ความคิดเห็นที่ 1 เราเริ่มสนทนาด้วยคำถามตรงๆ ว่า ทำไมตอนแรกถึงปฎิเสธ (น้ำเสียงเหวี่ยงเล็กน้อย) แบร์รี่ พูดเสียงสวนกลับมาทันทีว่า "โห พี่จะไม่ให้ผมกลัวได้ยังไง มีพี่สไตลิสต์คนหนึ่งเอาหนังสือมาให้ดู แต่ละคนกล้ามใหญ่ ดูฮาร์ดคอร์มาก ผมถามพี่เขาว่า แรงขนาดนี้เลยหรือ ไม่ไหวมั้ง ผมกลัว" ปกนั้นมันหน้าตาเป็นอย่างไร ผมสวนกลับ แบร์รี่บอกว่า "ปกที่มีผู้ชายมายืนเรียงกันเป็นแถวครับ" ไม่ต้องแปลกใจหรอก หากแบร์รี่ได้เห็นปก attitide UK ฉบับเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาแล้วจะนึกกลัว เพราะฉบับนั้นเป็น sex issue และ ไม่ใช่ sex ธรรมดา หากแต่เป็น sex ระดับดาราหนังโป๊แถวหน้าของยุโรป ผมจึงถือโอกาสอธิบายว่า ในสังคมไทยเราคงทำแบบนั้นไม่ได้ เนื่องจากกรอบทางวัฒนธรรม และกฎหมายอาญาบ้านเรากับบ้านเขาแตกต่างกันมาก การถ่ายภาพที่เห็นอวัยวะเพศชาย หากอวัยวะไม่แข็งตัวก็ถือว่าปกติ (แต่ถ้าแข็งเมื่อไหร่จะถูกจัดให้เป็น porn magazine ซึ่งจะต้องเสียภาษีอีกระดับหนึ่ง และแน่นอนราคาจะแพงมาก) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำในบ้านเราได้ แค่ถอดเสื้อและเซ็กซี่แต่พองามก็เพียงพอแล้ว จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:43:39

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อความกังวลของหนุ่มคนนี้เริ่มหมดไป การพูดคุยก็ดูจะเป็นกันเองมากกว่าเก่า ผมถามแบร์รี่สั้นๆ ว่าชีวิตเปลี่ยนไปมากหรือไม่ หลังจากละครเรื่องดวงใจอัคนีจบ แบร์รี่ตอบว่า "เปลี่ยนไปมากอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ผมยังจำได้ว่าตอนผมเข้ามาทำงานครั้งแรก พี่เอ (ศุภชัย) พาไปเดินแบบการกุศล ผมไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แล้วพี่เอให้ผมไปเดินกับพี่โอ้ มันสั่นมากนะ เดินเซไปเซมา ขาแทบพันกัน หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสถ่ายแบบ เดินแบบบ่อย พร้อมกับเรียนการแสดงที่บ้านพี่เอ ทุก วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ไปด้วย จนกระทั่งมีผู้ใหญ่เขาเห็นแวว เลยมีโอกาสเข้ามาทำงานละคร เรื่องเรียนการแสดงมันก็เรื่องหนึ่งนะครับ แต่พอมาทำงานจริงๆ แล้วคนละเรื่องเลย การเรียนแอคติ้งมันเป็นการสร้างความกล้าแสดงออก สร้างสมาธิ แต่พอเราไปเล่นละครจริงๆ มีอะไรหลายอย่างที่มากกว่าที่เราเคยเจอในแอคติ้งคลาส ในกองถ่ายมีคนเป็นร้อย เดี๋ยวก็มีคนวิ่งจัดไฟ เดินกันขวักไขว่ไปมา เราก็ต้องทำสมาธิให้ได้ ต้องนิ่ง จำบทให้ได้ แล้วก็ต้องรู้ด้วยว่า จะแสดงอะไร มันต่างจากที่เรียนในบ้านพี่เอมาก" จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:44:10

