ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้ต้องถามก้นครัวน่าจะเหมาะกว่าครับ แต่โดยส่วนตัวผมว่าความแตกต่างจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของการผสมกันของส่วนผสม และการให้ความร้อนอย่างทั่วถึงครับ จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 02:28:30

ความคิดเห็นที่ 2 ก็เวลาผัดผัก น้ำจากผักจะไหลออกมาน่ะครับ จากคุณ : dezwunwai เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 02:29:11

ความคิดเห็นที่ 3 ***      วัตถุดิบในการปรุงอาหารบางชนิดนั้นมีคุณสมบัติดูดซับน้ำครับ เช่นพืชผัก เห็ด เครื่องในสัตว์ อาหารแปรรูปจำพวกเต้าหู้ ฯลฯ  ดังนั้นถ้าพ่อครัวต้องทำอาหารในปริมาณมากๆก็หมายความว่า "น้ำ" จากในวัตถุดิบพวกนั้นที่จะออกมาอยู่ในกระทะย่อมมีปริมาณมากเช่นกัน      ทำให้การปรุงรสอาหารนั้นจำต้องเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณน้ำส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมาครับ  แต่ "อากิยามะ" ในเล่มแรกนั้นทำพลาดเพราะว่าไปปรุงรสแบบการทำอาหารในปริมาณน้อยแล้วกะเพิ่มส่วนเอาเองตามจำนวนคน  ทำให้อาหารที่ผัดออกมามีรสชาติจืดชืดและเฉอแฉะเกินไปครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 02:38:01

ความคิดเห็นที่ 4 ทำเยอะๆน้ำออกมามากๆ แล้วมันไม่ค่อยเด็ดดวง เลยต้องใส่เข้าไปเยอะๆรสชาติมันจะได้เข้มข้นเด็ดสะระตี่ จากคุณ : ผู้ชายลายสก๊อตต์ เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 03:29:13

ความคิดเห็นที่ 5 อาหารจีน อย่างผัดผัด เค้าต้องผัดไฟแรงๆ เร็วให้  ทำน้ำในวัตถุดิบออกมาไม่มาก แบบการ ต้ม แต่เมื่อ มีวัตถุดิบ ลงไปจำนวนจำนวนมากอย่างเช่นผัก  อุณหูภูมิมันก็ลดลง  กว่าจะให้ร้อนทั่วก็ต้อง ใ้ช้เวลานานกว่าปกติ ทำให้น้ำในวัตถุดิบออกมาเยอะขึ้นกว่าปกติ ผสมกับเครื่องปรุงทำให้จืด ครับ แต่ตอนนี้ ถือว่ามีจุดอ่อนครับ คงกะให้พระเอกมีจุดอ่อนบ้าง แต่มันไม่สมเหตุสมผลครับ อย่างที่ 1  ไคอิจิโร่ ปู่ของอากิยามะ ไม่มีทางเลยที่จะไม่สอนเกี่ยวกับประเด็นนี้  และถึงไม่สอน อากิยามะโดยตรง ย่อมสามารถจับหลักการนี้ได้เอง อย่างที่ 2  การปรุงรสแก้ ไม่ได้ยากเลย  เมื่อชิมแล้วจืด ก็ปรุงให้เข้มขึ้นก็เท่านั้น แถมอากิยามะ สามารถปรุงรส ได้แม่นย่ำ หยิบเกลือ จะกะเอากี่กรัมก็ได้ จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 04:39:08

ความคิดเห็นที่ 6 เอาเป็นว่าอาหารใช้Mass balanceไม่ได้ครับ ไม่ใช่วิชาเคมี จากคุณ : mad food sci (praanew) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 07:09:45

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ5ครับ คนทำอาหารธรรมดาผมว่ารู้เองทุกคน ระดับจางจะไม่รู้มันไม่เมคเซนส์เลยครับ จากคุณ : keerati Arm เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 07:47:49

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยว่าตอนนี้พยายามยัดเยียดจุดอ่อนให้พระเอกเกินไปครับ จากคุณ : Limelight เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 09:07:29

ความคิดเห็นที่ 9 กะจะบอกว่าพระเอกไม่เคยทำอาหารทีละมากกว่าสองคนกิน  บ่งชี้ถึงความสันโดษและไม่มีคนคบ จากคุณ : ตายประชดป่าช้า เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 10:02:34

