PANTIP.COM : A10206190 **อาอึ้ม...อั๊วดีใจมั่ก ๆ เลยฮ่า ที่ อาอึ้ม.."พิศมัย วิไลศักดิ์ ..ได้เป็น ศิลปินแห่งชาติ" [บันเทิงวิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 10

ดีใจด้วยนะคะ เหมาะสมทุกประการ

เราเอาบทสัมภาษณ์ คุณพิสมัย มาฝาก แต่นานแล้วนะ

ดาวค้างฟ้า ดาราเงินล้าน... พิศมัย วิไลศักดิ์


         ใครที่เป็น แฟนละครหลังข่าว ชนิดติดหนึบอยู่หน้าจอโทรทัศน์ทุกครั้งที่มีละครเรื่องโปรด ต้องชื่นชอบบทบาทของดาราอาวุโสท่านนี้เพราะเป็นผู้ชูรสเชิดเรื่อง แต่งแต้มละครแต่ละเรื่องให้มีสีสันสนุกสนาน ผู้ชมที่มีวัย 30-40 ปี ต้องมีโอกาสเคยชมภาพยนตร์ไทยที่ศิลปินท่านนี้แสดง และประทับใจในบทบาทการแสดงระดับปรมาจารย์ที่คว้ารางวัลเกียรติยศมากมาย แต่กับคนรุ่นใหม่อาจรู้จักเพียงบทบาทของ ยายผู้เสียสติถูกล่ามโซ่ในละครเรื่องลมหวน ย่าใหญ่ ผู้เชื่อมหัวใจให้สองหนุ่มสาวจากละครเรื่องรอยอดีตแห่งรัก ศิลปินท่านนี้คือ มี้ พิศมัย วิไลศักดิ์ ศิลปินนักแสดงอาวุโสเจ้าของฉายา ดาราเงินล้าน เพราะแสดงภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องนั้นโกยเงินล้านแทบทุกเรื่อง

          มี้เกิด 7 ธันวาคม พ.ศ. 2482 จบการศึกษาจากโรงเรียนบำรุงวิทยา และโรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากร แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นนางเอกเรื่อง การะเกด เมื่อ พ.ศ. 2501 คู่กับ ลือชัย นฤนาท และ ชนะ ศรีอุบล ชื่อเสียงของ พิศมัย วิไลศักดิ์ โด่งดังเป็นพลุจากฉากรำฉุยฉายในเรื่อง และได้แสดงภาพยนตร์ต่อมาอีกประมาณ 300 เรื่อง ผลงานที่มีชื่อเสียงได้แก่เรื่อง สองฝั่งฟ้า (2503) ดรรชนีนาง (2504) จำเลยรัก (2506) ดวงตาสวรรค์ (2506) โนราห์ (2509) ในจำนวนหลายเรื่องพิศมัยได้ใช้ความสามารถพิเศษในการรำไทย รับบทรำในเรื่องด้วย เช่น โนราห์ (2509) เมขลา (2510) สีดา (2511) หนึ่งนุช (2514) ค่าของคน (2514) สักขีแม่ปิง (2516) ระห่ำลำหัก (2518) ผลงานแสดงภาพยนตร์ของมี้มีประมาณ 300 เรื่อง

         รางวัลเกียรติยศที่เคยได้รับ ได้แก่ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลตุ๊กตาทอง ครั้งที่ 6 ประจำปี พ.ศ. 2506 จากภาพยนตร์เรื่อง ดวงตาสวรรค์ รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 5 ประจำปี พ.ศ. 2524 เรื่อง ค่าน้ำนม (เข้าชิง) และได้รับ รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2521จากภาพยนตร์เรื่อง ไร้เสน่หา สำหรับสาขา นักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 7 ประจำปี พ.ศ. 2526 จากภาพยนตร์เรื่อง เงิน เงิน เงิน และ รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 20 ประจำปี พ.ศ. 2542 จากภาพยนตร์เรื่อง กำแพง

         เมื่อมีโอกาสได้พบ มี้ ในสตูดิโอแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว สิ่งที่ทำให้เราอดทึ่งไม่ได้คือใบหน้าและผิวพรรณของ มี้ ยังคงเนียนสวยไม่เปลี่ยนแปลงแม้วันเวลาล่วงเลยไป และตามสไตล์มุมลำลองของหญิงไทยที่ต้องเก็บเรื่องสบายๆแต่ให้สาระกับคุณผู้ อ่าน เราจึงกระแซะเข้าไปนั่งข้างๆ มี้ เพื่อให้ มี้ ใจดีเผยเคล็ดลับกลวิธีที่ทำให้ผิวสวย