ความคิดเห็นที่ 3 เร็วๆ นี้ แบร์รี่กำลังมีละครเรื่องใหม่ "เกมร้ายเกมรัก" ที่เขาจะโคจรมาเล่นคู่กับน้องญาญ่าเช่นเดิม ยังไม่นับงานพรีเซ็นเตอร์สินค้า และงานโชว์ตัวตามอีเวนท์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ไม่ขาดสาย ทำให้การจัดสรรเวลาเป็นไปได้ยากเย็น เพราะนอกจากงานแล้ว เขายังต้องหาเวลาไปเรียนหนังสือที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ ที่ ม.รังสิต อีกด้วย ผมถามกระเซ้าว่า แบบนี้คงลืมเรื่องการเดินแบบไปหมดแล้ว "คงไม่ลืมหรอกครับ เพราะผมเกิดมาจากตรงนั้น แล้วผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากพี่ๆ ในวงการแฟชั่นที่คอยช่วยสอน ทั้งๆ ที่ผมแต่งตัวไม่เอาไหนเสียเลย แต่มันคืออาชีพครับ เหมือนการแสดง เวลาเราเข้าฉากเราก็ต้องสวมบทบาทนั้น เดินแบบก็เหมือนกัน เราต้องพรีเซ็นเสื้อผ้าให้ดูดี ให้คนเห็นแล้วอยากใส่ ต้องมีเก็กบ้างอะไรบ้าง"   ถามจริงๆ ที่เลือกเรียนภาพยนตร์ นี่ได้แรงบันดาลใจจากไหน แบร์รี่ตอบว่า "จริงๆ ความต้องการของผมเป็นไปเรื่อยๆ นะครับ สมัยเด็กๆ เคยอยากเป็นวิศวกร สถาปนิก เปลี่ยนไปเรื่อยครับ แล้วตอน ม. ปลาย ครูที่โรงเรียนสั่งให้ทำงานส่งชิ้นหนึ่ง พวกเราก็ถ่ายหนังกันเล่นๆ เป็นหนังสารคดี แล้วก็ตัดต่อกันเองง่ายๆ ตามประสาเด็ก ตอนนั้นทำให้ผมสนุกกับงานพวกนี้ แล้วก็ชอบมาก พอได้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย เลยตัดสินใจเลือกเรียนสาขานี้แบบไม่ลังเล ยังเคยคุยกับเพื่อนไว้เลย ว่าจะหุ้นกันเปิดสตูดิโอ แต่นั่นเป็นฝันแบบเด็กๆ นะครับ" จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:44:52

ความคิดเห็นที่ 4 ผมถามแบร์รี่ต่อว่า ตัวตนของเขาที่แท้จริงเป็นอย่างไร เขาตอบว่า "มันยากนะที่จะอธิบาย เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" เอาล่ะ งั้นขอเปลี่ยนวิธีการใหม่ ผมให้โจทย์ไปว่า ผมจะคิดคำภาษาอังกฤษขึ้นมา ทันทีที่ได้ยินคำนั้น เขารู้สึกอย่างไร ลองดูนะครับว่า คำเหล่านี้อธิบายตัวตนของเขาได้มากแค่ไหน คุณต้องไปตัดสินใจเอาเองละว่า หนุ่มคนนี้เป็นอย่างที่คุณคิด หรือว่าคุณจะเชื่อข่าวสารที่พัดกระหน่ำใส่ตัวเขา แบร์รี่ ณเดชน์ คูกิมิยะ SEX "ผมว่าเซ็กซ์เป็นเรื่องระหว่างคนสองคนนะ เป็นความรู้สึกที่ดีระหว่างคนสองคนที่มีให้กัน แต่บางคนเขาก็ชอบ One night stand นะ (หัวเราะ) ผมคิดว่าเรื่องหลังนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมีมานานแล้ว หรือคำว่า "กิ๊ก" อะไรพวกนี้ ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบนะ ผมคิดว่าเราควรจะต้องรักเขาจริงๆ ก่อน ถึงจะมีอะไรกับเขาได้" WOMAN "ถ้าเราตัดเรื่องเซ็กซ์ออกไป ผู้หญิงเป็นสิ่งที่สวยงาม โลกนี้ ผมว่าผู้ชายทั่วไปคงจะขาดผู้หญิงไม่ได้อยู่ดี แล้วผู้หญิงก็ฝากสิ่งดีงามไว้บนโลกเยอะ อย่างคุณแม่ผม ท่านจะเป็นคนที่อ่อนโยนมาก ผมว่าเพศแม่เป็นเพศที่เราควรเคารพ" FAMILY "ผมเป็นคนให้ความสำคัญกับครอบครัวนะ เพราะเวลาทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนแรกๆ ต้องอยู่บ้านพี่เอด้วย นานๆ ถึงจะได้เจอหน้าคุณแม่สักที คือ ถ้าผมไม่กลับไปหาท่านที่ขอนแก่น ท่านก็จะลงมาหาที่กรุงเทพฯ เวลาเจอกันก็อยากจะอยู่กับแม่นานๆ ล่าสุดเมื่อตอนวันเกิดคุณแม่ที่ผ่านมา ผมก็พาแม่ไปทานอาหารกันสามคน มีคุณพ่อด้วย แล้วช่วงนี้ถึงจะซื้อบ้านของตัวเอง แต่ก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านนะครับ จะมานอนบ้านพี่เอซะมากกว่า ผมเป็นคนกลัวผีนะ ไม่ใช่อะไรหรอก อยู่คนเดียวมันเหงานะ แต่ผมก็เข้าใจที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ลงมากรุงเทพฯ บ่อยๆ เพราะคุณพ่อผมเป็นวิศวกร ส่วนคุณแม่เปิดอพาร์ทเมนต์อยู่ที่ขอนแก่น ก็เลยต้องเทียวไปเทียวมา จริงๆ ผมสนิทกับทั้งสองท่านนะ แต่เวลาคุยหลายๆ เรื่องจะคุยกับแม่ แต่บางเรื่องที่เป็นเรื่องของผู้ชายๆ จะคุยกับคุณพ่อมากกว่า" จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:45:31

