ความคิดเห็นที่ 1 -*- จากคุณ : lightkung เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 17:49:08

ความคิดเห็นที่ 2 ด้วยพื้นฐานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้าน สภาพสังคม การเลี้ยงดู  การศึกษา และจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต่างกัน... คือฉนวนสำคัญที่เพาะบ่มรอยร้าวระหว่างดีน (Ryan Gosling) และ ซินดี้ (Michelle Williams) จนถึงจุดที่ไม่อาจหวนกลับคืน จากคุณ : JK Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:08:01

ความคิดเห็นที่ 3 ดีน ชายแสนดี แม้พื้นฐานการศึกษาไม่สูงนัก แต่ก็เป็นผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย หนุ่มง่าย ๆ สบาย ๆ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักที่จะมอบให้คนทั่วไปที่เขาได้พบ ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่าย โดยไม่มีแรงผลักดันในการตามล่าหาฝันเนื่องจากดีนเองก็ไม่ได้วาดภาพฝันว่าชีวิตของเขาควรจะดำเนินไปในทิศทางใด ด้วยวัยเด็กที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดติด รวมถึงความรักที่ผ่าน ๆ มา ก็เป็นเหมือนแค่คนที่ผ่านมา และก็ผ่านไป เพราะดีนไม่รู้สึกว่า เธอเหล่านั้นเป็นคนที่ใช่สำหรับเขา กับซินดี้สาวน้อยแสนดี.. ผู้มีพื้นฐานการศึกษาและฐานะที่ดีกว่าดีน ได้ซึมซาบและได้รับมุมมองแห่งความรักที่สวยงามหาใช่จากพ่อแม่บังเกิดเกล้า แต่ทว่าได้รับมาจากคุณยายของเธอนั่นเอง เธอเปรียบเสมือนคนทั่วไปที่วาดฝันชีวิตของตนในด้านอาชีพการงาน และอนาคตให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา ส่วนมุมมองของความรักสำหรับเธอ ก็เป็นเสมือนแค่ช่วงจังหวะใด จังหวะหนึ่งของชีวิตที่เข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตของเธอได้ แต่มิใช่จุดสำคัญที่สุด เธอจึงกล้าที่จะก้าวต่อไป และพร้อมที่จะพบรักครั้งใหม่เมื่อโอกาสมาถึง เมื่อทั้งสองมาเจอะกัน ก็เปรียบเสมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่ดึงดูดกันและกัน ความรักได้ก่อบังเกิดขึ้นบนพื้นฐานของ “Passion” และความรักของหนุ่มสาว โดยยังปราศจากจุดมุ่งหมายที่แบ่งปันร่วมกันอย่างแท้จริง จากคุณ : JK Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:12:01

ความคิดเห็นที่ 4 จุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต่างกัน คือตัวจุดฉนวนสำคัญที่ก่อให้เกิดปมในใจสะสม... จนถึงวันที่ความรักจึงมิใช่คำตอบสุดท้ายในการรักษาความสัมพันธ์อีกต่อไป สำหรับดีนแล้ว จุดมุ่งหมายในชีวิตของเขาได้แปรเปลี่ยนจากผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไร้จุดหมาย กลายเป็นผู้ที่อุทิศชีวิตของเขาเพื่อคนที่เขารัก “I’ll do anything” คือสิ่งที่ดีนสื่อออกมาหลายต่อหลายครั้ง สำหรับเขาแล้ว ชีวิตที่มีคนที่เขารักอยู่เคียงข้างและมีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องการ แค่มีเวลาให้ครอบครัว มีเงินเลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่ลำบาก ก็เป็นสวรรค์บนดินที่เขาพอใจแล้ว "ซินดี้คือโลกทั้งโลกทั้งใบของดีน" เขาจึงไม่เคยมีคำถามใด ๆ ที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสอง แม้กับความรักของเขาที่มอบให้แก่ Frankie ก็เป็นความรักที่อบอุ่นและล้ำค่าสำหรับเธอไม่น้อยไปกว่าพ่อคนใดบนโลกนี้แน่นอน หากซินดี้กลับมีมุมมองทีต่างออกไป เธอมีความใฝ่ฝัน มีแรงผลักดันเพื่อชีวิตและอาชีพการงานที่เธอใฝ่ฝัน สำหรับเธอ ดีนจึงไม่ใช้ผู้นำที่จะนำเธอได้ แม้เธอจะเปิดประเด็นปัญหาเพื่อหาแนวทางที่ดีขึ้นสำหรับความสัมพันธ์ที่ดำดิ่งลงแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา กลับไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ ด้วยพื้นฐานอันแตกต่างทำให้การสื่อสารที่ทั้งสองต้องการสือไม่ไปถึงกันอย่างแท้จริง จากรอยร้าวเล็ก ๆ ทีเกิดขึ้น ได้ขยายไปจนถึงจุดที่ไม่สามารถรักษาเยียวยาได้อีก ความรักจึงไม่ใช่ปัจจัยเพียงปัจจัยเดียว ที่ทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นเหมือนในนิยายที่เรามักจะได้ยินตอนเด็ก ๆ อีกต่อไป “Passion” เมื่อเกิดขึ้นได้ ก็สามารถเหือดหายไปได้เช่นกัน จากคุณ : JK Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:18:49

