ความคิดเห็นที่ 1 คำว่าหนังเอพิคที่เราเข้าใจกัน หมายถึงหนังที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ โดยมากมักจะเป็นหนังในยุคโบราณ และเกือบทั้งหมดมักจะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และศาสนา แต่อันที่จริงหนังเอพิคไม่จำเป็นต้องเป็นหนังโบราณหรือเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เสมอไป การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของคนเพียงคนเดียวในยุคปัจจุบันก็นับเป็นหนังเอพิคได้ ถึงกระนั้นก็จะขอพูดถึงหนังเอพิคในแง่มุมที่คุ้นเคยกันเป็นหลัก มีหนังเอพิคไม่กี่เรื่องที่ถูกยอมรับในความเป็นหนังคลาสสิค เพราะมีหนังเอพิคจำนวนไม่น้อยที่เน้นในความหรูหราอลังการงานสร้าง จนละเลยพื้นฐานสำคัญของหนังคือบทภาพยนตร์และการแสดง แม้งานโปรดักชั่นจะดีเลิศสักเพียงใดก็ไม่อาจทำให้หนังเอพิคเหล่านั้นประสบความสำเร็จได้ หนึ่งในไม่กี่เรื่องของหนังเอพิคที่กลายเป็นหนังคลาสสิคนั้นเรื่อง Ben-Hur ได้รับการพูดถึงเป็นอันดับแรก Ben-Hur กล่าวถึงเรื่องราวของ จูดาห์ เบนเฮอร์ เจ้าชายชาวยิวที่มีชีวิตอยู่ในช่วงต้นคริสต์กาล หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเบนเฮอร์มีอายุไล่เลี่ยกับพระเยซูเลยทีเดียว ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจปกครองไปทั่วยุโรปและดินแดนเอเชียไมเนอร์ และแน่นอนย่อมรวมถึงดินแดนที่ชื่อว่ายูเดียหรือที่ตั้งของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน เบนเฮอร์ที่เป็นเจ้าชายของยูเดียดินแดนของชาวยิวจึงตกอยู่ใต้การปกครองของโรมันด้วย เบนเฮอร์มีเพื่อนเป็นชาวโรมันชื่อมาสซาลาที่เป็นเพื่อนกันในวัยเด็ก จนเมื่อเติบโตเป็นหนุ่มมาสซาลากลับมายูเดียอีกครั้งในฐานะแม่ทัพโรมัน แต่ครั้งนี้ความสัมพันธ์ของเบนเฮอร์และมาสซาลาเปลี่ยนไป มาสซาลาขอให้เบนเฮอร์ให้ความร่วมมือในการปราบปรามชาวยิวที่ไม่ยอมศิโรราปให้กับจักรวรรดิโรมันแต่เบนเฮอร์ปฎิเสธ ด้วยความแค้นมาสซาลาจึงหาทางกลั่นแกล้งเบนเฮอร์และครอบครัวทันที่มีโอกาส เขาส่งเบนเฮอร์ไปเป็นทาสทำหน้าที่ฝีพายให้เรือรบโรมัน ส่วนมิเรียมและเทียซาห์มารดาและน้องสาวของเบนเฮอร์ก็ถูกจับส่งคุกมืด (ยังมีต่อ) จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:04:34

