[Tran - FanAccount] 110129 JYJ Lotte Fanmeet part 4
credit: yuichun-0925
translated by: sharingyoochun.net
แปลไทย:ลูกแก้วใสกิ๊งะริ๊ง (walking along with JYJ @ pantip)
[T/N: เนื่องจาก fan account อันนี้หลายส่วนจะคล้ายๆ กับ part 3 ที่เคยแปลไปแล้ว เลยเลือกมาเฉพาะที่อันเดิมไม่มี และช่วง touch event นะคะ]
ช่วงพูดคุยเรื่อง "Happy Energy"
จุนซูเริ่มพูดถึงเรื่องที่เขาอยากจะไปร่วมเป็นอาสาสมัครในประเทศเคนย่า แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่รู้จะอธิบายยังไงดีก็เลยหยุดพูดไป แต่ว่ามันน่ารักมากๆ เลยเพราะว่าเขาทำท่าหอบเหมือนพูดไม่ทันแล้วก็เริ่มดื่มน้ำ ^_^ จากนั้นพิธีกรก็ถามว่า "จุนซูพูดภาษาเคนย่าได้ใช่ไหมคะ?" และยูชอนกับแจจุงก็เลยประกาศออกมาพร้อมกันว่า "ตอนนี้จุนซูจะพูดภาษาเคนย่าล่ะน่ะครับ!"
จุนซูดูอายหน่อยๆ พิธีกรเลยพูดว่า "งั้นบอกว่า ผมรักคุณ เป็นภาษาญี่ปุ่นให้กับแฟนๆ ทุกคนแทนละกันนะคะ"
จุนซู: บัมบาย่าาาา~~!!!! *หัวเราะ*
มันต่างจากเวลาได้เห็นในทีวีมาก รู้สึกคิดถึงอดีตที่เคยดูการแสดงสดจังเลย ดูเหมือนว่าจุนซูจะไม่ค่อยมั่นใจในการพูดภาษาญี่ปุ่นของตัวเองเท่าไหร่เพราะว่าตอนพูดคุยที่เหลือก็นั่งเงียบเกือบตลอด เราได้ยินแฟนๆ ตะโกนขอให้จุนซูพูดอีกเยอะๆ ด้วย ^_^
------------------
หลังจากเพลงสุดท้ายได้จบลงไปก็มีการเตรียมโต๊ะขึ้นมาตั้งไว้บนเวที
พิธีกรออกมาอีกรอบแล้วประกาศว่าแฟนๆ จะได้รับโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์! แต่แล้วทุกคนก็เริ่มถามว่า "แล้วจับมือละคะ?" เธอบอกว่า "อะไรนะคะ ฉันไม่เห็นรู้เรื่องนั้นเลย..."ทุกคนเริ่มตกใจว่าจะไม่ได้จับมือ แต่แล้วก็มีทีมงานคนหนึ่งออกมาและแก้ไขคำพูดของพิธีกรว่ามีจริงๆ และหลังจากจับมือแล้วก็จะได้รับโปสเตอร์
พิธีกรคนนี้ดูไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย... ตอนนี้เราเลยหงุดหงิดนิดๆ *หัวเราะ*
จากทั้งสามหนุ่มก็เดินออกมา ทีมงานยืนอยู่ด้วยและพยายามให้แถวเคลื่อนไปเร็วๆ เราก็เลยมีเวลาอยู่แค่แว้บเดียวจริงๆ ลำดับก็เริ่มจากคนแถวหน้า ตอนที่รออยู่เราก็ถ่ายรูปและพยายามแต่งหน้าเพิ่มนิดหน่อย แต่ตาที่แดงไปแล้วเพราะร้องไห้นี่ก็แก้ไม่ได้แล้วจริงๆ -_-
พอแถวเคลื่อนมาใกล้ เราเริ่มกรี๊ดอยู่ในใจ!! ระยะห่างมีแค่โต๊ะเอง... ใกล้จัง
ใกล้จะถึงตาของเราอย่างช้าๆ ทุกทีแล้ว มันดูเหมือนจะจบลงอย่างรวดเร็ว...
