ความคิดเห็นที่ 1 ซากาโมโตะ เรียวมะ (Sakamoto Ryoma) เป็นที่รู้จักในฐานะนักปฏิรูปการเมืองที่มีบทบาทต่อการสิ้นสุดของรัฐบาลบาคุฟุภายใต้การนำของโชกุนแห่งตระกูลโตกุงาว่า  (ช่วง Bakumatsu) และเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเมจิ (Meiji Ishin – Meiji Restoration) เกิดวันที่ 3 มกราคม 1835 (วันที่ 15 เดือน 11 ปีเทมโปที่ 6)  ในแคว้น Tosa (ปัจจุบันคือจังหวัดโคจิ) ชื่อจริงคือ Naokage ต่อมาภายหลังเป็น Naonari ส่วนเรียวมะเป็นชื่อที่เรียกทั่วไป (ยุคนั้นไม่นิยมการเรียกชื่อตัว ถือว่าไม่สุภาพ ชื่อตัวจะเรียกกันเฉพาะคนสนิทในครอบครัวเท่านั้น)  นอกจากนี้บางครั้งยังใช้ชื่ออื่นๆ เช่น Saidani Umetarou จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:43:20

ความคิดเห็นที่ 2 เรียวมะเป็นบุตรชายคนรองในตระกูลซามูไรระดับล่าง โดยมีพี่ชายและพี่สาวอีก 3 คน ซึ่งพี่สาวคนที่สาม โอโตเมะเป็นผู้มีบทบาทในการเลี้ยงดูเรียวมะแทนมารดา ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เรียวมะยังเด็ก  ตระกูลซากาโมโตะแต่เดิมเป็นพ่อค้าร่ำรวย มีธุรกิจร้านผ้า โรงผลิตเหล้า และรับจำนำ ชื่อ  Saidaniya ทำให้ทางแคว้นมอบตำแหน่งซามูไรให้แก่บรรพบุรุษของตระกูล (พูดตรงๆ คือเอาเงินไปซื้อตำแหน่งน่ะแหล่ะ) ตระกูลซากาโมโตะ แม้จะมีสถานะเป็นซามูไร แต่ในแคว้น Tosa นั้นมีการแบ่งชนชั้นระหว่างซามูไรระดับสูงและระดับล่าง ซามูไรระดับล่างถูกกดขี่ จากซามูไรระดับบน แต่ถึงกระนั้นพื้นเพที่เป็นตระกูลพ่อค้าก็ทำให้ตระกูลซากาโมโตะอยู่อย่างเศรษฐีมีฐานะ เรื่องเล่าแบบตำนานเกี่ยวกับการเกิดของเรียวมะคือในคืนก่อนวันเกิด  มารดาของเรียวมะได้ฝันเห็นมังกรบินมากจากฟ้า (หรืออีกตำราก็ว่าบิดาฝันเห็นม้า 駿馬มารดาฝันเห็นมังกร  蛟龍) จึงตั้งชื่อให้ว่า เรียวมะ龍馬 ตอนเด็ก เรียวมะเป็นเด็กอ่อนแอ  ขี้แย รวมทั้งติดนิสัยปัสสาวะรดที่นอนไม่หาย เมื่อถูกส่งไปเรียนหนังสือ ก็ถูกรังแก จนท้ายที่สุดต้องเลิกเรียน โดยกลับมาเรียนหนังสือและวิชาต่อสู้จากโอโตเมะแทน   บุคคลที่กล่าวกันว่ามีส่วนอย่างสำคัญต่อการปลูกฝังบุคลิกและนิสัยของเรียวมะ นอกจากโอโตเมะแล้ว อีกคนคือมารดาเลี้ยง อิโยะ ซึ่งมีพื้นเพเดิม (จากการแต่งงานครั้งแรกกับคนในตระกูลคาวาชิม่า)  เรียวมะกับโอโตเมะได้เดินทางข้ามอ่าวอุราโดวันเพื่อไปเยี่ยมตระกูลคาวาชิม่าที่ทาเนซากิบ่อยๆ  ทำให้ได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ จากต่างแดนจากนางาซากิหรือชิโมโนเซกิ  (ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลบาคุฟุอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาได้) ได้เห็นแผนที่โลก รวมทั้งสินค้านำเข้าต่างๆ เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดความใฝ่ฝันอยากจะเห็นโลกภายนอกในเวลาต่อมา จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:53:29

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่ออายุได้ 13 ปี เรียวมะได้เข้าเป็นลูกศิษย์ที่สำนักดาบของฮิเนโนะ เบนจิ เรียนวิชาดาบตามแนวทางโอกุริ (Oguri ryuu) หลังจากเรียนอยู่ 5 ปี จนสำเร็จก็ถึงเวลาที่เรียวมะจะออกสู่โลกกว้าง   ในปี 1853 เรียวมะได้ขออนุญาตทางแคว้นเพื่อเดินทางไปฝึกฝนวิชาการต่อสู้ที่เอโดะ (โตเกียว) เป็นเวลา 1 ปี   เรียวมะเข้าเป็นลูกศิษย์เรียนวิชาดาบHokushin ittouryuu กับChiba Sadakichi   ที่สำนักดาบจิบะ  ซึ่งนอกจากลูกชายคนโตของอาจารย์แล้ว ยังมีลูกสาวอีก 3 คน (หนึ่งในนั้นคือ ซานะ ซึ่งว่ากันว่าเป็นคู่หมั้นของเรียวมะด้วย) ในกลางปีเดียวกัน  วันที่ 3 เดือนมิถุนายน นายพลแมธธิว เปอร์รี่ก็ได้นำกองเรือรบของสหรัฐอเมริกาเข้ามาปิดอ่าวที่ Uraga (หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์การมาเยือนของกองเรือดำ黒船来航) เพื่อบีบให้ญี่ปุ่นทำสนธิสัญญา ซึ่งนำไปสู่การเปิดประเทศเพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำการค้าได้ การมาของกองเรือดำ เป็นการเปิดตาให้ชาวญี่ปุ่นภายใต้การปกครองของรัฐบาลโชกุนที่ปิดประเทศมาสองร้อยหกสิบกว่าปี ได้รับรู้ว่าตัวเองล้าหลังโลกตะวันตกทั้งทางด้านอาวุธและเทคโนโลยี เรียวมะที่แม้มาอยู่ที่เอโดะด้วยทุนตัวเอง ก็ถูกหมายเรียกให้ทำหน้าที่เป็นกองกำลังประจำที่บ้านพักของแคว้น Tosa ในจดหมายของเรียวมะที่เขียนถึงครอบครัว มีข้อความว่า “ถ้าเกิดสงครามขึ้น จะตัดหัวพวกต่างชาติ แล้วถึงจะกลับบ้าน” จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:26:19

ความคิดเห็นที่ 4 เรียวมะยังได้ศึกษากับ Sakuma ZouSan นักคิดและนักวิชาการทหาร ซึ่งเรียวมะได้ศึกษาวิชาการยิงปืนใหญ่  การศึกษาปรัชญาแบบจีน และการศึกษาวิทยาการตะวันตก เป็นเวลาสั้นๆ  หลังจากอยู่เอโดะได้ 15 เดือน เรียวมะก็เดินทางกลับมายังแคว้น Tosa เมื่อกลับมา เรียวมะได้ทำหน้าที่ครูสอนดาบที่สำนักดาบฮิเนโนะ  เรียวมะยังได้รับฟังเรื่องของจอหน์ มันจิโร่  ได้ทราบเรื่องราวการเมืองระหว่างประเทศ และความสำคัญของการมีกองทัพเรือ จาก Kawada Shouryou รวมถึงได้รู้จัก Kondo Choujirou และ Nagaoka Kenkichi ที่เป็นสหายร่วมอุดมการณ์ในภายหลัง ในระหว่างนี้เรียวมะได้เรียนเรื่องปืนใหญ่และภาษาดัชท์ด้วย หลังจากบิดาเสียชีวิต เรียวมะได้ขออนุญาตเดินทางไปเอโดะเป็นครั้งที่สอง เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเพิ่มเติม เรียวมะเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักดาบที่มีฝีมือคนหนึ่ง  คราวนี้เรียวมะอยู่ที่เอโดะเกือบสองปี แล้วจึงได้เดินทางกลับแคว้น แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 17:20:08 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 17:20:00 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:58:11

ความคิดเห็นที่ 5 ทางแคว้น Tosa หลังปัญหาการเข้ามาของเรือดำไดเมียวผู้ปกครองแคว้น Yamauchi Toyoshige (Youdou) ได้ให้ความสนใจการปฏิรูประบอบการปกครองของญี่ปุ่น โดยได้ร่วมมือกับไดเมียวแห่งแคว้น Mito-  Tokugawa Nariaki, ไดเมียวแห่งแคว้น Satsuma – Shimatsu Nariakira  และไดเมียวแห่งแคว้น  Uwajima – Date Muneyori ในการผลักดันให้มีการเลือก Hitotsubashi Yoshinobu เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุน เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบบรัฐบาลบาคุฟุ แต่ความพยายามนี้ไม่สำเร็จ (เหตุการณ์นี้ปรากฎในละครเรื่อง Atsuhime)  ในที่สุดผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุน คือ Tokugawa Iemochi ภายใต้การดูแลของไทโร Ii Naosuke  บรรดาฝ่ายสนับสนุนฮิโตทสึบาชิถูกลงโทษ รวมไปถึง Youdou ซึ่งแม้จะลงจากตำแหน่งไดเมียว แต่ก็ยังเป็นผู้ถืออำนาจของแคว้นอยู่เบื้องหลัง และผลักดันการปฏิรูปการเมืองต่อ ในปี 1860 Ii Naosuke ถูกลอบสังหารโดยบรรดาโรนินที่ออกจากแคว้นมิโตะ  ทำให้บรรดาซามูไรระดับล่างในแคว้น Tosa เกิดความตื่นตัว กระแส Sonnojoui เพื่อฟื้นฟูให้ระบอบจักรพรรดิกลับมามีอำนาจ เป็นที่นิยมในหมู่ซามูไรระดับล่าง ในขณะเดียวกันก็ความขัดแย้งระหว่างซามูไรระดับบนและระดับล่างสูงขึ้นทุกที  เกิดการรวมตัวของซามูไรระดับล่าง ทาเคจิ ฮัมเปตะ เพื่อนรักคนหนึ่งของเรียวมะ ได้มีการติดต่อกับบรรดาซามูไรอื่นๆ ที่มีความเห็นคล้ายคลึงกัน ทั้งในแคว้นมิโตะ โจชู สัทสึมะ  ฮัมเปตะได้รวบรวมเหล่าสหายซามูไรระดับล่าง 192 คนที่สนับสนุนแนวทางส่งเสริมจักรพรรดิ เพื่อยุบระบบรัฐบาลบาคุฟุเสีย โดยได้จัดตั้งเป็น Kinnoutou ขึ้น (เรียวมะเป็นสมาชิกในลำดับที่ 9) ทาเคจิ ฮัมเปตะต้องการผลักดันให้ทางแคว้นส่งเสริมแนวทาง Sonnojoui แต่ผู้นำแคว้นขณะนั้นเน้นแนวทาง Koubugattai (เพื่อให้รัฐบาลบาคุฟูเข้มแข็ง จึงส่งเสริมการร่วมมือกันระหว่างจักรพรรดิและตระกูลโตกุงาว่า ที่นำไปสู่การแต่งงานของน้องสาวพระจักรพรรดิและโชกุนอิเอโมจิ) ดังนั้นการเคลื่อนไหวจอง Kinnoutou จึงไม่ได้รับการสนับสนุน แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 54 00:46:05 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 22:32:55 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:05:11

