ความคิดเห็นที่ 1 The Hurt locker เอาใจอเมกัน แท้ๆ ครับ ผมดูไม่อินหรอก จากคุณ : fiatwiriya เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:10:06

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไม่จบอีก ฤ ..... เบื่อ ...... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:18:30

ความคิดเห็นที่ 3 สาขาอะไรล่ะ แต่ผมว่าHurt มันเล่นกับใจคนดูมากกว่า อวาต้ามันเอามัน แต่ District 9 สิ ชนะเลิสในใจผมแท้ๆ ไม่ได้อะไรเลย จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:23:28

ความคิดเห็นที่ 4 ปีที่แล้ว 10 เรื่องที่เข้าชิง ขอจัดอันดับความชอบส่วนตัวเลยนะคะ.. 1. Avatar 2. Up in The Air 3. Inglourious Basterds 4. An Education 5. The Hurt Locker 6. District 9 7. Precious 8. Up 9. The Blind Side 10. A Serious Man จากคุณ : SexyMe เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:25:11

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ จขกท เข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่าครับ หนังได้รางวัลออสการ์ไม่ได้แปลว่าเป็นหนังสนุกนะครับ เหมือนถ้ามีคนบอกว่า Season Change น่าจะได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมมากกว่ามหาลัยเหมืองแร่ เพราะมันดูสนุกกว่า จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:26:45

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ส่วนตัวผมชอบมากนะครับ The hurt locker Avatar ดูแล้วไม่อิน..... ส่วนเรื่องการตัดสินรางวัลออสการ์ ผมก็ไม่เข้าใจบรรทัดฐานเท่าไหร่ จากคุณ : phoenixia เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:31:49

ความคิดเห็นที่ 9 หนังที่เข้าชิง ผมเชียร์ UP IN THE AIR ครับ AVATAR ไม่สมควรเข้าชิงด้วยซ้ำ จากคุณ : brawatcher เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:34:12

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ จขกท เข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่าครับ หนังได้รางวัลออสการ์ไม่ได้แปลว่าเป็นหนังสนุกนะครับ ^ ^ ก็แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นครับ  ผมเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับรางวัลหลายอย่าง เช่น Shakespear in love ชนะ Saving private ryan หรือหนังอย่าง The Departed ได้รางวัล   ทั้งที่ต้นฉบับดีกว่าหลายเท่า จากคุณ : ฮาริมะคุง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:37:41

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนตัวครับ ผมก็เฉยๆ กับเนื้อหาของ avatar นะ เทคนิค เยี่ยม - 3d แจ่ม แต่เนื้อเรื่องไม่ไหว ธรรมดาสุดๆ (พระเอกเป็นผู้ร้ายก่อน แล้วกลับใจ ช่วยนางเอก เหอๆ สั้นๆ แค่เนี้ย) = ชอบ The hurt locker มากกว่า มันกดดันดี จากคุณ : tonmaibiya เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:53:51

ความคิดเห็นที่ 12 Up In The Air ด้วยคน จากคุณ : DOGDAG_chy เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:05:41

ความคิดเห็นที่ 13 ***      ส่วนตัวผมคิดว่าการที่ "Avatar" นั้นไม่สมควรได้ "ออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" นั้นก็ถูกต้องแล้วครับ  เพราะถ้าตัดเรื่อง3Dและเทคนิคพิเศษอันอลังการของ "ป๋าเจมส์ฯ" แลทุนสร้างมหาศาลออกไป  ที่เหลือก็คือพล็อตเรื่องไซไฟ+ดราม่าอันคุ้นเคยเหมือนกาแฟถ้วยเก่าดีๆนี่เองไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย      แถมผมเชื่อขนมกินเลยว่าคนที่เคยดูหนังเรื่องนี้มากกว่า80เปอร์เซ็นต์  พอดูเกินครึ่งเรื่องปุ๊ปก็น่าจะเดาตอนจบออกแล้วว่าสุดท้ายพระเอกมันจะต้องหันมา...ชาวนาวีแน่นอน  แต่จะมาพลิกล็อคให้ลุ้นว่าตอนจบพระเอกมันจะตายหรือไม่ตายเท่านั้นแหละครับ        ส่วน "The Hurt Locker" นั้นปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเป็นหนังที่โคตรรรรรรรร(ลากเสียงยาว-_-") เอาใจพวกมะริกันชนคนเสรีเป็นอย่างมาก  และในเมื่อกรรมการออสการ์ก็็ล้วนเป็นพวกอเมริกัน  ดังนั้นการที่เขาจะจะชอบหนังเรื่องนี้่ก็คงไม่แปลกอะไรครับ ป.ล. แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ  และคิดว่าหนังน่าจะโฟกัสไปที่ประเด็นการกู้ระเบิดให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:39:13

