ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีค่ะ เพราะผู้ใหญ่ไม่เข้าใจโครงสร้างการ์ตูน ....จริง ๆ นะ ส่วนใหญ่เลยด้วย ผู้ใหญ่ส่วนมากไม่เข้าใจตั้งแต่เรื่องของโครงเรื่องที่หลุดความเป็นจริงไปมาก ๆ ไม่เข้าใจวิธีการลำดับเนื้อหา รูปภาพ ลายเส้น ตัวอย่างคือการ์ตูนจำนวนมากที่ผู้ใหญ่นั่งดูกับเด็ก ผู้ใหญ่มักจะมองไม่ออก ไม่เข้าใจ ต้องให้เด็กเป็นผู้บรรยายสารให้ทราบ กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องที่เป็นเช่นนี้ อย่าง Eva นั้นหลุดเข้าถึง "คนธรรมดา" ได้แบบไม่น่าเชื่อ กระนั้นก็ยังไม่สามารถหลุดเข้าในวงคนส่วนใหญ่ได้ ปัญหาคือ ผู้ใหญ่จำนวนมากไม่ได้มองจินตนาการ แต่มองโลกในความเป็นจริงเป็นหลัก ทำให้เข้าสู่โลกของการ์ตูนได้ยากเย็นแสนเข็ญ การ์ตูนที่ง่ายต่อความเข้าใจ รูปแบบโครงสร้างของมันคือ "การ์ตูนเด็ก" ทุกอย่างก็จะ "วนลูป" คราวนี้ถ้าเอาการ์ตูนที่มีเนื้อหาหนัก ๆ อย่างไวท์อัลบั้ม หรือ GE ไปให้พวกเขาเหล่านั้นอ่าน มันอาจจะได้ผล 2 แบบ 1. ผู้อ่านรับสารและมองรูปแบบของสารออก เข้าใจในสิ่งที่เป็น 2. ผู้อ่านปฏิเสธ และโจมตีกลับถึงความไม่เหมาะสมของการนำเสนอ เราไม่นับกรณีเพิกเฉยไม่ใส่ใจนะคะ 2 กรณีข้างต้นนั้นเป็นผลจากประสบการณ์ ความรู้และทัศนคติ ซึ่งต่อให้ท่านเอาการ์ตูนรูปแบบใดไปให้ ถ้าเขาเหล่านั้นมีทัศนคติที่ฝังหัวในแง่ลบผลคือ "ยากที่จะเปลี่ยนแปลง" และกรณีที่ 2 จะเกิดได้ง่ายดายอย่างมาก ปล. ไม่ขอกล่าวถึงหนทางการแก้ไข ดูมันจะเป็นเรื่องที่ดูไกล และยากเย็นมากเกินไป จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:41:59

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจับผมไปนั่งดูลิเก ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน......... จากคุณ : Alphanet เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:47:00

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าใช้คำถามแบบในกระทู้นี้ผมจะตอบว่า  " Bakuman ครับ " เพราะคิดว่าด้วยเนื้อหาเหมาะสำหรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ใหญ่ได้ดีกว่าเรื่องอื่น ถ้าใช้คำถามอย่างกระทู้ก่อนจะแตกประเด็นผมจะตอบว่า  " onepiece ครับ " อันนี้ไม่ใช่เพราะเนื้อหาของการ์ตูนแต่เป็นความสำเร็จของคำว่า "การ์ตูน" ที่เขาคิดว่ามันไร้สาระครับ จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:47:43

ความคิดเห็นที่ 4 ลิเกมันสนุกนะครับ - -" จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:48:56

ความคิดเห็นที่ 5 คนการ์ตูนหลาย ๆ คนต้องเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงของเหล่าผู้ใหญ่นั้น แล้วรอวันผลัดเปลี่ยน Generation ครับ คนที่ยอมรับและเข้าใจ เมื่ออยู่ในนั้นจะรู้เองครับว่าอย่างมันเปลี่ยนกันไม่ได้ง่าย ๆ หรือบางอย่างอาจจะเปลี่ยนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:51:57

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปทุกสิ่งก็จะเปลี่ยนตามครับ ผมคิดได้แค่นี้แหละ ถึงจะเปลี่ยนไม่ทั้งหมดก็ตาม จากคุณ : laonheart เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:53:05

ความคิดเห็นที่ 7 ..... รีบโพสต์รูปแล้วออกจากระทู้อย่างเร็ว จากคุณ : ThisLonelyMe เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:55:42

ความคิดเห็นที่ 8 แบมบีโน่  - ว่าด้วยการทำงานในร้านอาหารอิตาเลียน ทั้งในฐานะคนทำอาหาร และกระทั่งการเป็นพนักงานเสริฟ นักสืบจอมโซ้ย - วิทยาศาสตร์ด้านอาหาร สุภาพบุรุษทรชน (มาจิ) - ปรัชญา Initial D - ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์และการแข่งรถ แบบของจริง ซัมโปะ - ปรัชญา BECK - เกี่ยวกับวงการดนตรี ไคจิ - มีทั้งเศรษฐศาสตร์ และ แนวคิดด้านการใช้ชีวิต คุโรซากิ บริษัทรับส่งศพ - ความรู้มันหลากหลายอ่ะ จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:56:49

ความคิดเห็นที่ 9 monster 20th century boys one piece berserk แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 15:01:37 จากคุณ : Stereotype เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:59:46

ความคิดเห็นที่ 10 H เมะ / H โด / H มังงะ   แล้วจะรู้ว่า การ์ตูน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ด้วย @_@ จากคุณ : NekoDream เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:05:08