ความคิดเห็นที่ 2 เบนเฮอร์ทำหน้าเป็นฝีพายอย่างอดทนและเข้มแข็งด้วยหวังว่าวันหนึ่งเขาจะกลับไปแก้แค้นมาสซาลาที่ทำกับเชาไว้ กว่าสามปีในเรือเบนอยู่ได้นานเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด จนวันหนึ่งเบนเฮอร์ได้ช่วยชีวิตแม่ทัพเรือโรมันที่ชื่อ ควินตัน แอเรียส ไว้ระหว่างเรือแตกเพราะการสู้รบ ทำให้แอเรียสรับเบนเฮอร์ไว้เป็นลูกบุญธรรมและพาเขากลับไปที่โรม แม้ชีวิตเบนเฮอร์จะได้รับความสุขสบายแต่เขายังไม่ลืมความแค้น รวมทั้งห่วงใยในชะตากรรมของมารดาและน้องสาว เบนเฮอร์จึงเดินทางกลับยูเดียอีกครั้ง ที่บ้านเก่าของเขา เบนเฮอร์พบกับเอสเธอร์ผู้หญิงที่เขาเคยพึงใจ บัดนี้เอสเธอร์และพ่อของเธอที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของตระกูลมีชีวิตอยู่อย่างลำบากรอคอยการกลับมาของเจ้านาย การกลับมาของเบนเฮอร์บีบบังคับให้มาสซาลาต้องหาตัวมิเรียมและเทียซาห์ มารดาและน้องสาวของเบนเฮอร์ที่ถูกขังอยู่ในคุกมืด ปรากฎว่าทั้งสองคนกลายเป็นโรคเรื้อน โรคที่หลายคนรังเกียจ มีเรียมและเทียซาห์จึงถูกส่งไปที่หุบเขาโรคเรื้อน มีเพียงเอสเธอร์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ข่าวที่เบนเฮอร์รับรู้คือทั้งมิเรียมและเทียซาห์ได้ตายไปแล้ว เบนเฮอร์ท้าทายให้มาสซาลามาแข่งรถม้าศึก กีฬายอดนิยของชาวโรมันในสมัยนั้น เพราะทั้งเบรเฮอร์และมาสซาลาต่างก็เป็นนักแข่งที่เก่งเกาจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การแข่งขันที่เข้มข้นเร้าใจจบลงด้วยความตายของมาสซาลา พร้อมกับที่เบนเฮอร์รู้ว่ามารดาและน้องสาวของเขายังไม่ตาย เพราะโรคเรื้อนเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ความเหวังของเบนเฮอร์จึงอยู่ที่นักเทศน์หนุ่มที่ใช้ศรัทธาในการเอาชนะทุกสิ่ง เบนเฮอร์และเอสเธอร์พามิเรียทและเทียซาห์เดินทางมาหานักเทศน์หนุ่มท่านนั้น น่าเสียดายที่พวกเขามาช้าไป นักเทศน์หนุ่มท่านนั้นกำลังจะถูกตรึงกางเขน (ยังมีต่อ) แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 22:11:08 จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:05:33

ความคิดเห็นที่ 3 แม้เรื่องราวในหนังเรื่อง Ben-Hur จะเล่าเรื่องราวชีวิตของจูดาห์ เบนเฮอร์เป็นหลัก แต่ตลอดทั้งเรื่องก็แทรกไว้ด้วยเรื่องราวของนักเทศน์หนุ่มจากนาซาเรธผู้นี้ หรือที่เรารู้จักในนามพระเยซูนั่นเอง ฉากเปิดเรื่องของหนังเริ่มต้นด้วยการประสูติของพระองค์ และเรื่องราวของพระองค์กับเบนเฮอร์ก็มีความผูกพันกันไม่น้อย ครั้งหนึ่งที่เบนเฮอร์ถูกจับไปเป็นทาส เบนเฮอร์กำลังเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้แต่เขาได้รับความเมตตาจากชายหนุ่มคนหนึ่งให้น้ำดื่มกับเขาในเวลาที่เขากำลังหมดแรง น้ำดื่มนี้ช่วยต่ออายุให้เบนเฮอร์จนกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง ชายหนุ่มผู้นั้นคือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้านั่นเอง อย่างที่บอกไปแล้วว่าหนังเอพิคมักจะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และศาสนาแต่ความยิ่งใหญ่ของ Ben-Hur มีมากกว่านั้น หนังมีฉากใหญ่หลายฉากให้จดจำมากมาย อาทิเช่นฉากการสู้รบกลางทะเล หรือฉากตรึงกางเขน แต่ฉากที่ถูกจดจำมากที่สุดและกลายเป็นฉากคลาสสิกที่ถูกกล่าวถึงไปอีกนานคือฉากการแข่งขันรถม้าศึก การแข่งขันรถม้าศึกจะใช้มาสี่ตัวลากรถศึกที่มีคนบังคับอยู่บนรถวิ่งรอบสนามตามที่กำหนด ความเร็วของรถที่มาจากม้าถึงสี่ตัว ย่อมก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย แม้การแข่งขันในฉากนี้จะมีรถม้าศึกเข้าแข่งถึงสิบคัน แต่จุดเด่นของหนังจะอยู่ที่เบนเฮอร์และมาสซาลา ม้าของเบนเฮอร์เป็นม้าสีขาวทั้งสี่ตัว ในขณะที่ม้าของมาสซาลาก็เป็นสีดำสนิททั้งหมด มิหนำซ้ำรถม้าศึกของมาสซาลายังถูกออกแบบให้ทำลายรถของคู่แข่งได้อีกด้วย การแข่งขันที่เร้าใจนี้จึงจบลงด้วยความตาย เพียงแต่มันเกิดขึ้นกับมาสซาลาเสียเอง ผู้กำกับฉากแข่งรถม้าศึกนี้คือ แอนดรูว์ มาร์ตัน ที่เข้ามารับกำกับเฉพาะฉากนี้เท่านั้น เขาเป็นผู้กำกับแนวแอ๊คชั่นฝีมือดี ส่งผลให้ฉากนี้ดูตื่นเต้นเร้าใจสร้างความตื่นตาให้กับคนดูได้ดี โดยเฉพาะสำหรับคนดูที่โรงภาพยนตร์ในยุคนั้นที่จอกว้าง 70 มม.ของเรื่องนี้ ทำให้ฉากแข่งรถม้าศึกกลายเป็นฉากในความทรงจำ น่าเสียดายที่ทุกวันนี้เรามีโอกาสได้ดูหนังผ่านจอทีวี ความยิ่งใหญ่ของฉากนี้เลยถูกลดทอนลงไป แต่ความตื่นเต้นเร้าใจยังคงเหมือนเดิม (ยังมีต่อ) จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:06:39

