 |
ตลอดเวลากว่า 250 ปีที่ที่ตระกูลโทกุกาว่าครองอำนาจมา ถ้าจะพูดถึงความประสบความสำเร็จในการบริหารงาน ก็ต้องบอกว่า ประสบความสำเร็จในการครองอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ในตระกูลตัวเอง มากกว่าที่จะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะใน เรื่องเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนค่ะ
นโยบายปิดประเทศ ---> ประชาชนไม่อาจค้าขายได้อิสระ ซึ่งเป็น สิ่งที่ทำเงินทองได้มากกว่าการเกษตรแบบดั้งเดิม, วิทยาการใหม่ ๆ ตกเข้ามาสู่ประเทศได้น้อย
นโยบายซันกินโกไต ---> หรือการริดรอนอำนาจของไดเมียว ไม่ให้ สั่งสมอำนาจจนโค่นรัฐบาลได้ ห้ามไดเมียวอยู่ประจำแคว้นนาน ๆ ต้องเข้ามาอยู่เมืองหลวง ทั้งยังต้องส่งลูกเมียเข้ามาอยู่ด้วย เกณฑ์แรงงาน และเงินทองของไดเมียวในการสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้เมืองหลวง เช่นซ่อมสะพาน ขุดคู ไดเมียวต้องใช้จ่ายเงินทองไปยังส่วนนี้มาก ก็ต้องไปบีบเก็บภาษีจากชาวบ้านในปกครอง เงินประจำปีของซามูไร ที่รับใช้ก็ลดลง ต้องอดอยากยากแค้นกันมาก สั่งสมความเครียดให้ชนชั้นล่าง (อย่างที่เห็นในต้นเรื่องของท่านหญิงอัตสึ เรื่องท่านสุโช) ตลอดระยะเวลาในปกครองของโทกุกาว่า ได้เกิดกบฏชาวนาขึ้นมากมาย เพราะความอดอยากยากแค้นนี้
นโยบายทางด้านการทหาร ---> การซ่อมปราสาท หรือสร้างป้อมปราการนั้น ไม่สามารถทำได้หากรัฐบาลไม่อนุญาต (เพราะเหตุผลทางความมั่นคง กลัวเรื่องก่อกบฏอีก) ญี่ปุ่นจึงไม่มีป้อมปราการ อาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่พอจะต่อกร กับต่างชาติหรือป้องกันประเทศได้เลย
นโยบายทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน ---> การจัดเก็บภาษีที่ไม่รัดกุมพอ ของรัฐบาล นโยบายลดค่าเงินทำให้ข้าวของแพง มีการปฏิรูปทางภาษีและ การเงินหลายครั้งเพื่อให้รายได้รับกับรายจ่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก (บางทีก็ไปบีบเอากับคนชั้นล่างกับพ่อค้ามากเกิน แต่ตัวคนชั้นสูงในรัฐบาล ก็ไม่ประหยัด โชกุนคนที่ 8 โยชิมูเนะเคยแตะเรื่องการจัดเก็บภาษีในหมู่ ข้าราชการชั้นสูงเข้าไป ก็โดนต่อต้านอีก สมัยท่านนั้น การเก็บภาษีจึง รัดกุมและมีการประหยัดให้เป็นเยี่ยงอย่างมาก แต่พอหมดสมัย ก็วนลูป มาเป็นแบบเดิมอีก)
จะเห็นว่าบาคุฟุ ต้องการการปฏิรูปหลายอย่างค่ะ โดยเฉพาะเรื่องผู้นำนั้น ไม่เป็นที่น่าพอใจเลยจนนิดเดียว เพราะการสืบสายเลือดเป็นหลักนั้นทำให้ได้ โชกุนที่เป็นเด็ก 5 ขวบบ้าง โชกุนไม่สมประกอบบ้าง กลายเป็นหุ่นให้ข้าราชการ ชักใยไป นโยบายปิดประเทศก็ทำให้ไม่มีการริเริ่มโครงการใหม่ ๆ เลย ไม่มีการปฏิรูปทั้งทางการทหาร การค้าขาย ซึ่งถ้าผู้นำไม่ดี จะให้ประเทศดี ก็เป็นไปได้ยาก เหล่านี้คือ สิ่งที่ท่านนาริอากิระ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาล อย่างท่านอาเบะต้องการที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงน่ะค่ะ
แต่เหล่าซามูไรชั้นล่างนั้น ไม่ได้ต้องการให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงเท่านั้น พวกเขายังต้องการเข้ามามีสิทธิมีเสียงด้วย ถ้าบาคุฟุยังอยู่ ข้อนี้ รับรองได้ว่าจะไม่มีทางเป็นจริงได้เลย
ส่วนท่าทีของโยชิโนบุนั้น อยากให้อ่านที่บ้านไร่ โพสที่ #352 http://forums2.popcornfor2.com/index.php?showtopic=26859&st=345
คุณ ก T-Klang ได้กรุณามาอธิบายช่วงที่จะเลือกทายาทให้ได้ทราบกัน
หลังการปฏิรูปเมจิแล้ว ญี่ปุ่นสถาปนาการปกครองที่มีจักรพรรดิเป็นประมุขค่ะ และมีผู้นำเมจิ (เหล่าซามูไรที่ช่วยกันโค่นอำนาจโชกุน) เป็นผู้บริหารประเทศ ผู้นำเมจินี้ ประกอบไปด้วย ผู้นำจากราชสำนัก เช่น ซันโจ ซาเนโทมิ, อิวาคุระ โทโมมิ ผู้นำจากซัทสึมะ เช่น ไซโก้ ทากาโมริ, โอคุโบะ โทชิมิตสึ ผู้นำจากโชชู อย่าง คัตสึระ โคโกโร่ เป็นต้น(จะได้เห็นในเรื่องเรียวมะเด็น) ผู้นำเมจินี้ได้ดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่จะปรับปรุงประเทศให้เป็นสมัยใหม่อย่างที่พวกเขาตั้งใจ เช่นการตั้งรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน, การร่างรัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนกำลังทหารให้เป็นแบบตะวันตก ไม่มีซามูไรอีกต่อไป, ยกเลิกระบบ แคว้น ให้เปลี่ยนเป็นจังหวัด ขึ้นกับรัฐบาลกลาง ไม่มีเจ้าแคว้น มีผู้ว่าราชการ อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ
แต่ประชาธิปไตยในอุดมคติก็ยังไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะมีเรื่องของอำนาจ และผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ สุดท้ายแล้วอำนาจฝ่ายทหารดันไปมาก กว่าฝ่ายพลเรือน จากกองทัพที่แข็งแกร่งขึ้น พาให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ความเป็นชาตินิยม และกลายเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารจนก่อสงครามโลกขึ้นน่ะค่ะ
จากคุณ |
:
molecularkitten
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเนา 54 23:05:49
|
|
|
|
 |