ความคิดเห็นที่ 1 จุดเด่นของเรื่องจริงๆเป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับ พระยาจีนจันตุ และการรบกับพระยาพสิม กับพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งในทางประวัติศาสตร์ เหมือนกับเป็นการอุ่นเครื่องการรบและแสดงถึงยุทธวิธีและพระปรีชาของสมเด็จพระนเรศวรซึ่งถือเป็นการชนะศึกครั้งแรกของสยามที่มีต่อพม่าในรอบหลายทศวรรษ และก่อนที่จะเผชิญหน้าศึกใหญ่กับพระเจ้านันทบุเรงเท่านั้น และคาดว่าการรบกับพระเจ้านันทบุเรงน่าจะอยู่ในภาคที่ 4 ครับ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 54 10:02:45 จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 09:59:56

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเชื่อว่าความตั้งใจของท่านมุ้ยคงอยากให้คนไทยทราบพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศอย่างลึกซึ้ง เพราะในภาคนี้นั้นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ กรุงอโยธยาจัดว่าเป็นประเทศราชหนึ่งของกรุงหงสาวดีเท่านั้น ซึ่งคนสยามสมัยนั้นเคยชินกับความเป็นผู้แพ้และยอมรับในความเป็นเมืองขึ้น จิตใจนักสู้ยังหาได้ยากในบรรดาคนไทยทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะพอใจในสภาพที่เป็นอยู่ ดังนั้นพระนเรศซึ่งเป็นเพียงเจ้าชายวัยหนุ่มที่ยังไม่มีชื่อเสียงในสายตาบรรดาประเทศทั้งมวล จึงไม่อาจทำให้คนไทยโดยทั่วไปมั่นใจได้ว่าจะสามารถนำประเทศไปสู่ทิศทางแห่งความรุ่งเรืองได้ แม้แต่พระกษัตริย์พระบิดาเองยังโกรธที่พระนเรศตัดสินใจประกาศเอกราชเองโดยพลการ ไม่ยอมปรึกษาพระองค์ก่อน อีกทั้งการต้องห่างออกไปนานหลายปี พระองค์จึงยากที่จะทรงเชื่อถือในพระโอรสได้ ดังนั้นการศึกป้องกันประเทศครั้งแรก พระนเรศจึงทรงตั้งพระทัยเป็นกรณีพิเศษ และการรบในครั้งนี้เริ่มทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่กระนั้นก้ยังไม่เพียงพอที่จะทำใจยอมรับว่าสยามประเทศเหนือว่ากรุงหงสาวดีแต่อย่างใด จากคุณ : คนรักน้ำมัน เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 10:20:11

ความคิดเห็นที่ 3 จัดกีบให้ก่อนเลยค่ะ เด๋วมาอ่าน อุอุ จากคุณ : For You I Will เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 10:36:02

ความคิดเห็นที่ 4 นอกเหนือจากที่ คห.2 กล่าวไว้ เราว่าอีกเหตุผลที่ท่านมุ้ยทรงสร้างเรื่องนี้ ก็เพราะ อยากให้ลูกหลานคนไทย ได้รับรู้และสำนึกสำเหนียกบ้างว่าบรรพบุรุษของเราต้องเสียสละเลือดเนื้อ และชีวิตกันมากแค่ไหน เพียงเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินให้ลูกหลานอย่างเรา ๆ ได้มีแผ่นดินอยู่อย่างเอกราชโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับประเทศใด......... .......แต่เหตุใด ลูกหลานอย่างเราจึงหันกลับมาฆ่าฟันกันเอง !!! ลืมแล้วหรือว่าความสามัคคีเป็นเยี่ยงไร...... ดูแล้วอิน....และท้อใจ อยากให้เมืองไทยกลับมามีความสุขเหมือนเดิม วันนี้จะไปดูอยู่เหมือนกันค่ะ(แหะๆ ได้ตั๋วฟรีด้วย อิอิ) จากคุณ : Beauty in Daylight เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 10:37:46