ความคิดเห็นที่ 14 The Departed หนังต้นฉบับมาเข้าชิงด้วยหรอครับ สถาบันอื่นเค้าก็ประกาศให้เรื่องนี้หลายสถาบัน ไม่ใช่แต่ออสการ์ จากคุณ : OBERON เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:41:35

ความคิดเห็นที่ 15 Up In The Air ด้วย ดูแล้วชอบมากกกก~* จากคุณ : หิมะเหิร. เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:00:21

ความคิดเห็นที่ 16 ผมดู The Hurt Locker ยังงัยก็ยังไม่อิน จากคุณ : inner_out เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:01:43

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ควรได้ทั้งสองเรื่องครับ ที่ hurt locker ได้ เพราะ ผกก เป็นหญิงเฉยๆ หรอก จากคุณ : คนเดินทาง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:03:18

ความคิดเห็นที่ 18 Up in the Air ครับ Avatar ดูรอบเดียวพอครับ ไม่ประทับใจอะไรเลย จากคุณ : Passerby เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:07:43

ความคิดเห็นที่ 19 สมควรด้วยประการทั้งปวง hurt locker เนื้อเรื่องมันให้ความสมจริง มันเป็น drama และ oscars ชอบ drama ค่ะ avatar ด้านเนื้อเรื่องถือว่าธรรมดามาก โดดเด่นแค่ด้านเทคนิค ด้านภาพเท่านั้น หนังที่ดูแล้วสนุกไม่ใช่หนังดีเสมอไปค่ะ จากคุณ : Mrs.Sparrow เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:23:24

ความคิดเห็นที่ 20 Avatar มันมีดีตรงเทคนิคด้านภาพ กับความอลังการงานสร้างอ่ะ ส่วนเรื่องบทสู้ บรรดาหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าชิงไม่ได้เลย เราดูรอบเดียวในโรงแล้วจบอ่ะ ไม่ได้อยากดูซ้ำเลย ยอมรับว่าภาพสวย ตื่นตา ตื่นใจ แต่ดูจบแล้วมันไม่ติดใจอ่ะ จากคุณ : พอตตี้ กับ วีเซิล เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:27:15

ความคิดเห็นที่ 21 ตั้งแต่จัดออสการ์มา ไม่เห็นเรื่องไหนที่ถูกใจคนได้ 100% หรอกครับ และคงจะไม่มีวันนั้นด้วย ส่วนหลายคนบอก Avatar ไม่สมควรเข้าชิง เออ...อ่านแล้วรู้สึกสงสารคณะกรรมการหลายพันคนที่แลมองดูด้อยและไร้ซึ่งความรู้ในด้านนี้จริงๆ จากคุณ : ChaiGimme เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:46:30

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าให้ระหว่างแค่ Avatar กับ The Hurt locker ผมให้ The Hurt locker นะ ชอบตอนจบของเรื่องครับ ว่าพระเอกมาทำหน้าที่นี้ทำไม แต่ถ้าให้เรื่องอื่น ตามที่คุณ sexyman ผมให้เรื่อง District 9 ครับเป็นความชอบส่วนตัว (มีอยุ่ 4 เรื่องที่ยังไม่ได้ดู An Education Precious The Blind Side A Serious Man ) จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:51:01

ความคิดเห็นที่ 23 สั้นๆง่ายๆ แล้วคุณจะเข้าใจ " Avatar = บทดี? " จากคุณ : ZaTanBoy เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:02:29

ความคิดเห็นที่ 24 ผมคิดเหมือนคุณเจไดหนุ่มเลย avatar บทเฉยๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไร .. เราแค่ตะลึงกับ sfx ก็ต้องยอมรับว่า ของเค้าดีจริง ผมดู hurt locker แล้ว .. พูดตรงๆว่าเบื่อ คงเอาใจคอมะกันอย่างแท้จริง เพราะบ้านเมืองเค้าต้องไปสู้รบปรบมือกับอีรัค อีหร่าน อะไรพวกนั้น บ้านเราดูคงไม่อินแน่ๆ ถ้าไม่ทำไปสู้รบกับเขมร กัมพูชา :P จากคุณ : silence.screamer เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:15:44

