ตอนที่ 9 ต่อครับ
ค่อนข้างดึก ไทรรัตน์พาซิลเวียกลับมาส่งหน้าบ้านเจ้าสัวหลังจากพาเธอออกไปเที่ยวบาร์และเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ซิลเวียได้ปลดปล่อยอารมณ์อัดอั้นเบื่อหน่ายที่สั่งสมมาเป็นแรมเดือน ส่วนไทรรัตน์เองก็ได้แก้เซ็งเรื่องคู่หมั้นที่แสนจะเฉยชา
แม้ว่ารถจะจอดสนิทแล้วแต่ซิลเวียยังอิดออดไม่อยากลง แล้วจู่ๆเธอก็โผเข้ากอดจูบไทรรัตน์อย่างเร่าร้อนรุนแรง ไทรรัตน์ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ตอบสนองอย่างเต็มที่ จนซิลเวียเป็นฝ่ายผละออกมา
ซิลเวีย...ขอให้คิดว่าจูบเมื่อกี้เป็นชีวิตแบบอเมริกันสไตล์ คุณจูบผมเพราะเหงา ผมจูบคุณเป็นการปลอบโยน เห็นใจ เข้าใจว่าคุณ Lonely ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
แต่ฉันจูบคุณ คุณก็จูบฉันตอบ มันเป็นจูบที่จริงจัง ยอมรับเถอะว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น ถึงคุณไม่มี...แต่ฉันมี
เรามีไม่ได้ คุณเป็นภรรยาของพ่อของคู่หมั้นผม ผมเห็นใจและเข้าใจคุณทุกอย่าง แต่เมื่อ 15 ปีที่แล้วคุณได้ตัดสินใจไปแล้ว ว่าคุณจะยอมรับ...กับวันนี้...วันที่สามีคุณอายุเกือบ 80 ปี คุณแลกความสวยความสาวของคุณกับความร่ำรวย
คำพูดไทรรัตน์กระแทกใจซิลเวียอย่างแรงจนเธออึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะลงจากรถไปทั้งน้ำตาคลอๆ
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเยนหลิงที่ยืนมองมาจากชั้นสอง เยนหลิงซึ่งชิงชังซิลเวียตั้งแต่วันแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในบ้านหลังนี้ มีหรือที่เห็นตำตาอย่างนี้แล้วเธอจะวางเฉยอยู่ได้
ซิลเวียชะงักกึกเมื่อเห็นเยนหลิงยืนหน้าตึงตาขุ่นอยู่หน้าห้อง แต่แล้วซิลเวียก็ปรับสีหน้าท่าทีเป็นสบายใจจะเดินผ่านไปห้องตัวเอง
หน้าด้าน!
แม้จะไม่เข้าใจในคำด่ารุนแรงนั้น แต่ก็ทำให้ซิลเวียหยุดเดินหันมาจ้องหน้าเยนหลิง
ทำอะไรคิดมั่ง อย่าลืมสิว่าเป็นใคร ทำอะไรอย่าให้ นายต้องอับอาย
อายเรื่องอะไร
นังอั้งม้อไม่มีสมอง
เรียกฉันอั้งม้อเรื่อยเลยคุณนายสอง...แปลว่าอะไร
คนป่าเถื่อน สมองกลวงมีแต่โพรง ข้างในว่างเปล่า สติปัญญาสักนิดก็ไม่มี ปัญญาอ่อนเสียเลยยังดีกว่า อย่างน้อยพอมีบ้าง ถึงจะน้อยนิดแค่ไหนก็ยังดีกว่าไม่มีซะเลย วันๆได้แต่กิน นอน แล้วสมสู่ ผิดกับสัตว์ที่ตรงไหน
นี่คุณนาย...ถ้าจะว่าซิลเวียต้องพูดช้าๆ ไม่งั้นฉันฟังไม่รู้เรื่อง ทั้งหมดฉันกองไว้ตรงนี้แหละ พูดจบซิลเวียหันกลับไปทันที เยนหลิงโกรธจนตัวสั่น คำรามอย่างอาฆาตมาดร้าย