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำให้เอาการ์ตูนแนว drama, slice of life ให้ดูค่ะ มีหลายเรื่องเลย เพราะ ตัวละคร กับลักษณะการดำเนินเรื่องมักจะอยู่ในพื้นฐานของความเ"เป็นไปได้"และสามารถเกิดได้จริงในชีวิตของเรา และส่วนใหญ่การ์ตูนแนวนี้จะสมารถสร้างกำลังใจหลังจากดูได้ และให้แนวคิดบางอย่างที่ดีมากอีกด้วย เรื่องที่แนะนำ Tokyo Godfather   เป็นหนังการ์ตูน animation ชั่วโมงครึ่งก็จบแล้ว เป็นเรื่องของคนจรจัดสามคน ในฉากคืนวันคริสมาส ที่บังเอิญเจอเด็กทารกอยู่ในกองขยะ พวกเขาต้องการตามหาพ่อแม่เด็ก จากจุดนี้เองที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมายซึ่งคิดว่าสามารถเปลี่ยนแปลงพวกเขาทั้งสามคนไปได้ในที่สุด  เป็นการ์ตูนที่ดีมากๆ พากษ์ไทยด้วยนะ Summer Wars เป็นการ์ตูนชั่วโมงครึ่งจบ ดูจบแล้วเหมือนได้ดูหนังดีๆเรื่องนึงเลย การดำเนินเรื่องที่ดูราบเรียบแต่มีความน่าสนใจตลอดเวลา เป็นเรื่องของหนุ่มมหาลัยที่ถูกรุ่นพี่สาวชวนไปที่บ้านเพื่อทำงานพิเศษ แต่งานพิเศษที่ว่าดันเป็นงานที่"แกล้งให้เป็นแฟนหนุ่มเพอเฟ็ค"ซะนี่  เท่านั้นยังไม่พอระหว่างที่อยู่ที่บ้านของรุ่นพี่ยังต้องเจอกับเหตุการณ์สงครามในโลกไซเบอร์ซึ่งดูท่าว่าคนที่จะเป็นต้นเหตุของสงครามครั้งนี้อาจเป็นตัวของเขาเองซะอีกแน่ะ.... << ลองพิพม์เรื่องย่อดู ปรากฎว่า ไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไหร่ แต่เอาจริงๆเรื่องนี่มันมีมากกว่าที่พิมพ์เยอะนะ ดูจบแล้วอยากเห็นหน้าคนเขียนบทกับพล๊อตขึ้นมาเลย   Tokyo Magnitude 8.0 เป็นซี่รี่ส์การ์ตูน เรื่องของพี่สาวกับน้องชายที่ติดอยู่ในโตเกียวระหว่างเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหว แนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้เป็นครอบครัวค่ะ  ดูจบจะรักพ่อรักแม่รักครอบครัวมากขึ้นจริงๆ สุสานหิ่งห้อย เป็นหนังการ์ตูนชั่วโมงครึ่งจบ ต้องดูแล้วจะรู้ เป็นการ์ตูนที่ดีมากๆ Gantz อันนี้เหนือมนุษย์ หลุดจริงไปเยอะ แต่จิกกัดสังคมมนุษย์ได้เจ็บแสบดีจริง เรื่องนี้ผู้ใหญ่อ่านคงไม่คิดว่า "การ์ตูนเป็นเรื่องเฉพาะของเด็ก" แน่นอน จากคุณ : แมวสีเทาตุ่น เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:07:59

ความคิดเห็นที่ 12 Motto To Love Ru จากคุณ : whitemask เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:13:38

ความคิดเห็นที่ 13 เอาจริงๆนะ มันต้องรู้ว่ารสนิยมของคนที่เราจะเอาการ์ตูนไปให้ดูน่ะเขาชอบอะไร แล้วเลือกเรื่องแบบที่เขาชอบไปให้ดูครับ ถ้าเปรียบกับดนตรี คนที่ชอบป็อปใสๆถึงเราจะเอาเดธเมตัลไปให้ฟัง ถึงจะเป็นเดธเมตัลที่ดีที่สุดเขาก็รับไม่ได้อยู่ดีล่ะครับ ^^" จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:15:29

ความคิดเห็นที่ 14 เคยคิดใช้วิธียัดให้พ่ออ่าน แทบตายก็ไม่ได้ผลครับ(เรื่อง say hello to blackjack) เจอต้องอ่านแบบญี่ปุ่นพ่อผมก็ไม่สนแล้ว  เรื่องอื่นๆก็เหมือนกัน แต่เวลาโดนบ่นว่ามัวแต่อ่านการ์ตูนไร้สาระบ่ิอยๆก็เถียงๆไปอธิบายไปบ้าง กอบกับหากินกับการวาดการ์ตูน/วาดรูปบ้างพอเป็นเรื่องเป็นราว  ปัจจุบันพ่อผมเลิกว่าว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็กแล้วครับ จากคุณ : Aya+EVE เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:15:38

ความคิดเห็นที่ 15 จากประสบการณ์ของผม ก็ตาม #1 กับ #14 ครับ "คนที่ไม่อ่านการ์ตูน ก็จะไม่อ่านการ์ตูน" ถ้าไม่ติดกำแพงของอคติ ก็ต้องติดกำแพงของรูปแบบการสื่อสารอยู่ดี และต่อจากนั้นก็จะมีกำแพงของรสนิยมคอยดักอยู่อีกชั้นนึง ไม่เฉพาะการ์ตูนหรอกครับ แค่ผมบอกกับเพื่อนบางคนว่าชอบเพลงคลาสสิก หรือเพลงลูกทุ่งเพลงนี้เพราะดีนะ มันก็ทำหน้ายี้แล้ว ฮะๆ จากคุณ : Vladimir Putan เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:22:10

ความคิดเห็นที่ 16 พยายามเผยแพร่ค่ะ   แต่แม่ก็ไม่ติดซะที เราไม่สนนะว่าใครจะว่ายังไง   ที่บ้านก็ไม่ว่าอะไร ก็พอแล้ว จากคุณ : Youzen เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:25:50

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่จำเป็นต้องไปปรับเปลี่ยนทัศนคติอะไรของพวกท่านหรอกครับ !! แถมไม่จำเป็นต้องทำให้วงการการ์ตูนไทยเติบโตก้าวหน้าหรอก ไม่จำเป็นเลย เพราะแค่เพียงเราชอบ เราก็รับมาเสพเพื่อความพึงพอใจก็เท่านั้น ขอบคุณที่โลกนี้มีอินเตอเนต เอาจริงๆคือ ให้บุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียงที่เป็นด้านวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีระดับโลก เปิดบ้านให้สัมภาษณ์แล้วเจอชั้นการ์ตูน แล้วก็ให้สัมภาษณ์ไปว่า "การ์ตูนเปิดจิตนาการและสร้างแรงบันดาลใจให้ แล้วความรู้จากการ์ตูนถึงเอาไปอ้างอิงไม่ได้แต่ก็ช่วยให้ผมเอาไปต่อยอดได้" ปล. วันนึงถ้าผมมีชื่อเสียงระดับโลก จะทำให้นะ จากคุณ : MocCaChoCaMonKeyMaGiMadMonSTeR เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:31:48 A:118.173.234.229 X: TicketID:279922

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าให้ดูเราว่าอนิเมะของค่าย Ghibli น่าจะตอบโจทย์คุณได้ค่ะ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:43:16

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อให้เป็นของค่ายจิบลิ  ผมว่าบางคนก็ไม่ยอมเปิดรับ ไปนั่งกินเหล้า กินเบียร์ ดูดบุหรี่ หาอีหนูดีกว่า....... จากคุณ : ฮาริมะคุง เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:56:34

