 |
ต่อ...
การที่หนังใช้อุปมา อุปไมย ว่า Doug ไม่เคยไปเมือง (Town) อื่นๆเลย นอกจากแถบละแวกบ้านนั้น สอดคล้องกับ การคบหาสมาคมกับบุคคลอื่นของ Doug ก็ถูกจำกัดเฉพาะกลุ่ม (จริงๆแล้ว Doug เคยเข้าทีมฮอกกี้ แต่เข้ากับผู้อื่นในทีมไม่ได้จนต้องออกมา)
ทำให้คำว่า The Town มีอีกความหมายหนึ่งนั่นก็คือ บรรดาบุคคลแวดล้อมรอบตัว Doug
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาและอุปสรรคของตัวละคร ที่ต้องแก้ไขและเอาชนะไปจนกระทั่งฉากสุดท้าย ตามสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ ซึ่ง Affleck ก็เคยใช้สูตรนี้มาแล้วใน Good Will Hunting (ต่างกันที่ The Town เป็นการต่อสู้กับอิทธิพลกับภายนอก ส่วน Good Will Hunting เป็นการต่อสู้กับภายในจิตใจ)
และด้วยเนื้อหาของหนัง ทั้งเรื่องของ กลุ่มโจรปล้นธนาคาร, ความรักที่น่าเอาใจช่วย, มิตรภาพในหมู่โจร และฉาก Action ใน scale ใหญ่ ที่เน้นความสมจริง ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึง Heat ของ Michael Mann
แต่หากพิจารณาดีๆแล้ว ทั้งสองเรื่องมี Theme ที่แตกต่างกันพอสมควร
(แน่นอนว่า Heat เข้มข้นกว่า และมีตัวละครมากมายจนเกิดประเด็นย่อยๆ ขึ้นอีกหลากหลาย ที่น่าสังเกตคือตัวละคร Doug ใน The Town มีลักษณะที่คล้ายกับตัวละคร Chris Shiherlis (Val Kilmer) ใน Heat อยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะตอนจบ)
The Town เน้นไปที่ความสมจริง ฉาก Action ที่มีความเป็นไปได้ และแผนการในการปล้นที่เรียบง่าย รัดกุม ไม่หวือหวาหรือเหนือชั้นเกินไป
แต่ในส่วนของเรื่องราวความสัมพันธ์ของสองตัวเอกนั้น ยังมีความเป็นเรื่องแต่ง และมีความเป็น Melodrama ตามสูตรสำเร็จอยู่มากพอสมควร
จากคุณ |
:
navagan
|
เขียนเมื่อ |
:
7 เม.ย. 54 18:19:15
|
|
|
|
 |