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าพระเอกเก่งทุกอย่างตั้งแต่แรก การ์ตูนก็คงจบตั้งแต่เล่มแรกล่ะครับ และก็อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าจางไม่มีเซนส์นะครับ เพราะแค่มีคนบอกหลักการ จางก็สามารถปรับปรุงได้ในทันที จากคุณ : detchat เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 10:09:48

ความคิดเห็นที่ 11 คห.9 จาง อยู่กับปู่แค่ 2 คน คงไม่สามารถทำำอาหารให้คนทานได้ครั้งล่ะมากๆ ได้ แต่ตรงนี้ไม่ค่อย สมเหตุสมผลคือ ปู่จาง ต้องการฝึกจางให้เก่งอาหารจีน ก็น่าจะสอนทุกศาสตร์ ของอาหารจีนให้ จางหมด ทั้งกายและใจ เรื่อง จุดอ่อนของจาง ตรงนี้ คนเขียนคงตั้งใจจะใส่แต่แรกแล้วล่ะ พอมีคนมาบอกให้รู้ ก็ปรับปรุงตัวได้ทันที แต่เล่มหลังๆ มันก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน ตรงเชื่อมั่นในอาหารและฝีมือกับเทคนิคตัวเองมากเกินไป จนกลายเป็นที่โหล่ของ การแข่งทำเส้นหมี่ เพราะเหตุที่ว่า มีแต่เทคนิคกับฝีมือ แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหารเทียบกับ คิริโกะ ที่ทำด้วยใจรักและมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 11:38:24

ความคิดเห็นที่ 12 -.- เวลาย้อนอดีตแต่ล่ะที จางทำอาหาร ผมว่ากินยังไงก็หมมด 2 คน 55+ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 12:09:09

ความคิดเห็นที่ 13 "แต่เล่มหลังๆ มันก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน ตรงเชื่อมั่นในอาหารและฝีมือกับเทคนิคตัวเองมากเกินไป จนกลายเป็นที่โหล่ของ การแข่งทำเส้นหมี่ เพราะเหตุที่ว่า มีแต่เทคนิคกับฝีมือ แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหารเทียบกับ คิริโกะ ที่ทำด้วยใจรักและมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน " ความจริงแล้วที่จางแพ้เรื่องเส้นหมี่ ไม่ใช่เพราะเรื่องคุณค่าทางอาหารหรอกครับ แต่เพราะจางทำ "ตอเสียะหมี่" ที่เป็น "แค่ตอเสียะหมี่" ธรรมดาๆ ไม่มีการพลิกแพลงอะไรเลย กรรมการก็เลยตัดสินให้จา่งได้คะแนนต่ำสุด เพราะไม่มีการพลิกแพลง ต่างจากคิริโกะ และเซเรนุ ทีทำเส้นหมี่ที่ไม่ใช่รูปแบบเส้นหมี่ เป็นการไม่ยึดติดรูปแบบเดิมๆ เหมือนกับคิริโกะ ที่แพ้จางในรอบชิง (ถึงโอทานิจะมาให้ ๑๐ คะแนนเพราะเกลียดจางก็เถอะ) เพราะทำแค่ขนมวุ้นหวานเย็นในชามแตงโมแกะสลัก กรรมการที่คลั่งเพราะไข่เลือดที่แปลกประหลาดอยู่แล้ว ก็เลยเห็นว่าอาหารของคิริโกะเป็นแค่ของหวานธรรมดาๆไม่มีอะไรแปลก แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 54 12:30:34 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 12:29:32

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆผมว่าปู่จางคนถือคติว่า สอน6ส่วนรู้4ส่วน ไม่จำเป็นต้องสอนมันทุกเรื่องไป แค่อาศัยประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ด้วยระดับความสามารถพระเอกแล้ว สามารถ"เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง"แน่นอน ถ้ามัวแต่สอนปลีกย่อย ปู่มันคงได้ตายก่อนสอนครบกระบวนความ เสียดายภาค2ไม่น่าตัดจบเลย จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 13:11:14