ความคิดเห็นที่ 6 ความพยายามที่จะนำทางนโยบายของแคว้นที่ไม่เป็นผลสำเร็จของกลุ่ม  kinnoutou ทำให้บรรดาพลพรรคเพื่อนร่วมอุดมการณ์เริ่มร้อนใจ เพราะในขณะเดียวกันทางแคว้น Satsuma มีการเคลื่อนไหว โดยที่ Shimatsu Hisamitsu เดินทางไปเฝ้าจักรพรรดิที่เกียวโต สมาชิกหลายคนเริ่มคิดว่าจะแยกตัวจากแคว้น Dappan และเดินทางไปเกียวโตเพื่อสานต่อแนวทาง ร่วมกับทางแคว้น Satsuma Dappan ถือเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างเจ้าผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง เป็นความผิดร้ายแรงในระบบการปกครองแบบศักดินา นอกจากตัวบุคคลนั้นแล้ว บรรดาญาติและเพื่อนฝูงที่ยังหลงเหลืออยู่ในแคว้นก็จะได้รับโทษไปด้วย ทาเคจิที่ยังคงมีความหวังกับการผลักดันนโยบายของแคว้น คัดค้านความคิดของ เพื่อนๆ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ หลังจากสมาชิกจำนวนหนึ่ง เช่น Yoshimura Toratarou , Sawamura Sounojou ได้ตัดสินใจแยกตัวจากแคว้นแล้ว เรียวมะก็ตัดสินใจที่จะไปจากแคว้นเช่นเดียวกัน พี่ชายของเรียวมะที่รู้ถึงการตัดสินใจของเรียวมะ พยายามขัดขวาง ทั้งให้เพื่อนฝูงญาติมิตรคอยเฝ้าไว้ แล้วยังเอาดาบของเรียวมะไปซ่อน แต่เรียวมะก็ได้รับความช่วยเหลือจากโอโตเมะจนออกจากแคว้นไปได้ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 22:36:55 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 22:33:50 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:53:26

ความคิดเห็นที่ 7 จะปาดไหมเนี้ย ^ ^ ขอบคุณมากค่ะ ไทงะเรื่องราวตัดฉับๆ บางทีถ้าไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยดูแล้วงงเหมือนกัน ตัวละครก็เยอะแยะ พอมีแบบนี้มาให้ได้รู้ก่อน ก็ทำให้รู้สึกว่าคงดูเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ จากคุณ : Jendionic (Jendionic) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 19:43:28

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้มากๆเลย (แต่ยังอ่านไม่จบ ) มาแปะกิ๊บไว้ก่อน จากคุณ : SPEED STAR เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 19:53:52

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ต้องห่วงเรื่องปาดเลยค่ะ เพราะค่อยๆ เขียนไป ปะไป (ท่าทางจะเป็นโปรเจคระยะยาว) หลังจากดูตอนแรกจบไป มีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:36:27

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นแต่เช้าแต่ไม่กล้าโพสกลัวปาด แหะๆ ขอบคุณคุณ ก มากนะคะ จากคุณ : momo lawleit เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 21:59:50

ความคิดเห็นที่ 11 เรียวมะและซาวามูระเดินทางออกจากแคว้นโทสะ แต่ยังไปไม่ถึงเกียวโตก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นเสียก่อน บรรดาซามูไรที่ส่งเสริมแนวทางเชิดชูพระจักรพรรดิต้องผิดหวัง เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของ Shimatsu Hisamitsu ในขณะนั้นคือการรวมกันระหว่างตระกูลจักรพรรดิและตระกูลโตกุกาว่า  ฮิซามิทสึสั่งห้ามการวางแผนลอบสังหารของกลุ่มซามูไรหัวรุนแรงที่สนับสนุน sonnoujoui ทำให้เกิดเหตุต่อสู้ระหว่างซามูไรแคว้นเดียวกันเองที่ Teradaya  (อีกไม่กี่ปีหลังจากนั้น จะมีเหตุร้ายเกิดที่เทราดะยะนี่อีกครั้ง) และบรรดาซามูไรหัวรุนแรงเหล่านั้นมีทั้งที่ถูกสังหารตาย ถูกลงโทษให้คว้านท้อง และที่ถูกจับส่งกลับไปที่แคว้น หลังจากเหตุการณ์ที่เทราดะยะ เรียวมะจึงแยกทางกับซาวามูระ เพื่อเดินทางไปคิวชูเพื่อสำรวจท่าทีของแคว้น Satsuma แต่การเคลื่อนไหวของเรียวมะในขณะนั้น ไม่มีข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน ทางแคว้นโทสะก็เกิดการเปลี่ยนแปลง โยชิดะ โตโย ซึ่งเป็นหลักของการดำเนินนโยบายของแคว้นถูกลอบสังหาร ในเดือนเมษายน ปี 1862  (สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม Kinnoutou) ทำให้ทาเคจิสามารถโน้มน้าวแคว้นให้เปลี่ยนนโยบาย และผลักดันให้ไดเมียวเดินทางไปเฝ้าพระจักรพรรดิ  ในเดือนกรกฎาคม เรียวมะหลบซ่อนอยู่ที่โอซาก้า และได้ติดต่อกับMochizuki  Seihei ถึงได้ทราบว่าตัวเองเป็นผู้ต้องสงสัยการลอบสังหารโยชิดะ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:17:02

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่เล่าเรื่องย่อให้ฟังนะคะ เวลาตามดูไปเรื่อยๆ จะได้ไม่งงเท่าไหร่ จะติดตามต่อไปค่ะ เคยดู Atsuhime มาแล้วก่อนด้วยค่ะ พอจะเข้าใจได้บ้าง จากคุณ : มันเจ๋งนะโฟรโด เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 23:23:04

ความคิดเห็นที่ 13 จากคุณ : areewan เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:19:08

ความคิดเห็นที่ 14 รู้สึกเขียนแล้วจะยาว บอกแหล่งที่มาของข้อมูลก่อน รายละเอียดของ Sakamoto Ryoma http://ja.wikipedia.org/wiki/%E5%9D%82%E6%9C%AC%E9%BE%8D%E9%A6%AC ส่วนวิกิละคร กะจะไปไว้ตอนหลัง http://ja.wikipedia.org/wiki/%E9%BE%8D%E9%A6%AC%E4%BC%9D เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เรื่องเล่ากองถ่าย คงจะไปหยิบยืมมาจากรายการวิทยุของฟุกุยาม่าซังค่ะ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 15:19:26

ความคิดเห็นที่ 15 ..รออ่านอยู่นะคะ ^^ จากคุณ : เต่าพันปี เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:12:21

ความคิดเห็นที่ 16 ในเดือนธันวาคม ปี 1862 เรียวมะได้รู้จักบุคคลสำคัญอีกผู้หนึ่งซึ่งมีอิทธิพลต่อแนวทางการเมืองของเรียวมะในเวลาต่อมา คือ คัทสึ ไคชู ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกองเรือของรัฐบาลบาคุฟุ เรื่องเล่าที่เป็นที่รู้กันทั่วไปเกี่ยวกับการพบกันระหว่างเรียวมะและคัทสึคือ เรียวมะไปพบคัทสึ ไคชู ที่บ้านเพื่อสังหารคัทสึที่เป็นผู้สนับสนุนแนวคิดเรื่องการเปิดประเทศ แต่เมื่อได้ฟังความคิดของคัทสึ เรื่องการเมืองระหว่างประเทศและความจำเป็นในการสร้างกองทัพเรือ เรียวมะก็เปลี่ยนความคิด แล้วฝากตนเป็นศิษย์ของคัทสึแทน (แม้เรื่องเล่านี้จะมาจากบันทึกของคัทสึในภายหลัง แต่พิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่น เรื่องเล่านี้ยังมีข้อแย้งอยู่บางประการ) อย่างไรก็ดี เรื่องเรียวมะฝากตัวเป็นศิษย์นั้นเป็นเรื่องจริง โดยดูจากหลักฐานจดหมายที่เขียนไปถึงโอโตเมะ  เรียวมะยกย่องคัทสึเป็น “บุคคลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น” คัทสึช่วยเจรจากับทางแคว้น Tosa จนเรียวมะได้รับการอภัยโทษข้อหาแยกตัวจากแคว้น รวมไปถึงบรรดาโรนินอื่นๆ ที่แยกตัวจากแคว้นโทสะ เช่น จิยะ โทราโนะสุเกะ, ซาวามูระ โซโนโจ, คอนโด โจจิโร่ ฯลฯ ก็ได้เข้าเป็นลูกศิษย์ของคัทสึด้วย  เรียวมะร่วมมือกับคัทสึในการสร้างโรงเรียน ฝึกทหารเรือ นอกจากนี้เรียวมะยังมอบหมายให้โอคาดะ อิโซเป็นผู้คุ้มครองคัทสึที่เกียวโต ซึ่ง ช่วยปกป้องชีวิตคัทสึจากการลอบสังหารโดยโรนินไว้ได้ เพื่อโน้มน้าวให้รัฐบาลบาคุฟุและบรรดาไดเมียวแคว้นต่างๆ เห็นด้วยกับการสร้างกองทัพเรือ คัทสึจึงได้เชิญโชกุนโตกุกาว่า อิเอโมจิ ไปชมเรือ Jundomaru (เหตุการณ์ตอนนี้มีในอัตสึฮิเมะด้วยค่ะ) หลังจากนั้นทางรัฐบาลโตกุกาว่าได้อนุญาตให้มีการตั้ง สถาบันฝึกอบรมการเดินเรือโกเบ  รวมทั้งมอบเงินให้ปีละ 3000 เรียว แต่เงินเพียงเท่านี้ย่อมไม่เพียงพอ เรียวมะต้องใช้ความพยายามต่างๆ เพื่อให้การจัดตั้งสถาบันฯ สำเร็จ เช่น เดินทางไปแคว้นฟุกุอิ เพื่อขอยืมเงินจากมัตสึไดระ ชุนกากุ (Matsudaira Shungaku) ไดเมียวผู้ครองแคว้น เป็นต้น จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:32:48

ความคิดเห็นที่ 17 ในระหว่างที่เรียวมะวุ่นวายกับการสร้างสถาบันอบรมเดินเรือนั้น ทางแคว้น Tosa ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อ Yamauchi Youdou ไดเมียวผู้ครองแคว้นไม่พอใจการที่ซามูไรระดับล่าง อย่างทาเคจิ เข้ามามีบทบาทในการชี้นำแนวทางของแคว้น ทำให้ยามาอุจิพยายามดึงอำนาจ ในแคว้นกลับมา โดยสั่งให้มีการรื้อฟื้นหาตัวการในการลอบสังหารโยชิดะ โตโย เพื่อเป็นเหตุทำลาย Kinnoutou เสีย ทำให้สมาชิกสำคัญของ Kinnoutou คือ Masaki Tetsuma, Hirai Shuujirou, Hirose Kenta ถูกลงโทษโดยให้คว้านท้อง (ฮิราอินั้น เป็นพี่ชายของคาโอะ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคนรักของเรียวมะ) ในจดหมายของเรียวมะที่มีถึงโอโตเมะในช่วงนั้น แสดงความห่วงใยคาโอะ และในจดหมายฉบับเดียวกันยังแสดงความเป็นห่วงต่อความพ่ายแพ้ของแคว้นโจชู(ซึ่งสนับสนุนแนวทางส่งเสริมพระจักรพรรดิและขับไล่ต่างชาติ) ที่ต่อต้านชาวต่างชาติอย่างรุนแรง และทำสงครามต่อสู้กับเรือรบของสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส (Battles of Shimonoseki) ในเดือนกันยายน ปี 1863 บรรดาโรนินจากแคว้นต่างๆ ผู้สนับสนุนการฟื้นอำนาจพระจักรรพรรดิ (กลุ่ม Tenchuugumi) ได้ก่อการขึ้นที่ยามาโตะ  โดยเข้ายึดที่ทำการรัฐบาลบาคุฟุ (Tenchuugumi no hen – Tenchuugumi Uprising) แต่ทว่าในวันถัดมา  แคว้น Satsuma ร่วมมือกับแคว้น Aizu (ทั้งสองแคว้นสนับสนุนแนวทาง Koubugattai) ก็ตอบโต้ โดยขับบรรดาข้าราชการในวัง รวมถึงคนของแคว้นโจชูออกจากเกียวโต ทำให้ผู้สนับสนุนรัฐบาลบาคุฟุกลับมามีอำนาจอีกครั้ง Tenchuugumi ถูกปราบปรามราบคาบ โรนินที่มาจากแคว้น Tosa หลายคนเสียชีวิตในการรบ ส่วนทางแคว้น Tosa ทาเคจิ ฮันเปตะถูกจับ และ Kinnoutou ก็ล่มสลายลง (ฮันเปตะถูกขังอยู่ 1 ปีครึ่งและลงโทษด้วยการให้คว้านท้อง) หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดที่เกียวโตผ่านไป  เรียวมะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าของ โรงเรียนทหารเรือที่โกเบ (ของคัทสึ)  แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางแคว้นให้อยู่ต่อ แต่เรียวมะต้องการที่จะสานต่องานการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมทหารเรือต่อ ไม่ต้องการจะกลับไปที่แคว้นโทสะ ดังนั้นจึงเมินเฉยต่อคำสั่งของแคว้น ถือเป็นการแยกตัวออกจากแคว้นเป็นครั้งที่สอง   แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 54 00:46:30 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 19:02:17 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 18:53:51 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 18:21:51