ความคิดเห็นที่ 25 หนังบทอ่อนๆ อย่าง Avatar ไม่ควรได้ก็ถูกแล้ว THL ได้บท ตัดต่อ กำกับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของหนังยอดเยี่ยม ถ้าไม่ได้ก็แปลกพิลึกสิ Avatar เรื่องบทไม่ต้องพูดถึง ความเป็นออริจินอลยังไม่มี เข้าชิงยังทำไม่ได้ มันก็เหมือนตอน Titanic ที่บทไม่เข้าชิง แต่นั่นเขาก็อาศัยงานใหญ่ เทคนิคดีกว่า แถมได้ใจเลยคว้า best pic ได้ Avatar ยังไม่ใกล้เคียง ป.ล. ปีที่แล้วชอบ Up in the Air ที่สุดเหมือนกัน จากคุณ : Lucy in the sky with diamonds เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:16:25

ความคิดเห็นที่ 26  หนังยอกเยี่ยมรางวัลออสก้าร์ไม่ใช่หนังเอาใจตลาด  ถ้าหนังยอดเยี่ยมเอาใจตลาด ดูเอามัน ต้อง MTV Movie Awards  ขนาดเมื่อปี 2002 Chicago หนังเพลงทุนต่ำ ของ Rob Marshall  ยังชนะรางวัลหนังยอดเยี่ยม และชนะ lord of the ring มาแล้ว แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 15:18:05 จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:17:15

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบ hurt locker มากกว่า อวตาร บ่ชอบ เฉยมากก แต่ชอบ district 9 มากที่สุด จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:20:26

ความคิดเห็นที่ 28 Hurt locker ดูไม่จบ คงไม่ใช้แนวที่ชอบ Avatar อลังการ แต่ไม่ตรึงใจ District 9 สุดยอด เป็นหนังที่ดูแล้วลุ้นไปตัวละคร เนื้อเรื่องดี แหวกแนว ชอบมากๆๆๆๆๆๆ Inglourious Basterds มันส์ ลุ้นทุกฉาก บทพูดเยอะ แต่ไม่เบื่อเลย Up เฉยๆ ไม่ซึ้งเท่าไร ที่เหลือไม่ได้ดู ไม่ขอวิจ่ารณ์ หนังที่เราชอบ มันคงไม่ใช้แนวออสการ์มั้ง จากคุณ : chackinthehat เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:43:54

ความคิดเห็นที่ 29 นอกจากเอฟเฟ็ส์แล้ว อวาตาร์มีดีอะไร ถามจริง? อวาตาร์เป็นหนังที่เราดูแล้วลืมไปเลยอ่ะ ถ้าไม่มีคนพูดถึง จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:20:09

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบ คห.29 ครับ Avatar ยังมีดีในด้าน Score, Sound, Editing, และเทคนิคด้านภาพต่างๆครับ เพิ่มเติม คห.23 ครับ " Avatar = บทดี? " ตอบได้ว่าบทดีครับ มีที่มาที่ไป สมเหตุสมผล สถาบันด้านบทก็เข้าชิง ถึงแม้จะมีกฏหลายอย่างก็เฮอะ แต่สำหรับผมเองก็คิดว่าบทมันไม่ได้เริศหรู พอที่จะไปชิงกับเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง ซึ่งมันก็สมแล้วครับที่หนังไม่ได้เข้าชิง Best Writing – Original Screenplay เสริมอีกนิด งาน Academy Award หรือ Oscar มีการประกาศรางวัลต่างๆ ตัวอย่างเช่น Best Picture และ Best Writing – Original Screenplay ??? แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:32:53 จากคุณ : ChaiGimme เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:27:35

ความคิดเห็นที่ 31 Avatar ป๋าเจมส์แกคงคิดไว้ลึกนะ พระเอก พิการขา แต่การขับเคลื่อนร่างกาย Avatar ต้องการจิตใจที่แข็งแกร่ง หนังดูสนุก CG เจ๋ง แค่พล๊อตอ่อนไปหน่อยและซ้ำซาก แต่ก็แฝงอะไรไว้ให้คิดลึกๆอยู่นะคะ อย่างคติเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดทางพุทธศาสนา ปล. จริงๆสำหรับตัวเองก็ชอบ The Hurt Locker มากกว่านะ แต่ดูแล้วเครียดๆพอสมควร แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:34:34 จากคุณ : janiza เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:29:16