แต่แล้วเราก็ได้ยินเสียงใครบางคนพูดอย่างโกรธๆ "มากี่รอบแล้วคะ??"
ดูเหมือนว่ามีบางคนวนกลับไปต่อแถวใหม่อีกรอบ เราทุกคนอยากจะทำอย่างนั้นกันทั้งนั้นแหละแต่มันผิดกฎนะ
ตอนนั้นใกล้จะถึงตาของเรามากแล้ว ใกล้ยูชอนเหลือเกิน เราคิดว่า ณ ตอนนั้นสมองเราคงหยุดทำงานไป...
มีหลายเรื่องเหลือเกินที่อยู่ในหัวแม้ไม่รู้ว่าพูดออกมายังไง..
แต่เราจับมือกับเขาแน่นและประหลาดใจมากที่นิ้วเขาค่อนข้างตะปุ่มตะป่ำ...
ข้อนิ้วข้อที่สองของแต่ละนิ้วใหญ่มากจนนิ้วเราแทบจะไปติดล็อคอยู่ที่นั่นเลย *หัวเราะ*
จากนั้นก็ถึงคราวของแจจุง เขาเห็นว่าเราดูเบลอๆ เลยมองหน้าเราเหมือนเชิงถามว่า "คุณโอเคไหมครับ?" มันช่างงดงามเหลือเกิน... เราจำได้อยู่เท่านี้
ระหว่างที่ยังคงเบลออยู่นั้นก็ถึงคราวของจุนซู เราพูดอะไรไม่ออกแต่จ้องมองตาเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเราเบลอมาก ตอนที่เขามองกลับมาถึงได้รู้สึกว่าหน้าเขาอยู่ใกล้มากแค่ไหน รู้สึกเหมือนกับว่าตกใจตื่นในตอนนั้น เพราะว่าจุนซเป็นคนสุดท้ายก็เลยจำความรู้สึกได้มากที่สุด
ทั้งสามคนสบตากับเรา... สุภาพมากเลย ดีใจจัง
แต่เราไม่ได้พูดอะไรกับยูชอนเลยและไม่ได้อวยพรวันเกิดให้แจจุงด้วย... เสียดายจัง T__T
ตอนที่เรากำลังจะลงจากเวที ทีมงานคนหนึ่งพยายามจะช่วยให้เราก้าวลงเพราะเวทีค่อนข้างสูง แต่เราไม่อยากยื่นมือไปเพราะมือเราเพิ่งได้สัมผัสกับทั้งสามหนุ่มก็เลยเดินลงมาด้วยตัวเอง และมารับโปสเตอร์...
มันเป็นช่วงเวลาแค่สองสามวินาทีที่ไม่เหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง มันเหมือนกับว่าเป็นช่วงเวลาในความฝันมาก ถึงขนาดที่ว่าเรายังสงสัยว่าละเมอไปเองหรือเปล่า... แต่สัมผัสมือของพวกเขายังคงติดอยู่กับเรา รวมถึงเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วย ในขณะที่เดินกลับบ้าน เรารู้สึกต่างออกไป แค่ได้ไปงานนี้ก็มหัศจรรย์เหลือเกิน แต่พอตอนกลับบ้าน กลายเป็นว่าเรารู้สึกเหงาและเศร้า...
ทั้งสามคนกังวลเพราะพวกเขาไม่สามารถจะมาที่ญี่ปุ่นได้ พวกเขาพยายามทำงานอย่างหนักเผื่อว่าจะทำอะไรได้บ้าง...
เรารักพวกเขาจริงๆ...
นี่คือรูปมือที่เปี่ยมศรัทธาของเรา....
แม้ว่าเราจะเองจะมองไม่เห็นแต่บนมือนี้มีขีดกากบาทเล็กๆ ที่ทิ้งรอยไว้โดยแจจุง จุนซูและยูชอน...