ความคิดเห็นที่ 20 คุณๆคะ จะบอกให้ว่าเราทำได้ และทำมาแล้วด้วย กับคุณพ่อคุณแม่ของเราเอง ท่านหัวโบราณมากๆ ไม่ดูหนัง ไม่ฟังเพลง และแน่นอนไม่เคยดูการ์ตูน แต่บ้านเราค่อนข้างเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นของกันและกันค่ะ เราเลยใช้วิธีตะล่อมๆพูดให้ฟังเรื่อยๆทีละนิดๆว่ามันดีอย่างนั้นอย่างนี้นะ แล้วก็ลองให้ท่านดูเรื่องที่สนุกๆระดับเทพ เข้าใจง่ายๆ มีมุกตลกเรียกเสียงฮาแบบไม่ต้องใช้ความรู้อนิเมระดับลึก พวกท่านก็ชอบค่ะ อย่างดราก้อนบอล สลัมดังค์ นารูโตะ วันพีซ พวกท่านก็ดูแล้วติดค่ะ ตอนนี้ก็กำลังดูเรื่องก้าวแรกสู่สังเวียนกันอยู่ ท่านก็ชอบ ดูแล้วลุ้นสนุกมาก พวกท่านก็ยอมรับนะคะ ว่าการ์ตูนญี่ปุ่นมีดีจริงๆ และมีความหลากหลายแนวให้เลือก และท่านก็ไม่ได้ติดหนึบบ้าคลั่งอะไรแบบเรานะคะ จากคุณ : amamizu เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:57:41

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วแต่คนมั้ง ใครสนใจด้านไหน ก็ลองเลือกการ์ตูนที่เนื้อเรื่องแนวนั้นไปให้อ่าน อย่างแวดวงนักจักรยาน เห็นแก่กันยังไง เอาสิงห์นักปั่นไปให้อ่าน ร้อยละร้อย ชอบกันหมด จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:57:46

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับ คห.1, 14, 15 คือคนไม่อ่านเค้าก้ไม่อ่านจริงๆ เหมือนหลายคนในที่นี้ที่อาจจะไม่ดูบอล ไม่ดูประชุมสภา หรือไม่ดูละครหลังข่าวกัน เคยถามเพื่อนที่มันไม่อ่าน มันบอกว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าระหว่างช่องของการ์ตูนมันเกิดอะไรขึ้น แต่พวกสี่ช่องสามช่องจบก็พอได้ แต่ถ้าต้องการยกตัวอย่างเนื้อเรื่อง ก็ตามคห.ก่อนๆ และคุโรมาตี้ (หรือมันจัดเป็นการตูน"เด็ก"ม.ปลาย) แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:03:02 จากคุณ : ลิงลี่ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:01:05

ความคิดเห็นที่ 23 Elfen Lied ดูไม่กี่นาที ก็รู้ว่าไม่ใช่สำหรับเด็กครับ ฮ่าๆๆ จากคุณ : Zcrana เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:06:07

ความคิดเห็นที่ 24 ไว้ผมได้เป็นนายกแล้วผมจะจัดการให้ครับ จากคุณ : Ryu_jin_maru เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:14:31

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าให้รับทั้งดุ้นยากครับ ผิดธรรมชาติพฤติกรรมที่เขาเป็น แต่ถ้าใช้เทคนิค ผมมักจะถอดเอาโครงเรื่องไปเล่าให้เหมาะกับธรรมชาติคนนั้นครับ อย่างเพื่อนพวกชอบอ่านเรื่องสั้น ถอด Monster ไปเล่่า ถามว่าเป็นไง เพื่อนบอกโหย เรื่องไรเนี่ย จะไปหาอ่านมั่ง พอบอกว่าถอดโครงจากการ์ตูนมาเล่าเท่านั้นล่ะอึ้ง จากคุณ : granun เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:17:25

ความคิดเห็นที่ 26 งั้นต้องให้HOTDไปดูซะหน่อย -แนวซอมบี้ พล็อตเหมือนหนังซอมบี้ ผู้ใหญ่น่าจะชอบ -เซอร์วิสดึ๋งๆ นี่ก็น่าจะชอบ จากคุณ : น้องตีป เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:18:55 A:58.8.113.95 X: TicketID:297567

ความคิดเห็นที่ 27 แนะนำอนิเมชั่นของจิบลิค่ะ อย่างที่บ้านเราเค้าก็คิดว่าการ์ตูนเป็นของเด็กๆเหมือนกัน พอเอาให้เค้าดูก็ชอบกันนะคะ เพราะว่าเนื้อหาไม่หนักเกินไป แต่ว่าแฝงคติและแนวคิดเอาไว้ บางอย่างก็เป็นผู้ใหญ่ถึงจะเข้าใจก็มีเหมือนกันนะคะ เรื่องที่คุณแม่ชอบแล้วเอาไปแบ่งให้คุณพ่อดูด้วยก็ ครอบครัวยามาดะ อันนี้คล้ายชีวิตจริงเล็กน้อย 55 เรื่อง only yesterday ก็ย้อนความหลังดีนะคะ จากคุณ : AOmmUrI เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:21:33

ความคิดเห็นที่ 28 เท่าที่พยายามจะให้แม่อ่าน ผลออกมาว่าอ่านไม่รู้เรื่องค่ะ อาจจะเป็นเพราะการนำเสนอที่ไม่คุ้นเคยก็ได้ แบ่งช่องเล็กช่องน้อยแถมบางเรื่องอ่านแบบญี่ปุ่น คือไม่คิดว่าแม่จะอ่าน แต่พูดไปคุยมาแม่บอกว่าเคยลองอ่านแล้วด้วย แต่ให้เปลี่ยนความเห็นที่ว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็กนั้นทำได้ค่ะ เมื่อก่อนแม่ก็คิดอย่างนั้น และก็ไม่แปลกใจที่ยังมีคนคิดแบบนี้อยู่ ที่นี้พอมีซีรีย์ญี่ปุ่นมาฉาย แถมชอบกันด้วย (ในเรื่องเนื้อหานะ) ก็เลยบอกไปว่าซีรีย์ญี่ปุ่นที่ชอบๆ น่ะ ทำจากการ์ตูนนะแม่ แล้วก็เสริม เห็นไหมการ์ตูนเนื้อหาดีๆ  ก็มีเหมือนกัน ตอนนั้นเป็นเรื่องอิริว มันก็ไม่ค่อยเด็กด้วยแหล่ะ จากคุณ : LightenUp เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:37:20