ความคิดเห็นที่ 18 รู้จักเรื่องนี้ครั้งแรกจากหนังสือการ์ตูนของโคยาม่ายู อยากติดตามชมหนังเรื่องนี้จังแต่ดันอยู่ต่างแดนตอนนี้ T-T จากคุณ : หนุ่มน้อยจ้า เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 19:05:40

ความคิดเห็นที่ 19 ชื่นชอบเรียวม่ามาตั้งเเต่ตอนอ่านการืตูนของโคยาม่า ยูเช่นกัน ยิ่งตอนจบยิ่งสุดยอด จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 19:58:04

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาอ่านค่ะ เพราะตอนดู งงมากๆ รออ่านต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ame_ame เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 20:30:37

ความคิดเห็นที่ 21 ในปี 1864 เรียวมะได้ติดตามคัทสึไปที่นางาซากิ เพื่อเจรจาเรื่องการเปิดช่องแคบ Kanmon กับแคว้นโจชู และเดินทางต่อไปคุมาโมโตะเพื่อพบกับ Yokoi Shounan ซึ่งได้ให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทัพเรือ กลางปีเดียวกัน เรียวมะได้พบกับคู่ชีวิตในอนาคต Narasaki Ryou (โอเรียว)  เรียวมะได้นำโอเรียวไปฝากกับโอโตเสะเจ้าของร้านเทราดะยะที่สนิทสนมกัน คัทสึได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชากองเรืออย่างเป็นทางการ และสถาบันฝึกอบรมทหารเรือโกเบได้เริ่มการดำเนินงาน เรียวมะได้มาสมทบกับคัทสึที่ชิโมดะ เพื่อเสนอแนวคิดเรื่องจัดส่งคณะไปสำรวจพื้นที่และแสวงหาช่องทางการค้าในบริเวณที่ชาวไอนุอาศัยอยู่ ซึ่งก็ได้รับการเห็นชอบของ Roujuu Mizuno Tadakiyo  สามารถรวบรวมเงินทุนได้ประมาณสามถึงสี่พันเรียว แต่ทว่า ในตอนนั้นในเกียวโตก็เกิดเหตุร้ายที่เรียวมะและคัทสึไม่รู้ คือเหตุการณ์สังหารที่อิเคดะยะ โดยชินเซ็นกุมิซึ่งทำหน้าที่เสมือนตำรวจของรัฐบาลบาคุฟุได้เข้าโจมตีกลุ่มโรนินแคว้นโจชูและโทสะ โดยอ้างว่ากลุ่มโรนินที่หนุนแนวทาง Sonnoujoi มีแผนที่จะวางเพลิงเมืองเกียวโต  ในเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กลุ่มหนุนพระจักรพรรดิทั้งตายและถูกจับ โรนินจากแคว้นโทสะ เช่น Kitazoe Kitsuma ซึ่งเป็นคนที่เคยเดินทางไปท้องถิ่นของชาวไอนุและ Mochizuki Kameyata หนึ่งในศิษย์ของโรงเรียนทหารเรือ ก็อยู่ในกลุ่มโรนินที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ (คลิปจากไทกะดราม่า เรื่องชินเซ็นกุมิ ในตอนที่เกิดเหตุการณ์อิเคดะยะ) แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 19:09:31 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 19:06:44

ความคิดเห็นที่ 22 หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้อิทธิพลของแคว้นโจชูลดลงไปมาก ทางแคว้นพยายามหาทางแก้มือด้วยการส่งทหารสามพันนายมายังเกียวโต แต่ก็ถูกกองทัพของรัฐบาลบาคุฟุปราบภายในวันเดียว การที่ทหารของโจชูได้ยิงเข้าใส่ วังที่ประทับของจักรพรรดิ ทำให้แคว้นถูกกล่าวหาว่าเป็นศัตรูของราชวงศ์ และรัฐบาลบาคุฟุใช้โอกาสนี้ลงโทษแคว้นโจชู หลังจากนั้นไม่นาน ทางโจชูยังพ่ายแพ้ในการรบกับชาติตะวันตกที่ช่องแคบชิโมโนเซกิอีกครั้ง จากเหตุการณ์ครั้งหมดทำให้แคว้นโจชูไม่ไม่กำลังจะสู้ได้อีกต่อไป ต้องยอมแพ้อย่างราบคาบ ตามปากคำของโอเรียวในภายหลัง  ในช่วงระหว่างเวลาที่เกิดเหตุวุ่นวายเหล่านั้น เรียวมะได้แต่งงานกับโอเรียวอย่างเงียบๆ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 19:33:39

ความคิดเห็นที่ 23 หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ที่มีศิษย์ของโรงเรียนฝึกทหารเรือเข้าไปมีส่วนร่วมหลายครั้ง ทำให้รัฐบาลบาคุฟุเริ่มมองว่าโรงเรียนนี้เป็นปัญหา รวมทั้งคัทสึเองก็เคยมีเรื่องกับโรจู Abe Masatou   ก็ถูกเพ่งเล็งไปด้วย ทำให้ถูกเรียกตัวกลับเอโดะ แล้วถูกปลดจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือในเวลาถัดมา คัทสึที่สังหรณ์ใจอยู่ล่วงหน้า ด้วยความเป็นห่วง จึงฝากฝังให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของ แคว้น Satsuma  - Komatsu Tatewaki ช่วยปกป้อง เรียวมะและลูกศิษย์คนอื่นๆ ด้วย ในที่สุดความฝันของคัทสึและเรียวมะ สถานฝึกอบรมทหารเรือ ก็ถูกยุบไปในปี 1865 (คลิปจากอัตสึฮิเมะ ตอนการพบกันของคัทสึกับเรียวมะ) จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 19:49:43

ความคิดเห็นที่ 24 มาถึงจุดนี้ก็มาได้ประมาณครึ่งเรื่องของเรียวมะ จอมคนพลิกแผ่นดินแล้วค่ะ คิดไม่ตกว่าจะปะคลิปจากเรื่องอื่นดีหรือไม่ กลัวจะกลายเป็นสปอยล์เนื้อเรื่องมากไป ถ้าใครมีข้อที่จะเสริมก็เติมเข้ามาได้นะคะ สำหรับท่านที่อยู่ต่างแดน ลองหาดูใน dailymotion ค่ะ ถ้าเสิรช์หาไม่เจอจริงๆ ลองไปดูที่กระทู้ของคุณ mikarin ที่ห้องรวมค่ะ มีบอกแน่นอน แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 20:23:38 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 20:08:40 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 20:06:08

ความคิดเห็นที่ 25 แคว้น Satsuma ที่เป็นผู้อุปการะเรียวมะและบรรดาศิษย์ของคัทสึ สนใจและให้ความสำคัญกับความสามารถในการเดินเรือ ดังนั้นจึงออกทุนให้กลุ่มของเรียวมะ จัดตั้ง Kameyamashachuu ขึ้น ซึ่งเป็นองค์กรรูปแบบที่มีลักษณะคล้ายกับบริษัทจำกัดที่ทำการค้าขายในยุคปัจจุบันมาก ในขณะนั้น  Kameyamashachuu มีศูนย์กลางการปฏิบัติงานอยู่ที่นางาซากิ ซึ่งเป็นเมืองที่มีพ่อค้าอยู่มาก และยังมีสาขาปฏิบัติงานที่ชิโมโนเซกิ และเกียวโต นอกจากดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรแล้ว Kameyamashachuu ยังเข้ามามีบทบาททางการเมืองด้วย หลังจากแคว้นโจชูถูกขับออกจากเกียวโต โดยการร่วมมือกันระหว่างแคว้น Satsuma และ Aizu แล้ว ทำให้ความรู้สึกเกลียดแค้นระหว่างแคว้น โจชูและแคว้นสัทสึมะทวีขึ้นอย่างสูง ทว่าเหล่าโรนินที่แยกตัวจากแคว้นโทสะเห็นว่าเพื่อโค่นล้มรัฐบาลบาคุฟุ จำเป็นที่สองแคว้นจะต้องร่วมมือกัน ดังนั้นเรียวมะจึงไหว้วาน วาตานาเบะ โนโบรุแห่งแคว้นโอมูระ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับซามูไรแคว้นโจชูไปชักจูงใจให้เห็นความสำคัญของการเป็นพันธมิตรระหว่างแคว้นโจชูและแคว้นสัทจึมะ และชักนำให้เรียวมะได้ไปพบกับ Katsura Kogorou (ภายหลังคือ Kido Takayoshi หนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่หลังการปฏิรูป) แห่งแคว้นโจชู ที่นางาซากิ แผนการการผูกพันธมิตรสองแคว้นเริ่มจากเรียวมะและ Hijikata Hisamoto ร่วมกันอธิบายแนวคิด และเกลี้ยกล่อมให้ Katsura ยอมพบกับ Saigou Takamori แห่งแคว้น Satsuma ในขณะเดียวกัน Nagakoka Shintarou ก็ไปเกลี้ยกล่อมทางฝั่งสัทสึมะ ในครั้งแรกที่มีการนัด เรียวมะและคัทสึระไปรอพบไซโกที่ชิโมโนเซกิ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุที่เกียวโต ทำให้ไซโกต้องรีบเดินทางไปด่วน การผิดนัดครั้งนี้ทำให้คัทสึระโกรธมาก จนเหมือนกับว่าการเจรจาสองฝ่ายแทบจะเป็นไปไม่ได้อีก แต่เรียวมะและนางาโอกะยังไม่ยอมแพ้ การที่แคว้นโจชูแสดงตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลบาคุฟุอย่างเปิดเผย ทำให้รัฐบาลบาคุฟุสั่งห้ามแคว้นโจชู ซื้อขายอาวุธจากต่างชาติอย่างเข้มงวด ทำให้แคว้นโจชูไม่สามารถจัดหาอาวุธที่ทันสมัยได้ ในอีกด้านทางแคว้นสัทสึมะก็มีปัญหาเรื่องจัดหาเสบียงอาหารให้แก่กำลังทหาร เรียวมะเสนอจัดหาอาวุธในนามแคว้นสัทสึมะแล้วลักลอบขายให้แคว้นโจชู เพื่อตอบแทนก็เสนอให้แคว้นโจชูส่งข้าวที่ทางสัทสึมะขาดแคลนให้  การแลกเปลี่ยนและการขนส่งของนั้นทาง Kameyamashachuu เป็นผู้รับผิดชอบ กุศโลบายนี้เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนของทั้งสองแคว้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายยอมตกลงได้อย่างง่ายดาย เป็นงานแรกของ Kameyamashachuu ถือเป็นก้าวแรกในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างสองแคว้น   Clip Kameyamashachuu ในปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 10:12:34 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 54 22:14:01 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 21:56:54

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาขอบคุณค่ะ  ^^ จากคุณ : bluehorse เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 23:13:04