ความคิดเห็นที่ 32 คห.30 บทดีในที่นี้ หมายถึง นำเสนอสิ่งใหม่ๆ? สามารถดึงคนดูนั่งติดเก้าอี้ได้ตลอดเรื่อง? เข้าถึงอารมณ์? ผมจะไม่ได้บอกไปซะทีเดียวว่า Avatar บทเรื่องแย่ขนาดนั้น เพียงแต่พล็อตเรื่องค่อนข้างจำเจ  และมีเรื่องอื่นได้ดำเนินเรื่องลักษณะนั้นมานานแล้ว (ดูตามรูปด้านบน) ประเด็นคือถ้าอยากจะได้หนังยอดเยี่ยมจริง บทดำเนินเรื่องต้องยอดเยี่ยมตามไปด้วย มันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของ Best Picture คืออย่างน้อยต้องมี nominate Directing Editing และ Writing  เหตุผลเพราะทั้งสามสาขานี้ เป็น step หลักๆ ในการทำภาพยนตร์ปัจจุบันนี้ การที่ Avatar ไม่ได้เข้าชิง Writing ถือว่าสุ่มเสี่ยงมาก เผลอๆถ้าหากปีนั้น เค้าเลือก Best Picture ให้ 5 nominate Avatar อาจจะไม่ได้เข้าชิงด้วยซ้ำ > สำหรับผม Avatar เป็นหนังที่อลังการดูมันส์สนุกสุดในรอบปี แต่มันเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้นหรือ? อาจจะใช่ที่ว่า มันเป็นหนังยอดเยี่ยมสำหรับหลายคนจริง แต่มันไม่ได้ยอดเยี่ยมสำหรับ OSCAR แค่นั้นเอง แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 17:00:01 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:56:55 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:54:37 จากคุณ : ZaTanBoy เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:51:03

ความคิดเห็นที่ 33 คห.32 คือผมก็ไม่ได้บอกว่า Avatar เหมาะสมที่จะได้ BP  Oscar นะครับ เพราะยังไงๆ THL ก็ดูมีสิทธิ์มากกว่า Avatar อยู่แล้ว อันนั้นก็คงรู้กันดีอยู่แล้ว และขออย่ามองว่าหนังที่ไม่ได้ออสการ์เป็นหนังที่ไม่ยอดเยี่ยมนะครับ เพราะผมก็ชอบ D9 มากๆเหมือนกัน ส่วน งานที่มี Best Picture ได้ 5 ชื่อ เยอะแยะไปครับ 26 สถาบันได้มั้ง ไม่เห็นจะต้องแคร์ออสการ์เลยในบางครั้ง ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : ChaiGimme เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:08:13

ความคิดเห็นที่ 34 อีกครั้งนะครับ "มันไม่ได้ยอดเยี่ยมสำหรับ OSCAR แค่นั้นเอง" เพราะถึงยังไง The Hurt Locker ก็นอนมาอยู่แล้ว ตั้งแต่ได้เวทีหลักๆ BAFTA Critic PGA ถ้ายกเว้น Golden Globe ที่แหวกแนวให้ตามกระแส ถ้ายอดเยี่ยมปีนั้นผมเดา Up In The Air แน่นอนเรื่องนี้ก็ไม่ได้ชิง Editing เพราะ The Hurt Locker ผมดูแล้วเข้าไม่ถึงจริงๆ เพราะประเทศผมไม่ได้ไปรบกับอิรัก District 9 ก็ชอบมากเหมือนกัน และเสียดายที่ไม่ได้ชิงแม้แต่ Directing ซึ่งสำคัญมาก 5 เรื่อง Best Pics ที่ผมเดาน่าจะมี The Hurt Locker,  Precious,  Up in the Air, Inglourious Basterds เหลือที่หนึ่งคือชิงดำระหว่าง District 9 กับ Avatar (อันหลังกระแสดีกว่า) แต่ก็แน่นอน Avatar เป็นหนังยอดเยี่ยมสำหรับหลายคนจริง แต่มันไม่ได้ยอดเยี่ยมสำหรับ OSCAR แค่นั้นเอง หนังยอดเยี่ยมในปีนั้นตามความเห็นส่วนตัว Up In The Air, District 9, Inglourious Basterds Avatar ดูในโรงสนุกจริงๆ ภาพสวย แต่ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ดีเด่อะไร แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 17:42:09 จากคุณ : ZaTanBoy เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:36:18