ความคิดเห็นที่ 4 ชาร์ลส์ตัน เฮสตันคือผั้เหมาะสมอย่างยิ่งกับบทจูดาห์ เบนเฮอร์ เขาเป็นหนังแสดงที่ดูยิ่งใหญ่ มีบุคลิกที่ดูกร้าวแกร่งเป็นผู้นำ หนังเอพิคหลายเรื่องจึงมีชื่อของเขาเป็นนักแสดงนำ และเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะสมกับหนังเอพิคอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าหนังจะยิ่งใหญ่อลังการเพียงใดก็ไม่สามารถข่มเขาได้ลง แต่ในทางตรงกันข้ามชาร์ลส์ตัน เฮสตัน อาจจะดูเกินไปบ้างเวลาอยู่ในหนังขนาดเล็ก ด้วยเหตุนี้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายที่ชาร์ลส์ตัน เฮสตัน ได้รับจากเรื่อง Ben-Hur จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักแสดงอย่างแท้จริงในเหนังเรื่องนี้ รางวัลของเขาเป็นหนึ่งใน 11 รางวัลที่หนังได้ไป รวมทั้งหนังยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมของวิลเลียม ไวเลอร์อีกด้วย จำนวนรางวัลออสการ์ 11 รางวัลที่ Ben-Hur ได้ไปนั้นทำให้ Ben-Hur เป็นหนังที่ได้รับรางวัลออสการ์สูงสุดในประวัติศาสต์ซึ่งหนังเพียง 3 เรื่องเท่านั้นที่ได้รับรางวัลจำนวนเท่ากันนี้ โดย Ben-Hur ครองตำแหน่งหนังที่ได้รับรางวัลสูงสุดอยู่ถึง 38 ปี ก่อนที่จะมี Titanic มาครองสถิติร่วมกันเป็นเรื่องที่สอง กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า หนังเอพิคอย่าง Ben-Hur มีความยิ่งใหญ่ทั้งเนื้อหา การสร้างและตัวของหนังเอง จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:10:21