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ จขกท.มากจ้ะ... ********* หากคนในชาติเดียวกันแตกความสามัคคี....ก็เป็นเรื่องยากที่จะนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้.... จากคุณ : .....**{~_~!}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 10:46:48

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ จขกท ครับ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรประกาศเอกราชแล้ว นอกจาก สมเด็จพระมหาธรรมราชาผู้เป็นพระบิดาจะทรงขัดเคืองพระทัยแล้ว ยังมีข้าราชการผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งเช่น พระยาพิชัย พระยาสวรรคโลก ที่ไม่เชื่อว่า สมเด็จพระนเรศวรจะสามารถต่อกรกับทัพหงสาได้ จึงตั้งแข็งเมืองจนสมเด็จพระนเรศวรต้องยกทัพไปปราบ จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 10:48:33

ความคิดเห็นที่ 7 ไปดูมาแล้วค่ะ ตอนนี้แสดงถึงพระปรีชาสามารถในการบัญชาการรบได้อย่างรอบคอบ และแยบยล ทุกอย่างสำเร็จเพราะการวางแผนที่ดี การสั่งการที่ดี และความสามัคคี ความจงรักภักดี และความเชื่อมั่น ต่อให้มีอีกกี่ภาคก็จะติดตามค่ะ อยากให้ทำต่อไปจนถึงยุคปัจจุบันเลย จากคุณ : nann_watch เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 12:04:33

ความคิดเห็นที่ 8 ความรู้สึกตอนดูภาค 3 คล้ายกับตอนดู Phantom Menace คือเรื่อยๆ มาเรียงๆ เหมือนกับการปูเพื่อภาคต่อไป ถามว่าจำเป็นต้องมีภาคนี้ไหม...จำเป็นครับ ควรดูไหม....มากๆๆ แม้ความพีคในภาค 2 จะสุดๆ กว่า แต่เชื่อแน่ๆ และเห็นแววว่า ภาค 4 ต้องดีแน่ๆ สนุกและเข้มข้นแน่ๆครับ จากคุณ : เกี๊ยวหมู (เกี๊ยวหมู) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 12:22:34

ความคิดเห็นที่ 9 ตามจริงน่าจะสร้างภาคนี้เป็นศึกนันทบุเรงเป็นจุดสำึคัญ แต่มันจะอลังการมาก แล้วภาีคต่อไปเป็นศึกชนช้าง จากคุณ : Bugtoi เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 12:35:49

ความคิดเห็นที่ 10 อยากให้คนไปดูกันเยอะๆคะ ดูออกมาจากโรงใหม่ๆ ยังรู้สึกเฉยๆเพราะคาดหวังมากไป แต่วันนี้ได้นั่งคิดมาครึ่งวันแล้วรู้สึกว่า หนังให้อะไรเยอะถ้าลองมองให้ลึกๆคิดให้ดีดี เพราะตอนแรกเพื่อนๆถามในเฟสบุ๊คว่าสนุกไหม ณ เวลานั้นตอบไม่ได้เต็มคำว่าสนุก แต่ย้ำกับทุกคนที่ถามว่า "ต้องไปดูนะ" อยากทราบว่ามีใครนั่งฟังเพลงตอนจบ เครดิตหนังตอนจบรึเปล่าคะ ย้วยเป็นหนึ่งในนั้น เสียดายที่ทุคนลุกออกกันไปเร็ว ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกแต่ขนมันลุกจนเครดิตจบคะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อิ่มเอิ่ม? ใจสู้ขึ้น? ยิ่งใหญ่? ประทับใจ? 12ชั่วโมงผ่านไปแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่า ตอนแรกบอกตัวเองว่าเฉยๆ แต่ทำไมตอนนี้ยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เลย edit คำผิดคะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 54 14:06:35 จากคุณ : สายหยุด หยุดสาย (J'Cin) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 13:54:16

ความคิดเห็นที่ 11 ตามคห.ที่ 8 ชัดเจน และตรงกับความคิดผมมากๆ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 17:05:55

