ความคิดเห็นที่ 1 หากพูดถึงสาวน้อยเวทย์มนต์แล้ว มันคงเป็นภาพที่ฝังหัวเรามาอย่างช้านาน อย่างเช่นแม่มดน้อยแซลลี่ มิงกี้โมโม่ อาจจะรวมถึงเซเลอร์มูนและลากยาวมาถึงซีรี่ยส์ใหม่ ๆ อย่างนาโนฮะ หรือ พรีเคียว ที่พอพูดแล้วมันช่างน่าอัศจรรย์และน่าหลงไหล เหมือนกับเด็กชายที่อยากเป็นมนุษย์แปลงร่างหรือขบวนการห้าสี อันที่จริงแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องที่น่าหลงไหลสำหรับคนทุกคนกับการที่เรา สามารถเปลี่ยนแปลงและหลีกหนีกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุปันอันน่าเบื่อไปหา สู่กับสิ่งที่น่าสนุกสนานแทน ตัวละครในเรื่องก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นมาโดกะหรือซายากะ เพื่อนของมาโดกะที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยบังเอิญ พวกเธอมีความหลงไหลในสาวน้อยเวทย์มนต์ โดยเฉพาะยิ่งกับข้อแลกเปลี่ยนที่ว่าสามารถขอพรอะไรก็ได้หนึ่งอย่างยิ่งเป็น สิ่งที่ล่อตาล่อใจ อย่างไรก็ตามนี่เป็นโครงเรื่องปกติเป็นที่สุดของการ์ตูนแนวสาวน้อยเวทย์มนต์ หรือไม่ก็การ์ตูนแนวทั่วไป ตัวละครได้รับข้อเสนอเพื่อให้ทำอะไรบางอย่างและพอเขารับข้อเสนอแล้ว พวกเขาก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:40:11 จากคุณ : Huntz เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:14:14

ความคิดเห็นที่ 2 ในขณะที่การ์ตูนสาวน้อยเวทย์มนต์ส่วนใหญ่จะมีความสดใส น่ารัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก อาจจะมีเรื่องเศร้าแทรกแซงเข้ามาชวนเรียกน้ำตาเพื่อสร้างความประทับใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงการเกิดขึ้นของมาโดกะ มากิก้า ก็ทำให้เรารู้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป สื่อก็ไม่สามารถที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป กลุ่ม เป้าหมายของผู้ชมของมาโดกะ มากิก้า ไม่ใช่กลุ่มเด็ก ๆ หรือผู้ชมส่วนใหญ่แน่ ๆ ทั้งเวลาฉายที่อยู่หลังเที่ยงคืน ถึงแม้ว่ามาโดกะ มากิก้าจะเป็นผลงานที่ดูเป็นแอนิเมชั่นทั่วไปของชาฟท์มากที่สุด (ในความคิดของผม) แต่มันก็มีส่วนผสมที่พิลึกพิลั่น องค์ประกอบศิลป์ที่ดูสวยงามแต่ชวนอึดอัด โลกที่ถูกสร้างขึ้นมาสวยหรูเสียจนน่าระแวง หรือแม้แต่ดนตรีกับเสียงที่แปลกที่แปลกทางไปหมด ไม่แน่ว่าบางที ผู้ชมอย่างเรา ๆ อาจจะกำลังต้องการความเปลี่ยนแปลงบ้างก็ได้เช่นกัน หลังจากที่เราเคยชินกับอะไรเดิม ๆ พอมีอะไรแหวกแนวที่เข้ามาถูกที่ถูกเวลา ทุกอย่างในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ก็แทบจะถูกโละและสร้างใหม่ขึ้นมาหมด ดูได้อย่างแอนิเมชันอย่างเอวานเกเลี่ยนที่พูดได้เต็มปากว่าแหวกแนวในสมัย นั้น เราอาจจะไม่คิดว่าความแหวกแนวมันจะขายได้ มันเป็นคำต้องห้ามในการตลาด แต่เอวานเกเลี่ยนก็เป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่างานอย่างเอวานเกเลี่ยนก็เป็น งานที่ขายได้ เราอาจจะเบื่อกับสาวน้อยที่ใสซื่อบริสุทธิ์แต่ก็ไม่ ต้องการขนาดให้พวกเธอแปดเปื้อน เราอาจจะเบื่อสาวน้อยที่เรียบร้อยแต่ก็ไม่ต้องการให้เธอลุกมาก่อการฆาตกรรม เราอาจจะเบื่อเรื่องเดิม ๆ แต่เราก็ไม่ต้องการให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปทันที เราอาจจะคิดเช่นนั้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ทางผู้สร้างมาโดกะ มากิก้าก็อาจจะคิดเช่นนั้นเช่นกัน การสร้างความตกตะลึงแต่ไม่ถึงขั้น หักดิบให้กับผู้ชมไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเท่าไหร่นัก การหักดิบแบบทื่อ ๆ นี่สิเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เพียงแค่เดินเรื่องไปทางหนึ่งแต่พอถึงจุดหนึ่งก็เปลี่ยนเส้นทางซะ เราอาจจะเรียกได้ว่านั่นแหละเป็นการหักมุม ว้าว ช่างเซอร์ไพรส์เหลือเกิน เราอาจจะหลงไหลกับการทำอย่างนั้นถ้าเราเจอมันเป็นครั้งแรก แต่คงไม่ใช่กับคนที่เห็นเรื่องพวกนี้จนเบื่อแล้วด้วย นอกเหนือจากนั้นบางครั้งการทำเช่นนั้นเป็นการดูถูกผู้ชมอย่างที่สุด อีกทั้งยังแสดงออกมาได้อีกว่าผู้สร้างนั้นไม่มีความคิดหรือว่าหมดมุกแล้ว แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:40:40 จากคุณ : Huntz เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:15:10

