คมชัดลึก : ผอ.สวนสัตวเชียงใหม่เผยทบสวนสร้างส่วนจัดแสดงหมีขั้วโลกหรือไม่ขึ้นอยู่กับบอร์ด แต่ได้งบฯ 71ล้านก่อสร้างไปแล้ว30% ด้านสัตวแพทย์แพนด้ายัน นำหมีขาวมาเลี้ยงไม่ทรมานสัตว์และทำตามมาตรฐานสวนสัตว์โลก
http://www.komchadluek.net/detail/20110422/95477/ผอ.สวนสัตวเชียงใหม่แจงจัดแสดงหมีขั้วโลก.html
จากการให้ข้อมูลของ สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ในข่าวนี้ อ่านแล้วเกิดความไม่เห็นด้วยหลายประเด็น เช่น
...โดยเรื่องที่ถูกติงมาในช่วง 10 ปีก่อนคือเรื่องการทำคอกและสถานที่อยู่ของหมี รวมถึงความรู้ในเรื่องการเลี้ยง แต่ขณะนี้ทางสวนสัตว์มีความพร้อมในทุกด้าน
สิ่งที่เค้าห่วงนั้นมีอยู่จริง แม้กระทั่งในเรื่องของหมีแพนด้า และขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้านที่จะเลี้ยงหมีขั้วโลก (แต่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงหมีแพนด้า 5 ตัวหรือเปล่า)
ส่วนเรื่องบุคลากรเราก็มีความพร้อมเต็มที่ ในอนาคตจะมีการแลกเปลี่ยนเดินทางไปฝึกอบรม กับผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศที่ชำนาญการเลี้ยงหมีขั้วโลก เช่นเดียวกับกรณีของแพนด้าที่เราได้ไปดูงานที่ประเทศจีน เชื่อว่าภายในปี 2556 เราจะพร้อมทุกด้าน
กรณีหมีแพนด้า มีความพร้อมความเชี่ยวชาญ สมบูรณ์แบบแล้วหรือ ถึงก้าวไปยังหมีชนิดอื่นอีก แม้ว่าคนทำงาน จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปอบรม ได้หลายๆอย่าง แต่มิได้เป็นหลักประกัน ว่าจะเลี้ยงหมีได้ดี
ที่ผ่านมาประเทศสิงคโปร์เขาเลี้ยงหมีขั้วโลกใน ลักษณะกลางแจ้ง ไม่ได้เลี้ยงในส่วนจัดแสดงปรับอากาศเพียงแต่ใช้พัดลม ไอน้ำ แต่หมีก็สามารถอยู่ได้และยังให้กำเนิดลูก สิ่งนี้แสดงบ่งชี้ได้ชัดว่าหมีมีความเป็นอยู่ที่สบายไม่ได้ถูกทรมาน
แค่หมีมีลมหายใจ มีลูกได้ ในที่อยู่กลางแจ้ง แสดงว่าหมีมีอิสระระดับหนึ่ง คนคุกก็มีลมหายใจ มีลูกได้ และเดินไปไหนๆ ได้ในที่จำกัด สรุปได้หรือไม่ว่าคนคุกมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายไม่ทรมาน
ส่วนในประเทศไทยนั้น สวนสัตว์เชียงใหม่จะไม่ใช่แห่งแรกที่จะนำหมีขาวมาเลี้ยง เพราะที่ซาฟารีเวิร์ลซึ่งเป็นของเอกชนในกรุงเทพฯก็มีการนำหมีขาวมาเลี้ยงไว้ แล้ว 1 คู่นานกว่า 10 ปี และก็ได้ให้กำเนิดลูกออกมา 2 ตัวภายใต้การเลี้ยงแบบกลางแจ้งที่อาศัยเพียง พัดลมไอน้ำเพิ่มความเย็น
แปลว่าเอกชนเลี้ยง แล้วทำเงินได้มาก ราชการก็อยากทำบ้าง
อยากสร้างความเข้าใจว่าการปล่อยให้หมีขาวอยู่ตามธรรมชาติที่ขั้วโลกเหนือ นั้นหมีไม่ได้อยู่สบายในอากาศที่ติดลบ แต่ตามหลักวิชาการแล้วจะอยู่สบายในอุณหภูมิที่ 8-22 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิในห้องเย็น และอยู่ได้สบายในบ่อน้ำที่ 15 องศาฯ
ข้อนี้แปลกจัง ถ้าหมีอยู่ไม่สบายในอากาศที่ติดลบ ทำไมเผ่าพันธุ์หมีขาวจึงกำเนิด และอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ไหนๆ ถ้าเปรียบเทียบกับคนในประเทศใกล้ขั้วโลกเค้าก็ไม่ได้สุขสบายกับอุณหภูมิติดลบ แต่ในหนึ่งปีจะมีฤดูกาลที่อุณหภมิต่างกัน บางฤดูอยู่สบาย บางฤดูอยู่ไม่สบายนัก แต่เค้าก็อยู่ได้พราะเป็นธรรมขาติของเผ่าพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดที่นั่น หมีขาวก็เช่นกันแต่ละช่วงเวลาของปีเขาจะพบกับอุณหภูมิที่ต่างกัน แต่ก็เป็นธรรมชาติแบบนั้น ไม่ใช่ว่า อยากให้เขาสุขสบายด้วยการเอามาเลี้ยงในที่อุณหภูมิไม่ติดลบทั้งปีเลย ที่สำคัญเกี่ยวกับการเป็นนักล่านักเดินทางหาอาหารดังที่มีผู้กล่าวไว้ บางทีหมีชนิดนี้เดินทาง เป็นเส้นตรง 14 กม. ไปยังที่อยู่ของเหยื่อ การเลี้ยงหมีขั้วโลกที่เชียงใหม่ ไม่ทราบว่าจะให้กินอะไรเป็นอาหาร คงจะต้องขนเอาปลาทะเลไปให้กินด้วยระยะทาง 700-800 กม.
ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างเพื่อเตรียมนำหมีขาวมาเลี้ยงที่ส่วนจัดแสดงสัตว์ ขั้วโลกสวนสัตว์เชียงใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น เราได้ดำเนินการผ่านความดูแลของเครือข่ายสมาคมสวนสัตว์โลก และไม่ได้เป็นการทรมานหรือซื้อขายสัตว์ แต่จะเป็นรูปของการแลกเปลี่ยนสัตว์เพื่อการศึกษา
-มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปศึกษาในสัตว์ที่เลี้ยงยากลำบาก สัตว์ต่างถิ่น และต้องปรับสภาพแวดล้อมให้อยู่ ต้องลงทุนสูงขนาดนั้น
- ที่อ้างว่าเพื่อการศึกษา คงจะเป็นการศึกษาของนักวิจัย มิใช่ประชาชน เช่นเดียวกับหมีแพนด้า ที่เอามาลองผิดลองถูก
- คงเป็นความท้าทายของนักวิจัย ที่อยากทำสิ่งแปลกใหม่ แต่ถึงจะวิจัยว่าหมีขั้วโลกอยู่ในเขตร้อนได้ ก็คงไม่สามารถอพยพหมีขั้วโลกมาเลี้ยงในเขตร้อนได้ เพราะ การอยู่รอดมิใช่แค่มีลมหายใจ แต่รวมถึงวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมด้วย
กระนั้นเชื่อว่าสัตว์ทุกชนิดมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ ได้ อย่างแพนด้าตอนนำมาเราก็ไม่ได้นำมาให้มาอยู่ในอุณหภูมิที่ 40 องศาฯ แต่พอเขามาอยู่นานเข้าก็สามารถที่จะอยู่ในอุณหภูมิ 30-35 องศาฯได้อย่างสบาย
-ถ้าแพนด้าสามารถอยู่ในอุณหภูมิ 30-35 องศาได้อย่างสบาย แล้วทำไมไม่เลี้ยงให้อยู่ในสวนหลังบ้านทั้งปี คำว่าอยู่ได้อย่างสบายไม่ใช่หมายถึงมีลมหายใจ เดินได้ กินได้ นอนได้เท่านั้น
หากเราทำได้ตามมาตรฐาน หากทำได้จะเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้พบเห็นและร่วมศึกษาหมีทั้งหมด 4 ชนิดในส่วนสัตว์เชียงใหม่เพียงแห่งเดียว คือแพนด้า หมีหมา หมีควายและหมีขาว จากทั้งโลกที่มีหมีอยู่ 8 ประเภท ที่เหลืออีก 4 อย่างที่เราจะยังไม่มีคือ หมีน้ำตาล อเมริกันแบลคแบร์(ตระกูลเดียวกับหมีควาย) สเปคตาเคิลแบร์ และสลอตแบร์ ซึ่งจะเป็นหมีในโซนของอเมริกา
เป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้พบเห็นและร่วมศึกษาหมีทั้งหมด 4 ชนิด จะเชื่อได้อย่างไรว่าคนไทยจะได้ศึกษา ได้ความรู้ ตัวอย่างหมีแพนด้าก็เห็นๆอยู่ รอยด้านที่หลังหมีแพนด้าอันเกิดจากกการเสียดสีกับของแข็ง เช่นเดียวกับตาตุ่มของคนก็ยังบอกไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ความรู้ที่ได้เช่น หมีแพนด้ามีจิตสื่อถึงกันได้ หมีแพนด้าเต้นรำ หมีแพนด้าฟังเพลงได้ ฟังคนอ่านจดหมายได้ หลินปิงจะช่วยเลี้ยงน้อง หลินปิงเดินสำรวจหาอุปกรณ์ทำของเล่นให้น้อง หลินปิงจะสาดน้ำพ่อหรือแม่ในวันสงกรานต์ เวลาเช็ดตัวหมีใช้พี่เลี้ยงกี่คน เป็นต้น
เคยอ่านพบว่าสวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์ศึกษาสัตว์เมืองหนาว คงจะคิดว่าเพราะมีช่วงที่อากาศหนาวในรอบปี แต่จริงๆแล้วก็เลี้ยงในสถานที่ปิด ไม่เกี่ยวกับอากาศหนาวข้างนอกเลย (ถึงมีก็ไม่ค่อยจะได้สัมผัส)
สรุปแล้วเหตุผลยังไม่ชวนให้เห็นด้วย หรือดีใจกับโครงการนี้
ขอให้องค์การสวนสัตว์เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของหลินฮุ่ยและหลินปิงโดยด่วน
(วันก่อนเห็นคุณแพทด้วย 
) อยากให้ย้อนหลังไปอีกพันกีบ ถูกใจทั้งนั้น (คุณบัตรผ่าน คุณเครซี่ด้วย) 
for Knut หน่อยนะคะ 
เศร้ามากก
****
@101 & @102 แทนกีฟค่ะ