ความคิดเห็นที่ 27 และแล้วก็มาถึงบทบาทสำคัญของเรียวมะในประวัติศาสตร์ ที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อการล้มรัฐบาลบาคุฟุและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่น ในเดือนมกราคม ปี 1866 ความพยายามในการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างสองแคว้นได้เริ่มขึ้น โดยในเบื้องต้น คัทสึระ โคโกโระได้ไปพบกับไซโก้ ทากาโมริที่บ้านของโคมัทสึ ทาเตะวากิในเกียวโต แต่ทว่าการเจรจาเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถปรองดองกันได้ เรียวมะได้เดินทางจากชิโมโนเซกิมาถึงเกียวโตไม่กี่วันหลังจากนั้น งงงันเมื่อพบว่าทั้งสองแคว้นไม่สามารถตกลงเป็นพันธมิตรกันได้ เมื่อเรียวมะถามไปยังคัทสึระ คำตอบที่ได้คือ แคว้นโจชูไม่สามารถยินยอมก้มหัวให้(แคว้นสัทสึมะ) ได้มากกว่านี้แล้ว เรียวมะจึงได้เข้ามาเป็นคนกลางประสานระหว่างสองฝ่าย ในที่สุดในวันที่ 22 มกราคม 1866 ทั้งสองแคว้น โดยทางฝั่งสัทสึมะ โดยไซโก้และโคมัทสึเป็นตัวแทน และคัทสึระ เป็นตัวแทนแคว้นโจชูก็ได้สัญญาเป็นพันธมิตร ที่เรียกว่า Satchou Doumei (Satchou Alliance) ในเวลาต่อมา   ถึงแม้ว่าจะได้สัญญาเป็นพันธมิตรกันแล้ว แต่คัทสึระก็ยังไม่เชื่อใจฝ่ายสัทสึมะ ระหว่างเดินทางกลับแคว้น คัทสึระยังได้ขอให้เรียวมะลงชื่อรับรองบันทึกการเป็นพันธมิตรระหว่างสองแคว้น  การที่เรียวมะที่เป็นเพียงแค่โรนินธรรมดาคนหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ประกันการปรองดองระหว่างสองแคว้นใหญ่ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเรียวมะได้รับความเชื่อถืออย่างมาก ในวันถัดมาหลังจากการตกลงเป็นพันธมิตรระหว่างสองแคว้น เพื่อฉลองความสำเร็จ เรียวมะกับผู้ติดตามจากแคว้นโจชู มิโยชิ ชินโซได้ไปพักที่ Teradaya ที่เขตฟุชิมิ โดยไม่รู้ตัวว่าหน่วยปกครองประจำฟุชิมิของรัฐบาลบาคุฟุได้เตรียมการจับเรียวมะไว้แล้ว โชคยังเข้าข้าง โอเรียวคนรักของเรียวมะที่กำลังอาบน้ำอยู่และมองไปนอกหน้าต่างเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกติ จึงรีบไปบอกให้ทั้งคู่รู้ตัว แต่กระนั้นก็ไม่ทันท่วงที หน่วยบุกจับได้รุกเข้ามาในห้อง เรียวมะใช้ปืนป้องกันตัว และมิโยชิใช้หอกด้ามยาวต่อสู้ แต่ด้วยจำนวนคนฝ่ายตรงข้ามที่มีมาก  เรียวมะถูกฟันบาดเจ็บที่มือทั้งสองข้าง  ทั้งสองหนีออกมา  เรียวมะต้องซ่อนในโรงไม้โดยมิโยชิไปขอความช่วยเหลือจากบ้านพักของแคว้นสัทสึมะ จนสามารถช่วยเรียวมะออกมาได้  เรียวมะเขียนจดหมายเล่าเหตุการณ์ที่เทราดะยะไปให้พี่ชายในภายหลัง ในระหว่างที่เรียวมะไม่อยู่ที่นางาซากิ ก็เกิดเหตุใหญ่ขึ้นที่ Kameyamashachuu รูปปั้นไซโก้ ทากาโมริในสวนสาธารณะอุเอโน ในโตเกียวค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 54 00:17:27 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 54 23:49:46 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 23:48:47

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : Johnรักษ์ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 20:10:48

ความคิดเห็นที่ 29 เนื้อเรื่องช่วงนี้ในละคร ฟุกุยามาซังเลือกให้เป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์เป็นลำดับต้นๆ เลยทีเดียว ระหว่างที่เรียวมะเดินทางไปเกียวโตนั้น ที่นางาซากิ Kondo Chojirou ซึ่งมีบทบาทในการช่วยซื้อเรือของอังกฤษให้กับแคว้นโจชู ใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปอังกฤษ จึงโดยสารไปกับเรือพ่อค้าต่างชาติ โดยปิดบังชาวคณะ Kameyamashachuu แต่ทว่าอากาศที่เลวร้าย ทำให้เรือต้องหันกลับเข้าฝั่งที่นางาซากิ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำผิดต่อกฎของ Kameyamashachuu คอนโดจึงคว้านท้องฆ่าตัวตาย เหตุการณ์ครั้งนี้ บางกระแสก็กล่าว่าเรียวมะเป็นผู้สั่งลงโทษคอนโด แต่เมื่อพิจารณาเงื่อนไขเวลาแล้ว เหตุการณ์เกิดระหว่างที่เรียวมะอยู่ในเกียวโต ทฤษฎีนี้จึงตกไป  เมื่อเรียวมะทราบเรื่องก็เสียใจ ในบันทึกของเรียวมะ มีบันทึกไว้ว่า “ถึงจะมีสติปัญญาดี แต่ขาดความซื่อสัตย์ เป็นเหตุให้อุเอสึกิ (คอนโด) ต้องเสียชิวิต”  และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกชิ้น คือบันทึกความทรงจำของโอเรียว ภรรยาของเรียวมะระบุไว้ว่า เรียวมะได้ปรารภว่า ถ้าหากตัวเองอยู่ (ที่นางาซากิ) ด้วย คงไม่ต้องถึงกับให้เกิดการตายเช่นนั้น จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:17:51

ความคิดเห็นที่ 30 มีอีกไหมครับ รออ่านอยู่ จากคุณ : เรียวมาโต เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:30:22

ความคิดเห็นที่ 31 จากเหตุการณ์ล้อมจับที่เทราดะยะ เรียวมะได้รับบาดเจ็บค่อนข้างร้ายแรง โดยเฉพาะนิ้วชี้ข้างซ้ายที่ไม่สามารถงอได้ (ภาพถ่ายหลังเหตุการณ์ จะเห็นได้ว่า เรียวมะมักจะหลบแขนซ้ายไว้) ไซโก้ ทากาโมริได้แนะนำให้เรียวมะไปรักษาตัวที่น้ำพุร้อน kirishimaในแคว้นสัทสึมะ ดังนั้นเรียวมะจึงได้เดินทางไปแคว้นสัทสึมะพร้อมโอเรียว และพักอยู่เป็นเวลารวม 83 วัน ทั้งสองคนได้เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว และออนเซ็นต่างๆ ในแคว้นฯ เพื่อเป็นการพักผ่อน พร้อมรักษามือที่ได้รับบาดเจ็บของเรียวมะไปด้วย ภายหลัง การเดินทางของทั้งคู่ถือเป็นการฮันนี่มูนของคู่แต่งงานเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น Kirishima Onsen ในจังหวัดคาโงชิม่าในปัจจุบันค่ะ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:33:41

ความคิดเห็นที่ 32 นึกว่าคนหลบหลังหินเป็นเรียวมะ >< จากคุณ : เรียวมาโต เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:48:03

ความคิดเห็นที่ 33 คุยนอกรอบค่ะ  ช่วงนี้ ปะได้ช้านิดหน่อย เพราะกลางวันไม่มีช่วงว่างให้เขียนได้ ก็เลยปะได้ทีละนิดตอนกลางคืน เขียนไปเขียนมาเหมือนสปอยล์เนื้อหาส่วนใหญ่ของละครไปเสียแล้ว ^^; อาจจะรวบรัดเรื่องราวให้มากกว่านี้ รายการสารคดี sono toki rekishi ga ugoita ของ NHK ตอนที่เล่าเรื่องความรักของซากาโมโตะ เรียวมะ กับโอเรียวค่ะ (ชอบรายการนี้ เพราะทำให้ประวัติศาสตร์ดูสนุก และไม่ได้เฉพาะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเท่านั้น น่าเสียดายที่เลิกทำไปแล้ว) จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 22:48:37

ความคิดเห็นที่ 34 ในเดือนมิถุนายน 1866 รัฐบาลบาคุฟุได้ส่งกำลังพลกว่าแสนนาย เพื่อมาปราบแคว้นโจชูเป็นครั้งที่สอง (ครั้งแรกในปี 1864)  ตอนกลางเดืนอ เรียวมะได้เดินทางกลับมาถึงท่าเรือที่ชิโมโนเซกิ และได้รับการขอร้องจากแคว้นโจชูให้ร่วมรบด้วย เรียวมะได้บัญชาการเรือยูเนี่ยนเข้าร่วมกับหน่วยของทากาสุกิ ชินซากุในการรบทางทะเล ถือเป็นการต่อสู้ครั้งแรกในสงครามและครั้งเดียวในชีวิตของเรียวมะ เรียวมะได้เขียนจดหมายและแผนผังเล่าเหตุการณ์ให้พี่ชายฟังในเวลาต่อมาว่า เมื่อเทียบกันแล้ว แคว้นโจชูได้มีการเตรียมจัดหาอาวุธสมัยใหม่ของทางยุโรปมาไว้ใช้งาน ในขณะที่กองทักบาคุฟุแม้มีคนมากกว่า แต่อาศัยวิธีการรบแบบเก่า ทำให้พ่ายแพ้ในสนามรบอย่างต่อเนื่อง และยังมีปัญหาการบังคับบัญชา เมื่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือโชกุนโตกุกาว่า อิเอโมจิล้มป่วยด้วยอาการโรคหัวใจที่ปราสาทโอซาก้า และในที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 21 ปี ทำให้สงครามครั้งนี้ต้องสิ้นสุดลง โดยคัทสึ ไคชูเจรจากับทางแคว้นโจชูและถอนทหารบาคุฟุกลับในเดือนกันยายน Operations map of the Second Choshu Expedition by Sakamoto Ryoma จาก wikipedia แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 54 23:13:55 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 54 23:13:50 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 23:11:57

ความคิดเห็นที่ 35 หลังสงครามระหว่างแคว้นโจชูกับบาคุฟุสิ้นสุด เรียวมะต้องกลับมาแก้ไขวิกฤตธุรกิจของ  Kameyamashachuu ที่สูญเสียเรือ wild wave ไปก่อนสงครามไม่นาน และต้องส่งมอบสิทธิการใช้งานเรือยูเนี่ยน (ซากุระมารุ) คืนแคว้นโจชูระหว่างสงครามไป ทำให้ไม่มีเรือเหลืออยู่เลย   Kameyamashachuu  ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อมาขายไป แต่ไม่มีเรือที่เป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทางติดต่อค้าขาย ทำให้ธุรกิจเกิดปัญหา จนเรียวมะแจ้งเหล่าเพื่อนฝูงให้ทราบสถานการณ์และวางแผนจะปิดบริษัท แต่บรรดาสมาชิกหลักที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมายืนยันว่าจะอยู่ต่อไป ทำให้ Kameyamashachuu ไม่สลายตัว และในเดือนตุลาคม แคว้นสัทสึมะได้ส่งเรือ  taikyokumaru  มาให้ใช้แทนเรือ wild wave ทางเอโดะ หลังโชกุนอิเอโมจิเสียชีวิต  Hitotsubashi Yoshinobu ได้ขึ้นมาเป็นโชกุนลำดับที่ 15  แบบไม่เต็มใจนัก ในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน เรียวมะได้วานซามูไรแห่งแคว้น Etsuzen ที่ได้เดินทางมานางาซากิ ให้นำแนวคิดเรื่อง “การคืนอำนาจ”  Seikenhoukan ไปแจ้งต่อ Matsudaira Shungaku (ซึ่งเป็นไดเมียวที่มีบทบาทมากในรัฐบาลบาคุฟุ) นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฏหลักฐานว่าเรียวมะได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นสิ่ง ที่เรียวมะคิดขึ้น   คนระดับสูงในรัฐบาลบาคุฟุเอง คือ โอคุโบะ อิจิโอเป็นคนริเริ่มแนวคิด และ Shungaku ก็ได้เคยนำเสนอแนวทางนี้ให้แก่โชกุนโยชิโนบุมาแล้ว แต่ทว่าได้รับการปฏิเสธ Kameyamashachuu ในปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 54 23:23:01 แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 54 22:42:22 แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 54 22:29:18 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 22:23:36