ความคิดเห็นที่ 5 METROSEXUAL "หมายถึงผู้ชายที่แต่งตัวเก่ง แต่งตัวจัด แต่ก็ไม่ใช่เกย์ ใช่มั้ยครับ ผมว่าไม่แปลกนะ เดี๋ยวนี้มีเยอะมาก แต่ผมเองคงไม่ใช่เมโทรเซ็กชวลแน่นอน เพราะผมแต่งตัวไม่เก่ง แล้วก็ไม่ชอบการแต่งตัว ในวันปกติผมจะแต่งตัวธรรมดา กางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าแตะ หรืออย่างมากสุดก็กางเกงยีนส์ขาม้า รองเท้าบู้ท เสื้อเชิ้ต จะแต่งมากหน่อย ก็ตอนที่ต้องออกไปเดินเล่น กับเพื่อนตามห้างสรรพสินค้า ผมจะให้ความเคารพกับสถานที่ แต่ถ้าเป็นงานสำคัญๆ ก็จะมีทีมงานจัดเครื่องแต่งกายให้ครับ เรื่องช้อปปิ้งผมยังไม่ค่อยซื้อเองเลย ผมไม่รู้ว่าจะแมทซ์อย่างไร อีกอย่างเสียดายตังค์ด้วยครับ" SUPERSTAR & SUCCESS "ผมคิดว่าผมยังไม่ Success แล้วผมก็คิดว่าผมไม่ใช่ "ซูเปอร์สตาร์" ด้วย ผมไม่เคยคิดว่าผมเป็น ซูเปอร์สตาร์ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นมองอย่างไร แต่ส่วนตัวผมคิดว่าผมไม่ใช่ แล้วถ้าถามว่าตอนนี้ผมอยู่จุดไหน ผมคงต้องตอบกลับไปว่า เราอาจจะต้องย้อนกลับไปคิดดู ว่าเราทำอะไรอยู่ ทำเพื่ออะไร เราทำทำไม มันน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า เพราะถ้าเราจะไปมองว่า เฮ้ย ตอนนี้เราเป็นซูเปอร์สตาร์หรือยัง เราประสบความสำเร็จแล้วใช่ไหม ชีวิตมันจะหมกหมุ่นอยู่กับการไขว่คว้า คำว่า Success ผมมองว่าถ้าจะ Success จริงๆ ต้องเป็นอย่างคุณพ่อของผม ต้องมีครอบครัว สร้างความมั่นคงในชีวิต หาเลี้ยงครอบครัวได้ อันนี้ล่ะผมจะเรียกว่า ประสบความสำเร็จในชีวิต" MONEY "แน่นอน เงินเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตสำหรับทุกๆ คน แต่ผมก็มองว่า เงินมันก็เป็นสิ่งที่มีค่าที่คนคิดมันขึ้นมา แล้วก็นำมาแลกเปลี่ยนซื้อขาย แล้วก็นำมาสู๋การเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในชีวิต อย่างผมเนี่ย ถามว่าชีวิตในวัยรุ่นหายไปมั้ย หายครับ เพราะแทนที่ผมจะได้ไปเที่ยวเตร่กับเพื่อน ไปสนุกสนานไปไหนมาไหน ผมก็ต้องมาทำงาน แต่ถ้าถามว่า ยอมรับได้มั้ย ยอมรับได้ เพราะเราเป็นคนเลือกมันเอง หรือตอนนี้ถึงมีเวลาว่างบ้าง ก็ไม่อยากไปไหนแล้ว อยากพักมากกว่า เพราะทำงานมาก็เหนื่อย อยู่บ้านปั่นจักรยานเล่น ออกกำลังกายไปเรื่อยดีกว่า เลยไม่ค่อยใช้เงินเลยครับ (หัวเราะ)" แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 13:54:16 จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:46:02

