[Trans OPINION] การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของบริษัท SM นั้นจำเป็นมากกว่าชัยชนะอย่างต่อเนื่องของ JYJ
A Change In SM's Attitude Is Needed More Than JYJ's Continuous Victories
Source: [mediaus+Yuaerubi]
Shared by: tohosomnia.net
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง (walking along with JYJ)
ศาลเข้าข้าง JYJ อีกครั้ง พวกเขาได้ยกฟ้องทั้งเรื่องการคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อการขอคำสั่งศาลชั่วคราวของ JYJ และการคัดค้านการขอระงับผลสัญญาจ้างชั่วคราวที่ทางบริษัท SM ได้ยื่นฟ้องต่อ JYJ เพราะว่านี่เป็นเพียงการปฏิเสธการคัดค้านของ SM เราจึงยังไม่บังอาจจะไปคาดการณ์ผลสุดท้ายของคดีฟ้องร้อง แต่มันก็จริงที่ว่าคำตัดสินศาลที่จะรับเรื่องการขอคำสั่งศาลชั่วคราวของ JYJ และปฏิเสธคำคัดค้านของบริษัท SM นั้นทำให้ JYJ มีความหวังขึ้นมามาก ถึงแม้ JYJ จะชนะ แต่พวกเขาก็ยังไม่ชนะอย่างแท้จริง มันคงจะเหมือนเดิมถึงแม้กระทั่ง JYJ จะชนะคดีฟ้องร้องจริงในอนาคตก็ตาม
แม้ว่าพวกเขากระตือรือร้นอยากจะทำงานในบ้านเกิดตัวเอง เหตุผลที่ JYJ ไม่สามารถไปออกรายการเพลงได้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำตัดสินศาลเลย ถึงแม้บางคนจะบอกว่ามันเป็นเพราะสถานีโทรทัศน์มัวแต่ระแวดระวังกลัวจะส่งผลเสียต่อบริษัท SM แต่มันอาจจะตรงจุดมากกว่าถ้าจะชี้ลงไปว่าปัญหานั้นมาจากสัมพันธมิตรระหว่างเอเจนซี่บันเทิงและสถานีโทรทัศน์ รายการวาไรตี้ส่วนใหญ่จำต้องอาศัยเหล่าไอดอล และส่วนแบ่งของบริษัท SM ในรายการทีวีนั้นใหญ่พอๆ กับขนาดของบริษัท สามัญสำนึกธรรมดาก็ยังสามารถอธิบายได้ว่าทำไมบริษัทสถานีถึงเลือก SM ที่มีไอดอลเป็นโขยงแทนที่จะเป็น JYJ ซึ่งมีสมาชิกสามคน ไม่ว่านี่จะจริงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญก็คือว่าสถานีโทรทัศน์ปฏิเสธไม่ให้ JYJ ได้ไปปรากฎตัวในรายการเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆ และกระทั่งสถานีโทรทัศน์เองนั้นต้องการ
วิกฤต TVXQ ซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจวงการบันเทิงเกาหลีเปรียบได้กับการโยนรังผึ้งเข้าไปในห้องนั้นจะไม่ได้รับการแก้ไข ถ้าหากทั้งสองฝ่ายยังไม่เรียนรู้ที่จะประนีประนอม ซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนขี้ขลาด นี่หมายถึงทั้งสองฝ่ายจะต้องทำให้ตัวเองเป็นอิสระจากทางสองแพร่งระหว่างประโยคที่ว่า บริษัท SM นั้นชั่วร้ายสิ้นดี กับ JYJ นั้นเป็นคนทรยศที่ไม่รู้จักบุญคุณ เป็นสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ ของ TVXQ และ JYJ ต้องระลึกไว้ มันน่าเวทนาที่คนซึ่งเคยเป็นครอบครัวเดียวกันตอนนี้แตกแยกและทำตัวเป็นแอนตี้แฟน ถ้าคุณเคยชอบพวกเขาในฐานะห้าคน งั้นคุณก็ควรจะชอบพวกเขาในฐานะสองและสามคนด้วยไม่ใช่หรือ? ไม่มีความจำเป็นจะต้องมาค้นหาคนทรยศระหว่างกลุ่มที่อยู่กับบริษัท SM และกลุ่มที่ออกมา
