ลุงบุญมีระลึกชาติ ดูแล้วอยากเล่าให้ฟัง
|
 |
ลุงบุญมีระลึกชาติ...ดูแล้วอยากเล่าให้ฟัง ระวังสปอยล์ หนังเรื่องนี้ค่อนข้างต่างจากเรื่อง สัตว์ประหลาด ของผู้กำกับเดียวกัน ในสัตว์ประหลาดนั้น ผมรู้สึกว่าหนังค่อนข้างเรียลลิสติกมาก แม้ว่าเรื่องราวในสัตว์ประหลาดจะมีส่วนที่ เหนือจริง แต่ก็พยายามทำให้มัน สมจริง แต่ความ เหนือจริงในเรื่องลุงบุญมีกลับแสดงออกมาอย่างโต้งๆ ไม่ว่าจะเป็นผีลิงพูดได้ ฯลฯ
ถามว่าความ เหนือจริง ที่แสดงออกมาโต้ง ๆ นั้นให้ผลลัพธ์อย่างไร ก็ต้องบอกว่ามันทำให้รู้สึก ไม่อิน ไม่ลุ้น ไม่ตื่นเต้นไปความเรื่องเหนือจริงนั้น แต่กลับรู้สึกว่าเรื่องเหนือจริงนั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน !?
ถามว่าส่วนตัวเห็นว่ามันสะท้อนอะไร มันก็น่าจะสะท้อนสังคมไทยที่เราใช้ชีวิตที่มีความเชื่อเหล่านี้อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา(ในขณะที่ฝรั่งแยกโลกแห่งความจริงและความเชื่ออย่างเด็ดขาดมีพรมแดนชัดเจน) เราเชื่อว่าเราทำบุญให้คนตายแล้วคนตายได้รับ ได้รำลึกบรรพบุรุษราวกับว่าเขายังอยู่ในครอบครัว ฯลฯ พูดง่ายๆ มันสะท้อนความเป็นอยู่ที่กลืนกันระหว่างความเชื่อและความจริงเข้าไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในชีวิตธรรมดาๆ ของเรา โดยที่หนังทำให้มันเป็นเรื่องที่ธรรมดาๆ ไม่ได้ตื่นเต้น ลึกลับ บีบคั้นอารมณ์อะไร
อีกเรื่องหนึ่งที่รู้สึกคือ อภิชาตพงศ์ กำลังเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับความเชื่อและประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์สากลและประวัติศาสตร์เฉพาะของไทย กล่าวถึงประวัติศาสตร์สากลก่อน การเลือกที่จะให้ ผีลิง ที่เดินสองขาและอยู่ในป่าในถ้ำ และมีฉากลุงบุญมีกลับไปตายในถ้ำที่มีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องครึ่งคนครึ่งวานรสมัยมนุษย์พัฒนาการแรกๆ
การที่ลุงบุญมีเดินไปตายที่ถ้ำที่มีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์และมี ผีลิง อยู่ในถ้ำนั้นด้วย และก่อนตายก็ระลึกถึงชาติต่างๆ ผมรู้สึกว่า นี่คือการบอกว่าชาติที่ระลึกนั้น ระลึกไปถึงรากเหง้าของมนุษย์ตั้งกะยุคถ้ำ ยุคมนุษย์กึ่งวานร เป็นการผสมความเชื่อเรื่องวิวัฒนาการแบบดาวินส์กับการกลับชาติมาเกิดแบบน่าสนใจ ฝรั่งน่าจะเก็ตเรื่องราวเหล่านี้
ส่วนประเด็นประวัติศาสตร์เฉพาะของไทย ใครที่สนใจประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ คงสะดุดใจกับที่ลุงบุญเล่าว่า ลุงก่อกรรมมาเยอะโดยเฉพาะการฆ่าพคท. (พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) และยิ่งฉากระลึกชาติ การให้มีภาพนิ่งทหาร(ซึ่งไม่รู้คือลุงหรือเปล่า) ล่ามโซ่และจับกุมจูงผีลิงออกมาจากป่านั้น ใครที่เคยศึกษาเรื่องการต่อสู้ระหว่างรัฐไทยกับพคท. ก็อดสะดุดใจไม่ได้ แต่เรื่องนี้ฝรั่งและคนทั่วไปไม่น่าจะเก็ต หากพูดถึงฉากนี้โดยไม่อิงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทยเลย ก็บอกว่าชาติหนึ่งลุงบุญมีเคยเป็นทหารไปจับผีลิงในป่า??? แต่สุดท้ายผีลิงก็มายืนกอดคอกับทหารถ่ายรูปกันอีก?? ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน
สำหรับคนที่พอจะจดจำเรื่องการต่อสู้สมัยนั้นได้ การเปรียบเทียบพคทเป็น ผีลิง เป็นเรื่องที่เจ็บแสบอย่างยิ่ง เพราะเป็นทั้งผีที่น่าเกลียดน่ากลัวและเป็นทั้งลิงที่ล้าหลังตรงกับที่รัฐไทยเคยโปรโมตภาพของพคทให้สังคมเชื่อในสมัยนั้น แต่ในขณะเดียวกันผีลิงกลับเป็นผีที่น่ารักและมีแง่มุมอันสวยงามในชีวิต (ก่อนเป็นผีลิงเคยชอบศิลปะการถ่ายรูปด้วย)นอกจากเรือนกายที่เป็น ผีลิง แล้วสิ่งที่แสดงออกในฉากที่ผีลิงมาร่วมกินข้าวกับลุงบุญมีแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับภาพผีลิง(หรืออีกนัยคือพคท) ที่ลุงเคยล่า เคยฆ่า
พูดง่ายๆ ผมสรุป(เดาๆเอาเอง)ว่า ฉากนี้ผู้กำกับต้องการเสียดสีเรื่องการโปรโมตว่าคอมมิวนิสต์เป็นผีเป็นปิศาจในสมัยนั้นนั่นเอง
ถ้าจะเล่าเรื่องสัญลักษณ์ทำนองที่เล่าไปคงเล่าได้กันได้อีกเยอะ แต่เอาเป็นว่าแก่นแกนของเรื่องนี้ นั้นผมคิดว่าเป็นการนำเสนอความเชื่อในเรื่องลี้ลับต่างๆ ที่ดำรงอยู่และเป็นไปในสังคมไทยโดยไม่ใช้กลวิธีของหนังสยองขวัญแบบคนเล่าเรื่องลี้ลับชอบที่จะใช้กันแต่กลับใช้วีธีเล่าเรื่องให้สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาๆ
จากคุณ |
:
น้องจั้ง
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มี.ค. 54 06:36:56
|
|
|
|