ความคิดเห็นที่ 6 PHOBIA "ผมเป็นคนกลัวผีครับ กลัวมากด้วย อยู่บ้านคนเดียวนี่ก็หนึ่งละ เวลาต้องออกกองถ่ายไปต่างจังหวัด นี่ก็นอนคนเดียวไม่ได้ อีกอย่างที่ผมไม่ชอบเอามากๆ คือแมลงสาบ มันเป็นสัตว์ที่สกปรกมาก" POLITICS "เรื่องการเมืองหรือครับ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากสนใจ ผมมองว่ามันซับซ้อน แล้วประชาชนอย่างเราๆ ก็ตามไม่ทันคนพวกนี้หรอก บางทีเราไม่ได้ไปยืนอยู่ตรงจุดๆ นั้น เราก็บอกไม่ได้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร อย่างทุกวันนี้ที่เรามีปัญหากับกัมพูชา ผมเองก็สงสารประชาชนแถวนั้นมากนะ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามีตื้นลึกหนาบางอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า ผมก็คิดว่ารัฐบาลเขาก็คงมีกลไก ในการแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งเราก็ไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง ต้องปล่อยให้เขาแก้ปัญหากันไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สนใจเลยนะครับ เราควรจะรับรู้และติดตามข่าวสาร แต่การที่ประชาชนจะเข้าไปแก้ปัญหาเองได้มั้ย ผมว่าไม่มีเลย ทุกวันนี้นะ ถึงคุณจะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า จะมีใครหย่อนบัตรต่อจากคุณบ้าง ผมหมายถึงเรื่องการซื้อเสียงอะไรพวกนั้น แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าผลที่ออกมามันตรงกับความต้องการของประชาชนจริงๆ อย่าคุยเรื่องการเมืองเลยครับ เดี๋ยวยาว" FUTURE "ผมเป็นคนอยู่กับปัจจุบันครับ ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปไกลว่า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่าในเมื่อเรามีโอกาสเข้ามาอยู่จุดนี้ ได้มาทำตรงนี้ เราก็ทำมันให้ดีที่สุด ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะทำไปจนตาย หรือกำหนดออกมาเป็นปี สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ ผมคงทำงานตรงนี้ไปจนกว่า วันหนึ่งจะมีอะไรสักอย่างเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิต ถึงตอนนั้นผมก็จะยอมรับ เคยมีพี่ๆ นักข่าวถามเหมือนกันนะว่า วันหนึ่งจะไปทำงานเบื้องหลังมั้ย ผมคิดว่าถ้าเรายังทำงานตรงนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปทำงานเบื้องหลัง" จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:46:49

