โอ้โฮ...ถึงขั้นเป็นกระทู้แนะนำเลยนิ...สงสารเชอรี่ พอละครจะมีกระแสแรงหน่อยก็มีอุปสวรรคอีกจนได้
แนวคิดที่บอกว่าละครสะท้อนชีวิตจริง หรือชีวิตจริงได้มาจากละครนั้นเถียงยังไงมันก็ไม่จบหรอกค่ะ มันเป็นประเด็นโลกแตก
เราก็เป็นลูกผู้หญิงคนหนึ่งและเป็นเฟมินิสต์ด้วย(ขอโทษที่ต้องอ้าง) ดูละครไป ออกจะฮาและไม่ได้คิดอะไรมาก
จริงๆ ละครเรื่องนี้ได้มีลำดับและขีดเส้นคั่นไว้ตลอดแล้วว่า พวกแก็งค์ปลาไหลได้พยายามทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ถูกเปรียบเทียบกับพริษฐ์(จำรายละเอียดไม่ได้ แต่รู้สึกว่าเป็นไปตามลำดับ) จนกระทั่งมาถึงปาร์ตี้ธรรมะ พวกเขาหาทางออกไม่ได้อีกต่อไปจึงต้องเอาพริษฐ์มาเป็นพวก และต้องไม่ลืมว่าความเจ้าชู้ของพวกเขานั้นเพียงแค่ไปหลับนอนกับหญิงขายตัวชั่วครั้งชั่วคราววเท่านั้น ไม่ได้นำมาเชิดชูมาเป็นภรรยาน้อย พัฒนาจากผู้ชายสมัยก่อนมามากแค่ไหนแล้ว รวมทั้งการนำพริษฐ์มาเป็นพวกก้เป็นแบบเดียวกับตัวเอง คือ ไหลไปชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ให้พวกตัวเองรู้สึกแปลกแยกเท่านั้น มิหนำซ้ำ ละครยังแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่เคยตบตีภรรยาเลย มีแต่ถูกภรรยากระทำทั้งนั้น
ความเห็นที่ 107 พูดไว้ถูกต้องแล้ว คือ ถ้าเราไม่ยอมให้ละครพล็อตใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าคงยังไม่มีอะไรสมบูรณ์นัก เราจะได้ดูแต่ละครตบ/จูบ พระเอกข่มขืนนางเอก ละครแค้น ละครแย่งผู้ชาย ละครรอยปานแดง จับแต่งงานใช้หนี้ ละครรีเมคแล้วรีเมคอีก ไม่มีใครกล้าสร้างอะไรใหม่ๆ มาให้เราดูกัน
ละครมันมีเส้นขีดคั่นและรายละเอียดเยอะแยะ แต่ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมดูกัน จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้สร้างมีเจตนาจะบอกอะไร
ก็เพราะพวกเขามีศีลธรรมจรรยาและอยากทำอะไรแปลกใหม่มาให้ดูกันไงคะ แก็งค์ปลาไหลและแก็งค์แม่เสือจึงได้ดูมีความไม่สมจริงและกลายมาเป็นละครหลุดโลกที่ไม่น่าจะมีใครเอาไปเรียนแบบได้อย่างนี้