อีนังแหม่ม...กำเริบมาต่อปากกะฉัน แกไม่รู้จักฉันซะแล้ว กระเด็นไปกี่คนแล้วแกรู้รึเปล่า
แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นเยนหลิงก็ตรงดิ่งไปที่ห้องครัว ตะโกนเรียกพุ่มเอ็ดอึงราวกับองค์ลง พุ่มกำลังนั่งหั่นผักเพลินๆ ถึงกับสะดุ้งตกใจรีบลุกขึ้นยืน
อุ้ย...คุณนายที่สอง มีอะไรเหรอคะ อุตส่าห์ลงมาถึงนี่ เชิญค่ะ เชิญนั่ง
แกก็รู้ว่าฉันไม่มีวันนั่งตรงนี้
อ้าว แล้วคุณนายที่สองมีอะไรล่ะคะ
นังพุ่ม...นังลำยองหลานแกน่ะ มันติดต่อมาหาแกมั่งรึเปล่า
ไม่เลยค่ะคุณนาย นังนี่มันร้ายกาจ โกหกว่าจะไปหาแม่
เยนหลิงหน้ากระตุกนิดหน่อย เพราะตอนนั้นเธอเป็นคนใช้ลำยองไปเอง แต่พุ่มไม่รู้เรื่องเลยด่ายาว
อิฉันก็อุตส่าห์จะไปเป็นเพื่อน พอรุ่งเช้าดั๊นพาลูกหนีไปซะได้ กี่ปีแล้วละคะเนี่ย หายไปแล้วก็ไม่รู้
พอ...พูดมาก ถามนิดเดียว แกพอจะหาทางตามตัวมันได้มั้ย
ไม่ได้ค่ะ
แกตอบแค่นี้เรอะ
อ้าว คุณนายว่าอิฉันพูดมาก อิฉันก็ตอบแค่นั้นแหละค่ะ
แล้วแกล่ะ จะไปหาน้องสาวแกได้มั้ย
ไม่ได้หรอกค่ะ
ทำไม
เพราะอิฉันเกลียดน้องเขยอิฉัน มันเป็นหมอทำคุณไสย
แล้วมันเป็นไง หมอทำคุณไสย
อุบาทว์น่ะสิคะ พวกเล่นของทำคุณไสยมันพวกอุบาทว์ พุ่มลอยหน้าว่าไปตามความรู้สึกของตน โดยไม่รู้ว่าเยนหลิงแอบสะอึก เพราะเยนหลิงเองก็ชอบใช้วิธีอุบาทว์นี้จัดการกับศัตรูหัวใจ
เมื่อไม่ได้อย่างใจคิดแถมยังเหมือนถูกด่าซึ่งหน้า
เยนหลิงอารมณ์เสียปังปึงกลับขึ้นไปบนห้อง เรียกเง็กที่กำลังจัดเตียงนอนมาถามว่า มีโทรศัพท์ถึงตนบ้างไหม
ไม่มีฮ่ะ
เยนหลิงฟังแล้วห่อเหี่ยวหมดแรง หน้าหมองเศร้า ถามเสียงแผ่ว
เง็ก...แกคิดว่าเพราะอะไรคุณหนูยี่หรงกับยี่ฮุยตั้งแต่ไปเรียนเมืองนอกไม่ค่อยติดต่อหาฉันเลย
เรียนหนักมั้งฮะ
เรียนหนักจนไม่มีเวลาพูดกับแม่เลยรึไง...เง็ก แกออกไปก่อน
เห็นนายน้ำตาคลอเต็มตา เง็กพลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่จำต้องถอยออกไปตามคำสั่ง...แล้วเยนหลิงก็ซบหน้ากับโต๊ะร้องไห้สะอึกสะอื้นน้อยใจคิดถึงลูก และอัดอั้นที่ไม่ได้จัดการกับซิลเวียอย่างที่ตั้งใจ
ooooooo
หลังจากทำงานครบ 7 วัน เรยากลับมาบ้านด้วย ความเหนื่อยล้า ลำยองเห็นแล้วสงสาร กุลีกุจอเอาใจลูกสาวทั้งเสิร์ฟน้ำส้มและเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ เรยาเอนตัวลงกับโซฟาหลับตาพูดกับแม่ได้ไม่กี่คำก็บอกว่าฟ้าจะนอน ถ้ามีโทรศัพท์แม่ไม่ต้องเรียก...
