ความคิดเห็นที่ 1 จากโครงเรื่อง Romeo and Juliet บทประพันธ์(ละคร) อมตะของวิลเลียม เชคสเปียร์ ถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครเพลงจนประสบความสำเร็จและกลายเป็นภาพยนตร์ในเวลาต่อมา ไม่มีใครเคยคิดว่าบทละครโศกนาฎกรรมจะกลายมาเป็นหนังเพลงได้ ด้วยเหตุที่หนังเพลงในเวลานั้นมักจะมีแต่เรื่องราวของความสุขความสดใส การนำบทละครโศกนาฎกรรมมาดัดแปลงเป็นละครเพลงเช่นนี้ ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลมองตาคิวและตระกูลคาปุเล็ตแห่งเมืองเวโรนา ใน Romeo and Juliet กลายเป็นเป็นแกงค์เจทส์และแกงค์ชาร์คส์ในแถบบตะวันตกของกรุงนิวยอร์ค แกงค์ชาร์คส์คือหนุ่มสาวชาวเปอร์โตริกันเจ้าของถิ่นเดิม โดยมีเบอร์นาโดเป็นหัวหน้าแกงค์ ส่วนแกงค์เจทส์เป็นวัยรุ่นชาวโปลโดยมีริฟฟ์เป็นหัวโจกสำคัญ สำหรับโรมิโอและจูเลียตคือโทนี่และมาเรีย โทนี่เป็นหนุ่มจากแกงค์เจทส์เขาเป็นเพื่อนรักกับริฟฟ์และเป็นหัวโจกคนสำคัญของแกงค์เพียงแต่ในระยะหลังโทนี่เริ่มเข้าแกงค์น้อยลงและเริ่มหางานทำ ส่วนมาเรียคือสาวชาวเปอร์โตริกันน้องสาวของเบอร์นาโด เธออยู่ในวัยช่างฝันและอยากพบสิ่งที่ดีในอเมริกา คนที่เธอสนิทสนมและพูดคุยด้วยอยู่บ่อย ๆ คืออนิต้าคนรักของเบอร์นาโดพี่ชายของเธอ (ยังมีต่อ) จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 10:14:28

ความคิดเห็นที่ 2 และก็เหมือนกับในต้นฉบับเดิมโทนี่มารู้จักกับมาเรียโดยบังเอิญในงานเต้นรำ หนุ่มสาวทั้งสองตกหลุมรักในแทบจะทันที แม้รู้ว่าคนรอบข้างของทั้งคู่จะเป็นศัตรูกันแต่ก็เกินจะห้ามใจไว้ได้ ความละม้ายกับต้นบับทำให้หนังเรื่องนี้ไม่อาจขาดฉากที่โด่งดังในบทละครคือฉากพลอดรักกันที่ระเบียง แต่ใน West Side Story ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นบันไดหนีไฟที่ยังคงให้อารมณ์เดียวกันไว้ได้ และในฉากนี้เองมีเพลงที่โทนี่และมาเรียร้องคู่กันและกลายเป็นเพลงเอกที่มีนักร้องชั้นนำหลายคนได้นำไปร้องใหม่ไว้หลายรูปแบบ เพลงนั้นคือเพลง Tonight มาเรียขอร้องให้โทนี่ช่วยระงับการนัดต่อสู้ของแกงค์เจทส์และแกงค์ชาร์คส์ซึ่งโทนี่ก็รับปากและทำตาม แต่ด้วยสถานการณ์ที่คุกรุ่น เบอร์นาโดฆ่าริฟฟ์ตาย และโทนี่ก็ฆ่าเบอร์นาโดตายตามไป จากนั้นโทนี่จึงถูกตามล่าทั้งจากตำรวจและคนของแกงค์ชาร์คส์ แต่เขาเลือกที่จะกลับหามาเรีย เล่าความจริงให้เธอได้ฟังพร้อมกับตั้งใจจะหนีไปด้วยกัน ห่างจากความขัดแย้งที่มีอยู่ West Side Story มีความแตกต่างจากต้นฉบับอยู่ก็ตรงที่ชะตากรรมของตัวละครเอกในตอนจบ ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพียงโทนี่เท่านั้นที่ตาย มาเรียยังคงอยู่ แต่ก็ทำให้ทั้งสองแกงค์เลือกห้ำหั่นและกลับมาเป็นมิตรกัน ถึงแม้จะต่างกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นการจบแบบโศกนาฎกรรมอยู่ดี ในด้านการสร้างจุดเด่นของหนังคือการสร้างฉาก ให้สีทั้งงานกำกับศิลป์และออกแบบเครื่องแต่งกายได้โดดเด่นมาก โดยเฉพาะการจัดแสงและสีในแต่ละฉากละตอน ที่เชื่อมกันเข้าได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการรวมกันของงานศิลปบนจอภาพยนตร์ที่ทำได้ดีครั้งหนึ่ง (ยังมีต่อ) จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 10:15:54