         ตลอดเวลาที่ผ่านมามี้จะบำรุงทั้งหน้าตา เนื้อตัวเพราะตรงนี้คืออาชีพของเรา เราต้องโชว์ออฟ ออกไปว่าคุณภาพงานเราดี หน้าตาผิวพรรณเราก็ต้องดีด้วย การแต่งหน้าในโทนที่ถูกใจของมี้คือโทนสีน้ำตาลเพราะว่าผิวหน้าของคนไทยเรา เป็นผิวชาวเอเชียสีผิวจะออกเหลือง ผิวตรงรอบๆกระบอกตาของชาวเอเชียจะหนา ส่วนฝรั่งเขากระบอกตาลึกเขาจะเล่นสีสันอะไรก็ได้ เวลาแต่งเปลือกตาเราจะไปเล่นโทนสีอย่างฝรั่งเขาไม่ได้ มี้ก็เลยชอบเครื่องสำอางโทนนี้

         เรื่องอาหารการกินมี้ทานปกตินะคะ มี้เป็นคนชอบไปหาร้านอร่อยๆทานและทานได้ทุกอย่าง แต่ตกเย็นแล้วมี้ทานมากไม่ค่อยได้เพราะอาหารไม่ค่อยย่อย มื้อเย็นเน้นเป็นอาหารเบาๆ ส่วนเรื่องผิวนั้นมี้โชคดีว่าโดยพื้นเพมี้เป็นลูกคนจีนผิวจึงขาวเนียนอยู่ แล้วก็ไม่ต้องซีเรียสมาก เพียงแต่ต้องบำรุงบ้างไม่งั้นปล่อยผิวหยาบกร้านไปก็ไม่น่าดู ผิวหน้าต้องใช้พวกอาย ไนท์ ลิปส์ ครบสูตร แล้วข้อสำคัญคือต้องล้างหน้าให้สะอาด ก่อนนอนมี้ล้างหน้ 2 - 3 ครั้ง แล้วก็ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดหน้าให้สะอาด ตามด้วยใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณหมอท่านหนึ่ง เสร็จแล้วมี้ใช้ผ้าเย็นๆประคบหน้าเพื่อปิดรูขุมขนทำให้หน้าชุ่มชื่นขึ้นโดย ที่เราไม่ต้องใช้น้ำร้อนเลย

         วันไหนต้องไปกองถ่าย ไม่ว่าเขาจะนัดเช้ากี่โมง มี้ก็จะตื่นให้เช้าขึ้นไปกว่านั้น ล้างหน้าให้สะอาดเสร็จแล้วก็ใช้ผ้าเย็นประคบ ก่อนจะใช้ครีมบำรุง อายครีม เดย์ครีม และครีมบำรุงต่างๆและครีมกันแดด 60 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าพอลลูชั่นสมัยนี้แรงกว่าสมัยก่อนทั้งแสงแดด ทั้งควันรถเราต้องดูแลผิวหน้ามากขึ้น

         การดูแลรักษารูปร่างมี้ไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะ แต่มี้เป็นคนทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง ขับรถเอง ถูบ้านเอง ทำงานบ้านเองทุกอย่าง ไม่ มีแจ๋วว่างั้นเถอะ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราแอ็คทีฟอยู่เสมอ แม้จะดื่มน้ำแก้วหนึ่งก็เดินไปหยิบเอง ช่วยเหลือตัวเอง มี้เป็นคนไว ทำโน่นทำนี่ด้วยตัวเองไม่มีอยู่เฉยๆ

         เรื่องใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพจิตใจ เราต้องดูแลให้ดีที่สุดเลย ปกติถ้าไม่มีเรื่องเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ แล้วมี้จะเป็นคนอารมณ์ดีนะ นอกจากใครจะมาจุดนั่นล่ะ เตือนหนึ่ง เตือนสอง เตือนสามแล้วยังไม่ได้อีกทีนี้ก็จะดุแล้วนะ อย่างเช่นเรื่องเสื้อผ้า แต่งตัวไม่ถูกไม่ควร ซึ่งเราสั่งแล้วต้องมีอย่างนี้ต้องมีอย่างนั้น ต้องเตรียมมานะ ถ้าเธอไม่มีเธอบอกฉัน เพราะฉันจะได้เตรียมมา บอกไปหนึ่ง สอง สาม ยังไม่เห็นผลเลยอันนี้ต้องดุกันแล้วละ แต่พอดุไปแล้วก็แล้วกันนะ เป็นคนไม่มาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก...