ความคิดเห็นที่ 29 #19 กิจกรรมยามว่างบนโลกนี้ มันไม่ได้มีแค่ (อ่านการ์ตูน/ดูอนิเม) หรือ (กินเหล้า/เที่ยวผู้หญิง) นะครับ จะแสดงความเห็นอะไร ช่วยเกรงใจคนที่รสนิยมต่างจากเราด้วย เพื่อนผมที่ไม่ได้บ้าการ์ตูนส่วนมากมันก็ไม่ได้ติดเหล้ากันหรอกครับ จากคุณ : Vladimir Putan เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:44:50

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนผมขอแนะนำให้ลองหาอนิเมชั่นที่เนื้อหาไม่อนิเมจ๋าเกินไป เอาระดับที่ดูได้ทั้งครอบครัวหรืออบอุ่นครับ เช่น Up ปู่ซ่าบ้าพลังของPixar (ประเด็นเกี่ยวกับความไม่เข้าใจต่างวัยที่นำไปสู่ความช่วยเหลือกันและกันของคนสองวัย) Chicken Little อันนี้เนื้อเรื่องอาจมีปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าดูเอาประเด็นพ่อ-ลูกไม่เข้ากันแบบน่ารักๆก็โอเคครับ โตเกียว ก็อดฟาร์เธอร์ ซึ้งครับ ไม่แนะนำให้เอาพวกของแรงๆไปให้ดูแล้วบอกว่า "เห็นมั้ยล่ะ การ์ตูนแบบที่ไม่ใช่ของเด็กก็มี" เพราะมันจะยิ่งทำให้เขามองอนิเมในมุมลบแทนที่จะปรับความเข้าใจกันได้ เพราะผมคงดีใจมากกว่าถ้า คนรุ่นพ่อกับคนรุ่นลูกนั่งดูอนิเมด้วยกันอย่างสนุกสนานกันได้ครับ จากคุณ : Stryder เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:45:50

ความคิดเห็นที่ 31 อยู่ในโลกของเราก็พอครับ โลกของเขาอย่าไปยุ่ง ถ้ายุ่ง....ผมก็จะหยิบ Cromartie High แบบ LIVE-ACTION ไปเปิดให้ดู หรือไม่ก็ haruhi แบบ TMA จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:55:33

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับความคิดดีๆ ของทุกท่านครับ จริงๆ แล้วก็คงไม่ถึงขั้นกับว่าต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้หรอกครับ แต่ว่าที่เราคิดๆ กันก็คืออยากให้การ์ตูนญี่ปุ่นมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากับ "ละครหลังข่าว" "วรรณกรรมเยาวชน" "หนังสืออ่านนอกเวลา" "นิยายภาพ" "เพลงเอเชีย" "ชุดแฟนซี" เท่านั้นเองแหละครับ การ์ตูนกับละครแทบไม่ต่างอะไรกันเลย แค่เปลี่ยนจากมนุษย์ 3D ลงมาเป็น 2D การ์ตูนก็คือวรรณกรรมอย่างหนึ่ง หลายเรื่องมีเนื้อหาดีเหมาะให้เยาวชนอ่าน หลายเรื่องสามารถให้เด็กมัธยมเอาไปอ่านแล้ววิเคราะห์ออกสอบในวิชาภาษาไทยในเรื่องของการอ่านได้ การ์ตูนมีขนาดพกพากำลังเหมาะ สามารถเอาไปอ่านที่ไหนก็ได้ไม่ยาก ในรถไฟฟ้า ในเครื่องบิน ระหว่างรอคิวที่สถานที่ราชการหรือธนาคาร ฯลฯ เพลงการ์ตูนก็คือเพลงอย่างหนึ่ง หลายเพลงไม่บอกก็ไม่รู้ว่าเพลงการ์ตูน ชุดคอสเพลย์เดี๋ยวนี้คนแอบใส่ไปงานแฟนซีเยอะขึ้นชนิดว่าไม่บอกก็ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร (ดีไม่ดีคนใส่เองยังไม่รู้เลย) แต่ทั้งหมดนี้มันจบที่คำว่า "การ์ตูน" นั่นแหละครับ เลยอยากให้ลองมาหาหนทางที่จะ Breakthrough การ์ตูนญี่ปุ่นให้เทียบเท่ากับวรรณกรรมอื่นๆ เท่านั้นเองล่ะครับ ไม่ต้องมาอ่านหรือชอบเหมือนพวกเราก็ได้ แต่แค่ยอมรับว่ามันก็เหมือนกับของที่ว่ามาทั้งหมด เท่านั้นก็พอ จากคุณ : Mikamura Kaoru เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:28:43

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนผมมันบ้าเล่นดนตรีมากๆ (ซึ่งผมก็เล่นกับมันบ่อยๆ) มันชอบถามว่าการ์ตูนมันมี เห้ไรดีนักหนาเห็นเมิงนั่งอ่านได้ทั้งวัน เลยหยิบ คุโรซากิ ให้มันอ่านมันบอก อ่านแล้วกรูงง ไม่เข้าใจ วันรุ่งขึ้นเลยไปเช่า Beck มาวางๆไว้ให้มันเห็น พอพักซ้อมมันลองหยิบมาเปิดผ่านๆ แล้วมันก็ตื่นเต้นใหญ่ว่า เฮ้ย ทันเอาเพลงนี้มาพูดถึงในเพลงด้วย พูดถึงวงนี้ด้วย เฮ้ยมันเอาของจริงมาอ้างอิงนี่ว่า เฮ้ย เจ๋งว่ะ ตั้งแต่นั้นมามันนั่งอ่านการ์ตูนเกี่ยวกับดนตรีทุกเรื่องแม้กระทั่ง โนดาเมะ - -" ปล.คุโรซากิที่หยิบให้มันตอนแรกนั่น โคตรจะหลักการและ ทริคที่เกิดจากคดี ดังๆของญี่ปุ่นจริงๆเลยนะนั่น แต่มันดันไม่เชื่อ จากคุณ : zephyrisz เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:40:46

ความคิดเห็นที่ 34 minami-ke  เอาฮาไว้ก่อนล่ะนะ~ มันก็ขึ้นอยู่กับนิสัยคนที่คุณจะเอาไปให้ดูด้วยล่ะนะ แต่ผมว่าของแบบนี้ไม่ต้องยัดเยียด จะชอบก็ชอบเองแหละ ^^~ ปล. ไม่รู้ Wanderboy ทำเป็นอนิเมะไหมหว่า แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 17:45:32 จากคุณ : Parkja เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:44:31

ความคิดเห็นที่ 35 พ่อผมแค่เห็นว่าเป็นการ์ตูนก็ไม่ดูแล้วครับ ถ้าเค้าไม่ดู จะแนะนำเรื่องไหนก็ไม่มีผลครับ จากคุณ : korntana0101 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:06:36