ความคิดเห็นที่ 3 หากว่าได้ดูมาโดกะ มากิก้าตอนที่ 3 แล้ว เราเชื่อว่าเกือบทุกคนทั้งตกตะลึง ทั้งตกใจ เป็นความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ถูก แต่ว่าสำหรับมาโดกะ มากิก้า การทำเช่นนี้ไม่ใช่การหักดิบ ถึงแม้ว่าผู้ชมจะไม่รู้ข้อมูลก่อนว่าคนเขียนบทเป็นใครก็สามารถสัมผัสได้ถึง ความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนแรก ภาพที่สวยงามแต่กลับปกคลุมด้วยบรรยกาศที่น่าอึดอัด ดนตรีประกอบที่เหมือนใส่เข้ามาผิดเรื่อง การออกแบบตัวละครแม่มด รวมถึงการดีไซน์ฉากบางฉากที่เรียกว่าไม่เป็นอะไรที่ปกติธรรมดาทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนการให้คนดูชินและยอมรับกับบรรยากาศของเรื่องได้อยู่ โดยไม่รู้ตัว จนสุดท้ายเมื่อทุกอย่างนำพาไปถึงจุด ๆ นั้น มันก็ได้เป็นอะไรที่เราตกใจแต่เราก็ยอมรับได้โดยที่ไม่ต้องสบถออกมาด้วยคำ หยาบ มีหลายคนให้ความจำกัดความของมาโดกะ มากิก้าว่าอาร์ท แต่ความจริงแล้วหากเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ยุโรปหรือภาพยนตร์นอกกระแสที่ผู้ คนชอบให้คำนิยามว่าอาร์ทจริง ๆ แล้ว มันยังห่างชั้นอยู่หลายปีแสง มาโดกะ มากิก้าก็ยังคงเป็นแอนิเมชัน จำสามารถจำกัดความได้ว่าเป็นแอนิเมชันทั่วไปที่สร้างเพื่อฉายสำหรับทีวีได้ อย่างแน่แท้ เพียงแต่ว่าครั้งนี้ มาโดกะ มากิก้าดูมีความละเอียดละออในตัวงานนัก เราไม่ได้พูดถึงขั้นตอนอย่างโปรดักชั่นด้านการขยับหรือภาพที่สวยงาม แต่เรากำลังพูดถึงส่วนที่ลึกไปกว่านั้นอย่างการเตรียมงานด้านต่าง ๆ ที่เรารู้สึกได้ว่ามันถูกกำหนดเป็นอย่างดี เพราะหากว่าสังเกตุดูดี ๆ แล้วมีรายละเอียดยิบย่อยหลายอย่างที่ถูกใส่เข้ามาด้วยความตั้งใจ (ถึงแม้บางครั้งผู้สร้างจะปากแข็งบอกว่าใส่ไปงั้น ๆ ก็ตาม) ในขณะที่ กำลังเขียนบทความนี้อยู่นั้นมาโดกะ มากิก้าฉายไปแค่หนึ่งส่วนสามของเรื่องทั้งหมด เพราะงั้นนี่อาจจะไม่ใช่การมองเรื่องนี้อย่างภาพรวม เป็นแค่การมองในแค่ช่วงแรกและเป็นการบันทึกความรู้สึกและความทรงจำที่เกิด ขึ้นระหว่างที่แอนิเมชั่นชุดนี้ฉายเท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าพอจนจบเรื่องแล้ว เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร มันอาจจะโดนด่า มันอาจจะฉายไม่จบ หรือมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่มาโดกะ มากิก้าชิงทำก่อนก็คือแหกกฏสาวน้อยเวทย์มนต์ ทำลายโครงสร้างที่สวยงามของมันด้วยการมองโลกในแง่แห่งความจริง (ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องห้ามในโลกแอนิเมชั่นแห่งความฝัน) อันที่จริงแล้ว มาโดกะ มากิก้า ไม่ใช่อะไรใหม่เลย ความจริงแล้วเราเห็นเรื่องอย่างงี้ได้ง่ายมากจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นหรือ ภาพยนตร์ยุโรป เพียงแต่เพราะเราเคยชินกับสื่ออื่น ๆ ที่นิยมการสร้างและบีบคั้นอารมณ์ที่เพื่อหวังผลแบบโจ่งแจ้ง ในขณะที่มาโดกะ มากิก้าและภาพยนตร์เหล่านั้นไม่นิยมที่จะทำอย่างนั้น อันที่จริงมาโดกะ มากิก้าตอนที่สามก็ได้มีการปูทางและสร้างอารมณ์อย่างเด่นชัดเพื่อเรียกความ สะเทือนใจจากผู้ชมในตอนท้ายเพียงอาจจะแค่ว่ามันนำเสนอแบบเรียบง่ายราวกับโลก แห่งความจริงและเร็วเกินไปกว่าเวลาอันควร ทุกอย่างเกิดขึ้นจนเราไม่อาจที่จะเดาได้ว่าเรื่องต่อไปจะเดินไปในทางไหน แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:41:01 จากคุณ : Huntz เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:16:25