ความคิดเห็นที่ 3 สิ่งที่ไม่อาจจะกล่าวข้มได้คือการออกแบบท่าเต้น โดยเจอโรม ร็อบบิ้นส์ ซึ่งกำกับมาคั้งแต่ยังเป็นละครเวที และมาเป็นผู้กำกับร่วมในหนัง เจอโรม ร็อบบิ้นส์ จึงมีความเข้าใจในบุคลิกลักษณะของตัวละครได้ดี การใส่ท่าเต้นเพื่ออธิบายเรื่องราวของตัวละคร จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แค่เพียงฉากเปิดเรื่อง กว่าสิบนาทีที่เราจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นแกงค์เจทส์และชาร์คส์ออกมาวาดลีลาการเต้นที่มีทั้งความดุดันและพริ้วไหว ถ้าเต้นของชาร์คส์จะดูสวยงามเป็นการเต้นแบบแจซแดนช์เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่กลุ่มเจทส์จะออกมาในลีลาเหมือนยิมนาสติกที่ดูเข้มแข็งและดุดัน การออกแบบท่าเต้นมีส่วนสำคัญต่อหนังไม่น้อย แม้จะเป็นหนังเกียวกับแกงค์วัยรุ่น แต่ทุกฉากที่เป็นการต่อสู้กัน จะใช้เพลงและการออกแบบท่าทางต่าง ๆ มาช่วย หนังจึงไม่มีรูปแบบของหนังแอ๊คชั่นอยู่เลย ตรงกันข้ามกลับเพิ่มความเป็นหนังเพลงเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยม (ยังมีต่อ) จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 10:21:20

ความคิดเห็นที่ 4 ในเมื่อบทแข็ง งานสร้างดี หน้าที่ของการแสดงน่าจะเข้มข้นน้อยลงไป แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะตัวละครหลักอย่างเบอร์นาโด ที่รับบทโดยจอร์จ ชาคิริส และอานิต้า ที่รับบทโดย ริต้า โมเรโน ต่างทำหน้าที่ได้อย่างวิเศษสุดจนคว้ารางวัลออสการ์นักแสดงสมทบทั้งชายและหยิงไปครองทั้งคู่ ฉากคนทั้งสองและเพื่อนร่วมแกงค์ชาร์คส์ร่วมร้องเพลง America จึงเป็นฉากที่สนุกสนานมากฉากหนึ่ง ในขณะที่ผู้ที่รับบทนำจริง ๆ อาจจะไม่ถูกกล่าวถึงมากนัก แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ให้เสียหายแต่ประการใด นาตาลี วู้ดที่เป็นนักแสดงมีชื่อในขณะนั้นเพียงคนเดียว รับบทมาเรียได้อย่างน่ารักในช่วงแรก แต่ถึงบทเศร้าเธอก็ยังทำได้ดี ส่วนริชาร์ด บีย์เมอร์ ที่มารับบทโทนี่ก็ดูอ่อนเยาว์และลุ่มหลงในความรักได้ดีทีเดียว มาจนถึงทุกวันนี้ West Side Story คือหนังเพลงเรื่องแรก ๆ ที่ถ้าถูกยกมากล่าวอ้างถ้าใครสักคนจะพูดถึงหนังเพลงคลาสสิกขึ้นมา เพราะความลงตัวที่ความบันเทิงและศิลปที่หนังเรื่องนี้มีอยู่พร้อมนั่นเอง จากคุณ : Mackenna เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 10:23:32

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องนี้ เหมือนจะดูแล้วร้องไห้...  T__T จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 15:55:33

ความคิดเห็นที่ 6 ...^_^...ลองนั่งนึกๆ ดู ผมน่าจะยังไม่เคยดู..แต่คุ้นว่าเคยได้ยินชื่อหนัง... (ปล. หนังเพลง เรื่องแรกที่จำได้และชอบมากของผม..น่าจะเป็น..GREASE ) แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 54 18:03:23 จากคุณ : ฟองฟ้า ละอองเมฆ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 18:01:47

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เคยดูครับ แต่เคยฟังกะเล่นเพลงจากหนังเรื่องนี้แล้ว ตอนนั้นมีความรู้สึกอยากดูมาก แต่ยังหาดูไม่ได้ ขอบคุณที่มาเตือนความจำครับ ผมชอบหนังเพลงมาก เคยไปดูแฟนทอมแล้วมีคนบ่นตอนออกมาจากโรงหนังว่า กว่าจะพูดกันแต่ละคำ อันนั้นมันโอเปร่านี่เนอะ คงคล้ายกับลิเกบ้านเราแหละ มีร้องบ้างพูดบ้าง จากคุณ : KkTpCmu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 09:41:56