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่ครับ ที่จางแพ้เรื่องอาหารเส้นหมี่เพราะว่า ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ครับแม้รถชาติจะสุดยอดแค่ไหนก็ตาม ก็เลยเอาคืนด้วยไข่เลือดในตำนาน ส่วนเรื่องจุดอ่อนผมมองว่าเป็นเพราะจางมั่นใจในตัวเองเกินไปเพราะคิดว่าฝึกมาเยอะ รู้หมดทุกอย่าง แต่พอนำมาใช้จริงๆบางทีมันไม่ใช่ก็เลยทำให้พลาด แต่ก็พลาดแค่ครั้งเดียวจากนั้นก็ไม่พลาดอีกเลย เรื่องดูอุณหภูมิปลานึ่งนี่สุดยอดจริงๆ นับถือตอนนั้นมากๆ พูดแล้วคิดถึงเรื่องนี้จังครับ อยากอ่านการ์ตูนทำอาหารมันส์ๆแบบนี้อีกจัง จากคุณ : พี่หมีขั้วโลก เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 19:18:24

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกคนครับ จากคุณ : Lecter เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 21:26:42

ความคิดเห็นที่ 17 อาหารถ้าทำปริมาณมากๆ จะเพิ่มสัดส่วนของเครื่องปรุงทดแทน หรือใส่น้ำเพิ่มเข้าไปแบบทวีคุณไม่ได้ คนทำอาหารให้คนกินหลายคน(หลายมื้อ)จะรู้ดีครับ มีอีกอย่างคือ อาหารแต่ละชนิดมีพลังต่างกันด้วย กินตอนร้อน กินตอนเย็น รสชาติอาหารต่างกันสุดขั้วเลย อาหารบางชนิดต้องระวังเสริฟปุ้บต้องรีบกินเลย ค้างคืนไม่ได้มั่งล่ะ หรือ อุ่นใหม่ไม่ได้ หรือ รอจนเย็นแล้วกินไม่ได้ เพราะรสชาติอาหารบางอย่างจะเพี้ยนไป เนื่องด้วยวัสดุอาหารบางอย่าง คงความอร่อยได้ต่างกัน บางชนิดคงความอร่อยได้นาน บางชนิดต่ำมากชนิดว่า ต้องรีบกิน ภายใน 10 นาทียังมีเลย และบางชนิด ยิ่งอุ่นหลายมื่อยิ่งอร่อย แต่บางชนิดยิ่งอุ่นหลายมื้อรสยิ่งห่วย จากคุณ : ลุงต้นไม้ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:24:50

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นการ์ตูนทำอาหารที่ผมชอบที่สุดเลยครับ!! อย่างไรก้อตามสำหรับตอนข้าวผัดเนี่ย ผมเข้าใจว่าจางประมาทนะครับ และออกจะดูหมิ่นโกบงโจด้วยเลยพลาดห้าแต้มแบบนั้นไปได้ รวมไปถึงประเด็นที่ว่าอยู่กับปู่แค่สองคนเลยไม่ค่อยได้ทำอาหารปริมาณมากๆก้อพอฟังขึ้นครับ คือไม่ใช่ไม่เคยทำเลย แต่ทำไม่บ่อย รวมกับความประมาทมันเลยออกลูกนั้น เชื่อไหม? ผมเองไปกินอาหารร้านตามสั่งร้านใหม่ๆที่ไม่เคยกินมาก่อน ผมก้อจะสั่ง ข้าวผัด มาทดสอบเหมือนจางเลยครับ เพราะถ้าข้าวผัดไม่อร่อยก้อไม่ต้องกินิอย่างอื่นแล้ว ม๊าวววววววววววววววววว จากคุณ : แมวกักขฬะ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:37:46

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าจำไม่ผิดผมว่าเรื่องน้ำที่พูดถึงในตอนนี้น่าจะเป็นน้ำจากแม่น้ำของเมืองกวางโจที่พระเอกเดินทางมา ซึ่งน้ำนี้ชาวบ้านจะใช้ในการปลูกผักโดยน้ำจะมีดินอยู่มากจะทำให้ผักมีกลิ่นโคลนต่างจากเมืองของพระเอก จึงทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนแปลงไป  แต่ไม่แน่ใจนะครับรอความเห็นจากท่านอื่นๆต่อไป จากคุณ : GLUER เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 13:36:51

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^^ ^^^ การ์ตูนคนละเรื่องแล้วค่ะ นั่นยอดกุ๊กแดนมังกรไม่ใช่เหรอ จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 14:09:21