ความคิดเห็นที่ 35 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 17:38:27 จากคุณ : chewbetong เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:37:30

ความคิดเห็นที่ 36 หนังที่ดีก็คือหนังที่เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยได้หมดคุมอารมณ์หนังได้ทั้งเรื่องและที่สำคัญต้องดูสนุก ส่วนเรื่องบทซ้ำและจำเจมันไม่ใช่เรื่องสำัคัญ จากคุณ : chewbetong เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:38:02

ความคิดเห็นที่ 37 Avatar มีดีที่ฉากอลังการเท่านั้น ด้านอื่นๆ Hurt locker ดีกว่ามาก จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:51:07

ความคิดเห็นที่ 38 โห...เถียงกันย้อนหลังเป็นปี เถียงไปAvatarก็ไม่ได้BPหรอกคุณ จนนี่มันจะประกาศของปีนี้แล้ว จากคุณ : ฉันมันเป็นแค่ไส้ติ่ง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 18:06:04

ความคิดเห็นที่ 39 อวตารได้เข้าชิงยังมากไปเลย จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 18:26:09

ความคิดเห็นที่ 40 ความเห็นส่วนตัว ผมอยากให้ Up in the air กับ District 9 ได้ จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:28:16

ความคิดเห็นที่ 41 ผมจะให้ Gift ทุกท่านที่บอกว่า District 9 ต้องเป็นคนได้ BP ปีที่แล้วครับ เนื่องจากถูกใจหลาย The hurt locker นั้นผมชอบครับ ชอบค่อนข้างมากด้วย และเห็นด้วยกับท่านที่บอกว่า Avatar ไม่สมควรเข้าชิง BP ด้วยซ้ำ สิ่งที่ไม่ชอบใน Avatar ก็คือบทหนังสูตรสำเร็จเรียบง่ายเกินไป... ผมเบื่อกับ american hero ผมไม่ชอบที่ชาวเนวี ขาดพระเอก = ขาดใจ และไม่ชอบที่พระเอกเข้ามาในโลกของชาวเนวีได้ไม่นานเเต่กลับทำได้ถึงเพียงนี้, ผมไม่ชอบหนังที่ไม่ใส่ใจบทละครล้อมรอบอย่างที่ควรจะเป็น ตัวตนของพี่ชายนางเอกนั้นมีเพื่ออะไรครับ? มีไว้ให้พระเอกดูดีขึ้นงั้นหรอครับ ก่อนหน้าเป็นว่าที่ผู้นำเผ่า ซึ่งควรจะคอยช่วยปกป้องหรือคอยแก้ไขสถานะการณ์ หรือน่าจะมีประโยชน์กว่านี้ แต่ในหนังกลับมีหน้าที่แค่ให้คนดูหมั่นไส้ คอยแกล้งพระเอก รอซ้ำเติมพระเอก... ลองเทียบกันเล่นๆ กับ Toy story 3 ที่ใส่ใจกับบท คาแร๊กเตอร์ รายละเอียด ลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ล่ะตัวได้ดีมาก, Toy 3 นั้นตัวละครทุกตัวจะมีข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันออกไป ทำให้ตัวละครมีความหมายซึ่งกันและกัน และการที่จะเอาชนะอุปสรรค์ได้นั้นมาจากการร่วมกันทำงานเป็นทีม... ต้องขอโทษผู้ที่ชื่นชอบ Avatar มาด้วยสำหรับคำวิจารณ์ตรงๆ จากความเห็นส่วนตัวของผม จากคุณ : jcutler เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:44:41