ความคิดเห็นที่ 36 ส่วนทางแคว้นโทสะ แม้จะดำเนินการปราบซามูไรที่สนับสนุนแนวทางส่งเสริมพระจักรพรรดิ จนถึงสลายกลุ่ม kinnoutou แต่ก็คอยจับตาเฝ้าดูสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไป พร้อมเร่งเตรียมกำลังรบให้เข้มแข็ง จัดซื้ออาวุธและดินปืนผ่านทางนางาซากิ โดยมอบหมายให้ Gotou Shoujirou เป็นผู้รับผิดชอบ เรียวมะในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเดินเรือและการค้า รวมทั้งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแคว้นโจชูและแคว้นสัทสึมะ เริ่มได้รับความสนใจ ในที่สุดแคว้นโทสะก็ส่ง Mizobuchi Hironocho (ท่านที่ชมละครเรียวมะ จอมคนพลิกแผ่นดินจำได้ไหมคะ คนที่เดินทางไปเอโดะครั้งแรกกับเรียวมะค่ะ) เป็นตัวกลางมาติดต่อกับเรียวมะ และหลังจากที่เรียวมะได้เจรจากับ Gotou ในเดือนมกราคม ปี 1867  เรียวมะและเหล่าโรนินที่แยกตัวออกจากแคว้นก็ได้รับการนิรโทษ    แคว้นโทสะตั้งให้ Kameyamashachuu เป็นองค์กรภายนอกเขตของแคว้นโทสะ แล้วในเดือนเมษายนก็ เปลี่ยนชื่อเป็น Kaientai รูปถ่ายเรียวมะกับไคเอ็นไต แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 54 21:36:24 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 22:54:39

ความคิดเห็นที่ 37 บทบัญญัติของ Kaientai ระบุไว้ดังนี้ วัตถุประสงค์หลักของกลุ่มคือ ด้วยการสนับสนุนของแคว้นโทสะ กลุ่มไคเอ็นไตจะช่วยเหลือ รองรับซามูไรของโทสะ หรือโรนินที่แยกตัวจากแคว้นอื่นๆ ที่มีความมุ่งหมายต้องการทำการค้ากับต่างประเทศ  ช่วยเหลือกิจกรรมด้านธุรกิจการค้า การขนส่ง การลงทุน และการแสวงหาสถานที่ใหม่ๆ ของแคว้นโทสะ   สมาชิกของไคเอ็นไตมีทั้งซามูไรแคว้นโทสะ เช่น ซาวามูระ โซโนโจ, ทากามัตสึ ทาโร่ ฯลฯ และคนที่มาจากแคว้นอื่น เช่นจากแคว้นคิชู หรือ แคว้นนางาโอกะ ทั้งหมด 16 – 28 คน นอกจากนี้ก็มีพวกกลาสีอีก รวมแล้วประมาณ   50 คน ในขณะเดียวกัน นากาโอกะ ชินทาโร่ก็ได้จัดตั้งกลุ่ม Rikuentai ขึ้น (เน้นกิจกรรมทางบก) หลังการจัดตั้งไคเอ็นไตไม่นาน ก็เกิดเหตุเรือ Irohamaru (Irohamaru Incident)  ขึ้น  ในเดือนเมษายน  เรือกลไฟอิโรฮะมารูที่ไคเอ็นไตเช่ามาจากแคว้น Oozu เกิดอุบัตเหตุระหว่างเดินทางไปโอซาก้า ชนกับเรือ Meikomaru ของแคว้นคิชู  ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเรืออิโรฮะมารูมาก  ทำให้อิโรฮะมารูได้รับความเสียหายจนจมลง เรียวมะเรียกร้องค่าเสียหายและเรือทดแทนจากแคว้นคิชู ในตอนแรกทางแคว้นคิชู ซึ่งถือตัวว่าเป็นแคว้นใหญ่เมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของเรียวมะและพวก โดยจะจ่ายให้แค่ 1000 เรียว แต่เรียวมะอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ (อ้างอิงหนังสือ Elements of International Law by Henry Wheaton)  รวมทั้งใช้อุบายแต่งเพลงต่อว่าแคว้นคิชู แล้วเผยแพร่เพลงนี้ให้กระจายไปในหมู่ชาวเมืองนางาซากิ ร่วมด้วยการหนุนของ Gotou และแคว้นโทสะ และแคว้นสัทสึมะ ทำให้แคว้นคิชูยอมจ่ายค่าเสียหายให้เป็นจำนวนเงิน 83,000 เรียว (ภายหลังมีการต่อรองเหลือ 70000 เรียว)   นอกเหนือจากเรื่องการค้าแล้ว เรียวมะยังมุ่งหวังที่จะเดินทางไปแสวงหาช่องทางในที่อื่นๆ จากบันทึกของโอเรียวในภายหลัง เขียนไว้ว่า “ตัวข้า (โอเรียว) ก็คิดว่าจะเดินทางไปด้วย เลยฝึกซ้อมคำพูดของฮอกไกโดไว้” อย่างไรก็ดี สภาวะทางการเงินของไคเอ็นไตค่อนข้างย่ำแย่โดยตลอด  อิวาซากิ ยาทาโร่ (ผู้ก่อตั้งกลุ่มมิตซูบิชิในเวลาต่อมา) ได้เขียนบันทึกถึงบรรดาสมาชิกไคเอ็นไตที่ไม่มีหัวเรื่องเงินทองไว้ว่า “พวกตัวยุ่ง” OST RYOMADEN - ZASSOU TAMASHII ที่ใช้เป็น theme ประจำตัวอิวาซากิ ยาทาโร่ จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 54 22:58:25

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวจะมารออ่านต่อค่ะ จากคุณ : Just_Pls เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 00:06:16

ความคิดเห็นที่ 39 ทางเกียวโต มีการประชุมระหว่างโชกุนโยชิโนบุ และไดเมียวหรือผู้แทนแคว้นสำคัญๆ  Shimatsu Hisamitsu (แคว้น Satsuma), Date Munenari (แคว้น Iwajima) , Matsudaira Shungaku (Fukui)  และ Yamauchi Youdou แห่งแคว้นโทสะ   เรียวมะและ Gotou Shoujirou ได้เดินทางออกจากนางาซากิ มุ่งไปโกเบ เนื่องจาก Gotou ถูกยามาอุจิเรียกให้ไปพบที่เกียวโต ระหว่างเดินทางบนเรือ เรียวมะได้เสนอข้อเสนอแปดประการ (หรือที่รู้จักกันในเวลาต่อมา Senchuu Hassaku 船中八策)  เพื่อเป็นแนวทางการเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองหลังการสิ้นสุดของรัฐบาลบาคุฟุต่อ   Gotou เพื่อไปเสนอต่อยามาอุจิ โยโด โดยมีสมาชิกไคเอ็นได นางาโอกะ เคนคิจิเป็นผู้จดบันทึก อย่างไรก็ดี เรื่อง Senchuu Hassaku นี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เนื่องจากไม่มีเอกสารทั้งตัวจริงหรือฉบับคัดลอกหลงเหลืออยู่ แต่หลังการคืนอำนาจให้จักรพรรดิในเดือนพฤศจิกายน 1867 เรียวมะได้เขียน Shinseifu kouryou hassaku 新政府綱領八策 แผนแปดประการเพื่อรัฐบาลใหม่ขึ้นด้วยลายมือตนเองหลายชุด โดยที่ยังเหลือยู่ในปัจจุบันสองชุด อยู่ที่ห้องสมุดรัฐสภา และพิพิธภัณฑ์ที่เมืองชิโมโนเซกิ จังหวัดนางาซากิ  ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า  Senchuu Hassaku นั้นเป็นที่มาของ Shinseifu kouryou hassaku หลักแปดประการนั้นประกอบไปด้วย การคืนอำนาจสู่พระจักรพรรดิ, การจัดตั้งรัฐสภา ให้มีสภาสูงและสภาล่างเพื่อร่างกฎหมาย, การปฏิรูปราชการ ให้คนดีมีความสามารถเข้ารับราชการ และตัดหน่วยงานที่ไม่จำเป็นออก,  ดำเนินการทางการทูตกับนานาประเทศ และการแก้ไขสนธิสัญญาต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรม, การร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม, สร้างกองทัพเรือให้ใหญ่และเข้มแข็ง, สร้างกองกำลังเพื่อป้องกันเมืองหลวง (สร้างกองทัพบก), จัดทำนโยบายการเงิน สร้างระบบเพื่อให้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม เอกสาร Shinseifu kouryou hassaku ลายมือของเรียวมะ ในห้องสมุดรัฐสภาญี่ปุ่น แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 54 00:48:36 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 00:45:04

ความคิดเห็นที่ 40 Gotou ที่ได้รับข้อเสนอของเรียวมะ รีบเร่งเดินทางไปเกียวโต แต่แล้วกลับพบว่ายามาอุจิ โยโดได้เดินทางกลับไปแคว้นโทสะเสียแล้ว ดังนั้นจึงเดินทางไปโอซาก้า เพื่อประชุมร่วมกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของแคว้นต่างๆ แทน ได้มีการประชุมร่วมระหว่างแคว้นสัทสึมะ โดยไซโก้ ทากาโมริ, โคมัทสึ ทาเตะวากิ, โอคุโบะ อิจิโซ ทางฝั่งแคว้นโทสะ ประกอบด้วย เรียวมะ, นางาโอกะ ชินทาโร่, โกะโต โชจิโร่, ฟุกุโอกะ ทาคาชิคะ, เทรามูระ มิจินาริ, มานาเบะ เอซาบุโร่   หลังจากนั้นได้ตกลงทำสัญญาพันธมิตรระหว่างแคว้นสัทสึมะ และแคว้นโทสะ (SatsuDo Meiyaku) โดยมีวัตถุประสงค์ในการผลักดันให้เกิดการคืนอำนาจการปกครองสู่องค์พระจักรพรรดิ ตามหลักการ Senchuuhassoku หลังจากทำสัญญาเป็นพันธมิตรแบบลับๆ กับแคว้นสัทสึมะในเดือนมิถุนายนแล้ว โกะโตได้กลับไปยังแคว้นโทสะ เพื่อรายงานต่อยามาอุจิ โยโด ทางด้านนางาซากิ ระหว่างที่เรียวมะไม่อยู่ เกิดเหตุสังหารกลาสีเรือรบอิคารอสของอังกฤษ โดยเหล่าซามูไรของไคเอ็นไตตกเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้นเรียวมะและโกะโตต้องเดินทางกลับมาจัดการปัญหานี้  เรียวมะต้องเจรจากับกงสุลอังกฤษSir Harry Smith Parkesตลอดหนึ่งเดือน ในท้ายที่สุด เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ ทำให้พลพรรคไคเอ็นไตหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาไปได้ (คนร้ายตัวจริง คือซามูไรของแคว้นฟุกุโอกะ  คาเนโกะ ไซคิจิ ซึ่งฆ่าตัวตายหลังเกิดเหตุ) Gotou ได้เดินทางกลับไปเกียวโตในเดือนกันยายน แต่การที่ต้องเสียเวลาไปกับการแก้ไขปัญหาเรืออิคารอส และความคิดเห็นที่ต่างกันระหว่างแคว้นสัทสึมะและแคว้นโทสะ ทำให้สัญญาพันธมิตรระหว่างสองแคว้นถูกยกเลิก และแคว้นสัทสึมะเข้าสู่การเตรียมการเพื่อใช้กำลังล้มรัฐบาลบาคุฟุ ส่วนเรียวมะ หลังจากจัดการปัญหาเสร็จสิ้น ได้ขนปืนสั้นรุ่นใหม่จำนวนกว่าพันกระบอก เดินทางไปยังแคว้นโทสะ นับเป็นการกลับไปยังบ้านเกิดและได้พบครอบครัวเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีครึ่ง ในเดือนตุลาคม เรียวมะได้เดินทางไปเอโดะ ส่วน Gotou ที่ได้รับคำสั่งของยามาอุจิ โยโด ได้เข้ายื่นสาสน์เสนอการฟื้นคืนอำนาจพระจักรพรรดิต่อโรจู อิตะคุระ คัทสึคิโยะ มีใจความว่าให้รัฐบาลบาคุฟุแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยคืนอำนาจให้แก่พระจักรพรรดิ ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าโชกุนโยชิโนบุได้รับสาสน์นั้นหรือไม่  แต่เรียวมะได้ส่งจดหมายถึงโกะโตว่า “ถ้า (รัฐบาลบาคุฟุ) ไม่รับข้อเสนอ ท่านคงจะเตรียมตัวจะคว้านท้อง ณ ที่นั้น  หลังจากท่านจากไป พวกเราเหล่าไคเอ็นไตจะร่วมกันล้างแค้นให้ท่าน สังหารโยชิโนบุให้ได้ แล้วค่อยพบกันใหม่ในโลกหน้า” จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:54:59

