 |
Schindler's List ...(เพิ่งได้)ดู(อีกครั้ง)แล้วอยากแชร์ความรู้สึก...งานดัดแปลงจากใจของพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด
|
 |
Steven Spielberg สร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดด้วยการเสกสรรจินตภาพให้กลายเป็นภาพยนตร์มาตลอดหลายปี
ทั้งภาพของฉลามขาวยักษ์ (Jaws), มนุษย์ต่างดาว (Close Encounter of the Third Kind, E.T.: The Extra-Terrestrial, Wars of the Worlds), ขุมทรัพย์ในตำนาน (จตุรภาค Indiana Jones), ฝูงไดโนเสาร์คืนชีพ (Jurassic Park สองภาคแรก),และโลกอนาคต (A.I.: Artificial Intelligence, Minority Report)
แต่งานภาพยนตร์ชิ้นที่งามเลิศที่สุดของ Spielberg นั้น ไม่ได้มาจากการเสกสรรจินตภาพ...แต่มาจากการดัดแปลงมาจากเรื่องจริง
ภาพของนักธุรกิจหน้าตาคมเข้มชาวเยอรมันในขุดสูทราคาแพงแลดูภูมิฐาน สูบบุหรี่มวนแล้วมวนเล่าไปพร้อมๆกับเอ่ยนามของชาวยิวคนแล้วคนเล่าให้สมุห์บัญชีผู้ซื่อสัตย์ชาวยิวพิมพ์ใส่ลงไปในลิสต์รายชื่อของเขา...ลิสต์ของ Oskar Schindler (Schindlers List)
มีแต่ผู้กำกับชาวยิวเท่านั้นที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเช่นนี้ได้คือความเห็นของ Martin Scorsese หนึ่งในผู้กำกับที่ Spielberg นำโปรเจ็กต์หนัง Schindlers List ไปเสนอก่อนจะตัดสินใจกำกับเอง ซึ่ง Spielberg ผู้เป็นชาวยิวโดยสายเลือดก็กำกับหนังเรื่องนี้ด้วยความประณีตบรรจงอันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณในทุกๆรายระเอียด
ความสามารถในการเสกสรรจินตภาพให้ออกมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มของเขาถูกนำมาใช้ในการจับเอาภาพของหนึ่งในเหตุการณ์ที่นองเลือดที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวโดยนาซีเยอรมัน มาวางบนแผ่นฟิล์มแทน
เช่นฉากกวาดล้างชาวยิวในเขตกักกันที่คราโคว(หรือฉากเด็กหญิงในชุดแดงอันลือลั่น),ฉากขุดซากเผาศพชาวยิวในค่ายกักกันพลาสซอว์ (ฉากที่ Oskar ได้พบเห็นเด็กหญิงในชุดแดงเป็นครั้งที่สอง...และเป็นครั้งสุดท้าย),ฉากห้องอาบน้ำในค่ายค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ฯลฯ
แต่หากมองข้ามความโหดเหี้ยมอันชวนสลดหดหู่ทั้งหลายไป ภาพก็คือองค์ประกอบที่สวยงามที่สุดควบคู่ไปกับเนื้อเรื่องของหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงอีกทีหนึ่งของ Thomas Keneally และซาวด์แทร็คของ John Williams
ด้วยฝีมือการถ่ายภาพขาวดำของ Janusz Kaminski ที่ทำให้รายละเอียดต่างๆของภาพเด่นชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแสงเงา ที่จะไม่มีทางสวยงามได้เท่านี้ในภาพสี่สี และทำให้ตัวหนังทุบสถิติเป็นหนังขาวดำที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งด้วยทุนสร้างยี่สิบห้าล้านเหรียญสหรัฐโดยเฉลี่ย
Liam Neeson, Ralph Fiennes, และ Ben Kingsley ล้วนเพอร์เฟ็กต์กับบทที่ตัวเองได้รับ โดยเฉพาะสองคนแรกที่แจ้งเกิดไปเต็มๆกับบท Herr Schindler, Commandant Amon Goeth
รวมถึงเหล่านักแสดงสมทบที่ต่างทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ดี
การดำเนินเรื่องแบบเล่าเรื่องจากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะมุมมองของ Herr Schindler, Itzhak Stern, Commandant Goeth, หรือเหล่าตัวละครสมทบชาวยิว ช่วยเพิ่มมิติตื้นลึกบางหนาของหนัง
ทำให้ตัวหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการมองภาพรวมของเหตุการณ์การล้างชาติโดยนาซีมากกว่าเป็นหนังชีวประวัติของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และทำให้สเกลของหนังแลดูใหญ่โตขึ้นถนัดตา(สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน (American Film Institute) จัดให้ Schindlers List ติดอับดับที่สามจากการจัดอันดับสิบสุดยอดหนัง Epic ตลอดกาล)
แต่ถึงกระนั้น...เรื่องราวของ Schindlers List ก็ยังคงเป็นเรื่องราวของ Oskar Schindler ตั้งแต่ตอนต้นเรื่องที่เขาไต่เต้าขึ้นสู่ความสำเร็จ,ความเมตตาต่อชาวยิวที่ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ,เหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจทำลิสต์รายชื่อนี้ขึ้นมา
จนถึงตอนท้ายที่เขาได้รับแหวนทองคำสลักคำสอนจากคัมภีร์ทัลมุดว่าผู้ใดช่วยหนึ่งชีวิต ผู้นั้นช่วยโลกทั้งใบ (Whoever saves one life, save the world entire.)
และแน่นอน...ผู้ใดช่วยโลกทั้งใบ โลกจะจดจำและสรรเสริญผู้นั้นไปตลอดกาล
สรุป...นี่คือมาสเตอร์พีซชิ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดและเป็นหนึ่งในความประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย
ฉะนั้น...ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ป.ล. ขอให้พี่น้องชาวไทยที่ไครสต์เชิร์ชปลอดภัย...
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 12:18:59
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 09:23:02
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 09:13:40
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 08:17:15
จากคุณ |
:
Apple101
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 54 08:05:26
|
|
|
|  |