ความคิดเห็นที่ 42 District 9 นั้นนอกจากพล็อตที่ใหม่แหวกแนว เค้ายังเดินเรื่องได้เฉียบ ดึงให้ผมตามติดกับตัวหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง ผมชอบที่หนังสอดแทรกลูกเล่นการนำเสนอแบบกึ่งสารคดี, มุมกล้อง hand candid camera มันทำให้หนังดูจริงจังมากขึ้น ผมชอบคาแร๊กเตอร์ของพระเอกมากๆ touching base อย่างแรง, ตัวพระเอกนั้นช่างสะท้อนถึงลักษณะนิสัยของคนทั่วๆ ไปอย่างเราๆ ท่านได้เป็นอย่างดี ตัวละครลักษณะนิสัยแบบเทาๆ ความคิดการตัดสินใจนั้นใกล้เคียงกับเราๆ ท่านๆ มากครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ตามในหนัง เป็นไปได้อย่างมากครับที่เราจะทำตามแบบที่พระเอกได้ทำ... แถมบทสรุปในเรื่องดันทำได้สะท้านทรวงผมจริงๆ ครับ... ผมรอดูผลงานต่อไปของ Neil Blomkamp ครับ จากคุณ : jcutler เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:56:57

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นหลายๆความเห็นเชียร์ District 9 แต่เรายังไม่ได้ดูเลยค่ะ ส่วนตัวเราชอบ  The Hurt locker มากกว่า Avatar ในหลายๆสิ่ง และแปลกที่เราดูแล้วก็อินแฮะ -_- จากคุณ : ถั่วน้อยจ้าวยุทธภพ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 00:31:05

ความคิดเห็นที่ 44 ปีที่แล้วชอบ Up in the Air ที่สุด และหลงรัก 10 นาทีแรกของ Up อย่างสุดชีวิต .. The Hurt Locker . ไม่ดูซ้ำอีกแล้วในชีวิตนี้ ครั้งเดียวพอ ไม่ชอบ Avatar เป็นประสบการณ์ใน IMAX ที่สนุกสุดเหวี่ยง สมราคาคุยมากกับจอใหญ่ยักษ์ คุณค่าจะลดลงทันทีสำหรับจอธรรมดา ยิ่งจอบ้านไม่ต้องพูดถึง   ปล.ถึงคห.26 CHICAGO เป็นหนังเพลงที่แสนจะฉลาด นำเสนอจิกกัดสังคมนิยมเปลือกและชื่อเสียงลามไปถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเจ็บแสบ ถ้าเคยดูละครเวทีเรื่องเดียวกัน จะรู้สึกเลยว่าเค้าดัดแปลงได้ดีมากๆ ไม่ได้ลดทอนคุณค่าของละครเพลง ซ้ำยังเน้ย้ำให้มันเด่นขึ้น ที่เสียดายคือนำหญิงที่เรเน่น่าจะได้มากกว่าจมูกโตๆของนิโคล คิดแมน ส่วน Lord of the rings ไม่ชอบเลยซักภาคเดียว ยิ่งปีที่กวาดหมดทุกรางวัลมันดูเป็นรางวัลปลอบใจยังไงพิกล แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 03:05:34 จากคุณ : Boy4Boyz เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 02:59:21

ความคิดเห็นที่ 45 41 โดนมากจ๊ะ หนังแบบ american hero มันสะท้อนถึงความเป็น Racism ทางอ้อมด้วย ไม่ว่าเืรื่องไหนต่อเรื่องไหน ฝรั่งผิวขาวต้องเป็นตัวเอกตลอดเวลา  spider-man  , batman , สารพัด man  และล่าสุดเมื่อปีที่แล้วกับ Prince of persia อันนี้ถูกสื่ออาหรับด่าเละ  เกี่ยวกับการเลือกใช้ดารานำที่ไม่ใช่เชื้อสายอาหรับ (เพียงแต่หน้าคล้าย) แล้วทุกครั้งต้องเข้าไปมีอิทธิพล เป็นดาวเด่นในนั้นทุกที เพราะ ??? เคยบังเอิญเจอไปอ่าน ความเห็นตามเว็บเมืองนอก ว่า อวตารก็ เป็นหนังเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ เพราะทั้งเรื่องไม่มีคนอเชียโผล่มาซักร่าง แต่อันนี้ก็เฉยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่า บรรดาหนังแทบทุกเรื่องของ เจมส์ แคมร่อน นั้น ไม่น่าจะเคยมีคนเอเชียปรากฎในหนังของเค้าเลย ถ้าจะมีก็เป็นแบบ เดินผ่านกล้องประมาณ 5 วินาที แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 03:13:25 จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 03:03:19