ความคิดเห็นที่ 4 จบครับ บทความทั้งหมดเป็นของคุณ nighty นะครับถ้าต้องการอ่านต้นฉบับที่บล้อคคลิกที่ชื่อได้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:25:03 จากคุณ : Huntz เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:20:44

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากครับสำหรับ บทความ อ่านมาตั้งนาน  สรุป ได้ว่า เรื่องนี้ ก็แค่ ขายความอาร์ท และ ความแปลกแหวกแนว ในเรื่องราวที่มีอยู่ เกลื่อนกลาน  ใน ชื่อว่า สาวน้อยเวทย์มนต์ เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:56:12 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:55:03 จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:53:35

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่เห็นด้วยนิดนึงเรื่องที่บอกว่ากระแสเรื่องนี้เงียบก่อนที่จะฉาย เพราะว่าเรื่องนี้เป็นที่จับตามองตั้งแต่ประกาศชื่อทีมงานแล้วครับ ผมเชื่อว่าแค่สาวก Aoki Ume ก็มีไม่น้อยแล้วล่ะ แถมเป็นสาวกที่เหนียวแน่นด้วย ยังไม่รวมแฟนๆของ Shaft อีก จากคุณ : wachira2k เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:56:17

ความคิดเห็นที่ 7 มาโดกะ มันก็ไม่น่าจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ตั้งแต่แรกแล้ว(หรือ) ที่จริงมันไม่ควรจะพูดว่าเป็นความพินาศของสาวน้อยเวทมนตร์หรอก แต่เป็นการตีความให้มืดมนของตาชินโบ และคณะ นั่นแหละ จะเอาอะไรมาวัดว่าเป็นความพินาศกันล่ะ ในเมื่อยังมีสาวน้อยจมเวทย์แบบพรีเคียว ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ !!! จากคุณ : Pelapear เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:56:17

ความคิดเห็นที่ 8 WTF did i just watch จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:00:14

ความคิดเห็นที่ 9 ผมสนเรื่องนี้ตั้งแต่ประกาศเรื่องแล้วนะครับ = =" จากคุณ : korntana0101 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:01:05

ความคิดเห็นที่ 10 ฟรีเคียวไม่ใช่สาวน้อยเวทมนต์ครับ พรีเคียวเป็นหนังประเภทเดียวกับเซลเลอร์มูน แต่จะพูดให้ถูกจริงๆ พรีเดียวเป็นหนัง Action Hero สำหรับเด็กผู้หญิง เหมือนกับเด็กผู้ชายที่ดูคาเมนไรเดอร์และหนังเซนไท จากคุณ : Eve&Kyoko FanClub เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:06:54

ความคิดเห็นที่ 11 พรีเคียว ก็คืือ สาวน้อยเวทมนตร์ประเภทหนึ่งนั่นแหละ (ถึงแม้ว่าจะออกไปในทางฮีโร่สไตล์โตเอะ ก็ตาม) นะ คห.10 อย่าลืมสิว่า สาวน้อยเวทมนตร์ที่ฉีกแนวเดิมๆในยุค90ก็คือเซเลอร์มูน (ก่อนที่จะมีปิศาจขาวมาฉีกแนวคิดไปอีกขั้นนึงในยุค2000) ดังนัั้น ไม่ว่าเซเลอร์ หรือ พรีเคียว หรือ เวดดิ้งพีช ล้วนต่างก็เป็น สาวน้อยเวทมนตร์เช่นกันทั้งหมดทั้งสิ้น ฉะนั้น อย่ามาเถียงว่าไม่ใช่ จำเอาไว้สิ!! แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 00:17:15 จากคุณ : Pelapear เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:16:15

ความคิดเห็นที่ 12 ผมก็ว่า มาโดกะ ก่อนฉาย กระแสเงียบนะครับ คนที่สนใจก่อนฉายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแฟนๆ ของ Shaft มากกว่า เพราะดูได้จากเมื่อฉายไป 2 ตอน ยังแทบไม่มีคนพูดถึง จนเมื่อจบตอนที่ 3 นั่นแหละ ที่ดึงกระแสขึ้นมาได้อย่างสวยงาน จนคนที่ไม่เคยดูต้องไปหามาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกระแสมันแรงแบบนี้ จากคุณ : LINK to BLUE เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:39:11