         ในการเป็นผู้อาวุโส ผ่านประสบการณ์ ผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆการทำงานมามากมายเมื่อต้องมาทำงานกับผู้ที่อ่อนวัย อ่อนประสบการณ์กว่า ผู้ใหญ่หลายคนคงคิดว่า โอ๊ย!ช่างเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ แต่ผู้ใหญ่ใจดีอย่างมี้ยิ้มรับทุกงานทุกปัญหาที่เข้ามาอย่างเข้าใจ

         ...การทำงานกับเด็กหลายรุ่น มันเหมือนกับว่าเราต้องปรับอยู่ในระดับกลาง เด็กเขาก็เข้ากับเราไม่ได้ การที่คนรุ่นเราจะไปคลุกคลีตีโมงกับเด็กมันก็ยาก เพราะเด็กๆเดี๋ยวนี้เขาทำตัวตามสบาย เขาไม่เคยมีกรอบมีระเบียบแบบเราเหมือนที่เราเคยผ่านมา เพราะเขาเกิดมาเขาก็มีทุกอย่างให้แล้ว ยก ตัวอย่างเรื่องการแต่งหน้าสมัยนี้เด็กเขาเดินเข้ากองถ่าย ทุกอย่างมีวางเตรียมพร้อม รอให้เขามานั่งช่างก็แต่งหน้าให้ได้เลย แต่สมัยมี้ต้องเตรียมเครื่องสำอางทุกอย่างมาเอง แต่งหน้าเอง ทำผมเอง เด็กสมัยนี้การเดินทางมีรถรับส่ง มีผู้จัดการ มีการดูแลที่ดี มีค่ายคอยดูแลหางานที่เหมาะสมให้ คอยประชาสัมพันธ์ให้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สมัยมี้ไม่เคยมี แต่เมื่อมาอยู่ตรงนี้ต้องทำงานร่วมกันเราก็ต้องปรับให้เข้ากับเขาเพื่อลด ความเกร็ง เพื่อให้เขาไม่กลัวเราในการทำงานด้วยกัน เราต้องเข้าใจเขาเลยว่าเด็กรุ่นนี้เป็นเด็กที่อิสระ มีความคิดเห็นเป็นของตัวเองเพราะเทคโนโลยีอะไรต่างๆทำให้เขาได้เรียนรู้ กว้างมากขึ้นและธรรมชาติของเด็กรุ่นใหม่คือเขาพยายามไขว่คว้าหาความรู้ และอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ เมื่อเราเข้าใจเขา เราก็จะปรับช่องว่างให้เข้ากันได้ เราจึงไม่มีปัญหาในการทำงานและเด็กก็อยู่กับเราอย่างอบอุ่น เราเป็นที่ปรึกษาเขาได้ เรามีความเชี่ยวชาญและรู้จริงเมื่อเราแนะนำอะไรไปเขาก็เชื่อฟังเรา

          ...วงการภาพยนตร์ ละครบ้านเราถ้าเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ตอนนี้พัฒนาดีขึ้นมากๆเลย เด็กเดี๋ยวนี้เขาฉลาด เขาทำงานแล้วเขาเข้าใจได้ไวเนื่องจากเขาเรียนรู้ทั้งจากโทรทัศน์ ภาพยนตร์ต่างๆมากมาย รุ่นมี้มีทีวีดูกันยังไม่ทุกบ้านเลย ผู้กำกับฯรุ่นเด็กเขาก็กำกับดารารุ่นเด็กๆมันควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าคนแก่ไปทำหนังเด็กเราก็ไม่รู้ว่าไอ้เด็กรุ่นนี้มันทำอะไรกัน อย่างมี้ไปเล่นกับหนังกับเด็กๆเขาก็ส่งผู้ใหญ่มาเป็นผู้ดูแลมี้ ส่วนดาราวัยรุ่นเขาก็มีผู้กำกับฯที่รู้ทางไปของคนวัยเดียวกัน งานออกมามันก็เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากกว่า...