ความคิดเห็นที่ 41 วันที่ 13 ตุลาคม ปีเคโอที่ 3 (9 พฤศจิกายน 1867) โชกุนโตกุกาว่า โยชิโนบุให้บรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของแคว้นต่างๆ รวมทั้งโกะโตเข้าพบ ประชุมเรื่องการคืนอำนาจแก่องค์จักรพรรดิ ในวันที่ 14 โชกุนโยชิโนบุได้เข้าเฝ้าถวายรายงานแก่จักรพรรดิเมติ และในวันที่ 15 จักรพรรดิก็ทรงอนุมัติตามนั้น ที่จริงแล้ว ก่อนการขึ้นเฝ้าถวายอำนาจคืนของโชกุน ในวันที่ 14 นั้น องค์จักรพรรดิได้มีคำสั่งลับให้แคว้นสัทสึมะและโจชูร่วมกันใช้กำลังล้มรัฐบาลบาคุฟุแล้ว แต่การที่โชกุนได้ถวายอำนาจคืน ทำให้สูญเสียข้ออ้างอันชอบธรรมไป ดังนั้นทั้งสองแคว้นจึงถูกสั่งให้เลื่อนการดำเนินแผนการออกไป เรียวมะเริ่มมองเห็นอนาคตในสิ่งที่ฝันไว้ ในวันที่ 16 เรียวมะได้ร่วมกับ Toda Uta (Ozaki Saburo) จัดทำ แผนโครงสร้างตำแหน่งต่างๆ ของรัฐบาลใหม่ขึ้น   มีเรื่องเล่าว่า ไซโก้ ทากาโมริที่เห็นรายชื่อบุคคลในแผนนั้น ซึ่งมีชื่อของไซโก้ แต่กลับไม่มีชื่อของเรียวมะอยู่ จึงสอบถามเรียวมะว่าน่าจะเข้าร่วมกับรัฐบาลใหม่ แต่เรียวมะตอบไปว่า “ข้าต้องการจะเดินทางไปในโลกกว้าง” แต่จากเอกสารของโอซากิ พบว่ามีชื่อของเรียวมะเป็นหนึ่งในรายการแคนดิเดทสมาชิกรัฐสภา จากการค้นคว้า พบว่าเรื่องเล่าดังกล่าวเป็นเรื่องแต่งที่เขียนขึ้นในปีไทโชที่ 3 ในวันที่ 24 ตุลาคม ปีเคโอที่ 3 เรียวมะได้รับการไหว้หวานของโกะโต โชจิโร่  ให้เดินทางไปแคว้นเอ็ตสึเซ็น เพื่อขอให้มัตสึไดระ ชุนกากุเดินทางมาที่เกียวโต หลังจากนั้นวันที่ 5 พฤศจิกายน เรียวมะก็ได้เดินทางกลับมาที่เกียวโต และได้เข้าพักที่ร้านโอมิยะ ซึ่งประกอบกิจการทำโชยุ แล้วก็เขียนมาถึงตอนนี้จนได้ TT ภาพการคืนอำนาจแก่องค์จักรพรรดิ Taiseihokan แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 20:56:26 แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 20:01:52 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:46:00

ความคิดเห็นที่ 42 วันที่ 15 พฤศจิกายน ปีเคโอที่ 3 ( 10 ธันวาคม 1867) เรียวมะพักอยู่ที่ร้านโอมิยะ ในวันนั้นมีทั้งนางาโอกะ ชินทาโร่แห่ง Rikuentai, Okamoto Kensaburo ซามูไรแคว้น Tosa, และจิตรกร Oumi Kaido (Itakura Kaido) มาพบเรียวมะ เวลาประมาณสองทุ่มเศษ เรียวมะกำลังสนทนากับนางาโอกะอยู่ที่ชั้นสอง มีชายกลุ่มใหญ่ แจ้งชื่อว่ากลุ่ม Totsukawagoushi ขอเข้าพบเรียวมะ ในขณะที่ผู้ติดตามของเรียวมะ ยามาดะ โทคิจิกำลังเข้ามาต้อนรับนั้น ชายกลุ่มนั้นไม่รั้งรอ ลงมือฟันโทคิจิที่ด้านหลัง เรียวมะที่ได้ยินเสียงโทคิจิร้องยังไม่ฉุกใจ ตะโกนสั่งว่าอย่าส่งเสียงดัง มือสังหารบุกขึ้นไปที่ชั้นสอง  เรียวมะและนางาโอกะนั้นไม่ทันได้คว้าดาบ มือสังหารเหล่านั้นฟันเรียวมะที่หน้าผากเป็นแผลลึกแล้วยลงมือฟันซ้ำใส่อีกหลายจุด เรียวมะบาดเจ็บเกือบจะเสียชีวิตทันที ก่อนที่จะหมดลมหายใจ เรียวมะได้บอกนางาโอกะว่า “ข้าถูกฟันที่หัว ไม่รอดแล้ว”   นางาโอกะ และโทคิจิได้รับบาดเจ็บสาหัส โทคิจิเสียชีวิตในวันถัดมา ส่วนนางาโอกะมีชีวิตต่อมาจนถึงวันที่ 17 เรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นได้ถูกถ่ายทอดจากปากคำของนางาโอกะที่ยังมีสติอยู่ก่อนเสียชีวิต ถ้านับตามปฏิทินโบราณ เรียวมะมีอายุ  33 ปี แต่ถ้านับตามปฏิทินสมัยใหม่ รวมอายุได้ 31 ปีเต็ม ยังไม่ทันได้เห็นการปฏิรูปญี่ปุ่นตามแนวทางที่ตั้งความหวังไว้ ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน   สุสานของเรียวมะ (ซ้าย) และนางาโอกะ (ขวา) จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 21:22:13

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากมายครับ   ผมดู ซีรี่ย์ เรียวมะ ไปถึงตอนที่ 39 แล้ว  ใช้ซับอังกฤษของเวบaddict ก็พอรู้เรื่องบ้าง  สนุกมากเลยครับ     แต่ก็มีบางตอนที่ดราม่าเหลือเกิน จากคุณ : Johnรักษ์ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 09:01:12

ความคิดเห็นที่ 44 ต้องขอบคุณผู้อ่านด้วยค่ะ เขียนไปเขียนมาจะเป็นสารคดีไปเสีย กลัวจะไม่มีคนสนใจอยู่ ละครจะจบที่การเสียชีวิต ตอนจบนั่นก็ทำให้เสียน้ำตาเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะการตาย เพราะก็รู้แต่ต้นว่าจบด้วยตาย แต่การเขียนบทของคุณฟุกุดะ ยาสุชิ เหมือนดับความหวังที่กำลังเจิดจ้า เลยทำให้เศร้า คงจะเขียนเหตุการณ์หลังการเสียชีวิตของเรียวมะในคืนนี้ ก่อนจะคุยส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับละครค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 54 14:53:29 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 10:07:23

ความคิดเห็นที่ 45 ทฤษฏีเรื่องการลอบสังหารเรียวมะนั้น มีจำนวนมาก แม้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือแน่นอน แต่เดิม เมื่อเรียวมะมาเกียวโต จะพักอยู่ที่เทราดะยะ แต่ก็เคยเกิดเหตุล้อมจับโดยรัฐบาลบาคุฟุจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว ทำให้เรียวมะย้ายที่อาศัยมายังร้านโอมิยะ  สองวันก่อนเกิดเหตุ  Itou Kashitarou อดีตสมาชิกชินเซ็นกุมิได้มาหาเรียวมะ และได้เตือนเรื่องเรียวมะเป็นเป้าหมายของกลุ่มชินเซ็นกุมิอยู่  แนะนำให้เรียวมะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพักของแคว้นโทสะ แต่เรียวมะเห็นว่าร้านโอมิยะก็ไม่ได้ไกลจากเขตที่อยู่ของแคว้นโทสะเท่าไหร่นัก (อยู่ฝั่งตรงข้ามโดยมีถนนคั่นกลาง ไม่กี่เมตร)  จึงไม่ได้ย้ายไป จนท้ายที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือ กลุ่มชินเซ็นกุมิ เนื่องจากมีพยานให้ปากคำว่าปลอกดาบที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุน่าจะเป็นของฮาราดะ ซาโนะสุเกะแห่งชินเซ็นกุมิ เพราะเป็นปลอกดาบของคนถนัดซ้าย  และจากคำให้การของ Tani Tateki ซามูไรแห่งแคว้นโทสะ (ซึ่งเป็นผู้ที่ไปที่เกิดเหตุและได้รับฟังเรื่องราวจากนางาโอกะก่อนเสียชีวิต)  ว่าคนร้ายพูดสำเนียงอิโย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฮาราดะ ซาโนสุเกะ หรืออีกกระแสหนึ่ง เชื่อว่าผู้จะจัดการเรียวมะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญดาบ Hokushin ittouryuu ได้จะต้องเป็นนักดาบที่เก่งเช่นเดียวกัน พิจารณาว่าน่าจะเป็น Saito Hajima (แต่ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าไซโต้ถนัดขวาหรือซ้าย)  หลังเกิดเหตุ รัฐบาลบาคุฟุได้เรียก คอนโด อิซามิ หัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกุมิไปสอบปากคำ แต่คอนโดปฏิเสธความเกี่ยวข้องในคดีลอบสังหาร  ในปีเคโอที่ 4 หลังการพ่ายแพ้ของกองทัพบาคุฟุต่อกองทัพพระจักรพรรดิ  คอนโด อิซามิ หัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกุมิถูกจับกุม ด้วยการผลักดันอย่างแรงกล้าของแคว้นโทสะ ที่เชื่อว่าชินเซ็นกุมิเป็นผู้สังหารเรียวมะ ทำให้คอนโดถูกตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ (เป็นการลงโทษแบบไม่ให้เกียรติตามแบบซามูไรที่จะได้คว้านท้อง) อีกทฤษฎีหนึ่งที่เป็นกระแสที่ยอมรับกันในปัจจุบัน คือการลงมือของกลุ่ม Mimawari ซึ่งเป็นกองกำลังรักษาความสงบในเกียวโตของรัฐบาลบาคุฟุ ในปีเคโอที่ 3 หลังสงครามระหว่างกองทัพบาคุฟุกับกองทัพรัฐบาลใหม่ที่ฮาโกดาเตะ จากคำกล่าวหาของกลุ่มชินเซ็นกุมิว่าการลอบสังหารเรียวมะเป็นฝีมือของกลุ่ม Mimawari  ทำให้มีการสอบปากคำ Imai Nobuo อดีตสมาชิกของกลุ่ม Mimawari ที่ถูกจับตัวได้ อิมาอิให้การว่าหัวหน้ากลุ่ม Mimawari คือ Sasaki Tadasaburou พร้อมพวกอีก 6 คน (รวมตัวอิมาอิด้วย) ได้ร่วมลงมือสังหารเรียวมะ  อิมาอิถูกตัดสินให้จำคุก แต่ถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นอีก 2 ปี (ซึ่งการต้องโทษเพียงระยะสั้นนั้น มีการตั้งประเด็นว่าไซโก้ ทากาโมริเป็นผู้ช่วยให้มีการปล่อย) ในยุคไทโช มีอดีตสมาชิกกลุ่ม Mimawari อีกคน Watanabe Atsushi ก็ได้สารภาพว่าเป็นผู้ร่วมสังหารเรียวมะ  แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบคำให้การของทั้งอิมาอิ และวาตานาเบะ กลับมีใจความที่ต่างกันหลายจุด ทั้งจำนวนผู้ร่วมขบวนการ รายละเอียดการลงมือ รวมไปถึงเจ้าของปลอกดาบที่ตกอยู่ก็ให้การต่างกัน และยังมีข้อสงสัยลึกลงไปอีกว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งให้กลุ่ม Mimawari ลงมืออีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่บรรดาสมาชิกไคเอ็นไตยังสงสัยว่าเป็นการแก้แค้นของแคว้นคิชู ที่แค้นเรียวมะ เรื่องต้องจ่ายค่าชดเชยกรณีเรืออิโรฮะมารู ทำให้เหล่าสมาชิกไคเอ็นไตก่อเหตุจู่โจมทำร้ายMiura Yasushi ขุนนางของแคว้นคิชู   และยังมีอีกทฤษฎีที่ตั้งประเด็นว่าอาจจะเป็นแผนการของแคว้นสัทสึมะ เนื่องจากแนวทางที่ต่างกันของไซโก้, โอคุโบะและพวก ที่ต้องการใช้กำลังล้มรัฐบาลบาคุฟุ กับเรียวมะที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบสันติ ทำให้แคว้นสัทสึมะลอบปล่อยข่าวเรื่องที่อยู่ของเรียวมะให้ทางรัฐบาลบาคุฟุ  เพื่อยืมมือกำจัดเรียวมะ  ซึ่งทฤษฏีนี้ถูกนำมาใช้ในละครและนิยายหลายเรื่อง ทั้งละครไทกะเรื่องชินเซ็นกุมิ และเรื่องอัตสึฮิเมะ (ที่บ่งชี้ว่าเป็นการกระทำของไซโก้ที่ตัดสินใจโดยลำพัง) แต่ละทฤษฏีมีทั้งน้ำหนักความน่าเชื่อถือและจุดอ่อนต่างกันไป ดังนั้นเรื่องสังหารเรียวมะในปัจจุบันนั้นยังเป็นปริศนาให้ขบคิดกันต่อไป แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 54 17:20:17 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 17:14:12