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงจะมีแนวสาวน้อยเวทมนตร์ออกมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยมีนิยามว่า "ต้องทำให้แบ๊ว น่ารัก โดนใจกลุ่มคนรักการ์ตูนแนวนี้" Mahou Shoujo น่าจะเป็นกลุ่มเด็กสาวที่ได้รับพลังเวทมนตร์ ซึ่งเนื้อเรื่องจะไปทางไหนก็ขึ้นกับทางผู้สร้าง เพราะกลุ่มเด็กเป็นหลัก และฉายช่วงเช้า เลยทำให้กลุ่มใหญ่เป็นเด็ก-วัยรุ่นเป็นพิเศษ ในมุมมองของผู้ผลิต มองว่าทำยังไงให้ขายได้ สุดท้ายเลยต้องวนไปแนวเดิมๆ ไม่มีการดิ้นรนให้เกิดความแตกต่าง เต็มที่ก็มีการปรับบทให้เข้มข้นขึ้นบ้างให้สอดคล้องกับตลาดปัจจุบัน แต่ก็อย่างว่าละพวกเซ็นไต คาเมนไรเดอร์ ทำแนวเกินก็มักจะโดนด่าเสมอ นาโนฮะภาคแรก ชินโบกำกับ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ถือว่าฉีกกฏข้อนั้นไป (คงเพราะฉายรอบดึกด้วย) แม้จะยังคงไว้ด้านขายตัวละคร และความน่ารัก แต่รูปแบบการต่อสู้ถูกเบนไปจากแง่มุมของสาวน้อยเวทมนตร์คิกขุ จนสนุกกว่าการ์ตูนแนวเวทมนตร์หลายเรื่อง จนน่าจะเหมือนกันดั้มยิงกันอยู่แล้ว พูดให้กระชับขึ้น ก็เหมือนการเปิดตลาดกลุ่มใหม่ขึ้นมา ไม่แคร์แนวเดิม มาโดกะ มาจิก้า จะว่าขายความแนวก็ใช่ แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง (ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็คงต้องดูต่อไป) เรื่องนี้ขายความมืดมน เพราะไปอิงความจริงมากเกินไป แทนที่จะวางพล็อตเรื่องแบบสาวน้อยเวทมนตร์สำเร็จรูป จะว่าไปที่ว่าทำลายจิตใจแฟนแนวนี้ก็ไม่แปลก แต่น่าจะได้กลุ่มใหม่เข้ามาทดแทน ในคห. 1 ผมว่าไม่ตรงเท่าไหร่ พล็อตแบบนั้นมันกว้างไปครับ มองรายละเอียดมีจุดต่างเยอะ - ไม่ได้สู้เพื่อปกป้องโลก แต่เพื่อความปรารถนาของตัวเอง ...จะมีคนคิดต่าง ก็คงมาโดกะล่ะ - แข่งขันกันเอง แยกกันทำตามใจตนเอง ไม่ร่วมมือกันสู้ - สะท้อนอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเด็กสาวเป็นบางช่วง (อิงความเป็นจริง ไม่ได้สดใสเสมอ) - ไม่เน้นขายตัวละครตามสาวน้อยเวทมนตร์ทั่วไป - ไม่มีฉากแปลงร่าง - ความประมาทเพียงชั่วพริบตา คือ หนทางสู่ความตาย ไม่ใช่รอดจนจบทุกคน - เงื่อนไขการเข้าร่วมเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ มีอะไรแฝงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้ชัดเจนเหมือนหลายเรื่อง - อื่นๆ ที่ยังไม่อยากเดาตอนนี้ ออกแนวทำลายความฝัน แต่การ์ตูนปัจจุบันหลายเรื่องก็ใช้เรื่องการสูญเสียตัวละครเป็นผงชูรสอยู่แล้ว (ใส่ผงชูรสมากไปก็ไม่ดี) ยิ่งประเภทตอน 1 - 4 มีตัวละครสำคัญไป เกิดอิมแพ็คหลายเรื่องในวงการอนิเมะอยู่บ่อยครั้ง ส่วนตัวผมก็ไม่อยากฟันธงว่า ชินโบ + อุโรบุชิ พลังจะเสริมกัน จนเกิดด้านมืดจนสุดจะหยั่ง กลับกัน น่าจะต้านกันมากกว่า ทำยังไงเรื่องนี้ที่มีโทนเรื่องด้านมืดจะไปต่อเรื่อยๆ ได้ โดยคนดูไม่เลิกตามไปเสียก่อน อ้อ! เห็นหลายจุดเจ้าของ Blog ไปเปรียบกับภาพยนตร์ซีรีย์ อย่าไปเปรียบให้เสียเวลาเลยครับ คนละกลุ่มกัน เป้าหมายก็คนละแบบกัน แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 07:51:16 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 00:52:39 จากคุณ : Vortex เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:44:48

