Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เดินทางส่งท้ายโอชิน ขอบคุณคำใหญ่คุณ Edna ติดต่อทีมงาน

มาขอบคุณคุณ Edna
ด้วยการส่งท้ายเดินทางไปกับโอชิน

สงครามชีวิตโอชิน
คือการเผชิญชะตากรรมของผู้หญิงคนหนึ่งใน 3 รูปแบบ
คือสงครามกับความยากจน สงครามกับขนบนิยม
และสงครามกับญี่ปุ่นยุคทุนใหม่

ในแต่ละสงคราม โอชินได้ใช้วิธีการชนะผ่านมาได้อย่างไร

สงครามกับความยากจน : ขยัน อดออม
โอชินคือตัวอย่างของคนรากหญ้าที่อยู่ในสถานะเตี้ยติดดิน
ชีวิตลำบาก ยากจน มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า
ผู้เป็นย่าผู้ปลูกข้าวมาชั่วชีวิต
ตายจากไปโดยไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสสัมผัสข้าวที่ตัวเองปลูกเลย
ลูกๆพี่น้องของโอชิน ก็ไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
เพราะต้องแยกย้ายไปทำงานที่อื่น หาเลี้ยงจุนเจือครอบครัว
รวมทั้งตัวโอชินก็ต้องถูกขายไปเป็นคนรับใช้ต่างถิ่นตั้งแต่เจ็ดขวบ
(เออ น้องๆโอชินหายไปไหน บทไม่ได้พูดถึงเลย)
โอชินใช้ความมานะพยายาม ขยันและอดออม
สู้ชีวิตทุกรูปแบบฝ่าฟันสงครามแห่งความยากจน
ล้มแล้วลุก คลุกคลานหลายต่อหลายครั้ง
จนไม่สะพรั่นกลัว การเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง

ตั้งแต่เป็นเด็กคนใช้ในบ้าน เลี้ยงลูกๆผู้มีอันจะกิน
เป็นเลขาส่วนตัวของคุณนายใหญ่ร้านคางาย่า
เป็นช่างทำผม เป็นช่างเย็บเสื้อผ้า  เป็นชาวไร่ ชาวนาที่ซาง่า
เป็นเจ้าของแผงขนมโตเกียว(ชื่อเป็นทางการจำไม่ได้แล้ว)
เป็นเจ้าของร้านอาหารราคาถูก
เป็นเจ้าของร้านขายปลาโดยเริ่มจากรถเข็น
เปิดเป็นร้านแล้วก็เป็นรถเข็นอีกครั้งก่อนจะเป็นสามล้อ
แล้วก็เป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต

ถ้าไม่ได้ดูละครต่อเนื่อง คงงงว่า เป็นไปได้อย่างไร
หรือว่าโอชินเป็นแมวสิบชีวิต

สงครามกับขนบนิยม : อดทน อดกลั้น
ยุคสมัยของโอชินคาบเกี่ยวกับประตูเปิด-ปิดของประเทศ
ขนบนิยมสมัยดั้งเดิมยังค้ำคอผู้หญิงญี่ปุ่นเต็มอัตรา
โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นลูกสะใภ้ตระกูลอื่น
ไม่ต่างจากคนล้างเท้าประจำบ้าน
ต้ำต้อย ไร้สถานะใดๆทั้งสิ้น
ถูกโขกสับ ว่ากล่าว สารพัด
ทั้งๆที่ต้องทำงานหนักตั้งแต่หัวรุ่งจนจรดพลบค่ำ
โอชินจำต้องออมปาก ออมคำ ใช้ความอดทน อดกลั้น
จนท้ายสุดเชือกโอบิเส้นสุดท้ายขาดผึง
หนีออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกชายคนเดียว

ครั้นโอชินมาเป็นแม่สามีบ้าง
ยุคสมัยได้เปิดสิทธิเสรีให้กับผู้หญิงญี่ปุ่นมากขึ้น
กลายเป็นฝ่ายสะใภ้สามารถต่อล้อต่อกรกับแม่สามีทัดเทียมกัน
จะวางท่านั่งเฉยเป็นคุณผู้หญิงก็ไม่มีใครว่ากล่าวได้
หรือถ้าตำหนิได้ก็ไม่ขอฟัง

ขนบนิยมที่แปรผันนี้เอง ทำให้ผู้หญิงที่เกิดยุคเมจิอย่างโอชิน
เกิดช่องว่างกับเด็กๆยุคหลังสงครามโลก
อันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ
หากใช้ความเข้าอกเข้าใจ อดทน อดกลั้น อีกนั่นแหละ
ทำให้เธอผ่านความขัดแย้งนี้หลุดมาอีกเปลาะ

สงครามกับญี่ปุ่นยุคทุนใหม่: ปรับประยุกต์ตน
หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง
ประตูเปิดสู่โลกการค้าแบบตะวันตก
ทำให้ร้านค้าเล็กๆของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย
ถูกคลื่นทุนและวิทยาการยุคใหม่ล้มทับระเนระนาด

หากโอชินยังฝืนปฏิบัติดำเนินการค้าในแบบดั้งเดิม
ก็คงต้องเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ล้มเหล่านั้น
ทว่า โอชิน กล้าพอที่จะสลัดทิ้งวิธีการค้าแบบเก่า
ที่ฝังอยู่ในจิตวิญญานโอชินมาตั้งแต่สมัยอยู่ร้านข้าวคางาย่า
และต้อนรับวิถีใหม่ที่รุกกรายเข้ามา
ด้วยการเข้าไปศึกษาให้ถ่องแท้ เรียนรู้ สัมมนาระบบ Self Service
จนตระหนักในแนวโน้มที่กำลังถาโถมทั่วประเทศ
แทนการปฎิเสธ  แล้วก้มหน้าก้มตางุดๆไม่สนใจภัยคุกคาม
โอชิน ประยุกต์ตัวและแนวคิดทันการณ์เพื่อต่อสู้กับสงครามไม่มีตัวตน
จนประสบความสำเร็จ หรือกล่าวให้ชัดเจน
สามารถปรับระบบ Self Service บริการตัวเอง
ให้พอเหมาะพอเจาะกับร้านค้าในจังหวัดเล็กๆของตัวเองได้
สู้อุตส่าห์ลงทุนกับเครื่องจักรอัตโนมัติเช่น เครื่องบันทึกเงินสด
ซึ่งเป็นสิ่งที่ใหม่มากขณะนั้น
(แน่นอน ถ้าคอมพิวเตอร์เข้ามาตอนนั้น
โอชินก็คงจะต้องขอทดลองใช้ด้วย)

เมื่อซูเปอร์มาร์เก็ตของตระกูลถึงจุดวิกฤตเพราะพลังทุนต่างถิ่น
โอชิน ยอมรับกับความจริงข้อนี้ ไม่ฝืนระบบทุนนิยม
กล่าวให้กำลังใจลูกๆเผชิญกับความเจ็บปวดพร้อมทั้งเริ่มต้นใหม่อีก

ทั้งหมดนี้คือ สงคราม 3 รูปแบบที่โอชินเผชิญตลอด 83 ปี

แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 22:01:04

จากคุณ : กูรูขอบสนาม
เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 20:30:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com