พูดขาดคำ เสียงมือถือเรยาดังขึ้นทันที ลำยองเปิดกระเป๋าสะพายของลูกหยิบมือถือออกมา
แม่บอกว่าฟ้าหลับแล้วกัน ขี้เกียจพูด
ลำยองกดรับและทำตามที่ลูกบอก แต่พอเรยาได้ยินแม่เอ่ยชื่อคุณใหญ่ เธอก็ลุกพรวดคว้ามือถือไปจากมือแม่ทันที
ฟ้าพูดค่ะ เพิ่งกลับมาถึงค่ะ คุณใหญ่โทร.กี่ครั้งแล้วคะ เรยาเสียงใส สีหน้าปราศจากความเหน็ดเหนื่อย เดินกึ่งวิ่งขึ้นไปคุยต่อบนห้อง ทิ้งลำยองยืนงงอยู่ตรงนั้น
ฟ้าเพิ่งเปิดเครื่องค่ะ ดีใจที่สุดที่คุณใหญ่โทร.หาฟ้า
ผม...จะขอนัดฟ้าให้มาพบ แต่ผมจะไม่รบกวนเวลาฟ้านานหรอกครับ
ค่ะๆ ฟ้าไปพบคุณใหญ่ได้ทุกที่ ทุกเวลา แล้วก็ไม่เป็นการรบกวน ฟ้ามีเวลาให้คุณใหญ่เสมอค่ะ ร้านอาหารหรือสวนสาธารณะไหนดีคะ
ขอบคุณฟ้ามากครับ แต่ผมขอเป็นที่ที่คนไม่เยอะ หรือว่าจะเป็นต่างจังหวัด...แต่ก็...เอ้อ จะยุ่งยากเกินไป
ที่ที่คนไม่เยอะ หรือว่าจะเป็นที่บ้านฟ้า ถ้าคุณใหญ่ไม่รังเกียจ
ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่อยากรบกวนคุณแม่ฟ้า หรือคนที่บ้านฟ้า ผมอยากพูดกับคุณแค่สองคนเท่านั้น เอาเป็นว่าที่ไหน เดี๋ยวผมบอกอีกทีดีกว่า ขอโทษนะครับที่ทำให้ยุ่งยาก
คุณใหญ่กลัวคนเห็นเหรอคะ
ครับ...ผมกลัวคนเห็น
เรยาได้ยินแล้วน้ำตาแทบร่วง แต่แข็งใจเอ่ยออกไป
ฟ้าเข้าใจค่ะ แต่ถ้าไม่อยากให้คนเห็นจริงๆ ก็ต้องเป็นที่บ้านฟ้า แต่ถ้าคุณใหญ่ไม่สบายใจ ฟ้าจะลองขอยืมบ้านเพื่อนที่ไว้ใจได้ จะขอให้เขาออกจากบ้านไปก่อนตอนที่ฟ้ายืมบ้านเขาเป็นที่ตกลงปัญหาชีวิต
ก้องเกียรตินิ่งไปอย่างรู้สึกผิด จังหวะนี้เองวิมลเคาะประตูหน้าห้องก่อนเดินเข้ามากระซิบบอกเจ้านายว่า แขกที่นัดไว้มาแล้ว...ก้องเกียรติจึงรวบรัดกับเรยา
ผมขอโทษนะครับ เผอิญมีแขกที่นัดไว้มาพบ ตกลงเป็นที่ว่านี้ก็ได้ครับ
ที่ว่านี้...ที่บ้านฟ้านะคะ
ครับๆ ขอโทษนะครับ เท่านี้ก่อน
เรยาวางสายด้วยรอยยิ้มที่มาดหมาย จากนั้นก็ลงมาช่วยแม่ทำอาหารกลางวันและพูดคุยหยอกล้อแม่อย่างอารมณ์ดี ลำยองรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ไม่พูดหรือถามอะไรให้เสียบรรยากาศ
หลังอาหารมื้อที่แสนอร่อยและอบอวลไปด้วยความสุข เรยายังใจดีพาลำยองไปไหว้พระที่วัดใกล้บ้าน...ช่วงเวลานี้เอง คนเป็นแม่รู้สึกอิ่มเอมใจและเพลิดเพลินมาก แต่หารู้ไม่ว่าลูกสาวเบื่อมากที่ต้องทำอะไรฝืนใจตัวเอง
พอกลับถึงบ้าน เรยาจอมแผนการก็คิดอ่านต่อไปว่าจะพูดอย่างไรกับแม่ดีเพื่อให้แม่ไปจากบ้านหลังนี้เป็นการชั่วคราว
แม่...แม่อยากไปทำงานกับแหม่มมั้ย
ลำยองละมือจากงานบ้านหันไปมองหน้าลูกสาวอย่างพิศวง
ทำไมเหรอลูก
ฟ้าถามแม่...แม่ยังอยากไปอยู่รึเปล่า
แหม่มคงมีคนใหม่แล้ว มันนานแล้วนี่ ฟ้าพูดเรื่องนี้กับแม่ทำไม
ก็...ฟ้าเห็นแม่เหงาน่ะ วันนี้ที่ไปวัด ฟ้ารู้สึกว่าแม่มีความสุขมาก ฟ้าก็เลยคิดว่าถ้าแม่ได้ไปทำงานให้แหม่มอีกอย่างหนึ่ง แม่ก็คงมีความสุขที่สุด ลองโทร.ไปถามแหม่มดูนะแม่นะ
จากคุณ |
:
klink077
|
เขียนเมื่อ |
:
วันจักรี 54 10:07:49
|
|
|
|