ความคิดเห็นที่ 36 มันเป็นเรื่องยาก ด้วยความที่เลยวัยไปแล้วทำให้ผู้ใหย่เค้าไม่สนใจที่จะดู อาจจะเพราะตามเรื่องไม่ทัน และไม่มีอารมณ์ร่วม และมีอย่างอื่นที่อยากทำมากกว่า จึงเป็นเรื่องอยากที่จะให้มานั่งดูเพื่อทำความเข้าใจ และยิ่งสมัยนี้มีพวกเซอวิส วับๆแวมๆเยอะ เท่าที่ผู้ใหญ่บางคนรับรู้ ว่ามันคือวรรณกรรม มันคืองานศิลป์ พวกเค้าก็จะไปมองถึงการ์ตูน พวก พระมหาชนก ประวัติพระพุทธเจ้า ผมว่าเราแบ่งประเภทการ์ตูนและจัดเลทก่อนดีกว่า การ์ตูนสมัยนี้เซอวิสค่อนข้างเยอะ จะได้แยกการ์ตูนสำหรับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น จากคุณ : babycat_smooth เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:10:24

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ Joy ตอบได้ถูกส่วนนึงแต่ผมว่าไม่ใช่ทั้งหมด ฝั่งการ์ตูนจะติดปัญหาเรื่องการนำเสนอให้เข้ากับมุมมองของผู้หลักผู้ใหญ่สะมากกว่า โจทย์ของคุณคาโอฯคือทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจว่า "การ์ตูนสามารถเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ได้" การ์ตูนในปัจจุบันมีหลายเรื่องที่ความซับซ้อนสูงและการวางบทที่ดี  แต่ก็เป็นไปได้สูงที่ผู้ใหญ่จะยังไม่รองรับเพราะผู้ใหญ่ที่มีแนวคิดแบบนี้มักมีประสบการณ์ทางโลกสูงและEGO จะเยอะมาก หากนำเสนอผิดแบบมีแต่จะสร้างภาพลบตอกย้ำเข้าไปอีก "ดังนั้นต้องเลือกการ์ตูนให้---เข้ากับประสบการณ์ของผู้ใหญ่คนนั้นโดยเฉพาะ" แนวทางที่ผมเคยทำคือ ผมจะชวนอาจารย์หมอซึ่งหัวแข็งมากท่านนึงให้อ่านการ์ตูน  ผมก็ต้องไปวิเคราะห์ก่อนว่า  อุปนิสัยเขาเป็นยังไง  ชอบศิลปะแนวไหน  น่าจะรับลายเส้นแบบญี่ปุ่นได้รึเปล่า และเลือกการ์ตูนที่ตรงกับประสบการณ์เขาที่เป็นสายการแพทย์ต่างๆ โดยเน้นที่ต้องไม่เป็นเรื่องที่เว่อร์มากเกินไป ซึ่งผมเลือกเรื่องนึงที่เกี่ยวกับสัตว์แพทย์ (น่าจะของ SIC)  ซึ่งใกล้เคียงกับวิชาชีพเขา  และปัจจุบันผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ชอบมากและมุมมองเกี่ยวกับการ์ตูนก็ดีขึ้น จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:37:55

ความคิดเห็นที่ 38 หงษ์สาจอมราชันย์,ฟงอวิ๋น  ครับ จะว่าการ์ตูนก็ไม่ใช่ ถือว่าเป็นนิยายภาพไปละกัน ผม 30+ แล้ว คงไม่ใช่เด็ก แต่ผมก็อ่านการ์ตูนทุกเรื่องที่ผมชอบนะ จากคุณ : แม่ลูกหมู เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:44:26

ความคิดเห็นที่ 39 ก็นะ ถ้าการ์ตูนญี่ปุ่นมันทำเป็นหนังทำเงินเป็นพัน ๆ ล้าน แบบ the dark knight ได้ล่ะก็ เขาคงสนับสนุนให้อ่านกันแล้วมั้งครับ แต่นี่ส่วนใหญ่ ที่เห็น ชาบู ๆ ในห้องนี้มันมีแต่ประเภทการ์ตูนหลักพัน (คือขายได้แค่นี้) แล้วโดยเนื้อหามันก็ไม่ได้ดีเลิศประเสิรฐศรีขนาดที่พรรคพวกเรากำลังอวยกันเลยสักนิด อนิเมจิบลิ มันก็ดีอยู่หรอกครับ แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ถามเด็ก 10 - 15 ขวบ ว่ารู้จัก "โดโดโระ" ไหม ผมว่าเด็กมันคงเกาหัวแกรก ๆ ล่ะครับ คือขนาดคนที่ควรจะดูมันยังไม่ดูเลย แล้วคุณจะหวังให้คนที่ไม่คิดจะดูเขาหันมาดูเหรอครับ ความเห็นผมนะครับ ทุกวันนี้วงการมันก็ขยายตัวมากกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว การ์ตูนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้อ่านถูกลิขสิทธิ์หลาย ๆ เรืองก็ได้อ่าน ได้ดูกันแล้ว เมื่อก่อนขนาดเซย่าผมยังต้องเฝ้าภาวนาให้มันออกต่อเลยนะครับ ได้อย่างทุกวันนี้ผมก็ดีใจมากแล้ว แล้วผมก็อยากรู้ครับ ผู้ใหญ่คนไหนครับที่บอกว่า "การ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก" คือแบบว่าอยากเจออ่ะครับ เพราะผู้ใหญ่ทุกวันนี้ก็เป็นเด็กเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ก็คือยุค ดราก้อนบอล เซย่า เคนชิโร่แล้วนะครับ แล้วผู้ใหญ่ทุกคนที่ผมเจอเขาก็ดูพวกนี้กันหมด ไม่เห็นมีใครสักคนบอกไร้สาระเลย ผมว่าพวกเราคิดกันไปเองมั้งครับว่าเขาอคติแบบนั้นแบบนี้ เพราะถ้ามันปิดกั้นขนาดนั้นจริง การ์ตูนลิขสิทธิ์มันไม่มีในบ้านเราหรอกครับ ไอ้ที่อยาก ๆ เนี่ย อยากให้เปิดขนาดไหนถึงจะพอใจครับ เอาให้มีการ์ตูนฉายเที่ยงคืนตีหนึ่งแบบญี่ปุ่นเหรอครับ โธ่ถังครับ  ธรรมดารายการสถานีก็เบียดกันจนไม่มีที่จะลงแล้ว ขนาดหนังจีนกำลังภายในยังฉายตีสาม แล้วจะวางการ์ตูนแนวฉายเที่ยงคืนไปไว้เวลาไหนดีครับ แล้วโฆษณาจะหาจากไหนครับ สมมติฉายตีสี่ใครมันแหกขี้ตาขึ้นมาดู แล้วก็นะครับ ละครหลังข่าวเขาไม่ได้ขายเนื้อเรื่องครับ เขาขายดาราครับ ไม่งั้นบทมันไม่ทุเรศอย่างช่องหลายสีทุกวันนี้หรอกครับ สรุปนะครับ ไม่มีใครเขาคิดทั้งนั้นแหละครับไอ้ที่เรากล่าวหาว่าเขาไม่เปิดใจน่ะ แต่ที่เขาไม่เอาการ์ตูนมาฉายเวลาดี ๆ เพราะมันไม่ทำเงินครับ ที่เขาไม่เอาการ์ตูนแนว ๆ มาขายคุณ เพราะมันไม่มีใครซื้อครับ ง่าย ๆ แค่นี้เอง ถ้าคุณอยากให้เขาเอาพวกนี้เข้ามาเยอะ ๆ มีวิธีช่วยครับ คุณลองซื้อ DVD การ์ตูนลิขสิทธิ์แท้ให้มันเยอะ ๆ หน่อยเอาให้คนทำเขามีกำลังใจว่าทำออกมาแล้วมันไม่เจ๊งหน่อย แค่นี้เองครับ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 18:57:51 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 18:56:12 แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 18:54:55 จากคุณ : alcalshel เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:54:27

