนกันนะ''
เอากำลังใจมาจากไหน...ทั้งงานทั้งเรียน?
''ไม่รู้นะ ปูว่าปูเห็นคนธรรมดาที่อยู่ข้างๆ ถนนเค้าทำงานกันหนักมากนะ แล้วปูก็เลยคิดว่าเรามีโอกาสดีกว่าเค้า คือปูอยากได้อะไรปูก็ได้นะ ปูหิวข้าวก็มีข้าวให้ทานทุกครั้ง เวลาป่วยก็มีเงินพอที่จะรักษาตัวเอง ไม่เคยต้องมาลำบากลำบนอะไร แต่เวลาเรามองคนอื่น เค้าไม่เคยหรือไม่มีโอกาสแม้แต่ครึ่งหนึ่งของปูด้วยซ้ำ เค้าไม่สามารถเลือกได้ว่าวันนี้เค้าไม่อยากทำงานนะ วันนี้อยากพัก ซึ่งจริงๆ ปูเลือกได้ คือมันในเมื่อคนมีโอกาสได้ทำเราก็ควรจะทำนะ เพราะมีหลายคนที่ไม่สามารถหางานได้ ในเมื่อมีงานเข้ามาก็ควรจะทำ ถึงแม้ว่าปูเองก็อยากจะไปพักผ่อน ไปเที่ยวกับแฟนมันเป็นเรื่องไร้สาระนะ ถ้าเรามีโอกาสทำงาน ทำไปเถอะ แล้วค่าตัวหรืองานของปูมันก็ไม่ได้ยากนะ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ให้ไปทำอะไรยากเลย ไม่ได้ให้ไปแบกอะไรหนักๆ ไม่ได้ให้ไปทำอะไรอันตราย แค่มานั่งแต่งหน้าถ่ายรูปเฉยๆ อาจจะใช้เวลาเป็นวัน แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ปูยังเด็กอยู่ด้วย เวลายังมีอีกเยอะ''
กำลังใจจาก ''ขุนพล'' ล่ะเป็นยังไงบ้าง?
''ก็โอเค (ยิ้มเขินๆ) ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกันนะ ขุนพลเป็นคนนิ่งนะ ขุนพลนี่ก็ยังอยู่ในฐานะเพื่อนที่สนิทนะ เค้าถือว่าสำคัญ ปูก็แคร์ความรู้สึกเค้ามาก แต่เราไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้วนะ 4-5 เดือนก็โอเค เค้าก็ไม่ได้อะไรเลยนะ''
''ปู-ไปรยา'' เจ้าชู้จริงไหม?
''ปูว่าปูเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลากับความรักมากกว่าค่ะ นี่คือปัญหาของปู อย่างที่บอกคือปูยุ่งมาก เอาเป็นปูเรียงลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตปูคือ 1.ครอบครัว 2.การศึกษา 3.งาน 4.เพื่อน 5.แฟน คือความรักสำหรับปูตอนนี้คือสิ่งสุดท้ายเลยค่ะ ปูว่าปูไม่ได้แต่งงานกับใครแน่นอน (ขำ) ปูกลัวว่าถ้าปูจะคบกับคนๆ นึงโดยใช้ระยะเวลาถึง 7-8 ปีในช่วงเวลาที่ปูเรียนอยู่ แล้วปูมัวแต่คบกับคนๆ เดียว แล้วพอเรียนจบแล้วถ้าเค้าเลิกกับปูขึ้นมาทำยังไงล่ะ เราก็เสียเวลาไปเปล่าใช่ไหม แล้วเวลาเรามีแฟน เราก็ต้องบินไปหา ต้องโทร.หา มันเหนื่อยนะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ปูบอกเลยว่าที่เมืองไทยเนี่ย ขุนพลเป็นคนเดียวที่ปูคบ แล้วคุยกันมา 8 ปีแล้ว นานนะ แล้วถ้าปูเจ้าชู้เค้าก็คงไม่ได้คุยกับปูแล้ว เพราะนี่ปูก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ว่า ณ เวลานี้ต่างคนต่างเรียน แล้วต่างคนก็ต่างยุ่งมาก แล้วไม่รู้ว่าจะหาเวลามาเจอกันได้ยังไงมากกว่า''