ความคิดเห็นที่ 14 อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวใหม่ก็ได้นะครับหึๆๆ(ยกให้เป็นเต็ง1การตั้งตารอถ้าตารุยไม่ดรอปซะก่อน) จากคุณ : อย่าดรอปนะเฟร้ยยยยยยยยยย (NJ_kung) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 02:32:02

ความคิดเห็นที่ 15 เคยเห็นคนพูดเหมือนกันว่าอยากให้กลุ่มสาวน้อยเวทมนตร์เจอ "ของจริง" ซะบ้างอะไรแบบนั้น หรือบางคนบอกว่า สาวน้อยเวทมนตร์เหมือนเอานักเวทย์ LV 99 150 230 หรือ LV สูงลิบมานั่งตบมอนเตอร์ LV 10 20 ผ่านสมรภูมิแบบเสื้อผ้ายังไม่เปื้อนฝุ่นเสียด้วยซ้ำ ผมเองก็ไม่เคยดูอนิเมเกี่ยวกับสาวน้อยเวทมนตร์เป็นเรื่องเป็นราวซักที (รวมทั้งเรื่องนี้) เลยไม่รู้จะเห็นด้วยกับบทความดีหรือเปล่า แค่รู้สึกเห็นด้วยว่าถ้ามันมืดมนเอาไปฉายดึก ๆ หน่อยก็คิดว่าดีแล้วน่ะ #14 ซับตารุยรู้สึกจะต้องมีสวัสดิภาพของตัวละครเป็นเดิมพัน อย่าง Angel beat เห็นตารุยบอกว่า ตราบใดที่เทนชิยังอยู่ก็ยังปลอดภัย ลองมาเดาดูว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นสวัสดิภาพของใคร ผมขอเดาว่าโฮมุระ ละกันครับ จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 04:46:27

ความคิดเห็นที่ 16 อ่า... ส่วนตัวแล้วนั้นมองว่าสำหรับ Magica madoka คือการสร้างโลกของมาโฮโชโจในแบบโลกความเป็นจริงที่ควรจะเป็น ด้วยรูปแบบของการต่อสู้และสภาพสิ่งแวดล้อมนั้นมันก็น่าจะเป็นอะไรแบบนี้ อาจจะบอกว่าอาร์ท บอกว่าแนว หรืออะไรก็แล้วแต่ หากแต่นี่เป็นจินตนาการที่พยายามคิดออกมาให้ดูแล้วมันพูดออกมาได้ว่า "นี่ล่ะ โลกของเวทมนตร์และแม่มด" เพียงแต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้จะนำเสนอได้แบบหาญกล้าท้าทายหลักแนวคิดที่วางต่อ ๆ กันมาก็แค่นั้น เพราะถ้าว่ากันจริง ๆ ตั้งแต่สมัยแซลลี่ก็มีความหนัก และมีความอาร์ทอยู่ในตัวมันเอง เพียงแค่มันมีน้อยเกินกว่าที่หลายคนจะรู้สึกได้ถึงความหนักก็แค่นั้นเอง (มันเป็นการ์ตูนเด็กผู้หญิงด้วยล่ะ ขืนให้แซลลี่มาท้าชนเหล่าแม่มดในโลกเวทมนตร์ทั้งหมดคงไม่ไหว) ฉะนั้น Magica madoka ไม่ได้ทำให้โลกของมาโฮโชโจพังทลายแต่อย่างใด และตัวเองก็มองว่ามันไม่ได้ฉีกแนวอะไร เพียงแต่ เสนอมุมมองแบบโลกความเป็นจริง โลกที่ทุกคนไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่ได้มีโชคช่วย และไม่ได้รักกันไปเสียทุกคน จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 08:45:37

