Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ Suck Seed กับเรื่องจริง Based On A True Story ติดต่อทีมงาน

เมื่อประมาณต้นปี 2553 ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนเก่าคนหนึ่ง อดีตเด็กนิเทศจุฬา ซึ่งปัจจุบันเพื่อนผมคนนี้ทำงานอยู่ที่ GTH ว่าเพิ่งได้รับ Project ให้เป็นผู้ร่วมเขียนบททำหนังเตรียมออกฉายในโรงภาพยนต์ โดยหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของเด็กห่วยๆที่หลงไหลในเพลงร๊อค...ซึ่งเริ่มต้นจากหนังสั้นที่เพื่อนผมร่วมทำภาคต่อจากรุ่นพี่ตอนเรียนนิเทศจุฬา ผมก็บอกเพื่อนผมไปว่า หนังเสร็จเมื่อไหร่จะไม่พลาดไปดูแน่นอน...

และแล้วเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งต้นปี 2554 ผมเริ่มได้ยินกระแสในอินเตอร์เน็ทว่า มีหนังเรื่องหนึ่งกำลังจะเข้าโรงเป็นเรื่องของเด็กห่วยๆหลงไหลในเพลงร๊อค ชื่อเรื่องว่า “Suck Seed” ผมก็เริ่มมั่นใจแล้วว่า หนังที่เพื่อนผมมีส่วนร่วมกำลังจะเข้าโรงแล้ว

เดือนมีนาคม 2554 ผมก็ได้คุยกับเพื่อนผมคนนี้อีกครั้ง มันบอกว่า "เฮ้ย !ต้องไม่พลาดไปดูหนังเรื่องนี้ให้ได้นะ มันคือความทรงจำเก่าๆของพวกเรา สมัยเรียนมัธยม... สมัยที่เราเคยทำวงดนตรีด้วยกันไง"

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ก็มาถึง วันนี้ผมตัดสินใจตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่อง Suck Seed หนังที่เพื่อนผมมีส่วนร่วมเป็น 1 ใน 5 ของผู้เขียนบทภาพยนต์เรื่องนี้

ตลอดทุกวินาทีในหนัง เหมือนผมและเพื่อนเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกวินาทีของหนัง  Suck Seed ไม่ได้เป็นแค่หนังเรื่องหนึ่ง แต่มันคือ ภาพความทรงจำสมัยมัธยมของผมและเพื่อนคนนี้... ผมขนลุก และน้ำตาไหลไปกับภาพความทรงจำต่างๆที่ปรากฏบนแผ่นฟิมล์ ตัวละครและเหตุการณ์หลายฉาก เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริง

ผมรู้จักกับเพื่อนผมคนนี้(ผู้เขียนบท) ตอน ม.4 ครับ เราชอบเพลงร๊อคและเมทัลเหมือนๆกัน ซึ่งในช่วงนั้นกระแสเพลงป๊อบกำลังแรง พวกผมก็เหมือนตัวห่วยๆที่ชอบเพลงไม่เหมือนใคร ก็เลยรวมตัวกันตั้งวงดนตรีด้วยกัน ชื่อว่า OMB ซึ่งเป็นตัวย่อของสมาชิกหลักในวง 3 คน แต่จริงๆก็มีสมาชิกขาจรเข้ามาร่วมหลายคน แต่หลักๆก็มีเพียง 3 คนครับ พอขึ้น ม.6 ก็มีสมาชิกเพิ่มอีกเป็น 5 คน เลยเปลี่ยนชื่อเป็น OMB’3D (โอเอ็มบีกำลังสามดี)

ผมและเพื่อนเรามีความไฝ่ฝันอยากมีอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองเหมือนเด็กๆมัธยมในยุคนั้นครับ เราโตมากับเพลงเมทัลฝรั่ง อย่าง Korn, Limpbizkit, Slipknot และวงร๊อคไทยๆหลายวงเช่น โลโซ โซคูล พาราด๊อก บิ๊กแอสและบอดี้สแลมครับ ก็เลยตัดสินทำเพลงด้วยกัน ออกอัลบั้มอัดเอง ขายเองครับ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจในความห่วยๆอย่างพวกเรา (ฮา) ไว้ทีโอกาสจะอัพโหลดลง Youtube นะครับ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ Suck Seed กับเรื่องจริง Based On A True Story นะครับ

** หนังเรื่องนี้ผู้เขียนบทมีถึง 5 คน เพราะฉะนั้น หลายๆฉากก็จะมาจากความทรงจำของผู้เขียนบทแต่ละท่านครับ

ผมก็เลยขอเล่าให้ฟังเฉพาะส่วนที่เพื่อนผมเป็นผู้เขียนบทและผมมีส่วนร่วมในความทรงจำนั้นๆละกันนะครับ

**** อาจมีสปอยด์นะครับ ****

.
.
.
.