ความคิดเห็นที่ 46 แม้จะมีการคืนอำนาจสู่องค์จักรพรรดิ แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปอย่างไม่เสียเลือดเนื้อตามที่เรียวมะวาดหวังไว้ ในที่สุดก็เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพรัฐบาลเดิมและกองทัพพระจักรรพรรดิ นำไปสู่การหมดอำนาจของตระกูลโตกุงาว่าที่มีมาอย่างยาวนาน ในปีเมจิที่ 2 รัฐบาลเมจิได้มีการมอบรางวัลแก่ผู้ที่ประกอบคุณงามความดีในการปฏิรูประบอบ แต่เรียวมะไม่ได้รับรางวัลใดๆ ทั้งสิ้น จนในปีเมจิที่ 3 เพื่อให้มีผู้สืบทอดตระกูลซาคาโมโตะ รัฐบาลอนุมัติให้หลานชายของเรียวมะ Takamatsu Tarou (ลูกชายของพี่สาวคนโต) เปลี่ยนชื่อเป็นซากาโมโตะ นาโอะ โดยได้รับรางวัลเป็นบำนาญข้าวสารตลอดกาล เพียง 30 koku (ข้าวสำหรับ 15 คน / ปี)  เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ที่มีบทบาทในการปฏิรูปทั้งหลาย เช่น ไซโก้ ทากาโมริ ได้รับ 2,000 koku คิโด ทากาโยชิ  (คัทสึระ โคโกโร่) ได้รับ 1,500 koku และโกะโต โชจิโร ได้ 1,000 koku เป็นต้น (วิธีการให้รางวัลตั้งแต่สมัยโบราณ ในระบบศักดินา เป็นจำนวนข้าวสาร และการให้รางวัล อาจจะแบบจำกัดจำนวนปี, ตลอดชีพของผู้ที่ได้รับ หรือให้ไปตลอดกาล แต่ในยุคเมจินี้ การให้รางวัลกลายเป็นภาระทางการคลังแก่รัฐบาลใหม่ ท้ายสุด การให้ “ตลอดกาล”นี้ต้องระงับหลังจากดำเนินการได้ 7 ปี) ชื่อเสียงของเรียวมะหายไปกับกระแสธารประวัติศาสตร์ จนกระทั่งปีเมจิที่ 16 (ค.ศ. 1883)  เมื่อนักข่าวหนังสือพิมพ์ Doyou shimbun ชื่อ Sakazaki Shiran ได้เขียนประวัติเรียวมะเป็นนิยายเรื่องยาวชื่อ Kanketsu senri no koma ลงในหนังสือพิมพ์ จนเป็นที่กล่าวขวัญถึง ทำให้เรียวมะกลายเป็นที่รู้จักทั่วไป  และในปีเมจิที่ 24 (ค.ศ. 1891) เรียวมะได้รับประกาศเกียติคุณระดับสี่ (หรือถ้าใช้คำแบบไทยๆ น่าจะคล้ายๆ กับเครื่องราชอิสริยาภรณ์) กระแสเรียวมะกลับมาดังอีกครั้งในช่วงสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปีเมจิที่ 37  (ค.ศ.1901) ก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้นเล็กน้อย องค์จักรพรรดินี แห่งจักรพรรดิเมจิได้ฝันว่ามีซามูไรมายืนที่ข้างเตียง และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะคุ้มครองเหล่าทหารเรือเอง”  องค์จักรพรรดินีไม่ทราบว่าซามูไรคนนั้นคือใคร รัฐมนตรีกระทรวงวัง Tanaka Mitsuaki (ซึ่งเคยสังกัด Kinnoutou แห่งแคว้นโทสะ และหนึ่งในหัวหน้าของ Rikuentai) ได้เอารูปของเรียวมะถวายให้ดู องค์จักรพรรดินีดูรูปแล้วมั่นใจว่าซามูไรที่ฝันเห็นคือซากาโมโตะ เรียวมะ  เรื่องเล่านี้จริงเท็จประการใดไม่มีหลักฐานแน่นอน แต่เรื่องได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ระดับประเทศ ทำให้ชื่อเสียงของเรียวมะขจรขจายไป  การที่กองทัพเรือญี่ปุ่นมีชัยเหนือรัสเซียอย่างยิ่งใหญ่ในการรบที่ Tsushima (Battle of Tsushima) พระจักรพรรดินีจึงมีพระเสาวนีย์ให้สร้างอนุสรณ์สถานให้แก่เรียวมะที่ศาลเจ้า Kyoto Ryouzengogoku Jinja ในเกียวโต ในหมู่ประชาชนทั่วไป เรียวมะได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษแห่งการปฏิรูป ในปีโชวะที่ 3 (ค.ศ.1928) กลุ่มเยาวชนแห่งจังหวัดโคจิช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสร้างรูปปั้นสำฤทธิ์ของซากาโมโตะ เรียวมะขึ้น ณ ชายหาด ริวสุ-มิซากิ (Ryuzu-misaki) เป็นรูปเรียวมะในท่ายืนหันหน้าออกไปทางมหาสมุทรแปซิฟิคเบื้องหน้า ซึ่งแม้กระทั่งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นต้องการโลหะหนักเพื่อใช้งานในกองทัพอย่างมาก รูปปั้นนี้ก็ยังได้รับการยกเว้น ไม่ถูกนำมาหลอมทำลายไป แล้วในปี 1962 นักเขียนชื่อดัง Shiba Ryoutarou ได้เขียนนวนิยายเรื่อง Ryoma ga yuku ความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้  ทำให้ภาพของซากาโมโตะ เรียวมะ ในใจของชาวญี่ปุ่นสมัยใหม่เป็นไปตามแนวทางในนิยาย แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 54 20:48:38 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 19:06:28

ความคิดเห็นที่ 47 ผู้หญิงในชีวิตของเรียวมะ Hirai Kao ฮิราอิ คาโอะ   ที่ถือว่าเป็นรักแรกของเรียวมะ เป็นน้องสาวของฮิราอิ ชูจิโร่ ที่เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ ของเรียวมะและเป็นหนึ่งในหัวหน้าของกลุ่ม Kinnoutou   หลักฐานที่ทำให้ว่าคาโอะเป็นคนรักของเรียวมะคือจดหมายในเดือนกันยายน  ปี 1861 ที่เรียวมะเขียนถึงคาโอะ ขอให้เตรียมเสื้อผ้าเครื่องใช้ต่างๆ ให้สำหรับเรียวมะที่กำลังจะหนีออกจากแคว้น คาโอะได้เตรียมข้าวของไว้ให้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเรียวมะยังไม่ได้ออกจากแคว้นไปในตอนนั้น  จนกระทั่วถึงเดือนมีนาคม ปี 1862 จึงได้ออกจากแคว้นไปพร้อมซาวามูระ โซโนโจ หลังจากที่เรียวมะแยกออกจากแคว้น พี่ชายของคาโอะ ชูจิโร่ได้สร้างห้ามคาโอะไม่ให้ติดต่อกับเรียวมะ  ในปีถัดมา เมื่อฮิราอิ ชูจิโร่ ถูกสั่งให้คว้านท้อง เรียวมะได้เขีนจดมหายถึงโอโตเมะ พี่สาว แสดงความเป็นห่วงคาโอะ  ต่อมาคาโอะได้แต่งงานกับซามูไรแคว้นโทสะ Nishiyama Yukizumi คาโอะเสียชีวิตในปีเมจิที่ 42 (1909) เมื่ออายุได้ 72 ปี Chiba Sana จิบะ ซานะ ลูกสาวของจิบะ ซาดาคิจิ แห่งสำนักดาบจิบะที่เรียวมะไปฝึกวิชาดาบที่เอโดะ  จากบันทึกความทรงจำของซานะ ได้หมั้นกับเรียวมะในปี 1858  (แต่บางกระแสก็ว่าหมั้นกันในปี 1862) จดหมายของเรียวมะที่ส่งถึงโอโตเมะ เขียนไว้ว่า “ซานะ ปีนี้อายุ 26 ปี ขี่ม้าเก่ง ฝีมือดาบก็ดีมาก แข็งแรงมากกว่าผู้ชายทั่วไปด้วยซ้ำ หน้าตาก็งามกว่าคาโอะ”  จิบะ ซาดาคิจิถึงกับเตรียมชุดกิโมโนปักตราตระกูลซาคาโมโตะให้ลูกสาวสำหรับงานแต่งงานไว้ แต่ทว่าเมื่อเรียวมะกลับไปแคว้นโทสะ ทั้งคู่ก็เหินห่างกันไป   หลังจากที่ทราบข่าวเรียวมะเสียชีวิต ซานะได้เก็บแขนเสื้อข้างหนึ่งไว้ดูต่างหน้า และอยู่เป็นโสดตลอด จนเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 59 ปี (ปีเมจิที่ 29 – 1896) ที่ป้ายหลุมฝังศพ สลักไว้ว่า “ภรรยาซาคาโมโตะ เรียวมะ” แต่ก็มีอีกกระแสที่ว่าซานะได้แต่งงานกับซามูไรแคว้นโทตโทริ ยามากุจิ คิขุจิโร่ในปีเมจิที่ 9 (1874) อยู่ระยะหนึ่ง Narasaki Ryou นาราซากิ เรียว  เป็นลูกสาวของหมอในเกียวโต ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีฐานะดี โอเรียวได้รับการศึกษาตามแบบกุลสตรีในตระกูลดี  ทั้งการจัดดอกไม้ การชงชา การใช้เครื่องหอม  แต่หลังการตายของบิดาจากผลพวงทางการเมือง  ทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในความยากลำบาก ต้องขายบ้านและทรัพย์สินต่างๆ เพื่อเอาชีวิตรอด  ในตอนที่น้องสาวคนรองถูกจับไปเพื่อขายเป็นนางโลมที่โอซาก้า โอเรียวขายกิโมโนเพื่อใช้เงินเป็นค่าเดินทางและนำดาบไปเพื่อต่อสู้กับนักเลงเพื่อช่วยน้องสาว หลังจากนั้นโอเรียวได้มาเป็นสาวรับใช้อยู่ที่เรียวคังแห่งหนึ่ง  เรียวมะได้พบโอเรียวในช่วงต้นปี 1864  จากคำบอกเล่าของโอเรียวในภายหลัง ในตอนที่พบกับเรียวมะครั้งแรก หลังจากถูกถามชื่อ แล้วเขียนชื่อลงกระดาษ พอเห็นว่าชื่อเดียวกัน ก็ถึงกับหัวเราะออกมา เรียวมะได้เขียนจดหมายถึงโอโตเมะ เล่าถึง ความยากจนของครอบครัว และความกล้าหาญของโอเรียวที่ไปช่วยน้องสาว และยังบอกว่าเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ  ในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน เรียวมะได้แต่งงานกับโอเรียว แล้วนำโอเรียวไปฝากไว้กับเจ้าของร้านเทราดะยะ โอโตเสะ ซึ่งเป็นผู้ที่เรียวมะให้ความนับถือ ในปี 1866 เรื่องที่เรียวมะรอดพ้นอันตรายได้เพราะความช่วยเหลือของโอเรียว ในเหตุการณ์ล้อมจับเรียวมะที่เทราดะยะ เป็นเรื่องเล่าที่โด่งดังมาก ในจดหมายที่เรียวมะมีถึงโอโตเมะ “เป็นเพราะมีโอเรียวอยู่ ทำให้ชีวิตของเรียวมะผู้นี้ยังคงเหลือรอดมาได้”   หลังจากเรียวมะและโอเรียวได้เดินทางไปพักผ่อนและรักษาตัวที่สัทสึมะแล้ว โอเรียวได้มาอาศัยอยู่ที่ชิโมโนเซกิ นางาซากิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของไคเอ็นไต   หลังการเสียชีวิตของเรียวมะ   โอเรียวไปอยู่ที่บ้านซาคาโมโตะที่แคว้นโทสะประมาณ 3 เดือน  แต่เพราะเข้ากับครอบครัวพี่ชายสามีไม่ได้ จึงออกจากแคว้นโทสะ แล้วไปอาศัยอยู่กับญาติตามที่ต่างๆ  ด้วยนิสัยที่เป็นคนแข็งและดื้อรั้น รวมทั้งเพื่อนฝูงของเรียวมะไปจนถึงญาติพี่น้องก็ระอา  ทำให้ไม่สามารถอยู่ที่ใดได้นาน โอเรียวได้เผาจดหมายที่เรียวมะเขียนถึงเกือบทั้ง หมด จนหลงเหลือหลักฐานอยู่เพียงฉบับเดียว โดยเหตุว่าจดหมายเป็นเรื่องของตนกับเรียวมะ ไม่อยากให้คนอื่นได้เห็น   ปีเมจิที่ 8 (1875) ได้แต่งงานใหม่กับพ่อค้าชาวโอซาก้า  หลังจากที่เรียวมะมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงกลางยุคเมจิ  โอเรียวยอมให้สัมภาษณ์เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเรียวมะ  โอเรียวเสียชีวิตในปีเมจิที่ 39 (1906) รวมอายุได้ 66 ปี  ที่ป้ายหลุมฝังศพ ไม่ได้สลักชื่อของสามีที่แยกกันอยู่ แต่กลับสลักไว้ว่า ภรรยาของซาคาโมโตะเรียวมะ นอกจากนี้ ยังมีชื่อสตรีที่เกี่ยวข้องกับเรียวมะอีกหลายคน เช่น ลูกสาวหมอจีนที่โคจิ หรือนางรำที่นางาซากิ โอโมโตะ ฯลฯ แต่ไม่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์สนับสนุน จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 16:42:51

