[Trans] "ตอนนี้ JYJ เป็นอิสระมากกว่าศิลปินเพลงป๊อปคนไหนๆ ในเกาหลี" โดยแพททริเซีย (callmepatricicia)
"JYJ is freer than any other K-pop artist right now" by callmepatricicia
Source: http://seoulbeats.com/2011/01/album-review-why-keep-your-down
Shared by: Seoulbeats and JYJ3
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง (walking along with JYJ @ pantip)
**บทความนี้เป็นบทความวิจารณ์อัลบั้มของ TVXQ2 โดยแพททริเซีย (callmepatricicia) เธอไม่ใช่แฟนคลับของ JYJ และออกจะโอนเอียงไปทางฝั่ง TVXQ2 ด้วยซ้ำ บทความเต็มสามารถตามไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ที่แนบไว้ แม้ว่าจะมีแฟนบางคนขอให้ลงบทความเต็ม แต่เราตัดสินใจโพสต์เฉพาะส่วนที่ผู้เขียนกล่าวถึง JYJ และ TVXQ5**
วิจารณ์อัลบั้ม Keep Your Head Down
การวิจารณ์อัลบั้มนี้นำเสนอโดยชุดสูทลายเป้าธนูแย่ๆ ของยุนโฮกับชางมิน และนิสัยผลัดวันประกันพรุ่งของแพททริเซีย นี่ก็สองสัปดาห์มาแล้วหลังจากสมาชิกอีกสองคนที่เหลือของเทพเจ้าแห่งตะวันออกได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการออกอัลบั้มใหม่ คือ Why (Keep Your Head Down) พักเรื่องขัดแย้งดราม่ากรณีคดีฟ้องร้อง บทสัมภาษณ์และทวิตร้ายๆ ที่มีอยู่มากช่วงนี้ไว้ชั่วคราวก่อนนะ ฉันอยากจะพูดถึงอัลบั้มใหม่ล่าสุดของ DBSK ไม่ใช่แค่ในส่วนของอัลบั้มเพลง แต่หมายถึงเป็นความพยายามในการจะโปรโมทด้วย
บริษัท SM ไม่ได้มีส่วนโดยตรงในการออกแบบงานของ DBSK มาตั้งแต่ปลายปี 2008 และสถานภาพของวงการป๊อปในเกาหลีก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับตอนนั้น ปัจจุบันยิ่งท้าทายมากขึ้นอีกเมื่อต้องทำงานกับสมาชิกแค่สองคนจากเดิมที่มีห้า บริษัท SM ต้องพยายามทำให้ 'พระเจ้า' กลับมาได้ ไม่ใช่แค่ให้เข้ากับเทรนด์วงการเพลงตอนนี้แต่เพื่อรักษาสถานภาพของพวกเขาซึ่งเป็นเจ้าชายของวงการเพลงป๊อปเกาหลีด้วย ถึงตอนนี้ที่ DBSK กลับมาอย่างเต็มตัวแล้ว คำถามคือ: บริษัท SM ทำสำเร็จไหม?
ฉันจะตอบคำถามนี้โดยพิจารณาจากสี่จุดหลักๆ ของความพยายามในการโปรโมท DBSK:
1. คอนเซปต์/สไตล์การแต่งตัว
2. มิวสิกวิดีโอของเพลง "Keep Your Head Down"
3. การออกแสดงสด/การออกแบบท่าเต้น
4. ตัวอัลบั้มเอง
*ตัดเนื้อความส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปค่ะ*
อ้อ และอย่างนึงที่อยากบอก: ฉันรู้ว่าเหล่าแฟนๆ (และ JYJ) กำลังเป็นบ้าเป็นหลังกับเนื้อเพลง "Why" ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องงี่เง่ามาก (แล้วเนื้อเพลง "Mirotic" หรือ "Break Out" ละ ให้ตายเถอะ?!) แต่ฉันขอร้องล่ะ บริษัท SM อย่าพยายามกวนน้ำให้ขุ่นโดยการออกแบบท่าเต้นโง่ๆ แบบนี้: (ดูรูปประกอบจากเวบหลักค่ะ)
มันไม่ใช่การทำธุรกิจที่ดีเลยถ้าพยายามไปก่อเรื่องในหมู่แฟนคลับ ยกเว้นจะเพื่อทำให้แฟนๆ หลงไหลอย่างไม่ลืมหูลืมตา ถ้าท่าเต้นนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญงั้นก็น่าจะระวังมากกว่านี้ แต่ถ้าจงใจล่ะก็ ถือว่าโง่และไม่เป็นมืออาชีพเอามากๆ อย่า...ทำอย่างนี้เลย
*ตัดเนื้อความส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปค่ะ*