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเหมือนคุณ joyka เลย มันไม่ใช่ว่าแหวกแนวหรืออาร์ทกว่ารูปแบบของมาโฮโชโจมากนัก เพียงแต่เป็นการมองรูปแบบนั้นในมุมมองที่มี"ตรรกะ"มากกว่า ที่ผมเห็นคือการเสริมความโหดร้ายของความเป็นจริงลงไปในจินตนาการ และกำหนดรูปแบบจาก"คำถาม"ต่อขนบของสาวน้อยเวทมนต์ว่า "โลกเรามันสดใสและปลอดภัยขนาดนั้นจริงๆหรือ?" จะว่าไป การ์ดแคปเตอร์ซากุระนี่ก็สาวน้อยเวทมนต์ชัดๆเลยแฮะ พึ่งจะมานึกได้ตอนอ่านกระทู้นี้ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 10:20:06

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากดูการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง Mai-Hime เลย ไม่รู้ว่าเรื่อง Mai-Hime จะถูกจัดเข้ากลุ่มสาวน้อยเวทมนตร์ด้วยรึเปล่านะ แต่เอาเป็นว่าโทนเรื่องออกแนวคล้ายๆกัน คือตอนต้นเรื่องเป็นการ์ตูนใสๆ แต่มาหักมุมเอาทีหลัง อย่าง Mai-Hime นี่ก็ครึ่งแรกของเรื่องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อปกป้องโลก แต่พอมาครึ่งหลังของเรื่อง กลับหักมุม สาวน้อยแต่ละคนต้องมาต่อสู้กันเอง เพื่อความอยู่รอดและทำให้ความปราถนาของตนเองเป็นจริง จากคุณ : EcoNoMiss เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 10:26:41

ความคิดเห็นที่ 19 จะขายความแนวก็ช่าง หรือจะเป็นนำเสนอมาโฮโชโจแบบโลกความเป็นจริงก็ช่าง แต่ผมว่าเรื่องนี้ช่วยให้พักหายใจจากอนิเมที่ขายแฟนเซอร์วิสกับฮาเร็มได้อย่างดีทีเดียว ขายเนื้อเรื่องเข้มข้นชวนติดตาม มากกว่าขายโมเอะ แฟนเซอร์วิสแล้วก็ฮาเร็ม (โดยเฉพาะเรื่องริโอะ ไม่มีอะไรเลยจริงๆเรื่องนี้) จากคุณ : ซามาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 10:27:59

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนนี้ดูเหมือนหลายๆท่าน จะยึดติดกับคำว่า "สวาน้อยเวทมนตร์"กันมากเกินไปหรือป่าว อาจจะทั้งจากคำเปรยของชินโบเอย อาจจะทำพูดของคิวเบย์ตลอกทั้งเรื่อง ที่ก็เน้นย่ำกับคำว่า"สาวน้อยเวทมนตร์"ซะเหลือเกิน ถ้าเรายกเอาคำว่า"สาวน้อยเวทมนตร์"ออกไป จะมองเรื่องนี้ในอีกมุมนึงก็ได้ อย่างนาโนฮะ ที่หลุดออกจากคำว่าสาวน้อยเวทมนตร์ไปเลย จนแทบกลายเป็นสงครามกุ้งดำไปซะแล้ว หรืออย่างซากุระ ที่ไม่มีคำว่าสาวน้อยเวทมนตร์เลย จนคนส่วนใหญ่จะลืมไปด้วยซ้ำว่า ซากุระนี้แหละ ยิ่งกว่าสาวน้อยเวทมนตร์อีก ถ้ามาโดกะลองเอาคำว่าสาวน้อยเวทมนตร์ออกดู จะได้เรื่องถีมที่มืดมนแบบสุดๆ ฉากหลังของทุกฉากที่ลงสีให้ดูสว่าง แต่กลับออกแนวมืดมน มีแต่ปริศนา แถมฉากตอนเย็น และตอนค่ำ ที่จะมีเยอะกว่าฉากตอนเช้ามาก ยิ่งโลกของแม่มดยิ่งหนักข้อเข้าไปอีก แถมบทอธิบายหลายๆอย่าง ทั้งของความปรารถนาได้1อย่าง แลกกะการล่าแม่มด แถมมีการต้องหาซีท มาเลี้ยงพลังเวทอีก และต้องมีการแก่งแย่งในการล่าแม่มด ซึ่งแต่ล่ะอย่าง เป็นกิเลสของคนปกติทั้งนั้น ผมจึงคิดว่าเรื่องนี้แค่แปะหัวว่า"สาวน้อยเวทมนตร์" ลอกคนดูไปงั้นแหละฮะ ที่จริงนี้คือ"แว่วเสียงนางนวล" ภาคสองชัดๆ 555+ จากคุณ : st.ZERO (MooMoTo) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 11:54:58