ความคิดเห็นที่ 48 #42 การรู้เรื่องนี้สำคัญกับเรื่อง JIN มากๆเลย พึ่งจะรู้นี่เอง ^ ^'' #44 ขอบคุณคุณ ก มากๆเลยค่ะ ไม่น่าเบื่อหรอก อ่านสนุกดี มากดเก็บกระทู้เข้าคลังทุกวัน กลัวหาย เชื่อว่ากระทู้นี้ต้องไว้ใช้อ้างอิงหรือใช้ประโยชน์ต่อได้แน่ๆค่ะ จากคุณ : momo lawleit เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 54 03:31:16

ความคิดเห็นที่ 49 มาเข้าเรื่องของละคร Ryomaden กันบ้างค่ะ ละครเรื่องนี้เป็นละครไทกะ เรื่องที่ 49 เริ่มออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 3 มกราคม 2010 มีทั้งหมด 48 ตอน เป็นละครที่สร้างจากบทที่เขียนขึ้นใหม่ โดยฟุกุดะ ยาสุชิ ที่เป็นนักเขียนบทชื่อดัง ทีมีผลงานที่เป็นที่รู้จักอย่าง Hero, Galileo การเล่าเรื่องชีวิตของเรียวมะในเรื่องนี้ เป็นการเล่าโดยผ่านมุมมองของ อิวาซากิ ยาทาโร่ ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจมิตซูบิชิ โดยเรื่องจะเริ่มในปีเมจิที่ 15 (1882) เมื่อนักข่าวของหนังสือพิมพ์โดโย ชิบาซากิ ชิรัน ได้มาสัมภาษณ์ อิวาซากิ ยาทาโร่ ประธานบริษัท yuubin kisen mitsubishi เกี่ยวกับ ซาคาโมโตะ เรียวมะ ซามูไรที่มีส่วนในการปฏิรูปเมจิที่ไม่มีผู้รู้จัก แล้วอิวาซากิตอบว่า "เรียวมะเป็นคนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลก ผู้ชายที่ทำให้ฉํนโกรธได้แบบนั้น ไม่มีอีกแล้ว" การดำเนินเรื่อง จะเป็นการเล่าเรื่องชีวิตของเรียวมะเป็นเวลา 3 ปี จนถึงปีเมจิที่ 18 (1885) ที่อิวาซากิ ยาทาโร่เสียชีวิต เนื้อหาละครแบ่งเป็น  4 ช่วง SEASON1「RYOMA THE DREAMER」（ตอนที่ 1 -13） SEASON2「RYOMA THE ADVENTURER」（ตอนที่ 14 - 28） SEASON3「RYOMA THE NAVIGATOR」（ตอนที่ 29 -38） FINAL SEASON「RYOMA THE HOPE」（ตอนที่ 39 - ตอนจบ） ซึ่งในแต่ละภาค ช่วง opening title จะเปลี่ยนไป (อันนี้ไม่รู้ว่าไทยพีบีเอสจะเปลี่ยนเหมือนต้นฉบับหรือเปล่านะคะ) แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 54 23:11:08 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 54 22:56:40

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณคุณ ก มากมากอ่านเพลินสนุกมากแล้วก็มีประโยชน์มากเลยค่ะ จากคุณ : MikaRin เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 15:59:35

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ยังเข้ามาอ่านค่ะ กำลังคิดอยู่ว่าจะต่อกระทู้จนจบแบบไหนดี หลายๆ เรื่องเล่าเกี่ยวกับเรียวมะเป็นเรื่องแต่งขึ้นในภายหลัง เช่น มีเรื่องเล่าอันโด่งดังว่า ในตอนที่ซามูไรชาวแคว้นโทสะทั้งหลาย นิยมถือดาบยาว แต่เมื่อเพื่อนเก่าของเรียวมะ Higaki Seiji เจอหน้าเรียวมะ กลับพบว่าเรียวมะพกดายสั้น เมื่อถามสาเหตุ เรียวมะก็ตอบว่า "ในยามต่อสู้จริง ดาบสั้นสามารถชัดออกมาได้เร็วกว่า" ทำให้ฮิงากิคล้อยตาม จนเปลี่ยนมาเป็นดาบสั้น แต่เมื่อเจอกับเรียวมะอีกครั้ง ฝนตอนที่ฮิงากิจะอวดดาบสั้นให้ดู เรียวมะกลับดึงปืนพกออกมาโชว์ แล้วบอกว่า "ถ้าต้องสู้กับปืนล่ะก็ ดาบก็ไม่มีประโยชน์" เมื่อฟังเรียวมะว่าดังนั้น ฮิงากฺก็เริ่มหันไปซื้อปืน แต่พอเจอกันในครั้งที่สาม ฮิงากิก็จะเอาปืนออกมาอวดอีก คราวนี้เรียวมะดึงหนังสือกฎหมายระหว่างประเทศขึ้นมา แล้วกล่างว่า "ต่อไปนี้ เราจำเป็นจะต้องเรียนรู้เรื่องของโลกภายนอกต่างหาก"  เรื่องนี้ทำให้ผู้คนเห็นว่าเรียวมะเป็นบุคคลที่มีหัวก้าวหน้า และพัฒนาตัวเองไปกับยุคสมัย แต่ว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในเรื่อง คือ ฮิงากิ เซจินั้น ถูกจับขังคุกข้อหาฆ่าคนตายตั้งแต่ปี 1862 และมาถูกปล่อยตัวหลังการปฏฺิรูปเมจิแล้ว โอกาสที่จะเจอกับเรียวมะตามเรื่องนั้น เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นในหนังสือปี 1914 เรียวมะเป็นตัวอย่างหนึ่งของวีรบุรุษที่ถูก "สร้าง" ขึ้น หลายๆ คนรู้จักเรียวมะจากการ์ตูน ละคร หรือนิยาย ตอนงานเปิดตัวที่ทางไทยทีพีบีเอสจัด มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ทำให้ติดใจ คือ "การสร้างวีรบุรุษ" ให้เป็นตัวอย่างแก่สังคมและเยาวชน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดี ส่วนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับละคร เล่ามากไปก็จะสปอยล์ละครเสียหมด แล้วที่เล่ามานี่ ยังไม่เรียกว่าสปอยล์อีกเหรอ (^^;)  เล่าเรื่องฟุกุยาม่า มาซาฮารุก็จะไม่ค่อยเกี่ยวกับละครเสียนี่  เอาเป็นว่าถ้ามีใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติม จะพยายามไปหาคำตอบมาให้ค่ะ ถ้าดู Ryomaden ไปพร้อมๆ กับ Atsuhime และ Shinsengumi จะพบว่ามุมมองของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มีทั้งส่วนที่คล้ายและต่างกัน ความน่าสนใจทำให้เกิดการค้นคว้าต่อเนื่อง (แต่ไทกะดรามาชอบ white wash เนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับตัวละครเอกเสียมาก) ปิดท้ายด้วยการสปอยล์มากๆ ฉากที่ฟุกุยาม่าซังบอกว่าประทับใจเป็นอันดับหนึ่งค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 54 00:52:45 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 54 00:31:43 จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 00:23:12

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากครับ สนุกมาก ผมว่าคนที่รับเป็น Narasaki Ryou ในเรื่องนี้ น่ารักที่สุดเเล้วครับ จากคุณ : ตั้งใจ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 01:08:18

ความคิดเห็นที่ 53 กดเก็บเข้าคลังกระทู้แล้วนะคะ .. ขอบคุณมากเลยค่ะ ^^ จากคุณ : ภควัทคีตา เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 15:39:46

ความคิดเห็นที่ 54 #27 อนุเสาวรีย์ของ ไซโก้ ทาคาโมริ นั้นไปง่ายครับ อยู่ที่อุเอโนะ ในโตเกียวนี่เอง ได้ถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึกด้วย สมัยผม การ์ตูนของ อ.โคยาม่า ยู ช่วยทำให้รู้จักคุ้นเคยกับเรียวมะมากๆครับ สักวันตั้งใจว่าจะไปถึงโคจิ สักรอบ แวะมากดเก็บเข้าคลังกระทู้ครับ ข้อมูลแน่นมากๆ ไม่มีอะไรเสริมเลย..555 ปล.ผมยังสงสัยเรื่องที่ถูกลอบสังหารเล็กน้อย ดูเหมือนจะไม่ทันรู้ตัวเลยว่าจะเกิดการลอบสังหารครับ ทั้งที่ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าช่วงนั้นมีคนหมายหัวอยู่ และทั้งที่สถานที่ที่เรียวมะอยู่ค่อนข้างลับมาก ยังสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่กลุ่มลอบสังหารสามารถเจอที่ซ่่อนนี้ได้ ถ้าหากไม่มีคน จากคุณ : granun เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 07:43:47

ความคิดเห็นที่ 55 เรื่องลอบสังหารเรียวมะ นอกจากทฤษฎีสมคบคิดเรื่องแคว้นสัทสึมะอยู่เบื้องหลัง ยังมีอีกทฤษฎีที่ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือนางาโอกะต่างหาก   แต่ชื่อเสียงของเรียวมะโด่งดังกว่ามาก เลยกลายเป็นสังหารเรียวมะไป รายละเอียดในกระทู้ ส่วนใหญ่มาจาก Wikipedia ภาษาญี่ปุ่น แต่นอกจากหน้าของ Sakamoto Ryoma แล้ว ยังต้องตาม hyperlink ไปอ่านหน้าอื่นๆ ทั้งเรื่องคนและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ก็ไม่สามารถเขียนครอบคลุมเรื่องทั้งหมดได้ค่ะ  หรือถ้าจะให้ลงลึกไปกว่านี้ คงต้องตามลิงค์ไปอ่าน source ที่มาอื่นๆ อีก การ์ตูนเรื่องเรียวมะ เคยมีเพื่อนจะเอามาให้ยืมค่ะ  แต่ความที่ช่วงหลังเรื่องมาก ไม่ชอบกระดาษของการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในเมืองไทยอย่างแรง เลยไม่ได้อ่าน จากคุณ : Eureka101 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 13:54:55