ฉันติดตามเรื่องราวของฝั่งโฮมินอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงนี้ - ส่วนนึงก็เพราะลำเอียงและส่วนนึงเพราะเรื่องทางฝั่งของ JYJ ช่างยุ่งเหยิงจนสมองของฉันรับไม่ไหว ความยุ่งเหยิงนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย - ความเป็นอิสระทางการแสดงออกอย่างศิลปินและอิสระทางการเงินนั้นเป็นข้อดีอย่างเห็นได้ชัด แต่เรื่องอย่างปัญหาวีซ่าตอนทัวร์อเมริกา และการที่มีบริษัท SM และ KFPCAI มาคอยหายใจรดต้นคออยู่ตลอดเวลานั้นก็เป็นข้อเสียชัดๆ เหมือนกัน แต่สิ่งที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียที่สำคัญที่สุดสำหรับ JYJ ก็คือความจริงที่ว่าพวกเขามีถนนที่กว้างใหญ่มากรอคอยอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะมีมือที่สามเข้ามาเบียดเบียนพยายามขัดขวางอาชีพของสามหนุ่มแค่ไหน JYJ ยังคงมีอิสระมากกว่าศิลปินเพลงป๊อปคนไหนๆ ในเกาหลีตอนนี้และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หากไม่โดยบริษัท SM จับไปกักขังไว้อีก ความไม่แน่นอนในอาชีพของพวกเขาทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาการทำเพลงได้อย่างมากหรืออาจทำให้ล่มไปเลยก็ได้ มันเสี่ยงน่าดูแต่นี่ก็เพื่อที่จะได้รับอิสระอย่างที่ศิลปินเพลงป๊อปเกาหลีคนอื่นไม่เคยแม้แต่จะมี - รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะพวกเขาพลิกเปลี่ยนแปลงวงการไอดอลเกาหลีไปตลอดกาล
แม้อาชีพศิลปินของโฮมินไม่ได้ดูเคว้งคว้างอย่างของ JYJ แต่จริงๆ แล้วก็ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีอยู่ดี ฉันคิดถึงอนาคตของอาชีพศิลปินโฮมินในบริษัท SM เมื่อพิจารณาถึงเทรนด์วงการเพลงป๊อปเกาหลีในปัจจุบัน รวมถึงการพยายามโปรโมทอัลบั้มของศิลปินรุ่นพี่อย่างโบอา คังตะรวมถึงกลุ่ม TVXQ2 เองแล้ว ดูเหมือนว่าเวลาอีกไม่กี่ปีที่เหลืออยู่ก่อนจะเข้ารับราชการทหารตามกฎหมายบังคับนั้นคงจะเงียบเหงาเมื่อพวกเขาจะรับบทเป็น "ไอดอลที่ทุกคนเคารพและจริงๆ แล้วไม่มีใครชอบเท่าไหร่" บทเดียวกับโบอาและคังตะ พูดกันจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะแย่นัก: ออกจากธุรกิจไอดอล รับราชการทหาร กลับมาใหม่และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หวังว่าจะเป็นอิซูมานคนถัดไป ถ้าจุดมุ่งหมายหลักของพวกเขาไม่ใช่การทำเพลง งั้นโฮมินก็เดินอยู่บททางที่ถูกแล้ว แต่ในฐานะศิลปิน อัลบั้มนี้เริ่มแสดงให้เห็นปัญหา
ฉันพูดมาหลายต่อหลายครั้งในบทความนี้ว่าการโปรโมทอัลบั้มนี้ทำให้พวกเขาดูเหมือนๆ กับวงอื่นๆ พูดกันตรงๆ เลยก็คืออัลบั้ม Why แสดงให้เห็นได้ชัดถึงคุณภาพเพลงที่เสื่อมถอยเมื่อเทียบกับอัลบั้มเพลงในเกาหลีของพวกเขาอัลบั้มก่อน - หลักฐานชัดเจนว่าอาชีพศิลปินของ DBSK กำลังค่อยๆ อยู่ในช่วงขาลง การกลับมาของโบอาก็คล้ายๆ กันแต่มีอัลบั้มที่น่าประทับใจกว่ามาก (แต่...ไม่ได้รับการโปรโมทอย่างพอเพียง) ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป สมาชิกสองคนของ DBSK คงถอยเข้าไปเกณฑ์ทหารแบบเงียบๆ กลับมาอีกสองปีให้หลังและออกซิงเกิ้ลนิดๆ หน่อยๆ ในขณะที่เอาแว่นตาดำแบบนักบินมาใส่เท่ๆ ฟังแล้วนึกถึงใครบ้างไหม?