ความคิดเห็นที่ 6 น่าดู... จากคุณ : ตะมิ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:20:39

ความคิดเห็นที่ 7 ตัวละครอีกตัวที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงนั่นก็คือ สาวน้อย Frankie (Faith Wladyka) เธอเป็นเด็กน้อยผู้โชคดี เธอได้รับความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากดีนอย่างหมดใจ (ไม่ว่าจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของเขาหรือไม่ก็ตาม) เมื่อเรื่องราวได้ดำเนินมาถึงจุดจบ เธอจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเห็นพ่อที่เธอรักยิ่ง ได้เดินจากเธอไป โดยไร้ซึ่งคำอธิบายใด ๆ ในมุมของเด็กคนหนึ่ง ภาพ ๆ นี้ คงจะเป็นภาพที่ติดตราตรึงใจของเธอ อย่างไม่มีวันลบเลือน และเธอคงมีคำถามมากมายที่ค้างคาในใจเธอ ตลอดไป ในฐานะผู้ใหญ่ เราคงต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า ... หากเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณ คุณจะเลือกแนวคิดไหนให้กับเด็ก ระหว่างการให้เหตุผล ให้ความเข้าใจ หรือการเดินหนีไปเพื่อความสบายใจของคุณเอง จากคุณ : JK Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:21:55

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ นอกจากแนวคิดที่สะท้อนสภาพสังคมได้ดีแล้ว เราคงต้องยอมรับในฝีมือการแสดงของ Ryan Gosling และ Michelle Williams ว่าทั้งสองแสดงได้ดีมาก ๆ ไม่มีตอนใดเลย ที่ดูแล้วรู้สึกว่าทั้งสองกำลังแสดงหนังเรื่องนึงอยู่ ทั้งสองเล่นรับส่งอารมณ์ให้กันและกันได้อย่างดีเยี่ยม ดูแล้วทำให้เราอินกับความรู้สึกของตัวแสดงทั้งสองได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เมื่อหนังเรื่องนี้จบลง หนังเรื่องนี้ยังติดตรึงอยู่ในความคิดของเราไปอีกช่วงเวลานึง นอกจากนี้ แม้จะเป็นหนังจากฝั่งอเมริกาเอง ต้องขอชมเชยในการตัดต่อภาพในบางช่วง ที่ดูมีศิลปะ เหมือนหนังจากแถบยุโรปได้อีกด้วย Blue Valentine จึงถือเป็นหนังอีกเรื่องนึงที่คอหนังไม่ควรพลาด 8.5/10 จากคุณ : JK Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:23:23

ความคิดเห็นที่ 9 "ไม่มีตอนใดเลย ที่ดูแล้วรู้สึกว่าทั้งสองกำลังแสดงหนังเรื่องนึงอยู่ " เห็นด้วยตามเจ้าของกระทู้พูดค่ะ ที่จขกท แปะคลิป ฉากที่พระเอกยืนดีดกีตาร์ร้องเพลงแล้วนางเอกเต้นประกอบเพลง ดูธรรมชาติมากไม่เหมือนแสดงเลย ขนาดเราดูแค่ไม่กี่นาที ยังรู้สึกว่าไม่เหมือนแสดงเลย เหมือนชีวิตจริง จากคุณ : ตะมิ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:26:50

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นหนังที่ดีมาก.... จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:38:17

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบความสัมพันธ์คู่นี้ครับ มันเป็นอะไรที่จริงมากๆ ไม่ต้องเติมแต่งเรื่องราวให้มากมาย บีบเค้นอารมณ์อะไร หนังเดินของมันไป เราก็ค่อยๆ ซึมซับกับเรื่องราว หากใครอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น คงมีปล่อยโฮแน่ๆ แค่ผมไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น น้ำตาเกือบจะไหลล่ะ เศร้า จุกอกมาก.. จากคุณ : Lodlem เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 22:51:10

ความคิดเห็นที่ 12 หลงรักทั้งคู่เลย จากคุณ : himalayas เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 22:59:11

ความคิดเห็นที่ 13 เราให้เต็ม10 กลับมาเปิดดูเทรลเลอร์อีกรอบยังขนลุกอยู่เลย จากคุณ : YUKIss เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 00:55:23