ความคิดเห็นที่ 5 ...^_^...ขอบคุณครับ..เคยดู แต่ดูแบบไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะที่พูดถึงเกี่ยวกับศาสนา...อาจเป็นเพราะผมดูแบบเสียงจริง อ่านซับไตเติล ไม่ค่อยทัน... ฉากรถม้าศึก อย่างที่พี่บอกเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ถ้าเห็นหนังที่มีรถม้าศึกแบบนี้... คนรุ่นที่เคยดู Ben-Hur  ถ้าเห็นรถม้าศึกแบบนี้ มักจะคิดถึง Ben-Hur แต่รุ่นหลังๆ ที่ไม่เคยดู Ben-Hur แต่ได้ดูหนังดังอีกเรื่อง คือ Gladiator แล้วเห็นรถม้าศึก ฉากที่มีรถม้าศึกแบบนี้ ก็จะคิดถึง Gladiator เหมือนกัน... ครับ ต้นตำหรับ ฉากรถม้าศึกที่เป็นที่จดจำ...อย่างที่พี่บอก เป็นฉากคลาสสิค ต้อง Ben-Hur ... จากคุณ : ฟองฟ้า ละอองเมฆ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:56:49

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้ผม ก็ เก็บไว้ มี 4 แผ่น กล่องกระดาษ ด้านหน้า จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:19:44

ความคิดเห็นที่ 7 ด้านหลัง จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:20:23

ความคิดเห็นที่ 8 กล่อง ข้างใน จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:22:41

ความคิดเห็นที่ 9 แผ่นที่1 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:23:15

ความคิดเห็นที่ 10 แผ่นที่ 2 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:30:04

ความคิดเห็นที่ 11 แผ่นที่ 3 Ben-Hur ที่สร้าง เมื่อ 1925 (หนังขาวดำ) อีก 1 แผ่น แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 00:34:21 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:31:03

ความคิดเห็นที่ 12 แผ่นที่ 4 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:32:20

ความคิดเห็นที่ 13 ยื้มมมม...   ^__^ อ่านแล้วน่าดูมากกกกก....  !? จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 09:29:50

ความคิดเห็นที่ 14 จะบอกว่าเรื่องนี้ผมยังไม่มีไว้ในครอบครอง เคยเช่า VCD มาดูถึงแผ่นสองหลับทุกที ยังไม่ได้ฉากรถม้าเลย เฮ้อ จากคุณ : Moviegangs เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 14:38:43

ความคิดเห็นที่ 15 น่าดูมากครับ จากคุณ : หน่อย (Noi_oN_Co) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 19:48:03

ความคิดเห็นที่ 16 แนะนำให้ดูเลยค่ะ เรื่องนี้ดีมากๆ แล้วก็ยาวมากๆ เช่นกัน หนังออกแนวความศรัทธาในพระเจ้าค่ะ ถ้าศรัทธาในพระเจ้าจริง อะไรๆ ก็สำเร็จค่ะ จากคุณ : ภคิน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 23:11:44

ความคิดเห็นที่ 17 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 23:13:31 จากคุณ : ภคิน เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 23:12:13

ความคิดเห็นที่ 18 Ben-Hur เป็นหนังเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตที่หนีโรงเรียนไปดู โรงเรียนประถมที่ผมเรียนในต่างจังหวัดของผมเป็นโรงเรียนคริสต์ ทางโรงเรียนจัดฉายหนังที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ให้ดูบ่อย ๆ มีทั้งเบนเฮอร์และบัญญัติ 10 ประการ เพราะฉะนั้นผมเลยชื่นชอบในหนังเรื่องเบนเฮอร์ตั้งอายุประมาณ 10 ขวบ พอมาเรียนมัธยมย้ายมาเรียนโรงเรียนของรัฐ แต่ตอน ม.1 ปีแรกของการเรียนมัธยม มีหนังเรื่องเบนเฮอร์มาฉายที่จังหวัดของผม แต่ฉายเฉพาะวันธรรมดาไม่ตรงกับวันหยุด ด้วยความอยากดูผมกับเพื่อน ๆ อีก 4-5 คน ที่เคยเรียนประถมมาด้วยกัน จึงนัดกันโดดเรียนไปดูหนังเรื่องนี้ จำได้ว่าตอนครึ่งแรกของหนังนั่งดูกันอยู่ชั้นล่างสุดเพราะตั๋วถูกสุด พอหนังพักครึ่งพวกเราแอบขึ้นมาดูชั้นบนสุด เพราะคนดูไม่เต็มโรง เลยได้ดูฉากแข่งรถม้าได้เต็มตา จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 16:42:47