ความคิดเห็นที่ 40 แค่ทำให้ยอมดู ยังทำไม่ได้เลย จากคุณ : นายขนมหวาน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:47:41

ความคิดเห็นที่ 41 สุสานหิ่งห้อยค่ะ เคยลองเอาให้พ่อดูแล้ว  เพราะตอนนั้นไม่มีหนังหรือรายการอะไรจะดู เลยเสนอไป ปรากฎว่าพ่อดูได้จนจบ ไม่หลับ หัวเราะ ดูสนุก และเอ็นดูกับท่าทางของเด็กผู้หญิงในเรื่องบ้าง   แถมถ้ามองไม่ผิดและไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แอบเห็นพ่อน้ำตาซึมด้วย   ดูจบก็พูดแล้วพูดอีกว่าสงสารเด็ก วันรุ่งขึ้นก็ยังพูดถึง จากคุณ : Lady Claire เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:49:17

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าจะให้เราตอบ... เราก็ขอตอบว่า อย่าให้ดูการ์ตูนเรื่องไหนเลยจะดีกว่า คนเราน่ะ จะไปให้เปลี่ยนความเชื่อหรือทัศนคติบางอย่างกับคนอื่นมันก็ยากอยู่นะคะ ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มันก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย.. พอคนเราโตขึ้น หลายๆ คนต่างก็เลิกดูการ์ตูนกันไป (ไม่ว่าจะมีปัจจัยใดๆ ก็แล้วแต่) และหนำซ้ำ บางคนยังมีอคติกับการ์ตูนอย่างแรงด้วยซ้ำ.. เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่า ผู้ใหญ่บางคนเขาว่าการ์ตูนเป็นเรื่องไร้สาระ เราก็ฟังกันเอาไว้จะดีกว่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปเถียง หรือพยายามไปเปลี่ยนทัศนคติเขาเลยค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 19:52:47 จากคุณ : kurosakura เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:50:51

ความคิดเห็นที่ 43 ให้อ่านนายซ่าท้าเด็กแนว dragon zakura แล้วเข้าโตไดซะ จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:53:46

ความคิดเห็นที่ 44 พวกนี้อีโก้จัด จากคุณ : อะไรก็ได้ ง่ายๆ... เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:58:52

ความคิดเห็นที่ 45 พูดๆไปคนที่บอก ว่า อย่าให้ดูเลย ดูไปก็เปลี่ยนทัศนคติไม่ได้หรอก  ผมว่าควรจะลองแก้จาก"ทัศนคติของตัวเอง"ก่อน ก็ดีนะครับ ไม่ลองจะรู้ได้ไง แต่ถ้ายังไม่ทันลองก็คิดไปเองแล้วว่าไม่มีทาง งั้นคุณเองก็ครือกันนั่นแล แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 21:35:17 จากคุณ : Greaty O-U!! เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:35:04

