--- คุยแบบชิลๆกับ "นัททิว" ---
|
 |
เป็นอีกหนุ่มฮอต ที่มีความสามารถทั้งร้องทั้งเต้น แถมล่าสุดกำลังมีผลงานด้านการแสดง กับละครเรื่อง "เหนือมนุษย์" ที่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย ด้วยเรตติ้งถล่มทลาย วันนี้ "คม ชัด ลึก" และ แมงโก้ แบงโก้ ของ แมงโก้ ทีวี ไม่พลาดคว้าตัว ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม หรือที่รู้จักกันในนาม นัททิว มาพูดคุยทุกเรื่องราว
พระเอกละคร
@ พูดถึงงานละครเรื่อง "เหนือมนุษย์" กันก่อน กระแสเป็นอย่างไรบ้าง
ได้รับการตอบรับที่ดี สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะการรอคอยของแฟนคลับ เพราะเรื่องนี้ถ่ายทำนานมาก เราเริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2553 ตอนนี้เกือบน็อกรอบแล้ว ก่อนหน้านี้แฟนคลับก็มีบ่นๆ ว่าเมื่อไหร่จะออก เพราะก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าจะได้ออนหลายรอบ แต่ไม่ได้ฉายสักที จนในที่สุด ก็ได้ฉาย คนดูส่วนหนึ่งมาจากคนที่รอ และอีกส่วนมาจากกลุ่มใหม่ๆ เพราะได้ดูตอนสองตอนแรกแล้วรู้สึก ว่าเนื้อเรื่องของละครสนุกเลยติดตามต่อ รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นละครยาวเรื่องแรกของผมด้วย ที่ถ่ายทำช้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการถ่ายทำที่ยากกว่าละครทั่วไป เทคนิคเยอะ เอฟเฟกท์เยอะ มีทั้งสลิง ระเบิด เวลาบู๊เราก็ไม่ได้บู๊แบบทั่วๆ ไป ท่าเตะต่อยจะเยอะแล้วท่าต้องสวย ผมเองเวลาถ่ายฉากบู๊ ต้องสลับถ่ายกับสตั๊นท์ เพื่อเก็บภาพให้ท่าสวยขึ้น มันจึงเป็นอะไรที่ยากแล้วก็ละเอียด
@ สำหรับบท เหมันต์ ที่ได้รับเหมือนหรือแตกต่างกับตัว นัททิว มากน้อยแค่ไหน
ตรงกันข้ามแทบทุกอย่าง (หัวเราะ) ตั้งแต่เรื่องบุคลิก เพราะตัวผมเองเป็นคนคนสบายๆ พูดเก่ง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่เหมันต์ เป็นคนเก็บกดและจะไม่พูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก จะเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ คอยปิดกั้นตัวเองเพื่อให้คนอื่นๆ ไปไกลตัวเรา แถมเป็นละครยาวเรื่องแรกที่ผมได้แสดง ซึ่งก่อนหน้า ที่จะมาเล่นละครเรื่องนี้ ผมเคยเล่นเรื่อง วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน มาก่อน ส่วนเรื่องเหนือมนุษย์นั้นต้องเรียกว่าจัดหนักมาก เพราะเป็นละครหลังข่าวแถมยังเป็นวันศุกร์ - อาทิตย์ ก็จะถ่ายกันเหนื่อยมาก
@ พอละครออกมาแล้วฟิตแบ็กดีอย่างนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
รู้สึกหายเหนื่อยทันที (ยิ้ม) ตอนแรกที่ถ่าย ผมคิดเลยว่านี่เหรอละครหลังข่าวช่อง 7 ขนาดเราถ่ายเป็นสต็อกยังเหนื่อยขนาดนี้ ต้องบอกก่อนเลย ว่าตั้งแต่ทำงานเป็นเอเอฟ เป็นนักร้อง ผมไม่เคยทำงานเช้าวันหนึ่งไปจนเช้าอีกวันหนึ่งเลย รู้สึกว่าหนักมาก แต่พอละครออกมา ได้เห็นผลงานละครตัวเอง ได้เห็นฟีดแบ็กจากเหล่าแฟนคลับที่ทวิตมา รู้สึกหายเหนื่อยที่คนดูชอบ แล้วตัวละครของผมนั้น มีหลายคนให้ความสนใจ เวลาไปไหน ก็มีคนรู้จักเรามากขึ้นด้วย เมื่อก่อนอาจจะรู้แค่ว่าเราเป็นเอเอฟแค่นั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นนัททิว แต่ตอนนี้คนรู้จักมากขึ้น ว่าเป็นนัททิวที่รับบทเป็นเหมันต์ อย่างวันนั้นไปถ่ายละครทับทิม (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) จะมีชาวบ้านมายืนดูแล้วตะโกนเรียกว่าพี่เหมันต์ พี่แก้วรุ้ง ขอถ่ายรูปหน่อย ซึ่งเราได้ฟังก็รู้สึกดีใจ