ความคิดเห็นที่ 46 เกร็ดความรู้...  จริงๆ บท Roxie ใน ชิคาโก้นี่ เดิมทีเดียว ร๊อบ มาร์แชล  วางตัว นิโคล คิดแมน ให้มาแสดงบทนี้เป็นคนแรก  แต่โดนปฏิเสธเพราะ ชี เพิ่งดังจากหนังเพลง มูแลง รูจ  จึงไม่อยากรับงานหนังเพลงซ้ำๆ กัน บทจึงมาตกที่ เจ๊เรเน่  แต่จากการได้ชม นิโคลร้องเพลงใน มูแลงรูจ เราก็คิดว่า  บท Roxie เหมาะกับ เรเน่ ที่สุดแล้ว เสียงนิโคลไม่มีพลังเท่า เนเน่  เสียงนิโคลเหมาะกับ บทนางเอกแสนหวาน น่าถนุถนอมมากกว่า จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 03:09:48

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้า avatar ได้ armagedon ก็ต้องได้เหมือนกันนะแหละครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 09:16:45

ความคิดเห็นที่ 48 บทอวตาร์ เหมือนละครช่วงเย็นบ้านเราอะ ปลัดหนุ่ม ย้ายไปตจว. ไปพบรักกะลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ที่แสนจะก๋ากั่น แล้วก็จีบกันทำให้ที่บ้านเธอพอใจ ได้รับความไว้วางใจ แล้วก็ชิงสุกก่อนหาม จากนั้นนายทุนหน้าเลือดหวังจะฮุบที่ดิน ก็เอาโจรห้าร้อยมาก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านชาวช่อง สุดท้ายปลัดหนุ่มก็ขับไล่หรือไล่โจรกะนายทุนหน้าเลือดไปได้ แล้วก็เอาความสามารถจากในเมืองกรุงมาพัฒนาชนบท บ้านเกิดนางเองนะเอง เหมือนแหยมภาค 2 เลยเนอะ... จากคุณ : factory เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 11:26:28

ความคิดเห็นที่ 49 บทอวตาร์มันสู้ไม่ได้แม้แต่ Pocahontas ด้วยซ้ำ = ='' พระเอกสมิธเป็นพวกผิวขาวที่จะมาแสวงผลประโยชน์จากพวกนางเอกที่เป็นชาวอินเดียนแดง จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 11:57:44

ความคิดเห็นที่ 50 . . ส่วนตัวชอบ hurt locker มากกว่านะคะ...ดูหลายรอบได้ ก็ยังสนุกอยู่ค่ะ ตอนที่ดูครั้งแรก ก็ลุ้นไปด้วย ส่วน avarta เราว่ามันคนละอารมณ์อ่ะคะ ดูครั้งแรกก็ชอบ ตื่นเต้น สวยดี แต่พอดูรอบสอง ... เราว่าน่าเบื่ออ่ะค่ะ...ไม่รู้นะ  คหสต.ล้วนๆ . . จากคุณ : Monkey@CNX เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:14:12

ความคิดเห็นที่ 51 ผมชอบ THL สองอย่าง คือ ความรู้สึกอึดอัดในช่วงกู้ระเบิด กับ การบันทึกเสียง ถ้ามันมีสองรางวัลนี้คงไม่เถียงนะ จากคุณ : ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:24:50

ความคิดเห็นที่ 52 The Hurt Locker  ดูแล้วเกือบหลับ ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะจบซักที ดูแล้วไม่อินไปกับสถานการณ์ พระเอกก็ระห่ำเกิน เป็นทหารที่ไม่มีระเบียบ ไม่ค่อยฟังคำสั่ง จากคุณ : หนึ่งผอมกับสองใหญ่ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:29:52

ความคิดเห็นที่ 53 The Hurt Locker  ไม่สมควรจะได้เข้าชิงด้วยซ้ำไปครับ จากคุณ : redhawk เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:49:37

ความคิดเห็นที่ 54 คห.53 ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงเลยครับ เพราะหนังเข้าชิงมาทุกสถาบัน ดังนั้นเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าหนังจะเข้าชิงในสถาบันใหญ่ครับ ส่วน Avatar ก็มาแนวเดียวกันครับ งานประกาศรางวัลจะมาจากการให้คะแนนของคณะกรรมการ ดังนั้นจะกล่าวว่างานโดยตรงก็ไม่ได้ ต้องตามไปด่ากรรมการหลายพันเลยครับว่า ทำไมถึงให้คะแนนเรื่องนี้ได้ จากคุณ : ChaiGimme เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 16:42:48