1."เหตุการณ์ที่วงคุ้งแอนด์เฟรนด์เปิดแสดงคอนเสิร์ทครั้งแรกที่ห้างกาดสวนแก้ว เชียงใหม่ ในงาน Master Art" ... เหตุการณ์นี้ดัดแปลงมาจากความทรงจำจริงๆของเพื่อนและผม ครั้งนั้นเราขึ้นเล่นดนตรีในงานวันเด็กที่ลานชั้นหนึ่งของห้างลีการ์เด้น หาดใหญ่ มีการทาสีหุ่นปูนปลาสเตอร์เหมือนในหนังเลย วันนั้นจำได้ว่าพวกเราเล่นแต่เพลง Rock และ Metal จนเด็กๆในงานงงว่าเพลงไรเนี้ย... แต่จำไม่ได้ว่าเด็กๆร้องไห้เหมือนในหนังหรือเปล่านะครับ (ฮา)

2."ตัวละครเอ๊กซ์ มือกลองบ้าพลัง" ตัวละครตัวนี้ สร้างมาจากตัวคนที่มีตัวตนจริงๆครับ นายเอ๊กซ์ตัวจริง เป็นหนุ่มนักบาสบ้าพลัง ที่บ้านมีกิจการทำเบเกอรี่จริงๆ และมีห้องซ้อมกลองอยู่บนชั้นบนของบ้านที่ขายเบเกอรี่จริงๆ ครับ (ว่างๆก็ไปอุดหนุนกันได้ที่ “จุติเบเกอรี่” หาดใหญ่นะครับ) และตัวจริงแขนเคยเข้าเฝือกเหมือนในหนังเลย แต่เพียงไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุจากการบ้าพลังกระโดดดั๊งบาสนะครับ ชีวิตจริงมันเข้าเฝือกเพราะมันซุ่มซ่ามเดินไปชนประตู แล้วเหมือนมีอะไรบาดแขนมันจะต้องเข้าเฝือกครับ

3."ตัวละครตวง หนุ่มตี๋ปากดี" ตัวละครตัวนี้ดัดแปลงมาจาก ตวง สาวใส่แว่น ห้องเดียวกับเพื่อนผมตอนม.ปลายครับ ตัวจริงแคแรกเตอร์เหมือนในหนังเลยเปลี่ยนแค่ตัวจริงเป็นผู้หญิงเท่านั้นครับ

4."เหตุการณ์เด็กขาร๊อคเอาอีโนใส่ปาก แล้วมีฟองไหลออกมาเหมือนน้ำลายฟูมปาก"  เหตุการณ์นี้มาจากเหตุการณ์จริงครับ ตอนนั้นผมและเพื่อนมีโอกาสได้รับเชิญไปเล่นดนตรีที่ มหาวิทยาลัย สงขลานครินค์ ผมก็มีความคิดว่า ทำยังไงดีนะให้มันสีสัน ก็เลย ไปชวนน้องม.ต้นที่รู้จักกันคนนึงมาสร้างสีสันด้วยการเอาอีโนอมไว้ในปากแล้วกินน้ำตาม แล้วระหว่างพวกผมเล่นดนตรีอยู่ ให้วิ่งออกเต้นหน้าเวทีให้น้ำลายฟูมปากบนเวทีครับ เอาเข้าจริง ฟองมันออกมานิดเดียวเอง (ฮา)

5. "ในหนังคุ้งกับเป็ดอยู่ห้อง6/3" ชีวิตจริงเพื่อนผมตอนม.ปลาย อยู่ห้องม.6/13 ครับ

6. "โลเกชั่นในหนังคือจังหวัดเชียงใหม่" ชีวิตจริงพวกเราตอนนั้นตามหาความฝันอยู่ที่ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาครับ

7. การเข้าประกวดดนตรี ตอนนั้นผมและเพื่อนเข้าร่วมการประกวดกะเค้าด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ Hot Wave นะ แต่เป็นการแข่งขันของ Panasonic ที่จัดโดย RS ที่มีคณะกรรมการอย่างพี่แหม่ม พัชริดาครับ ตอนนั้นพวกเราเล่นเพลงของดีทูบี แต่แปลงเป็นแนว Metal Hard Core จนพี่แหม่มอุดหูเลยล่ะครับ (ฮา)

8. วงดนตรีของพวกผมตอนนั้น ขอให้มีเวที ก็จะไปเล่นแนว Rock และ Metal กันทุึกที่ล่ะครับ งานวันเด็กเอย เวทีงานโรงเรียน เวทีงานเปิดท้ายขายของเอย ... นึกแล้วก็ขำนะ เล่นไม่ดูผู้ฟังเลย คนอุดหู บ้างเดินหนีบ้าง แต่ The Show Must Go On ! ครับ

9. "บรรยากาศบ้าๆในห้องอัด" ... เหมือนเป๊ะครับ พวกเราเคยไปห้องอัด เพื่ออัดเพลงของ OMB'3D ด้วยกัน และมีอาการเหมือนในหนังเป๊ะครับ :D



*** เพื่อนผมอาจไม่สามารถเขียนบทให้ตัวเพื่อนและผมเข้าไปเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในหนังได้ แต่ความทรงจำของผมและเพื่อนได้เข้าไปอยู่ในตัวละครหลายๆตัวร่วมกัน และเหมือนเรายืนอยู่ในทุกเหตุการณ์แทบทุกวินาทีของหนังเรื่องนี้ครับ  




Suck Seed ...หนังเรื่องนี้สำหรับผมและเพื่อนแล้ว มันไม่ใช่แค่เพียงหนังเรื่องหนึ่ง แต่มันคือ บันทึกชีวิตช่วงหนึ่งที่ประทับใจของพวกเรา

หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนังที่ดีที่สุด แต่มันคือหนังที่ "ได้ใจ"ผมที่สุดครับ  มันคือ หนัง Coming of Age ที่จะพาคุณหวนกลับไประลึกถึงความทรงจำเก่าๆ มิตรภาพที่ไม่หวังผลใดๆตอบแทนของเพื่อน

ถ้าหากคุณโตมากับเพลงร๊อค หรือมีความทรงจำที่เกี่ยวกับเพื่อน และมิตรภาพ ผมอยากให้ทุกคนไปร่วมชมและไปร่วมรู้สึกหวนหาอดีตกันนะครับ

จากคุณ : Cyberbean
เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 19:31:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com