ถ้าบริษัท SM ได้ให้การโปรโมท DBSK อย่างในฐานะศิลปินรุ่นพี่ที่น่าเคารพอย่างที่พวกเขาเป็น DBSK ก็จะมีระดับที่สูงกว่าศิลปินที่กำลังโปรโมทอยู่กลุ่มอื่นๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ DBSK คงก็ออกไปเกณฑ์ทหารตอนช่วงที่กำลังโด่งดังมากๆ - และมีฐานแฟนคลับที่มากพอที่จะกลับมาอีกครั้งหลังจากสองปีผ่านไป แต่ตอนนี้ ฉันไม่เห็นโอกาสว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้เลย
ฉันอยากรู้ว่า DBSK จะจัดการกับการทำงานในญี่ปุ่นของพวกเขายังไง ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาทำงานร่วมกับบริษัท Avex - แม้ว่าใจนึงของฉันก็จะแอบหวังอย่างนั้นอยู่ บริษัท Avex ทำเรื่องที่น่ามหัศจรรย์อย่างนึงช่วงที่ช่วยตีตลาดให้กับทั้ง DBSK และโบอา โดยบริษัทไม่ได้พยายามจะโปรโมทพวกเขาในฐานะศิลปินเกาหลีที่พยายามจะตีตลาด แต่ในฐานะของศิลปินเพลงป๊อปญี่ปุ่นเอง มันต้องอาศัยการทำงานอย่างหนักแต่ผลที่ได้นั้นน่าชมเชยมาก จึงเป็นการตั้งมาตรฐานที่สูงมากสำหรับศิลปินเกาหลีวงอื่นๆ ที่อยากจะมาแดนปลาดิบเหมือนกัน แต่ตามความเห็นของฉันแล้ว การทำงานของศิลปิน SM ร่วมกับบริษัท EMI นั้นดูเหมือนว่า DBSK คงจะออกอัลบั้มเพลงเดิมที่ปรับจากภาษาเกาหลีเป็นภาษาญี่ปุ่น - เหมือนกับวง SNSD และ SHINee และคงจะประสบความสำเร็จแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น
มันคงน่าผิดหวังมากถ้าจะต้องทนเห็น DBSK กลับมาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มศิลปินเกาหลีดาดๆ ที่พยายามบุกตลาดเพลงญี่ปุ่น หลังจากได้สร้างชื่อเสียงมามากแล้วว่าเป็นศิลปินป๊อปญี่ปุ่นที่น่านับถือ แต่เมื่อไม่มีบริษัท Avex คอยถือหางเสือในการโปรโมทโทโฮชินกิแล้ว ฉันก็ไม่เห็นโอกาสที่ DBSK จะประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นได้มากเท่าเดิม เพราะคนญี่ปุ่นคงไม่อยากให้บอยแบนด์เกาหลีเข้าไปเกะกะในรายการวิทยุของเขา - พวกเขามีบอยแบนด์เป็นของตัวเองมากพอแล้วอยู่ โทโฮชินกินั้นเคยแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ เพราะเพลงของพวกเขาได้รับการปรับให้เหมาะกับรสนิยมเพลงของชาวญี่ปุ่น ตอนนั้นไม่ใช่ความพยายามแบบขอไปทีด้วยในการผลักดันให้ชาวญี่ปุ่นติดกับกระแสเพลงเกาหลี
การวิจารณ์อัลบั้มของ TVXQ2 ครั้งนี้สรุปว่าให้คะแนนอัลบั้มแค่ 2 เต็ม 5 ถ้าพวกเขาไปออกอัลบั้มนี้ใหม่อีกรอบในญี่ปุ่น โดยเรียกว่าอัลบั้มที่ 5 ของโทโฮชินกิ ฉันจะถึงขั้นขว้างปาข้าวของและร้องไห้เลยนะ พูดจริงๆ