ทำไมคนเราถึงไม่สามารถพอใจกับการชื่นชอบดารา ทำไมรู้สึกจำต้องมาเป็นแอนตี้แฟนของอีกคน? แฟนคลับชาวเกาหลีดูเหมือนจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวที่โจมตีคู่แข่งทุกคน มันไม่ได้หยุดแค่ในหมู่แฟนคลับ; แต่ลักษณะก้าวร้าวเช่นนั้นลามปามไปยังความคิดเห็นออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบเชิงลบต่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีแฟนๆ แบบนี้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเอเจนซี่ถึงได้ใช้การกระทำที่รุนแรงอย่างการมุ่งร้ายแทรกแซงการทำงาน
ตอนนี้บริษัท SM ต้องแสดงให้เห็นถึงหัวใจของผู้ปกครอง
ธุรกิจบันเทิงของประเทศเกาหลีจะได้ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวในการมีระบบที่ดีขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณคดีฟ้องร้องของ TVXQ และ KARA แม้ว่าสมาชิกเองจะมีอนาคตที่ไม่อาจหยั่งรู้รออยู่ข้างหน้า แต่การเสียสละ (?) และความท้าทายที่พวกเขาผ่านมาจะทำให้ชีวิตของไอดอลทั้งหมดทุกคนในธุรกิจนี้ดีขึ้น ทั้งศาลและ Fair Trade Commission ได้วิพากวิจารณ์ถึงลักษณะสัญญาจ้างของเอเจนซี่วงการบันเทิงใหญ่ๆ ว่าไม่ถูกกฎหมายและสาธารณชนก็มองเห็นเงื่อนไขว่าเป็นเรื่องเชิงลบ นี่ทำให้เกิดสองมาตรฐานกับแฟนๆ ที่ชอบศิลปินของบริษัท SM แต่เหนื่อยหน่ายและพยายามตีออกห่างจากตัวบริษัท SM เอง
เราไม่อาจทราบถึงเหตุผลเต็มๆ ว่าทำไมบริษัท SM ถึงเกาะ JYJ ไม่ปล่อยขนาดนี้และเหตุผลที่คาดการณ์กันอาจจะไม่ได้ผิดไปเสียหมด สิ่งที่เราทราบคือว่าทั้งศาลและสาธารณชนต่างเชื่อว่าบริษัท SM เป็นฝ่ายผิด แต่บริษัท SM ควรจะละทิ้งทัศนคติว่าจะต้องทุ่มกำลังทั้งหมดไปกับการข่มขู่ JYJ จนถึงที่สุด มันดูเหมือนเด็กๆ ที่เอเจนซี่บันเทิงขนาดใหญ่อย่าง SM นั้นจะมาทิ่มแทงลูกพลับที่พวกเขาไม่สามารถหยิบกินได้ด้วยความโกรธแค้น บริษัท SM นั้นคงจะรู้สึกเกลียดและผิดหวังจาก JYJ มากเพราะพวกเขาได้ลงทุนฝึกฝน JYJ เพื่อให้ทั้งสามได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุด
ใช่ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร TVXQ และ JYJ ตอนนี้ก็เหมือนลูกๆ ที่บริษัท SM ให้กำเนิดมา แม้ว่าพ่อแม่จริงๆ ของ TVXQ จะเป็นคนให้กำเนิดพวกเขา บริษัท SM นั้นทำให้พวกเขาเป็นดาราดังอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ปกครองและลูกๆ จะเถียงกันเวลามีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ไม่เคยมีผู้ปกครองคนไหนที่ต่อสู้ๆ กับลูกๆ แล้วจบลงด้วยการได้ชัยชนะ ถึงเวลาที่บริษัท SM จะเป็นผู้ปกครองที่ยอมรับต่อความพ่ายแพ้ต่อลูกๆ ผู้ดื้อดึงด้วยความรัก คุณไม่ต้องให้กำเนิดเด็กคนหนึ่งจริงๆ ในการจะเห็นว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ปกครอง ไม่ว่าบริษัท SM จะคิดว่า JYJ นั้นโลภและทำตัวเหมือนเด็กๆ แค่ไหนก็ตาม SM ควรก็ทำตัวเหมือนผู้ปกครองและแสดงให้เห็นความรักที่ยิ่งใหญ่
มันไม่มีผลดีจริงๆ อันใดจากการที่บริษัท SM ไปข่มขู่ JYJ ถ้าพิจารณาถึงเวลาและความพยายามที่บริษัท SM ใช้ไปในการหยุด JYJ จากการออกรายการโทรทัศน์ การกระทำของบริษัท SM นั้นไม่ก่อให้เกิดอะไรต่อตัวพวกเขาเองนอกจากค่าใช้จ่ายมากมาย จะมีจุดประสงค์อะไรในการทำธุรกิจที่ไม่ได้กำไรนี้ต่อไปล่ะ? ถึงเวลาที่บริษัท SM จะปล่อย JYJ ไปแล้วไม่ใช่หรือ? แม้ว่าบริษัท SM คงจะทั้งรักทั้งเกลียด JYJ แต่บริษัท SM ควรจะเลือกทางเดินที่ดีกว่า ถ้าบริษัท SM ไม่สามารถปล่อย JYJ ไปได้ง่ายๆ อย่างน้อยที่พวกเขาทำได้ก็คืออย่าขัดขวางทางเดินของ JYJ