ความคิดเห็นที่ 21 มองว่าเป็นการตีความใหม่ รึมองในมุมมองใหม่ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นและซีเรียสขึ้นเท่านั้น   เหมือนที่พลูโตเคยทำกับเจ้าหนูอะตอม   ด้านเนื้อหาไม่ได้แปลกใหม่และหาไม่ยากในการ์ตูนแนวนี้อยู่แล้ว ค่อนข้างตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ กำจัดสัตว์ประหลาด เพื่อทำให้ฝันตัวเองเป็นจริง (ยังเป็นสัตว์ประหลาดอยู่ ไม่ใช่ต้องสู้กันเองรึฆ่าคนอื่นเพื่อลดความหม่นของเรื่อง คิดว่าอาจยกระดับความเครียดด้วยการใส่การต่อสู้กับคนจริงๆในภายหลัง)   พล็อตรวมยังคงเป็นเบสิคของสาวน้อยเวทย์มนต์แบบง่ายๆอยู่เลย แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 12:14:18 จากคุณ : Aya+EVE เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:11:41

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าชินโบมันกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงนะ รู้ๆ อยู่ว่าแนวสาวน้อยเวทย์มนตร์ที่ผ่านมามีแต่แนวอบอุ่น สดใส มิตรภาพอาจจะมีดรม่าเคล้าน้ำตาบ้าง แต่ก็ยัง feel good แต่ไอ้นี่มันกล้าเปลี่ยนหักดิบจนทำให้คนดูต้องอ้าปากค้าง เป็นการนำเสนอสาวน้อยเวทย์มนตร์อีกมุมมอง (ในความเป็นจริงมากๆ) น่าสนใจครับ น่าสนใจจริงๆ งานของ Shaft มักจะมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ จากคุณ : ZoxRo เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:16:37

ความคิดเห็นที่ 23 มันยังอยู่ในขอบมากกว่า ปุนิเอะ เยอะ จากคุณ : Bluesardeen เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:17:16

ความคิดเห็นที่ 24 กลัวเด็กหยิบไปดูอ่ะสิ เพราะมันดันมีคำว่า Maho Shojo ซึ่งๆเด็กจะชอบ(โดยเฉพาะผู้หญิง) สงสัยได้ดูแล้วคงไม่ดูแนวสาวน้อยเวทมนตร์ไปอีกนาน จากคุณ : ZGMFX13A เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:22:01

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ เด็กญี่ปุ่นไม่ค่อยซื้อเองอยู่แล้ว แผ่นแพงพอสมควร แต่ผุ้ปกครองซื้อไปให้ลูกนี่สิ จากคุณ : Vortex เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 16:17:12

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าผู้ปกครองที่ฉลาดและดูเมะบ่อยๆ น่าจะพอห้ามทันนะ แต่ถ้าเป็นผู้ปกครองธรรมดาที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขา นี่สิ ..... งานเข้าแน่ๆ จากคุณ : Pelapear เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 16:38:28

ความคิดเห็นที่ 27 คนแต่งเพลงเรื่องนี้ก็ Kajiura Yuki คนแต่งเพลงผลงานดังๆอย่าง Tsubasa กับเกม Xenosaga ผลงานของคนนี้ก็ไม่ใช่แนวสดใส แต่เป็นแบบโกธิค แนวเพลงใส่พลังซะมากกว่า เพลงปิดก็เป็นฝีมือคนนี้ มืดมนใช้ได้เลนทีเดียวครับ ถือว่าแหวกดีนะ แก้เลี่ยนแนวโมเอะได้ดีเลย จากคุณ : เมเดียส แซเครตัส เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:48:13