ความคิดเห็นที่ 12 ศึกพระเจ้าเชียงใหม่หรือศึกบ้านสะเกษ เป็นอะไรที่เราสามารถแตะต้องได้ นั่นคือค่ายหลวงของนรธาเมงสอ(นรธาช่อหรือพระเจ้าสารถีที่วันวลิสเอ่ยถึง) ยังมีอยู่ครับแถวสิงหบุรี ถ้าขับรถไปตามถนนสายเอเชียจะเห็นป้ายเขียนว่าค่ายพม่า กำแพงดินของค่ายยังอยู่เกือบครบเดินดูได้ครับแต่ส่วนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาถูกไถเรียบหมดแล้วแนะนำให้รีบไปดูเพราะกำแพงค่ายที่เหลืออาจจะโดนไถกลายเป็นที่นาไป ส่วนทุ่งบางแก้วไม่มีอะไรเหลือให้เราดูแล้วครับนอกจาคลองบางแก้วที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภออ่างทองครับ ส่วนค่ายบางแหที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำตอนนี้ไม่เหลือซากอะไรให้เราเห็นครับ ผมพยายามหาต้นกระทุ่มต้นจิกที่สมเด็จพระนเรศวรซ่อนปืนใหญ่แต่ไม่เห็นร่องรอยครับ พวกเราในห้องคนรักหนังโดยเฉพาะคุณฟองฟ้าเป็นคนขี่จักรยานหาสถานที่ต่างๆซึ่งผมต้องขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ จากคุณ : Cinephile เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 54 21:13:08

ความคิดเห็นที่ 13 กราบท่านครับ... รายได้ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ จากคุณ : เกี๊ยวหมู (เกี๊ยวหมู) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 00:00:32

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมผมดูในหนังไม่ค่อยรู้สึกถึงพระปรีชาสามารถเลยอะ โดยเฉพาะตอนที่ขนขบวนเรือไม่รบกับเรือสำเภาจีน ไม่เห็นการวางแผนล่วงหน้า ไปสั่งการเอาอึงอลตอนที่รบกันสด ๆ แล้วตอนท้ายก็บอกว่า ที่รอดมาได้เพราะพระเอกาทศรถยอมเอาเรือมาขวาง เหมือนประเมินการผิดพลาด แต่บังเอิญรอดมาได้ จากคุณ : alexkh เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 02:17:50

ความคิดเห็นที่ 15 จะเตรียมการทันได้ยังไงล่ะคะ พอพระมนูได้จดหมายปุ๊บ ก็เดินเซซ้าย ย้ายไปขวา กว่าจะไปทูลพระองค์ได้ ก็ทำให้พระยาจีนรู้ตัวซะแล้ว ตอนเสด็จทรงเรือพระที่นั่ง พระมนูยังไม่สร่างกัญชาเลยนะคะ ตอนนั้นเรือพระที่นั่งแล่นทันสำเภาก็ดีมากโขแล้วค่ะ ส่วนพระปรีชาสามารถด้านการรบ เห็นเด่นชัดตอนหลัง ที่รบกับเจ้าเมืองพสิม และเชียงใหม่ ทรงวางแผนเป็นระบบมาก แล้วก็สามารถล้อมฝ่ายข้าศึกได้ จนข้าศึกแตกพ่ายไปได้ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 54 14:46:28 จากคุณ : nann_watch เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 14:40:26

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อนิด ถ้างั้นทำไมไม่ชื่อภาค ยุทธการเผด็จศึกเจ้าเมืองพสิม และเชียงใหม่ ละ ไปชื่อ ยุทธนาวี ทั้ง ๆ ที่จับเวลาฉากนี้ยาวไล่เลี่ยกับฉาก อังกาบ กับ รัตนาวดี ขึ้นบนหลังช้างวิ่งยาวววว นั่นเลย (คิดเล่น ๆ ว่า ชื่อตอน ยุทธนาวี นี่ตั้งเอาเงินงบไทยเข้มแข็งของกระทรวงวัฒนธรรม แท้ ๆ เลยนะ เพราะงบ 48 ล้านบาทที่กระทรวงวัฒนธรรมให้เมื่อปีที่แล้วบอกว่า เพื่อฉากนี้ฉากเดียว) จากคุณ : alexkh เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 54 16:02:12