 |
ใจเย็นๆ
ผมไม่อยากให้วงการภาพยนตร์ไทยตีธงว่าต้องจงใจ ยัดเยียด อะไรลงไปในหนัง ทำหนังให้มันออกมาดี มีคุณภาพ ทำออกมาอย่างตั้งใจ แล้วปล่อยให้เรื่องความชอบ/ไม่ชอบ เป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่อยากให้มองว่า เอ้า กระแสดี งั้นยัดความเป็นไทยใส่ไปเยอะๆ เสียเลย
ผมอยากบอกว่า สิ่งที่ทำให้คนรักหนังเหล่านี้ ไม่ได้เริ่มต้นที่ความเป็นไทย แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในนั้น สิ่งที่มันเป็นสากล ที่คนทุกชาติก็รู้สึกได้ เช่น ความรัก, ความผิดหวัง, ความสนุกสนานเฮฮา ฯลฯ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยทัศนคติและแนวคิดแบบไทยๆ คนสร้างหนังแบบไทยๆ ทำให้คนบ้านใกล้เรือนเคียงกับเราเขาชอบเหมือนกัน
น่าดีใจแล้วที่เขาชอบ และอยากให้คงความดีนั้นไว้ ไม่ต้องเร่งบี้ให้มันเกินไป และไม่ปล่อยให้ตัวเองเหลิง
แค่ตั้งใจทำ ทำในสิ่งที่รัก ก็พอแล้ว ที่เหลือ ถ้ามีคนต่างชาติชอบก็ถือเป็นกำไร ไม่ชอบก็ไม่เสียหายครับ
พูดถึงหนังไทยในปัจจุบัน จริงๆ มันก็เป็นกระแส เป็นช่วงๆ เป็นคล้ายๆ วัฏจักรก็อาจจะได้ ช่วงแรกที่หนังไทยโดดขึ้นมาจาก "แม่นาค" และ "บางระจัน" รวมถึงมาต่อด้วย "สตรีเหล็ก"
จนหนังไทยเราก็เดิมตามหนังดีๆ ที่กรุยทางไว้ให้เหล่านี้ จนเกิดกระแสแฟชั่นของบรรดาผู้สร้าง ก็มีทั้งที่ดีและไม่ค่อยดี หนังผี หนังพีเรียด และหนังเพศที่สาม จนช่วงก่อนหน้านี้กระมังที่หนัง ตลก ก็มีบทบาทมาก เพราะมีบางเรื่องทะลุหลักร้อยล้านไป ทำให้เกิดกระแสของผู้สร้างที่มีช่วงนึง (หรืออาจจะยังมี?) จับเอาปัจจัย (ที่คาดว่า) ผู้ชมชอบแน่ๆ อย่าง ผี-ตลก-สาวประเภทสอง มารวมกันหลายเรื่องมากๆ ก็มีทั้งที่สนุกมากสนุกน้อยและไม่ค่อยสนุก ตามปกติ
เวลาผ่านไป จนปัจจุบัน นับนิ้วไม่ถูกแล้ว แต่น่าจะหลายปีมากแล้วเหมือนกันที่กระแสของหนังแนว feel good (จริงๆ ผมติดแต่เรียกหนังรักวัยรุ่นอะไรแบบนี้นะ 55) ก็ครองตลาดบ้านเราได้มานาน และก็มีทำออกมาเรื่อยๆ และเยอะมาก ซึ่งจุดเริ่มต้นคงมาจาก "แฟนฉัน" นั่นเอง
ก็เป็นปกติที่ก็มีทั้งที่ ดีมาก ดีบ้าง และไม่ค่อยดี ก็มีเป็นเรื่องธรรมดา
ส่วนตัว ยังคิดอยู่ว่า ด้วยต้นทุนที่เรามี คนไทยเราก็คงเหมาะกับการทำหนังแนวพวกนี้ล่ะนะ นี่คือมองที่ต้นทุนที่เรามี คือ "เงิน" และ "เทคโนโลยี" เราคงจะทำหนังแฟนตาซีหรือไซไฟน์แบบฮอลลีวู้ดคงจะไม่ไหว และถ้าทำก็มักไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไหร่
ดูเหมือนว่า ผู้ผลิตหนังไทยเรา น่าจะถนัดกับหนังที่เล่นกับ อารมณ์, ความรัก, ความผูกพันธ์ ฯลฯ อะไรพวกนี้มากกว่า เพราะใช้บทดีๆ กับนักแสดงเก่งๆ ก็สร้างหนังดีๆ ได้แล้ว ไม่ต้องใช้เงินหรือเทคฯมากนัก
แต่ว่าไปแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังแอบคิดถึง หนังดีๆ แนวอื่นบ้างเหมือนกันนะ คิดว่าคนวงการหนังไทยเราไม่จำเป็นต้องเอาดีกับหนังแนว feel good เสมอไป ถึงแม้เพลานี้จะดูว่ามันมาเหลือเกิน (ตั้งนานแล้วนี่นะ)
หนังอย่าง "สิบห้าค่ำเดือนสิบเอ็ด", "มหาลัยเหมืองแร่", "รักแห่งสยาม", "โหมโรง" ฯลฯ ต่างเหล่านี้ก็ล้วนเป็นหนังดีทั้งนั้น บางส่วนในนี้ก็ไม่ได้ขายแต่ความรักกุ๊กกิ๊กแบบตลาดจ๋าของวัยรุ่นวัยทำงานเท่านั้นด้วย
ว่าแล้ว ขนาดหนังที่แนวค่อนข้างฉีกแบบ "บอดี้ ศพ 19" หรือ "เฉือน" ก็ยังเป็นหนังที่ดูได้ ดูดี และมีคุณภาพใช้ได้เลยด้วย
ที่กล่าวมา ก็จะบอกว่า ผมว่าคนไทยเราทำหนังดีๆ ได้เยอะและไม่จำกัดแต่ต้องเป็นหนัง feel good ด้วย ดูไปดูมานี่ได้หลายแนวนะ หนังพีเรียด, หนังดราม่า, หนังผี หรือแม้แต่หนังทริลเลอร์
อยากเห็น ฝีมือดีๆ ในแนวอื่นๆ ด้วยนะครับ
จากคุณ |
:
art_sarawut
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มี.ค. 54 21:39:39
|
|
|
|
 |