ความคิดเห็นที่ 46 คห.37 นั่นเป็นวิธีหนึ่งที่ดี แต่ปัญหาที่พบ พื้นฐานความเข้าใจในการ์ตูนน่ะค่ะ ขอแบ่งก่อนละกัน ละหว่าง "อนิเมชั่น" กับ "มังงะ" "อนิเมชั่น" ดูจะเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงคนได้ง่าย ต่อให้เขาไม่สนใจการ์ตูนมาก่อน แต่ถ้าหาเรื่องที่ตรงแนวของเขาได้ ก็เป็นแบบที่เฮียครอสว่ามาล่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นมังงะ ในภาพรวม ยากมากค่ะ ทำไมยาก? ขอยกเคสก็แล้วกันค่ะ เพราะส่วนตัวนั้นได้ทดลองกับคนที่เป็นอาจารย์ในภาควิชาต่าง ๆ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ อาจารย์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีอยู่แบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มสาขาวิชาย่อยๆ (กลุ่มตรงนี้ไม่ได้เหมารวมว่าคนในสาขานั้น ๆ ทั้งหมดนะคะ) 1. บรรณารักษ์ -ด้านส่งสริมการอ่านของเด็ก 2. บรรณารักษ์ -ด้านส่งเสริมการอ่านของผู้ใหญ่ 3. บรรณารักษ์ -งานวิจัย (ดร.) 4. นิเทศศาสตร์ 5. ศิลปะ 6. ภาษาไทย (ดร.) ทั้ง 6 กลุ่มนี้ รับสารจาก "อนิเมชั่น" ได้และดูจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว 4 ใน 6 สามารถแกะสารออกมาในด้านต่าง โดย 2 ใน 4 สามารถมองลึกไปถึงสิ่งลึก ๆ ที่ "อนิเมชั่น" นำเสนอ แต่พอเปลี่ยนมาเป็น "มังงะ" ปรากฏว่าคนที่สามารถเข้าใจในรูปแบบ สารของมังงะนั้นเหลือเพียง 2 ใน 6 โดย 4 กลุ่มที่เหลือมี 2 กลุ่มไม่เข้าใจในรูปแบบการนำเสนอ อีก 2 กลุ่มเข้าใจในระดับหนึ่ง แต่ตั้งป้อมว่า "เนื้อหามังงะนั้น มีความรุนแรง หรือมีความยากเกินไป ไม่เหมาะสมกับเด็ก" กลุ่มที่เข้าใจนั้น เหตุผลเพราะ ตัวอาจารย์ท่านมีความสนใจ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่เป็นทุน และไม่มีอคติิใด ๆ ทำให้อาจารย์สามารถเข้าถึงมังงะได้ง่าย ๆ เรียกว่าแกมานั่งวิเคราะห์ Eva ในเชิงวรรณกรรมทางศาสนาได้เลยทีเดียว กลุ่มที่ไม่เข้าใจรูปแบบ เหตุผล ตัวอาจารย์ไม่ได้มีความสนใจมาก่อน ไม่เคยสัมผัสไม่ว่าในทางใด ๆ แต่อาจารย์กลุ่มนี้ไม่มีอคติใด ๆ เพียงแต่มีอุปสรรคในความเข้าใจต่อกลวิธีการนำเสนอ ซึ่งถ้าเป็นการ์ตูนในระดับที่สูง ๆ ต้องใช้เวลาพอสมควร ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเรื่องภาระการงาน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการ์ตูนได้เต็มที่ แต่กลุ่มนี้จะสามารถเข้าถึงได้ถ้าได้ใช้เวลากับการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง และไม่เลิกไปเสียก่อน กลุ่มที่ปฏิเสธ เหตุผล ไม่อยากเรียกว่าอคติน่ะนะคะ แต่ก็ยอมรับว่าอาจารย์บางท่านในกลุ่มนี้อคติจริง ๆ ปัญหาที่พบคือ ถึงแม้การ์ตูนจะให้ความรู้มากขนาดใหน แต่ไม่มีผลสัมฤทธิ์ี่เป็นรูปธรรมว่า "การ์ตูนให้ความรู้ และสร้างเสริมลักษณะนิสัยอันดี" ด้วยเพราะ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้น ผู้อ่านการ์ตูนจำนวนมาก มีน้อยรายที่กล้าพูดได้ว่าดึงเอาสารจากการ์ตูนมาใช้ประโยชน์มากพอที่จะอ้างได้ว่า การ์ตูนนั้นมีระดับเนื้อหา ภาษา เทียบเท่าวรรณกรรมอื่น ๆ จึงเป็นผลให้อาจารย์กลุ่มนี้ไม่ยอมรับว่า การ์ตูนเป็นวรรณกรรมที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องมีหน้าที่การงาน และความรับผิดชอบสูง ๆ ในสังคม จริง ๆ อาจจะด้วยเพราะวัฒนธรรมบ้านเรานั้นการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็กมาช้านาน จึงทำให้มีผู้ใหญ่ในยุคดังกล่าวยังคงมองเช่นนั้น ซึ่งถ้าเนื้อหามีความหนักมาก ๆ จะต่อต้านทันที คราวนี้ถ้ามาดูจากการทดสอบจะเห็นว่า แต่ละกลุ่มนั้นดูจะเท่ากันก็จริง แต่ถ้านับจริง ๆ กลุ่มที่จะเข้าถึงยาก หรือเข้าไม่ถึงจะมีถึง 4 ใน 6 จะว่าไปแบบจำลองนี้ไม่ใช่แค่การ์ตูนหรอกค่ะ ทั้งละคร กีฬา และบันเทิงด้านอื่น ๆ ก็มักมีโมเดลเป็นอะไรแบบนี้บ่อย ๆ เพียงแต่อย่างที่กล่าวว่า คนไทยกับการ์ตูนนั้นไม่ได้ใกล้ชิดกันมากพอ การเอาการ์ตูนไปป้อน ถ้าเจ้าตัวไม่เคยรับ ไม่พร้อมรับ ไม่คิดจะรับ จะค่อนข้างมีปัญหามากจริง ๆ ฉะนั้นการหาการ์ตูนที่จะโน้มน้าวความคิดของผู้ใหญ่แต่ละคน ต้องดูปัจจัยให้มากขึ้นนอกเหนือจากการ์ตูน แต่ตั้งดูความพร้อมของคนที่รับ ประสบการณ์ ความรู้ ทัศนคติ สังคมและความสนิทสนมด้วยล่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 08:51:04 จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:39:39

ความคิดเห็นที่ 47 ตอบยากนะ ที่จะให้ผู้ใหญ่ลองดูการ์ตูนเนี่ย  แต่ถ้าผู้ใหญ่คนนั้นเป็นคนที่ยอมรับและเปิดกว้างล่ะก็มีเรื่องที่จะแนะนำก็มีเหมือนกัน 5cm per second   นอกจากเนื้อเรื่อง ภาพ ความหมายแล้ว ผมว่าเรื่องนี้ ผู้ใหญ่น่าจะดูและรับได้ จากคุณ : k (K7X) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:56:43

ความคิดเห็นที่ 48 ต่อให้เป็นของค่ายจิบลิ  ผมว่าบางคนก็ไม่ยอมเปิดรับ ไปนั่งกินเหล้า กินเบียร์ ดูดบุหรี่ หาอีหนูดีกว่า....... จากคุณ : ฮาริมะคุง ================================= พิมพ์ภาพตัวการ์ตูนลงบนกล่องเหล้า ขวดเบียร์ ซองบุหรี่ จับอีหนูแต่งคอสเพลย์ ยังไงก็ต้องเปิดรับบ้างล่ะน่า นึกถึงครูผู้สิ้นหวังตอนนึง มีผู้ใหญ่นั่งอ่านการ์ตูนเคนชิโร่ เพราะเห็นเคนชิโร่บนตู้ปาจิงโกะ สรุปคือเอาให้ตัวการ์ตูนไปปรากฎในสื่ออื่นๆเยอะๆ ไม่จำกัดเฉพาะหนังสือหรืออะนิเม จากคุณ : Nocturne เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:04:21

ความคิดเห็นที่ 49 ผมให้กิ๊ฟคุณ จขกท. ที่แปรความหมายจากกระทู้เดิมได้ดีมากครับ ^^ ผมขอไม่แสดงความเห็นประเด็นนี้แล้วกันครับ แต่อยากบอกว่า... กระทู้นี้เป็นตัวอย่างที่ "ดีมาก ๆ" สำหรับวิธีการสื่อสารกับผู้อ่านทั่วไป การที่เราเอาแต่สื่ออะไร (อะไรก็แล้วแต่) ที่เข้าใจกันแค่เฉพาะกลุ่ม ก็คงยากที่จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจ และยอมรับเราได้เหมือนกัน เรื่องของการ์ตูนก็เช่นกันครับ ^^ ... จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:29:23

