 |
สำหรับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร3
ผมว่า รายได้ของหนังบ่งบอกความรู้สึกของผู้คนได้ดีครับ เหตุผลเพราะอะไร
1. หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ ทุกคนทั้งคนรักหนัง คนที่ดูหนังประจำ หรือคนที่ไม่ค่อยได้ดูหนัง ตั้งใจรอ ไม่เหมือนหนังไทยเรื่องอื่น ที่จะเฉพาะกลุ่ม 2. เป็นหนัง ที่น่าจะบ่งบอกเป็นหนังของสยามประเทศ เรื่องของสมเด็จพระนเรศวร Production เหมือนข้อ 1 จุดนี้ จะทำให้กลุ่มคนดูวงกว้างมาก ตั้งแต่เด็ก ยันผู้ใหญ่ จนถึงผู้ใหญ่มาก 3. การทุ่ม เทโรงฉายแบบกระหน่ำ แบบว่า คุณไปเวลาไหน ก็สามารถจองหรือซื้อตั๋วได้ คิดดูขนาดเทโรงฉายขนาดนี้ รอบสัปดาห์แรกๆ ยังต้องจองตั๋วกันก่อนตั้ง 4-5 ชั่วโมง
ดังนั้น รายได้จะบ่งบอกของความรู้สึก ( อันนี้ผมคิดของผมนะ ) ถ้าได้ไม่ถึง ภาค 1 ภาค 2 (ค่าตั๋วหนังปัจจุบัน น่าจะมากกว่า) คงต้องมาดูแล้วล่ะ มันผิดพลาดตรงไหน ตรงนี้น่าจะเป็นเสียงสะท้อน จากคนดูทั่วๆไปได้อย่างดี
สำหรับ บางคนที่ตั้งข้อสังเกตว่า เพราะภาคนี้เป็น Backgroud เพื่อนำไปสู่ภาค 4 ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าปรับบทให้กระชับ แล้ว ฉายรวมทั้ง 3,4 เป็นแค่ 3 ภาคตั้งแต่แรก มันจะดูเข้มข้นกว่านี้มั้ย คล้ายหนังไตรภาคทั้งหลาย ที่ ภาค 1 คือการแนะนำ ตัวละคร Theme ของเรื่อง ภารกิจหลัก ภาค 2 คือการดำเนินเรื่องที่เข้มข้น มีจุดพลิกในตอนจบ อาจจะเป็นการเพลี่ยงพล้ำของฝ่ายพระเอก เพื่อเป็นประเด็นไปคลี่คลายในภาคสุดท้าย ภาค 3 คือการคลี่คลาย บทสรุป
อันนี้ตั้งข้อสังเกต ยกตัวอย่าง พวก Star Wars 1,2,3 และ 4,5,6 หรือ Lord of the Ring โดยเฉพาะ Lordฯ ที่นำนิยาย ประมาณ เห็นหนังสือแล้ว ผมก็ท้อใจ มาสรุป แก่นใจความได้อย่างกระชับ (นี่ขนาดกระชับแล้ว) ออกมาได้อย่างสนุก เพราะถ้าใครอ่านหนังสือ จะมีบางประเด็นถูกตัดออกไป
จากคุณ |
:
jedijoke
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเถลิงศก 54 16:40:45
|
|
|
|
 |