@ พอเป็นนักแสดงฐานแฟนคลับก็มากขึ้น
ใช่ จากเดิมที่มีแต่กลุ่มวัยรุ่น ตอนนี้ยังมีพี่ ป้า น้า อา ที่ได้ดูละครก็รู้จักเรามากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ เขาจะรู้สึกเหมือนเราเป็นฮีโร่ในการ์ตูน บอกตรงๆ ว่าเหนื่อย แต่ก็ยังอยากจะทำงานด้านแสดงต่อไป ถ้ามีโอกาสเรื่องต่อไป ก็อยากเล่นอีก ซึ่งตอนนี้ก็มีละครอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังถ่ายทำอยู่คือเรื่องเสน่ห์บางกอก ซึ่งเรื่องนี้จะตรงกันข้ามกับละครเรื่องเหนือมนุษย์ จะติดคอมเมดี้หน่อยๆ แล้วบทที่ผมแสดงจะเล่นเป็นเพื่อนของพระเอกอีกทีหนึ่ง
@ งานนักแสดงแตกต่างกับการเป็นนักร้องมากไหม
แตกต่างเยอะมากเลย จริงๆ แล้วมันมีส่วนที่คล้ายบ้าง แต่สำหรับผมแล้วส่วนที่ต่างมันเยอะกว่า เพราะผมเองได้ทำงานมาทั้งสองอย่าง จะรู้ว่ามันต่างกันอย่างไร เวลาที่ผมร้องเพลง ผมไม่ต้องรับบทเป็นใคร สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่บนเวที แต่พอเป็นละครปุ๊บมันไม่ใช่ตัวเรา แม้จะรับบทผ่านตัวนัททิว แต่เราก็ต้องเป็นคนอื่นซึ่งไม่ใช่ตัวเรา นอกจากบทบาทแล้ว ลักษณะการทำงานก็ต่างกัน อย่างเวลาร้องเพลงเราไม่ต้องขึ้นกับอะไรเยอะขนาดนี้ อย่างแรกคือการรอคอย คือเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตหรือร้องเพลงเราไม่ต้องรอนาน พอถึงเวลาก็ร้องเพลงเล่นคอนเสิร์ตได้เลย แต่พอเป็นนักแสดงต้องเข้ากองถ่าย เวลารอเข้าฉากมันนานมาก @ ต้องเล่นกับทับทิม เป็นอย่างไรบ้าง
มีเข้าฉากด้วยกันเยอะ นอกจากแสดงแล้วยังมีเลิฟซีนบ้าง จริงๆ แล้วผมว่าเปลี่ยนชื่อละครเรื่องนี้เป็น เลิฟซีน น่าจะเหมาะกว่า ไม่ต้องเป็นเหนือมนุษย์หรอก (หัวเราะ) เลิฟซีนเยอะมาก คือคู่ของผมจะเป็นเอะอะก็จะกอดกัน หอมแก้มกันตลอด ถือว่าให้กำไรกับผู้ชมแล้วก็ให้กำไรกันเองด้วย (หัวเราะ) แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นมีใครแซวให้เป็นแฟนกันนอกจอ แต่เขาจะใช้คำว่าอยากให้เรื่องหน้าเราได้โคจรมาเจอกันอีก
@ ถูกเนื้อต้องตัวเยอะขนาดนี้มีหวั่นไหวบ้างหรือเปล่า เพราะมีข่าวว่า นัททิวตามจีบทับทิมอยู่ ห๊า! จริงเหรอ (ทำเสียงแปลกใจ) ไม่ถึงกับจีบเราเป็นแค่พี่น้องในการทำงานมากกว่า (เสียงเขินๆ) ช่วงแรกๆ ที่ต้องเล่นเลิฟซีนไม่ได้หวั่นไหวนะ แต่เราตื่นเต้นมากกว่า เพราะเราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน พอมาเจอปุ๊บ ก็ต้องมาเจอฉากแบบนี้ จะตื่นเต้นบ้าง ก่อนเล่นก็ต้องขอโทษเขาล่วงหน้า ซึ่งทับทิมก็เข้าใจ ว่ามันเป็นการแสดง ส่วนการแสดงของผม ถ้าถามว่าผมให้คะแนนตัวเองแค่ไหนขอตอบเลย ว่าเรื่องการแสดงผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ผมเป็นคนยอมรับความจริงอยู่แล้ว ว่าเรายังต้องพัฒนาต่อไป
จากคุณ |
:
ชีวิตดราม่า
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.พ. 54 19:40:13
|
|
|
|