         ...ตอนนี้มี้ อยากเล่นละครตลก เบาๆสมองมากที่สุด มี้ไม่อยากเล่นละครเครียดเพราะถ้ามีฉากร้องไห้เยอะต้องหาดาราที่รับส่งบทกัน ดีๆ ไม่งั้นมันจะทำงานยาก ถ้าถามว่าอยากไปเป็นวิทยากรสอนเรื่องการแสดงไหม มี้คงไม่มีเวลามากขนาดนั้น ทุกวันนี้ออกจากกองกลับบ้านก็มาทำงานบ้านเป็นแจ๋ว วันรุ่งขึ้นก็ไปกองถ่าย เป็นอย่างนี้มาตลอด และมี้ก็มีกิจกรรมบันเทิงของศิลปินรวมใจช่วยกาชาด มี้เป็นรองประธาน ทุกวันที่ 8 พฤษภาซึ่งเป็นวันงานกาชาดโลกเราจัดให้วันนี้เป็น วันงานศิลปินรวมใจช่วยกาชาดด้วย มี้กับป้าจุ๊ก็ช่วยกันทำงาน งานละครของมี้ที่ผ่านมาล่าสุดก็มี ตี๋ตระกูลซ่ง รอยอดีตแห่งรัก น่ารัก หนึ่งมิตรชิดใกล้ และที่กำลังจะออกอากาศทางช่อง 3 ตอนนี้คือเรื่อง จอมใจ ก็ถ่ายละครทุกวันไม่ค่อยมีวันว่างเลยค่ะ ที่มีงานเข้ามาเรื่อยๆเพราะตัวละครที่จะเล่นเป็นย่าเป็นยายนั้นเราก็พอแข็ง แรงไปเล่นได้มากกว่าคนอื่นหน่อยเลยทำให้มี้มีละครเล่นได้ไม่ขาด ส่วนเรื่องการให้คำแนะนำหรือเป็นที่ปรึกษาให้เด็กๆนั้น ถ้าอยู่ในกองถ่ายด้วยกันเล่นละครด้วยกัน เมื่อผู้กำกับฯเขาให้แล้วแต่เด็กไม่เข้าใจ มีปัญหาเรื่องบทมาปรึกษา มี้ก็จะช่วยเสริมให้ ก็แนะนำเขาว่ามันเป็นอย่างนี้ นะลูกนะ หนูต้องทำอย่างนี้ แต่เราไม่ได้ล้ำนะคะเราต้องดูก่อนว่าผู้กำกับฯเขาให้อะไรมาเพราะว่าเราสอนไป เราไม่รู้ว่าผู้กำกับฯเขาจะไปทางไหน เราฟังจากผู้กำกับฯแล้วเราก็มาอธิบายเด็กให้เขาใจ เพื่อให้ผลงานออกมาดีๆ ผู้ชมทางบ้านก็จะได้ชมอย่างเพลิดเพลินไม่รู้สึกสะดุด...

           กิจกรรมยามว่างของ พิศมัย วิไลศักดิ์ ที่ใครหลายคนอาจยังไม่ทราบ นั่นคือการช็อปปิ้ง ในห้างสรรพสินค้า แล้วหาร้านอาหารอร่อยๆทาน บางครั้งก็ไปคนเดียว บางครั้งก็รับป้าจุ๊ (จุรี โอศิริ)ไปเป็นเพื่อนเดินห้างฯด้วยกัน จากนั้นยามเย็นก็กลับบ้านมานั่งอ่านบทที่ต้องทำงานในวันต่อไป มี้บอกเราก่อนจากกันว่า

         ...คน รุ่นมี้ต้องทำการบ้าน ต้องอ่านบทไปก่อน ไม่ใช่ไปนั่งดูในกองถ่ายตอนเริ่มทำงาน ถ้าดูตรงนั้นเราไม่ทันเด็กหรอกค่ะ เพราะสมองเราก็ใช้งานหนักมานานแล้ว 50-60 ปีแล้ว เทียบกับสมองเด็กที่เพิ่งใช้มา 10 ปี 20 ปี เราจำบทไม่ทันเขาแน่ เราต้องปรับตัวเราให้พร้อมก่อนเพื่อว่าการงานจะได้ไวขึ้น...

         แม้ จะเป็นคำพูดเรียบๆที่เพียงเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของศิลปินอาวุโส ฉายาดาราเงินล้านท่านนี้ แต่นั่นก็ทำให้เรากระจ่างแจ้งว่าด้วยวิธีคิดวิธีการทำงานเช่นนี้นี่เองจึงทำ ให้ มี้ ...พิศมัย วิไลศักดิ์ เป็นดาวค้างฟ้าที่การทำงานตลอดมามีแต่ผู้ชื่นชม

ข้อมูลจาก : http://www.yingthai-mag.คอม/

แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 22:15:36

จากคุณ : ฉะฉาน

เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 22:11:08