ความคิดเห็นที่ 7 LOVE "ความรักเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เพราะความรักทำให้คนมีความสุข ผมก็เคยมีความรักสมัยเรียนอยู่ ม. ปลาย แต่พอมาทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ห่างๆ กันไป ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันมากกว่า ส่วนปัจจุบันโสดครับ" GAY ICON "คนที่เกย์ชื่นชอบ หรือว่าเกย์ที่เป็นไอคอนของเกย์ครับ อย่างหลังคงไม่ใช่แน่ แต่ถ้าเป็นอย่างแรก คุณแม่เคยสอนเสมอนะครับว่า มีคนรักเราดีกว่ามีคนเกลียด ถ้าวันหนึ่งไม่มีใครมาสนใจเราสิ เราจะลำบาก ฉะนั้น ผมคิดว่า การที่มีคนมาชื่นชอบเรา ไม่ว่าเขาเหล่านั้นเป็นเกย์ เป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเป็นใครก็ตาม สิ่งที่ผมควรทำคือ จะทำอย่างไร ถึงจะคืนความประทับใจเหล่านั้นให้พวกเขา สิ่งที่ทำได้ก็คือการตั้งใจทำงานให้ดีๆ ผมไม่ซีเรียสนะที่จะมีเกย์มาชอบ ผมคิดว่าดีซะอีก มีคนมาชอบเราเยอะๆ ดีกว่ามีคนเกลียดนะ" ATTITUDE "ผมว่าคำๆ นี้มองผิวเผินไม่ได้ แต่ต้องดูว่าคนๆ นั้นมีนิสัยพื้นเพเป็นอย่างไร เป็นคนแบบไหน ชอบทำอะไร พื้นฐานทางครอบครัวเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเรานี้มันจะสะท้อนออกมาเป็น attitude ของเขา ในการคิด หรือ ในการมองโลก เราจึงได้เห็นความขัดแย้งไงครับ เพราะบางคนมีมุมมองที่ดี มีความรู้ดี แต่บางคนก็รู้ผิดๆ เชื่อผิดๆ ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ที่โลกนี้มีปัญหา มันมีปัญหาก็ตรงที่ attitude ไม่ตรงกันนี้ล่ะ ส่วนตัวผม ผมชอบที่จะ Think Positive เพราะทุกวันนี้เราทำงานกับคนมากมายหลายชีวิต คนที่ไม่จริงใจที่เข้ามาหาเราก็มาก หรือบางครั้งที่เรารู้สึกผิดหวังกับการทำงาน ตรงนี้ทำไม่คอยดีเลย มันก็จะทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ถ้าเรามัวแต่กังวลอยู่กับมัน ก็คงไม่ดีขึ้น เราก็ต้องมองโลกในแง่ดีว่า ครั้งต่อไปอย่าให้พลาด ต้องตั้งสติให้ดีกว่านี้ ผมคิดว่า attitude แบบนี้จะดีกว่า และดีในทุกๆ เรื่องครับ" pix8 ++++++++++++++++ จบแล้วค่า :D สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ ^__^ จากคุณ : IyinG_555 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 13:48:18

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบได้ดีมากเลยค่ะที่รัก หุหุ จากคุณ : สดใสซาบซ่า เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:13:50

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคำถามดีตลอดน่ารักมากๆเลย จากคุณ : กุ๊กไก่รักเอเอฟที่สุด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:21:27

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านสัมของณเดชน์ทีไร ไม่เคยผิดหวัง เด็กคนนี้ตอบได้ดีจริงๆ แอบไปเหล่ๆ เล่มนี้ในร้านหนังสือ แต่ไม่กล้าซื้ออ่ะ จากคุณ : คนใหม่คนเดิม เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:22:50

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนแรกแอบเคืองนะ ว่าไปถ่ายได้ยังไงงงงงงงงง --- อิชั้นจะเป็นลม แต่ดูบทสัมภาษณ์ ก็โอเคคคคค --- สัมภาษณ์ดี รับได้ๆๆๆ เค้าก็เซฟน้องดี Love love love ณเดชน์ คูกิมิยะ จากคุณ : Oh_hO-Gusso เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:30:55

ความคิดเห็นที่ 12 ใจนายหล่อมากกกกกกกกกก จากคุณ : ตราบที่ยังไม่สิ้นคนดี เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:41:19

ความคิดเห็นที่ 13 ณเดชน์ช่างห้าวหาญ กล้าให้สัมภาษณ์ลง attitude ด้วย ซึ่งเราเดาว่าดาราชายส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเภทที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่ในตู้จะไ่ม่กล้าเป็นอันขาด ฮ่า เดาว่าคุณพี่เอคงดูท่าทีแล้วล่ะคร่ะ เห็นท่าไม่ดีคงไม่ปล่อยณเดชน์ไปถ่ายแน่ๆๆๆ คุณพี่เออาจเป็นคนลุ้นให้ถ่ายด้วยซ้ำ กร่ากๆๆ จากคุณ : =p o o k p u i= เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:47:41

