ความสุดโต่งในยุคข่าวสารข้อมูล
|
 |
บารัค โอบามา เป็นใคร ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
บารัค โอบามา นับถือศาสนาอะไร ? หลายคนย่อมตอบได้ว่า เขานับถือศาสนาคริสต์ แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตอบว่าเขานับถือศาสนาอิสลาม เชื่อหรือไม่ว่าคนกลุ่มหลังนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่แซอีร์หรือรวันดา หากอยู่ในสหรัฐอเมริกานี้เอง
การสำรวจความคิดเห็นเมื่อกลางปีนี้ของสำนักวิจัยแห่งหนึ่งพบว่า ร้อยละ ๑๙ ของชาวอเมริกันเชื่อว่าโอบามาเป็นชาวมุสลิม ไม่กี่เดือนต่อมานิตยสารไทม์พบว่า ชาวอเมริกันที่มีความเชื่อดังกล่าวมีสูงถึงร้อยละ ๒๔ ข้อมูลของบางสำนักระบุว่าในสหรัฐอเมริกามีถึง ๓๐ ล้านคนที่มีความเชื่อเช่นนี้ หลายคนเข้าใจว่าโอบามาเป็นมุสลิมก็ด้วยเหตุผลเพียงเพราะชื่อและนามสกุลของเขา โดยเฉพาะ ฮุสเซน ซึ่งเป็นชื่อกลางของเขา อีกไม่น้อยเชื่อเพราะได้ข่าวลือมาว่าในวัยเด็กเขาเคยเข้าโรงเรียนสอนศาสนา อิสลามในอินโดนีเซีย รวมทั้งได้ฟังมาว่าเขาไม่ยอมเอามือแตะหัวใจขณะกล่าวคำปฏิญาณว่าจะจงรักภักดี ต่อประเทศสหรัฐอเมริกา
ความเข้าใจว่าโอบามาเป็นมุสลิมมิใช่เรื่องใหม่ หากเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่เขาจะได้เป็นประธานาธิบดีเสียอีก ความที่เขาเป็นตัวเก็งในตำแหน่งนี้ จึงมีการปล่อยข่าวลือนานาประการเกี่ยวกับตัวเขาในช่วงหาเสียง รวมทั้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการนับถือศาสนาของเขา การปล่อยข่าวลือดังกล่าวได้ผลไม่น้อย เดือนเมษายน ๒๕๕๑ หรือ ๖ เดือนก่อนวันลงคะแนนเสียง มีชาวอเมริกันร้อยละ ๑๐ ที่เชื่อว่าเขานับถือศาสนาอิสลาม ที่น่าแปลกใจก็คือหลังจากที่เขาได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว ความเข้าใจผิดดังกล่าวแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้นมากกว่า ๒ เท่า ดังผลการสำรวจข้างต้นของนิตยสารไทม์
ใช่แต่เพียงเท่านั้นยังมีคนอเมริกันไม่น้อยที่เชื่อว่าโอบามาไม่ได้เกิดในสหรัฐอเมริกา แต่เกิดที่ประเทศเคนยา คนที่เชื่อเช่นนี้มีถึงร้อยละ ๒๐ ของชาวอเมริกันที่บรรลุนิติภาวะ ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะหากเป็นความจริงก็หมายความว่าโอบามาไม่มีสิทธิเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ มีการฟ้องศาลกล่าวหาว่าเขามิใช่เป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิด
โอบามาและคณะของเขาปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เขาไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม และไม่เคยเข้าโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม รวมทั้งโต้แย้งข้อกล่าวหาอีกมากมายด้วยการเอาหลักฐานต่าง ๆ มายืนยัน ใช่แต่เท่านั้น แม้แต่หน่วยงานของรัฐก็ยังยืนยันว่าโอบามาเกิดในฮาวายโดยมีสูติบัตรเป็นหลักฐาน แต่จนแล้วจนรอดคนที่เชื่อข่าวลือก็ไม่ได้ลดลงเลย กลับเพิ่มมากขึ้น
ควรกล่าวด้วยว่าผู้ที่เชื่อข่าวลือดังกล่าวไม่ใช่คนระดับรากหญ้าที่ไร้การศึกษา คนเหล่านี้อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ท่องเน็ต คำถามจึงมีว่าเหตุใดจึงมีคนเชื่อข้อมูลเท็จกันมากมายทั่วประเทศทั้ง ๆ ที่รายล้อมด้วยข่าวสารข้อมูลมหาศาล เหตุใดข่าวลือจึงแพร่ระบาดในประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างยิ่งในด้านสารสนเทศ ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในยุคข่าวสารข้อมูล
คำถามดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเรามีสมมติฐานว่าข่าวลือกับยุคข่าวสารข้อมูลน่าจะเป็นสิ่งตรงข้ามกัน แต่ในความจริงแล้ว สองสิ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้ จะว่าไปแล้ว มันยังเกื้อกูลกันด้วยซ้ำ พูดอีกอย่างก็คือ เป็นเพราะทุกวันนี้มีข่าวสารข้อมูลท่วมท้น ข่าวลือข่าวเท็จจึงแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะข่าวเท็จที่เหลือเชื่ออย่างยิ่ง
จากคุณ |
:
nonarav
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 54 11:59:10
|
|
|
|