ความคิดเห็นที่ 50 อิคิงามิ    เป็นเรื่องแรกที่ิคิดออกเลยครับ จากคุณ : poptoday (poptoday) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:02:49

ความคิดเห็นที่ 51 เอาง่ายๆเลยสมัยนี้ให้ผมกลับไปดูดราก้อนบอลก็คงไม่สนุกเท่าเมื่อก่อนแน่ๆ จากคุณ : [D]iffind[O] เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:52:48

ความคิดเห็นที่ 52 มีเหตุก็ต้องมีสาเหตุ...  จริงๆแล้วถ้าคุณเจอผู้ใหญ่ที่คิดว่า"การ์ตูนเป็นเรื่องเฉพาะของเด็กเท่านั้น"ก็ต้องมีสาเหตุที่ทำให้เขาต้องคิดแบบนั้นล่ะครับ อาจจะเป็นได้สาเหตุ เช่นเขาไม่เคยสัมผัส หรือเขามองเห็นกลุ่มคนที่ซื้อและอ่านส่วนมากเป็นเด็ก หรือเขาอาจจะคิดว่าเนื้อหาในการ์ตูนนั้นมันเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น ๆลๆ เพราะงั้น อย่างที่หลายๆคห.พูดนั้นแล...มันต้องดูเป็นคนๆไป การทำลายกำแพงแห่งอคติไม่ยากเกินที่จะทำแต่... ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าคิดจะพังกำแพงเข้าไปโครมๆ ผลแง่ลบมันจะตามมาแบบนึกไม่ถึงเลย แต่ผมขอเตือนไว้ว่า อย่าพยามทำลายอคติด้วยอคติของเรานะครับ อาทิเช่นพวกประโยคอย่าง"การ์ูตูนมีประโยชน์กว่าละครหลังข่าวซะอีก","อ่านการ์ตูนมันก็ดีกว่าเอาเงินไปช๊อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมละน่า!" ป.ล ถึงจะไม่เท่าคนญี่ปุ่น แต่ผมว่าคนไทยเราก็ยอมรับการ์ตูนมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วนะ จากคุณ : SrwKung เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 00:24:19

ความคิดเห็นที่ 53 เดียวผู้ใหญ่ก็ตายไปเอง ไม่ต้องเปลี่ยน ผู้ใหญ่เดียวนี้เปิดใจเรื่องการ์ตูนมากขึ้น เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาเมืองไทยนานแล้ว ช่วงกลุ่มGenXส่วนใหญ่เคยสนุกในการ์ตูนมาก่อนทั้งนั้น เขาจะปิดกั้นลูกตัวเองไม่ให้เข้าถึงความสนุกได้อย่างไร คนที่ตามBerserkอยู่ส่วนใหญก็น่าจะ20ปลายๆถึง30ขึ้นแล้ว จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 00:49:18

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งตอบกระทู้โน้นไปขอตอบเหมือนเดิมครับ Monster, 20th Century boy, สุสานหิ่งห้อย, เอวา(แต่อันนี้ต้องเลือกตอนหน่อย) แต่ขอเพิ่มเติมอีกนิดว่า "การโฆษณาการ์ตูนไม่มีวันเวิร์คในชั่วข้ามคืนครับ" และไม่ควรทำแบบบังคับ ถ้าจะเริ่มควรเริ่มจากการเปิดอนิเมก่อนครับ จากคุณ : Stranger_in_the_night เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:06:04

ความคิดเห็นที่ 55 เอา แว่วเสียงเรไร กับ Elfen lied ให้เขาดูครับ รับรอง ไม่ใช่ของเด็กชัวร์ จากคุณ : godfast43 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 08:30:18

ความคิดเห็นที่ 56 เฝ้ารอวันที่จะถึงยุคพวกคุณๆทั้งหลายเป็นผู้ใหญ่ แล้ว เด็กๆในยุคนั้นจะมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นมาอีกไหมนะ อยากรู้จริงๆ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 09:15:40 จากคุณ : MarioNet_Rit เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:15:01

ความคิดเห็นที่ 57 ผมว่ามันต้องแยกกันให้ออกนะ  ระหว่างคำว่า 1 "ผู้ใหญ่"  กับ  2 "คนที่มีความคิดอ่านแบบผู้ใหญ่ควรจะเป็น" เพราะคนไทย"ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ"แทนพวกเราส่วนใหญ่ "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" ไม่ใช่แก่ที่ความรู้และประสบการณื ดังนั้นผมเชื่อว่า ผู้ใหญ่ประเภทที่ 2 มีเยอะในสังคมบ้านเรา แต่เขาไม่มีพลังและอำนาจในการชี้นำสังคมอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ "สังคมเล็กๆ" ที่ผู้ใหญ่กลุ่มที่ 1 มองว่าเป็นปัญหา ไม่น่าสนใจ และ "ไม่สร้างเม็ดเงินแบบเป็นรูปธรรม" ให้กับเขา เขาจึงไม่แล..... เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ เจริญพร................... ปล  ผมอายุ 30 กว่าๆ ก็ยังเสพการ์ตูนอยู่เหมือนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วครับ ครอบครัวอบอุ่นก็เพราะ "การ์ตูน" นี่หล่ะครับ  ขอบอก จากคุณ : นาย Ex-man เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 10:38:36

ความคิดเห็นที่ 58 สั้นๆง่ายๆ.. เพราะมันเป็นเรื่อง "ศิลปะ"..  ซึ่งผู้ใหญ่.. ไม่สนศิลปะ เพราะมันกินไม่ได้ ย่อยยาก เข้าใจยาก ต้องคิด ต้องวิเคราะห์ จึงง่ายที่สุดที่จะบอกว่ามันไม่ดี หรือ เป็นเรื่องของเด็ก.. จากคุณ : แมงป่องหางด้วน เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 13:04:55

ความคิดเห็นที่ 59 ผมอายุเกือบสามสิบแล้ว น่าจะจัดเป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับ ผมโตมาในยุคโดราเอมอน และดราก้อนบอล ผมว่าตอนนี้ มัน ใกล้จะถึงยุคที่พวกเราเคยหวังกันเมื่อตอนเด็กแล้ว คือ ยุคที่คนอ่านการ์ตูนอย่างผมโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมแล้ว และเริ่มปลูกฝังรุ่นลูกให้อ่านการ์ตูน และเป็นยุคที่การ์ตูนจะไม่โดนต่อต้าน เพราะผู้ใหญ่เกือบทุกคนก็เคยอ่านการ์ตูน จากคุณ : kokcona เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:05:31