ความคิดเห็นที่ 14 ปล. ป้าชอบประโยคนี้มากเลยลูก >> ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบนะ ผมคิดว่าเราควรจะต้องรักเขาจริงๆ ก่อน ถึงจะมีอะไรกับเขาได้ --------------------------------- กริ๊ววววว จากคุณ : =p o o k p u i= เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 14:54:29

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่มีไรต้องกลัว เพราะพ่อแมนนนนสุโค่ยยยยยยยยยย ตอบคำถามดีตลอด....ไม่เคยผิดหวัง ปล.ไปจดๆจ้องๆหน้าร้านหนังสือมาหลายรอบละ อย่างแรกมันแพงง่ะ ช่วงนี้แทบจะกินหนังสือพ่อ(และน้องญ่า)ต่างข้าวอยู่แล้ว อีกอย่าง..หน้าอื่น...ไม่กล้าเปิดเลยทีเดียว เหอๆๆๆๆนู๋กลัวเล็กน้อยถึงปานกลาง จากคุณ : จ้าจาร์ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:09:45

ความคิดเห็นที่ 16 คห 8 คะ คำว่าที่รักหน่ะ เดี๋ยนเรียกได้คนเดียวนะคะ เพราะเค้าเป็นของๆช้านนนน คนเดียวววว ตื่นๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 15:37:34 แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 15:37:17 จากคุณ : ommy_ka เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:36:30

ความคิดเห็นที่ 17 ความจริงหนังสือหัวนี้ดีนะ (ฉบับภาษาไทย) เนื้อหาดี ลองหามาอ่านดูสิครับ อีกเล่มที่ดีคือ esquire (ฉบับภาษาไทย) สอนให้ผู้ชายแต่งตัวเป็น จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 15:50:44

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบคำถาม ฉลาด จริงๆ เด็กคนนี้ ไปได้ไกลอีกนาน จากคุณ : เจ้าหญิงรสิกา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 16:50:29

ความคิดเห็นที่ 19 น้องอายุ19จริงป่ะเนี่ย ตอบสัมภาษณ์ดูมีความคิดดีมากกกกกกกก จากคุณ : caesalpinra เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 17:35:14

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบได้แมนมากๆรักเลย จากคุณ : ParFeRio เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 17:37:07

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านบทสัมภาษณ์แล้ว บอกได้อย่างเดียวว่า..............ไม่เสียแรงที จากคุณ : กรรณิการ์บุหงาส่าหรี เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 17:47:15

ความคิดเห็นที่ 22 แปลกมากตอนแรกไม่เคยติดตามหนังสือเกย์เลย แต่พอผ่านแผงปุ๊บเห็นณเดชน์เลยต้องหยิบมาดู เป็นอีกเล่มที่ถ่ายรูปณเดชน์ได้หล่อมากๆ จัดมุมกล้องได้ดีทีเดียว จากคุณ : Sweet Twitty เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:10:25

ความคิดเห็นที่ 23 สุดยอด จากคุณ : ปัน เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:11:06

ความคิดเห็นที่ 24 ...ภาพจาก ความเห็นที่ 1 และ 6 สวยมาก... อ่านบทสัมภาษณ์แล้ว...ทำให้เห็นว่า...บางครั้ง...ความคิดของน้อง... ก้อทำให้คิดได้...หลายมุมมอง...โดยเฉพาะด้านบวก...ดีจัง...ขอบคุณนะค่ะ จากคุณ : น้า...pu เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 23:19:59

ความคิดเห็นที่ 25 ได้ใจจริงๆ จากคุณ : หมิงมิ้ล เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 23:41:31

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นเด็กที่มีมุมมอง และความคิดที่สุดยอดมาก ชอบความเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ หรือใหลตามวัตถุนิยมที่ถาโถมเข้าใส่   รักษาความเป็นตัวเองแบบนี้ไว้ให้มั่น  เชื่อว่าน้องจะเป็นที่รักของมหาชนเช่นนี้อีกนานค่ะ จากคุณ : โปรดเหลือคณานัป เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 00:54:54